ตอนที่แล้วตอนที่ 189 พญา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 191 เพลิงปีกอัคคีโลกันย์

ตอนที่ 190 แมลงกลืนฟ้า


ตอนที่ 190 แมลงกลืนฟ้า

หยางไค่สามารถสัมผัสได้ถึงการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ภายในห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราระหว่างหยางไค่และพญาแมลง แม้ว่าในตอนแรกมารปฐพีจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพญาแมลง แต่หลังจากที่มันกลืนกินพลังจำนวนมากมายมหาศาล ทำให้มันไม่สามารถหลอมละลายพลังเหล่านั้น รางกายของมันจึงบวมเบ่ง ความรวดเร็วลดลงอย่างมาก ทำให้มารปฐพีสามารถต่อกรกับมันได้

จากเวลาที่ไหลผ่านไป พญาแมลงกลืนกินพลังที่ถูกไหลเวียนเข้าไปมากขึ้นมากขึ้น มารปฐพีก็สามารถพลิกสถานการณ์กลับมา ทำให้เขาเป็นผู้ได้เปรียบ เข็มสลายวิญญานจึงสามารถแสดงพลังอำนาจของมันได้อย่างวิเศษ มันโจมตีจนพญาแมลงต้องถอยร่น และได้สร้างบาดแผลให้แก่มันอย่างมากมาย

หลังมือของเขาร้อนเป็นไฟ เขาต้องทนทุกข์กับการพุ่งโจมตีของพลังที่มากมาย การไหลเวียนพลังที่มากมายไปยังห้วงมิติแห่ผนึกดวงดาราสำหรับเขาเป็นดั่งความเจ็บปวดที่แสนสาหัส เขาก้มหน้าลงมอง ตราผนึกดวงดาราที่สงบนิ่งในตอนนแรกได้มีแสงสว่างสีทองประกายออกมา ในห้วงมิติแห่งดวงดาราที่ไร้ซึ่งขอบเขต หยางไค่มองเห็นแสงสีดำทะมึนและแสงสีทองที่กำลังพุ่งปะทะไปมาอย่างรวดเร็ว

กลิ่นเผาไหม้โชยออกมา เป็นเพราะเขาถ่ายทอดพลังลมปราณหยางที่มากเกินไป มันกำลังแผดเผามือของเขาเอง

หยางไค่ขบฟันแน่นและอดทนต่อความเจ็บปวด เขายังถ่ายทอดพลังลมปราณหยางออกไปอย่างไม่หยุด พลังลมปราณที่มากมายมหาศาลไม่เพียงทำให้พญาแมลงมิอาจกลืนกินเข้าไปได้อีก แต่มันยังส่งผลกระทบต่อมารปฐพีอีกด้วย

จิตวิญญาณเทพสวรรค์ของมารปฐพี และเข็มสลายวิญญาณเป็นสิ่งชั่วร้ายในด้านมืด พลังลมปราณหยางเป็นดาวข่มของพวกมัน หากไม่ใช่เพราะมารปฐพียอมศิโรราบและรับหยางไค่เป็นนาย มารปฐพีก็ไม่สามารถอาศัยอยู่ในเข็มสลาญวิญญาณและหลบซ่อนตัวอยู่ภายในร่างกายของหยางไค่

โดยปกติทั่วไปมันไม่สามารถสร้างปัญหาให้แก่มารปฐพี แต่ในตอนนี้ มารฐพีรู้สึกว่าตนเองกำลังจะถูกหลอมละลายจากพลังลมปราณหยางที่ร้อนแรงของเขาเอง

ความรู้สึกไม่สบายใจหมุนเวียนอยู่ภายในจิตใจของมารปฐพี เขากังวลจนต้องส่งผ่านความคิดของเขาให้แก่หยางไค่ แต่จนถึงตอนนี้มารฐพีก็ยังไมได้รับการตอบสนองจากหยางไค่

ราวกับว่ารอเป็นเวลานานนับร้อยนับพันปี ในที่สุดมารปฐพีก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกที่แผ่วเบาของหยางไค่

ออกมา!

มารปฐพีเกือบสิ้นหวัง เขาคิดว่าหยางไค่กำลังวางแผนอย่างโหดเหี้ยมที่คิดจะทำลายเขาและพญาแมลงไปพร้อมๆกัน เขาจึงไม่กล่าวตอบสอนงต่อคำกล่าวของตนเอง ในตอนนี้เขาไดยินเสียงเรียกของนายน้อย ทำให้ความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากที่เกิดขึ้นกลายเป็นความตื้นตันในทันที

มารปฐพีไม่กล้าที่จะรีรอ ในขณะที่หยางไค่เปิดเส้นทางห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราเพื่อให้เขาออกมา เขาก็ได้พุ่งออกมาในทันที

พญาแมลงต้องการจะหลบหนีพร้อมกับมารปฐพี แต่ห้วงมิติที่เปิดขึ้นได้ปิดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มันไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีออกมา

ผนึกดวงดารา !! หยางไค่กล่าวตะโกนคำรามอย่างช้าๆ หมัดข้างขวาของเขาค่อยยกขึ้น ภาพดวงดาวที่ไร้ขอบเขตกำลังเปล่งประกายประกายอย่างเจิดจรัส ทำให้ถ้ำใต้ดินที่มืดมินประกายจ้าด้วยแสงสว่างจากดวงดารานี้

ปัง !!!!!!! เสียงดั่งกึกก้องสนั่นหวั่นไหวอย่างน่าหวาดกลัว ถ้ำใต้ดินแห่งนี้สะเทือนไปมาหลายครั้ง หยางไค่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากัน เขากระอักโลหิตสีแดงและพ่นมันออกมาอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน

รอบบริวเวณไร้ซึ่งร่องรอยการโจมตีจากผนึกดวงดารา มารปฐพีเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จิตใจของเขาตื่นตกใจและสั่นไหวด้วยความตื่นตระหนกเขากล่าวตะโกนออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ : นายน้อย !!

ข้าไม่เป็นไร !! หยางไค่พ่นโลหิตสีแดงออกมา ใบหน้าซีดขาวลงอย่างเห็นได้ชัด เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง และก้มมองมือข้างขวาของตนเอง

ผิวหนังหลังมือข้างขวาของเขากลายเป็นแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่ มันสามารถมองเห็นแม้แต่เส้นเอ็นและกระดูกสีขาวของเขา แต่หลังจากที่เขาหลับตาและตรวจสอบผลลัพธุ์ที่เกิดขึ้น หยางไค่ค่อยๆหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง

พญาแมลงตายไป ในร่างกายของเขาไร้ซึ่งลมหายใจของมัน

หลังจากที่ร่างกายของมันบวมเบ่งจากการกลืนกินพลังที่มากมายมหาศาลและยังถูกมารปฐพีโจมตีอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นมันยังถูกโจมตีด้วยผนึกดวงดารา หากมันยังรอดชีวิก็คงเป็นเรื่องปฏิหารย์ที่มหัศจรรย์ยิ่ง

มารปฐพีตื่นตะลึงจนตัวแข็งทื่อจากการกระทำของหยางไค่ หลังจากที่เขาเงียบงันอย่างยาวนานเขาจึงกล่าวยกย่องด้วยความจริงใจ : นายน้อย ..ข้าน้อยชื่นชมนายน้อยอย่างยิ่ง !!

ไม่ชื่นชมเห็นจะมิได้ เพราะผนึกดวงดาราที่หยางไค่โจมตีออกไป เขาไมได้โจมตีฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ภายในนอก แต่เขาโจมตีและระเบิดพลังที่มากมายมหาศาลของมันทั้งหมดภายในหลังมือของตนเอง

หากมีการคำนวณที่ผิดพลายเพียงเล็กน้อย หยางไค่ต้องตายอย่างแน่นอน !!

แต่โชคดีที่หยางไค่ควบคุมมันได้อย่างยอดเยี่ยม การโจมตีด้วยทักษะการต่อสู้เช่นนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งการฆ่าและทำลายที่รุนแรง แต่พลังทั้งหมดได้โจมตีไปยังร่างกายของพญาแมลง ร่างกายของหยางไค่จึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เขากระทำต่อร่างกายของตนเองอย่างเหี้ยมโหด มันไม่ใช่วีธีการทั่วไปที่คนสามัญจะทำได้ มารปฐพีจึงชื่นชมหยางไค่อย่างสุดก้นบึ้งหัวใจ

เจ้าระวังความปลอดภัยรอบบริเวณให้ข้าด้วย ข้าต้องพักฟื้นเป็นเวลาหลายวัน !! หยางไค่ฉีกเสื้อของตนเอง พันไปยังหลังมือที่ได้รับบาดเจ็บและกล่าวตักเตือนต่อมารปฐพี ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักฟื้นพลังลมปราณและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเอง

ผนึกดวงดาราเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่มากมายมหาศาล ก่อนหน้านั้นเพียงแค่หมัดเดียวที่เขาโจมตีออกไปก็สามรถทำให้สัตว์อสูรที่อยู่ในขั้นที่ 6 ทรุดลงไปในทันที ในตอนนี้แม้ตนเองจะได้รับผลกระทบเพียงเศษเสี้ยวพลังทั้งหมด แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณหมุนเวียนขั้นที่ 5 จะสามารถหลอมละลายและจัดการมันได้

มือขวาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัส พลังลมปราณภายในร่างกายระส่ำระส่ายไปมาอย่างวุ่นวาย แม้แต่อวัยวะภายในยังถูกพลังอำนาจแห่งผนึกดวงดารากระแทกจนมันเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างน่าหวาดกลัว

แต่สิ่งเดียวที่ทำให้หยางไค่โล่งใจ คือแม้ว่าหลังมือขวาของเขาจะกลายเป็นแผลแหวอะหวะ แต่ภาพดวงดาราแห่งผนึกดวงดาราอยังดำรงอยู่ ตัวเขาเองจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถใช้ทักษะการต่อสู้แห่งผนึกดวงดารที่แข็งแกร่งได้ในอนาคต

หยางไค่สูญเสียความพยายามที่มากมาย จึงสามารถควบคุมและปราบปรามพลังลมปราณที่หมุนเวียนไปมาอย่างวุ่นวาย หยางไค่ไม่หยุดที่จะเปิดใช้กลยุทธุ์หยาง เพื่อควบคุมพลังลมปราณหยางที่อยู่ภายในร่างกาย รักษาบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ และกำจัดโลหิตที่คลั่งอยู่ภายในร่างกายของเขา

หลังจากผ่านไปสองวันเต็มๆ หยางไค่จึงค่อยๆลืมตาขึ้นและกล่าวถามเป็นอันดับแรก : แมลงที่เหลือเหล่านั้นไม่ได้พุ่งโจมตีเข้ามา ?

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขากังวลใจมากที่สุด เขาไม่กังวลใจกับแมลงตัวเล็กๆเพราะมันอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีจำนวนมากก็ตาม แต่ว่าแมลงที่มีขนาดใหญ่ยักษ์เท่าร่างกายมนุษย์ มันชัดเจนอย่างยิ่งว่าพวกมันเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำ พวกมันเพียง 1 ตัวแข็งแกร่งกว่าศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซียถึงหลายคน

ไม่มี มารปฐพีกล่าวตอบ : แมลงเหล่านั้นไม่กล้าที่จะเข้ามาที่นี้เพราะมันเป็นที่อยู่ของพญาแมลงของพวกมัน

ไม่มีก็ดี หยางไค่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารูสึกว่าอาการบาดเจ็บของตนเองดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆเปิดผ้าที่พันแผลที่หลังมือด้านขวาของเขาเอาไว้ แม้ว่าหลังมือด้านขวาจะคงยังเป็นแผลเหวอะหวะ แต่มันเริ่มผสานเข้าหากันมากขึ้น ซึ่งมองไม่เห็นเส้นเอ็นและกระดูกสีขาวของเขาอีกต่อไป

มารปฐพีดูเหมือนว่าจะเข้าใจความสงสัยของหยางไค่เขาจึงกล่าวขึ้นมา : ก่อนหน้านี้นายน้อยได้หลอมละลายลูกแก้วชีพจรโลหิต โลหิตภายในร่างกายของนายน้อยจึงเพิ่มมากขึ้นและมีความแข็งแกร่งที่มากขึ้น การฟื้นฟูของนายน้อยจึงเร็วกว่าที่ผ่านมา เมื่อมีโลหิตที่มากขึ้น ทำให้พลังชีวิตของนายน้อยเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

เป็นเช่นนี้ !! หยางไค่พยักหน้าอย่างช้าๆ

นายน้อย พญาแมลงตัวนั้นตายไป นายน้อยไม่รู้สึกถึงสิ่งที่มันทิ้งไว้ให้แก่นายน้อย ? มารฐพีกล่าวถามคำถามที่ทำให้หยางไค่สงสัยอย่างยิ่ง

มันคือสิ่งใด ?

ข้าน้อยไม่ทราบ แต่นายน้อยควรตรวจสอบมันอย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อได้ยินคำกล่าวของมารปฐพี หยางไค่ขมวดคิ้วและเริ่มตรวจสอบร่างกายของตนเองอีกครั้ง

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน หยางไค่พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติในร่างกยของเขา มีพลังที่แปลกประหลาดแทรกซึมเข้าไปยังจุดตันเถียนของเขามันไม่ใช่พลังลมปราณหยางที่เขาบ่มเพาะ และไม่ได้ถูกกระดูกทองคำดูดซึมเข้าไป แต่มันไหลเวียนอยู่ในจุดตันเถียนของเขาเช่นนั้น หากมารปฐพีไม่กล่าวตักเตือน หยางไค่ก็ไม่ค้นพบการดำรงอยู่ของมัน

มันเกิดอะไรขึ้น ? พลังที่เหลือของพญาแมลง ? หยางไค่กล่าวถามด้วยความสงสัย

เมื่อได้ยินหยางไค่กล่าวเช่นนี้ มารปฐพีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าตอบ : เป็นเช่นนั้น !!

เจ้าทราบอะไรบ้าง ? กล่าวออกมาอย่างละเอียด

นายน้อยจำในสิ่งที่ข้าเคยกล่าวไว้ แมลงตัวนี้คล้ายคลึงกับแมลงแห่งบรรพกาลที่ข้าน้อยเคยไดยิน ?

หยางไค่พยักหน้า

ก่อนหน้านี้ข้าน้อยเพียงสงสัย ไม่กล้าที่จะยืนยัน เพราะข้าน้อยก็ไม่เคยพบเห็นแมลงเช่นนี้ด้วยตาของตนเอง เพียงแค่ได้ยินคำร่าลือของมันเท่านั้น แต่จากการที่ข้าได้ต่อสู้กับมัน เขามีความันใจถึง 6 ส่วน ในตอนนี้นายน้อยยังรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติในร่างกาย ข้าก็สามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจ มันก็คือแมลงแห่งบรรพกาลนั่นเอง !!

แมลงอะไร?

แมลงกลืนฟ้า !! เมื่อมารปฐพีกล่าวชื่นนี้ออกมาเขารีบกล่วแสดงความยินดีในทันที : ขอแสดงความยินดีต่อนายน้อย นายน้อยได้รับสมบัติวิเศษอีก 1 ชิ้น นายน้อยได้รับโชคลาภก้อนโต มันทำให้ข้าอิจฉาอย่างสุดซึ้ง

กล่าวให้ชัดเจนกว่านี้ หยางไค่กำลังนั่งขัดสมาธิ เพื่อกล่าวฟังความลึกลับจากมารปฐพี ในบรรพากาล แมลงชนิดนี้จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะความหลากหลายของพลังและโลหิตเนื้อหนังทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่มันโปรดปราณ นอกจากนั้นในร่างกายของแมลงกลืนฟ้าทุกตัวจะดำรงซึ่งโชคชะตาอันวิเศษ หากสามารถหลอมละลายมันได้ จะไดรับโชคชะตาแห่งฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่ มิอาจทราบว่าโชคชะตาอันวิเศษคือสิ่งใด แต่มันอาจจะเป็นคัมภีร์ลึกลับ อาจจะเป็นเคล็ดวิชาการต่อสู้ในระดับสูง หรืออาจเป็นสมบัติวิเศษที่มีพลังอำนาจมหาศาล ซึ่งจะทำให้คนธรรมาดาคนหนึ่งกลายเป็นผู้มีพลังอำนาจอันมากมายมหาศาล !! โชคชะตาของเขาจะเปลี่ยนแปลงไป โดยมีเหตุผลที่มิอาจกล่าวอธิบายได้ ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับโชคชะตาของคนผู้นั้น

แมลงเพียงตัวเดียวถึงมีสิ่งที่ล้ำค่าเช่นนั้นอยู่ภายในร่างกาย ข้าพอเข้าที่ทำให้พลังอำนาจของมนุษย์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่การปรากฏของคัมภีร์หรือเคล็ดวิชายแห่งการต่อสู้คงเป็นเรื่องที่อัศจรรยืไปหรือเปล่า ? หยางไค่กล่าวถามด้วยความตื่นตะลึง

มีบางสิ่งที่นายน้อยไม่ทราบ แมลงกลืนฟ้าไม่ได้ถือกำเนิดเช่นแมลงทั่วไป โอกาสที่มันจะถือกำเนิดมีน้อยมาก ร่างกายของมันเต็มไปด้วยพลังแห่งฟ้าดิน ความลึกลับและความอัศจรรย์ของแมลงกลืนฟ้าแม้แต่ข้าน้อยก็ไม่กล้าที่จะเชื่อ นอกจากนั้น ในโลกแห่งนี้มีคัมภีร์ เคล็ดวิชา ทักษะการต่อสู้ศาสตร์ที่ลึกลับอีมากมาย ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นจากธรรมชาติทั้งนั้น และมันก็ซ่อนเร้นอยู่ในโลกแห่งนี้ เมื่อถูกค้นพบจากผู้มีโชคชะตาที่เหมาะสม มันจึงจะถูกเผยแพร่ออกไป ดังนั้นสิ่งที่ถือกำเนิดจากแมลงกลืนฟ้าล้วนเป็นสิ่งวิเศษที่น่าอัศจรรย์ นอกจากนั้น มันยังเป็นแมลงกลืนฟ้าที่มีชื่อเสียงที่กว้างขวาง !! มารปฐพีกล่าวด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่กล่าวจบเมื่อพบว่าหยางไค่มีทีท่าตอบสนอบจึงกล่าวด้วยความตกใจ : นายน้อยท่านไม่เชื่อ ?

ไม่รู้สิ ในเมื่อสามารถหลอมละลาย เมื่อหลอมละลายมันแล้วข้ายังไม่ทราบว่ามันน่าอัศจรรย์เช่นนี้ หยางไค่ไมได้กล่าวว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ

การได้ยินเป็นส่วนหนึ่งของการรับรู้ การได้เห็นจึงจะถือว่าเป็นเรื่องแท้จริง นอกจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องที่มารปบพีกล่าวออกมาเกี่ยวกับแมลงกลืนฟ้าเป็นเพียงคำบอกเล่า แต่ความเป็นจริงเช่นไรไม่มีใครทราบ

หยางไค่หลับตาลงอีกครั้ง และมุ่งเน้นความสนใจไปยังพลังที่ประหลาดในจดตันเถียน เขาค่อยๆหมุนเวียนพลังลมปราณหยาง และใช้พลังลมปราณหยางที่ร้อนแรงหลอมละลายมันอย่างช้าๆ

วันที่หนึ่ง วันที่สอง .หยางไค่แผดเผาและหลอมละลายมันอย่างต่อเนื่อง พลังที่แปลกประหลาดค่อนๆแปรเปลี่ยนไป ในตอนแรกันยังขัดแย้งกับร่างกายของหยางไค่ เพราะมันเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากแมลงกลืนฟ้า มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากร่างกายของเขาเอง

แต่ในระหว่างที่หลอมละลาย มันค่อยๆผสานรวมกับกลิ่นอายแห่งลมปราณของหยางไค่ จนผ่านไปอีกหนึ่ง มันได้แบ่งออกเป็นสองส่วน และเข้าสู่ภายในร่างกายของหยางไค่โโดยมิอาจควบคุมได้ ในขณะเดียวกันกระดูกหัวไหล่ด้านหลังทั้งสองข้างรู้เจ็บปวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ราวกับว่ามันถูกกดทับจากเหล็กกล้าที่ร้อนระอุ

แต่ความเจ็บปวดก่อนกำเนิดขึ้นมามาอย่างรวดเร็ว และผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยังมิทันที่หยางไค่จะตอบสนอง มันก็พลันหายไปในทันที

หยางไค่ตรวจสอบความแข็งแกร่งของตนเองอีกครั้ง และพบว่าความแข็งแกร่งของยังอยู่ในเขตแดนลมปราณหมุนเวียนขั้นที่ 5 เหมือนเดิม

มารปฐพีที่หลอกลวง !! หยางไค่กล่าวสบท

แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อคำกล่าวของมารปฐพี แต่จิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง

แต่หลังจากที่หยางไค่หลอมละลายมันจนสำเร็จ ความแข็งแกร่งของเขาไมได้เพิ่มมากขึ้น ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงคัมภรี์ เคล็ดวิชาระดับสูง ทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งหรือแม้แต่สมบัตวิเศษก็แทบจะมองไม่เห็นเงาของมัน

หน้าที่บูดบึ้ง มารปฐพีกล่าวถามอย่างรวดเร็ว : นายน้อยได้รับสิ่งใดเป็นรางวัล !!

ไม่ได้อะไรเลย สิ่งนั้นถูกข้าหลอมละลายจนมลายหายไป หยางไค่กล่าวตอบด้วยอารมณ์ที่ขุ่นเคือง

มารปฐพีกล่าวด้วยความตกใจ : ไม่มีทาง มันเป็นแมลงกลืนฟ้าในตำนานมันต้องมีพลังแห่งฟ้าดินดำรงอยู่สิ !!

ตำนาน เป็นเพียงสิ่งหลอกลวง ! หยางไค่กล่าวตอบด้วยความผิดหวัง

ไม่ไม่ไม่ นายน้อยมีสิ่งที่ไม่ทราบ ในครั้งบรรพกาลข้าจำได้ว่าข้ามีศัตรูที่ร้ายกาจคนหนึ่ง แต่เพราะเขาหลอมละลายแมลงกลืนฟ้าตัวหนึ่ง เขาจึงได้เคล็ดวิชายที่ลึกลึบ ทำให้เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง มันไม่ใช่ตำนาน แต่มันเป็นเรื่องจริง ข้าน้อยขอใช้ชีวิต .จิตวิญญานเป็นสิ่งเดิมพัน มารปฐพีกล่าวสาบานด้วยจิตวิญญานเทพสวรรค์ของเขา !!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด