ตอนที่แล้วตอนที่ 188 ต่อต้านและก้าวหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 190 แมลงกลืนฟ้า

ตอนที่ 189 พญา


ตอนที่ 189 พญา

นายน้อยกำลังทำ กับสตรีที่ชื่ว่ายู่เอาชิง ..หึหึ มารปฐพีหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ : นายน้อยเคยกล่าวไว้ เมื่อใดที่นายน้อยอยู่กับหญิงสาวเพียงลำพัง ให้ข้าปิดผนึกความรับรู้ทางจิตวิญญาณของข้า ข้าจำมันได้ดี !!

คำกล่าวนี้หยางไค่เคยกล่าวไว้จริง เขาจึงพยักหน้าโดยไม่ได้กล่าวอธิบายแต่กล่าวเรื่องที่ตนเองกังวลใจในตอนนี้แทน : ดูเหมือนว่าข้ากำลังจะพบกับพญาแห่งฝูงแมลงเหล่านี้ ข้าจะพยามปราบปรามมันให้ได้ เจ้าคอยเฝ้าระวังข้าอยู่ด้านข้าง

เมื่อได้ยินว่าหยางไค่กำลังจะพยายามทำบางสิ่งบางอ่าง มารปฐพีจึงกล่าวตอบอย่างจริงจัง : น้อมรับคำสั่ง !!

หยางไค่สังเกตไปทั่วบริเวณ และพบว่าถ้ำแห่งนี้กว้างขวางอย่างมากและยังเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นสาปที่ไม่พึงประสงค์ เขาจ้องมองและค้นหาเป็นเวลานาน หยางไค่ก็ยังไม่พบร่องรอยของพญาแห่งแมลงเหล่านี้

แต่เขาค้นพบกองกระดูกและซากศพจำนวนไม่น้อยในถ้ำแห่งนี้

จางยู่ว เมียวหลิง และหล่อเซียงเซียงแห่งสำนักหลิงเซี่ยวต่างอยู่ที่นี้ทั้งหมด ก่อนที่พวกเขาทั้ง 3 จะตายดูเหมือนว่าพวกเขาไดรับความเจ็บปวดทุกข์ทรมาณอย่างสุดขีด ดวงตาของพวกเขาเบิกโพลง ผิวหนังในร่างกายแห้งกรังโรยราดั่งท่อนไม้ที่เหี่ยวเฉา เป็นภาพที่น่าหวาดกลัวต่อผู้พลเจออย่างยิ่ง

จางยู่วตายไปก่อน ซากศพของนางจึงเหี่ยวเฉาที่สุด ซากศพของเมียวหลิงไม่ได้ดีกว่านาง แต่ซากศพของหล่อเซียงยังพอดูได้ เพราะผิวหนังของนางยังเหลือโลหิตอยู่บ้าง แต่มันก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นายน้อย .ดูเหมือนว่าพญาแห่งแมลงตัวนี้ได้ดูดกลืนโลหิตและพลังชีวิตของพวกเขาไปจนแห้งเหือด มารปฐพีกล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขรึม

อืม หยางไค่พยักหน้า เขานั่งลงและจ้องมองซากศพของหล่อเซียงเซียง ในขณะที่สตรีนางนี้ถูกเหล่าแมลงขนาดยักษ์จับตัวไปนางกำลังร่วมรักกับเมียวหลิง ในตอนนี้ร่างกายของนางจึงเปลือยเปล่า สตรีที่งดงามในวัยแรกแย้มกับมีสภาพที่ซูบผอมและแห้งเหี่ยวที่น่าหวาดกลัว ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก

แล้วพญาแห่งแมลงอยู่ที่ไหน ?

ในขณะที่หยางกำลังมองไปรอบๆด้วยความสงสัยและระมัดระวัง ดูเหมือนว่าซากศพของหล่อเซียงเซียงเคลื่อนไหวไปมาอย่างกะทันหัน โดยมีแสงสว่างสีทองประกายออกมาจากแขนของนางและพุ่งออกไปหาหยางไค่

นายน้อยระวัง!

โชคดีที่หยางไค่ระมัดระวังตัวและมีสติอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มันก็ไม่ทำให้เขาตื่นตระหนก พลังลมปราณเคลื่อนไหว ท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหวถูกเปิดใช้งาน ทันใดนั้นร่างกายของเขาเป็นประกาย กระพริบไปมาและปรากฏตัวในบริเวณที่ห่างจากบริเวณเดิมประมาณ 10 จ้าง

แต่ยังมิทันที่หยางไค่จะยืนหยัดอย่างมั่นคง เขาพบว่าแสงสีทองได้พุ่งบินเข้ามาและปราฏกอยู่ตรงหน้าของเขา

เร็วมาก ! สีหน้าของหยางไค่แปรเปลี่ยนอย่างกะทันหัน เขาประกายร่างกายออกห่างไปอีก

เป็นเหมือนครั้งที่แล้ว แสงสีทองบินเข้ามาและปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง

หยางไค่ได้ยินเสียงหึ่งเล็กๆ ลอยมาจากแสงสีทองนั้น เขายังมองเห็นเงาร่างที่เรือนลางแห่งแมลงที่มีรูปลักษณะที่ไม่ต่างจากฝูงแมลงเหล่านั้น เพียงแต่ว่ามันมีขนาดเล็กกว่าหลายเท่า

นั่นคือพญาแห่งแมลง ?

เดิมทีหยางไค่คิดว่าพญาแมลงต้องมีร่างกายขนาดใหญ่ แต่ไม่คิดว่ามันจะมีรูปร่างขนาดเล็กละเอียด แต่ว่าความว่องไวในการพุ่งบินของมันรวดเร็วจนน่าตกใจ ในฐานะที่มันเป็นพญาแห่งแมลง มันต้องโหดเหี้ยมและร้ายกาจกว่าแมลงตัวอื่นๆอย่างแน่นอน

หยางไค่ไม่กล้ารอช้า หยางไค่ใช้ทักษะท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหวเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีของพญาแมลงและหาโอกาสในการโจมตีมันให้เร็วที่สุด

เมื่อร่างกายของเขาประกายด้วยท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหวประมาณ 15 ครั้ง พลังลมปราณหายหายไปเกือบครึ่ง แต่พญาแมลงยังคงตามติดเขาเหมือนเดิมเฉกเช่นหนอนบนกระดูกที่เน่าเปื่อย แต่ระยะห่างระหว่างเขาและพญาแมลงกับใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม

เมื่อไร้ซึ่งหนทางในการหลบหนี หยางไค่จึงยืนหยัดอย่างมั่นคง สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม เขาจ้องเขม่งไปยังแสงสีทองด้วยความมุ่งมั่น และพุ่งโจมตีออกไปอย่างโหดเหี้ยม

พลังลมปราณหยางระเบิดออกมาอย่างรุนแรง !!

แต่ฉากเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงได้เกิดขึ้น หมัดที่พุ่งโจมตีออกไปไม่เพียงไม่สามารถโจมตีแสงสีทองให้ถอยกลับไป แต่มันกลับทำให้หมัดของหยางไค่รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว โดยมองไม่เห็นร่องรอยของแสงสีทองนั้นอีก

หยางไค่รีบดึงหมัดของเขาเข้ามา เขาจ้องมองออกไป โดยสีหน้าแสดงออกอย่างหวาดกลัว เขาพบว่าหมัดของเขามีรูหลุมโลหิตเล็กๆ หนังเนื้อของเขาแตกออกแนบติดกับหลังมือของเขาและหายไปในพริบตา

มันคือแมลงประเภทไหนกันแน่ ? สีหน้าของหยางไค่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ในตอนแรกเขาคิดจะเข้ามาเพื่อปราบปรามพญาแห่งแมลงตัวนี้ แต่ไม่คิดว่าตนเองต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย เพราะมันบุกรุกเข้าไปยังร่างกายของเขา

หยางไค่รีบนั่งขัดสมาธิลง และใช้จิตใจสัมผัส โดยที่ร่างกายของเขายังไม่แสดงถึงความผิดปกติ ราวกับว่าพญาแมลงเข้าไปในตัวเขาและหายตัวไปอย่างกะทันหัน

นายน้อย รู้สึกผิดปกติอะไรบ้างไหม ? มารปฐพีกล่าวถามด้วยความตื่นตะลึง

ไม่รู้สึก หยางไค่รู้สึกแปลกใจ เพราะดูจากสภาพศพของศิษย์สากแห่งสำนักหยุนเซี่ย พญาแมลงคงต้องดูดโลหิตและโลหิตเนื้อหนังของพวกเขาไปจนหมด แต่ทำไมเขาถึงไม่เป็นเช่นนั้น ?

ไม่น่ะ นายน้อยตรวจสอบดูอีกครั้ง ข้านึกถึงแมลงชนิดหนึ่งในบรรพกาล โดยมีความคล้ายคลึงกับแมลงตัวนี้ !!

หยางไค่รู้ดีว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ เขารีบหลับตาและสัมผัสตรวจสอบไปยังแขนที่พญาแมลงได้พุ่งเข้าไปอีกครั้ง

ผ่านไปเป็นเวลานาน หยางไค่เริ่มพบร่องรอยบางอย่าง

พญาแมลงตัวนี้ ได้เข้าไปยังห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราที่อยู่บนหลังมือของเขา

ในห้วงมิติแห่งผนึกดวงดารานี้ มันเกิดขึ้นเพราะเขาฝึกฝนทักษะการต่อสู้แห่งผนึกดวงดารา ในเวลาทั่วไปห้วงมิติแห่งดวงดาราจะสะสมพลังลมปราณ และระเบิดใช้งานมันอย่างหนักหน่วงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

จากคำกล่าวของมารปฐพี ทักษะการต่อสู้นี้เสมือนการแลกเปลี่ยนชีวิตซึ่งกันและกัน หากใช้มันออกไป หากไม่ใช่ศัตรูที่ตายก็จะเป็นเขาที่ตาย !!

ก่อนหน้านั้นในถ้ำสวรรค์แห่งมรดกฟ้าสวรรค์ หยางไค่พึ่งพาทักษะการต่อสู้แห่งผนึกดวงดารา จึงสามารถกำราบสัตว์อสูรที่แข้งแกร่งได้สำเร็จ

แต่พญาแมลงตัวนี้กลับสามารถเข้าไปยังห้วงมิติแห่งนี้ นอกจากนั้นหยางไค่ยังรู้สึกไดอย่างชัดเจนว่าพลังลมปราณจำนวนมากมายมหาศาลที่เขากักเก็บไว้ในผนึกดวงดาราแห่งนี้ กำลังถูกพญาแมลงกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง

ผ่านไปเพียงพริบตา พลังลมปราณของเขาได้หายไป 1 ใน 4 ส่วนของพลังลมปราณทั้งหมด

เมื่อมันเข้าไปยังแขนของเขา ไม่มีทางที่จะทำให้มันออกมาได้ มีเพียงการตัดแขนของเขาออกไปเท่านั้น การค้นพบนี้ ทำให้มารปฐพีวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

แย่แล้ว แย่แล้ว !! หากมันกลืนกินพลังลมปราณเหล่านี้จนเสร็จสิ้น มันจะดูดกลืนโลหิต เนื้อหนังมังสาของนายน้อย เมื่อถึงเวลานั้น นายน้อยต้องตายอย่างแน่นอน หากนายน้อยตายไป ข้าก็จะถูกฝังไปพร้อมกับนายน้อย โอ้ว ไม่น่ะ เราควรทำอย่างไรต่อไป ?!!

หยางไค่ขมวดคิ้วไว้แน่น ความคิดของเขากำลังหมุนวนไปอย่างรวดเร็ว เขากำลังคิดพนิจไตร่ตรองเพื่อหาหนทางในการตอบโต้กับพญาแมงที่ร้ายกาจ

เขาไม่คาดคิดว่าพญาแมลงตัวนี้จะมีลักษณะและความสามารถที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เพราะมันสามารถกลืนกินแม้แต่พลังลมปราณ

หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ พลังลมปราณที่กักเก็บไว้ในผนึกดวงดาราลดลงอย่างมาก มันกำลังจะว่างเปล่าในไม่ใช่ ผนึกดวงดาราที่น่าเวทนาของหยางไค่ เขาต้องใช้เวลาหลายเดือนในการกักเก็บสะสม แต่ยังมิทันที่จะได้สำแดงพลังอำนาจของมัน กลับถูกพญาแมลงดูดกลืนจนหมดสิ้น

เพื่อยั้บยั้งไม่ให้พญาแมลงดูดกลืนพลังลมปราณของเขาไปจนหมดและเริ่มดูดกลืนโลหิตและเนื้อหนังของเขา หยางไค่หมุนเวียนกลยุทธุ์อย่างเร่งรีบ และถ่ายทอดพลังลมปราณหยางที่อยู่ในเส้นชีพจรไปยังห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราในทันที

พญาแมลงยังคงกลืนกินพลังลมปราณที่หยางไค่ถ่ายเทลงไปอย่างมีความสุข

แม้ว่าวิธีการจะเป็นทางออกเพียงชั่วคราว แต่อย่างน้อยมันก็สามารถยื้อเวลาออกได้บ้าง หยางไค่และมารปฐพีกำลังคิดหาหนทางในการตอบโต้ก้บพญาแมลงอย่างวุ่นวาย

หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลานาน หนางไค่จึงกล่าวถามขึ้นอย่างกะทันหัน : มารปฐพี เจ้าสามารถเข้าไปยังห้วงมิติดวงดาราแห่งนี้หรือไม่ ?

มารปฐพีอึ้งไปชั่วขณะ : ข้าไม่เคยลอง แต่แม้ว่าข้าจะเข้าไปได้ คงไม่ใช้คู่ต่อสู้ของพญาแมลงนั่น ความเร็วของมันเร็วเกินไป นอกจากนั้น ..ไม่แน่ว่ามันอาจสามารถดูดกลืนจิตวิญญานแห่งเทพสวรรค์ของข้า

หากเป็นเช่นนั้น เมื่อมารปฐพีเข้าไปก็เปรียบเสมือนการฆ่าตัวตายเท่านั้น

ลองดูว่าสามารถเข้าไปหรือไม่ !! หยางไค่กล่าวกระตุ้นด้วยน้ำเสียงที่กล้าหาญ

นายน้อนจะให้ข้าเข้าไปจริงๆใช่ไหม ? มารปฐพีกล่าวด้วยความลังเลใจ

หยุดพล่ามสักที !!

มารปฐพีหมดหนทางในการปฏิเสธ แต่ในตอนนี้ชิวิตของหยางไค่อยู่ในช่วงแห่งความเป็นความตาย หากหยางไค่ตายไป เขาก็ไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ มารปฐพีขบฟันไว้แน่น เข็มสลายวิญยานมาถึงหลังมือของหยางไค่ เขากล่าวพึมพำอยู่ในใจด้วยความหวาดกลัว แล้วจึงพุ่งเข้าไปยังห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราของหยางไค่ในทันที

หลังจากนั้น มารปฐพีได้หนีออกมา!!

มันสามารถดูดกลืนจิตวิญญาณเทพสวรรค์ของข้า ข้าหวาดกลัวยิ่งนัก !! หากเมื่อสักครู่มารปฐพีไม่ได้วิ่งหนีออกมา หากไม่ใชเพราะพญาแมลงกำลังดูดกลืนพลังลมปราณของหยางไค่ เขาไม่มีทางที่จะหนีออกมาได้ !

เจ้าสามารถเข้าไปดี ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเรื่องง่ายในการจัดการกับมัน หยางไค่หัวเราะเบาๆ

นายน้อยมีหนทางตอบโต้มัน ? เมื่อมารปฐพีได้ยินคำกล่าวเช่นนั้น จิตใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความโล่งอก

ข้าไม่สามารถยืนยันว่ามันจะสำเร็จ แต่ต้องลองสอบดูสักครั้ง !! หลังจากที่หยางไค่กล่าวจบ เขาเปิดใช้เคล็ดวิชาความอดทนที่ไร้พ่ายจากกระดูกทองคำ เขาดึงพลังที่กักเก็บอยูในกระดูกทองออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในขณะเดียวกัน หยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียนระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง มันได้แปรเปลี่ยนเป็นพลังที่มากมายมาหาศาล และพุ่งเข้าสู่ห้วงมิติแห่ผนึกดวงดาราในทันที !

ภายในร่างกายของหยางไค่ อาจกล่าวได้ว่ามีจุดเก็บพลังของเขาถึง 3 แห่งด้วยกัน

จุดแรกคือห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราที่อยู่บนหลังมือของเขา มันเป็นคลังเก็บพลับของผนึกดวงดรา มันกักเก็บพลังได้น้อยที่สุด

จุดที่ 2 คือหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่กักเก็บอยู่ในจุดตันเถียน มันคือรากฐานความแข็งแกร่งและความรุนแรงในการต่อสู้ของเขา พลังอำนาจและความแข็งแกร่งของทักษะการต่อสู้และเคล็ดวิชาแห่งการต่อสู้ ล้วนพึ่งพาอาศัยหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียนแห่งนี้

จุดที่ 3 เป็นคลังเก็บพลังที่ใหญ่ที่สุดของเขา นั่นก็คือกระดูกทองคำ !! กระดูกทองคำสามารถรับพลังทุกชนิดในโลกนี้ โอสพวิเศษที่หยางไค่เคยกลืนกิน หญ้าจิตวิญญาณและผลไม้จิตวิญญาณ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้รับการบ่มเพาะพลัง เพียงแค่ไม่ใชพลังหยาง จะถูกกักเก็บไว้ที่นี้ทั้งหมด

จากพลังที่ถูกกักเก็บเข้าไปทั้งหมด กระดูกทองคำสามารถกักเก็บพลังได้อย่างมากมายมหาศาล ซึ่งมากกว่าจุดตันถียนถึงหลายสิบหลายร้อยเท่า

เมื่อดึงพลังจากคลังเก็บพลังทั้ง 2 แห่ง พลังลมปราณที่หมุนเวียนอยู่ในร่างกายของหยางไค่รุนแรงแข็งแกร่งหนักหน่วงอย่างน่าตกใจ

จากพลังที่ถูกถ่ายทอดเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้พญาแมลงที่อยู่ในห้วงมิติดวงดาราเต็มใจที่จะดูดกลืนพลังเหล่านี้ ยิ่งดูดกลืนเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้มันมึนเมาในพลังของหยางไค่อย่างไม่หยุด

นายน้อย ท่านกำลัง . มารปฐพีอึ้งจนตัวแข็งทื่อ : นายน้อยต้องการให้มันตายจากการดูดกลืนพลังที่มากมายมหาศาล ?

หากท้องมันแตกตายเพราะอิ่มจากการดูดกลืนพลังที่มากมายจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่หากมันไม่ตาย เจ้าต้องเข้าไปต่อสู้กับมัน หยางไค่ตอบอย่างรัดกุม และตั้งใจถ่ายเทพลังทั้งหมดไปยังห้วงมิติดวงดาราอีกครั้ง

จากเวลาที่ไหนผ่านไป พญาแมลงที่เข้าสู่ห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราเริ่มตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

พญาแมลงมีมีจิตวิญญาณพื้นฐานบางอย่างที่แข็งแกร่ง มิเช่นนั้นมันคงไม่สามารถสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของล้อมจับเหยื่อของมัน และนำเหยื่อที่จับได้มาส่งมอบให้แก่มัน ในอดีตที่ผ่านมัน มันจะดูดกลืนพลังทุกสิ่งอย่างที่อยู่ภายในร่างกายของเหยื่อ หลังจากที่มันดูดกลืนพลังจนหมด มันจะดูดกลืนโลหิตและเนื้อหนังมังสาของเหยื่อต่อไป

แต่ในครานี้เขาพบว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ พลังที่อยู่ภายในของเหยื่อรายใหม่มีพลังที่ถูกถ่ายทอดเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย โดยไม่มีทีท่าว่าจะแห้งเหือดแม้แต่น้อย แม้ว่าในตอนแรกมันจะรู้สึกดีใจ จนมันดูดกลืนพลังเหล่านั้นจนอิ่มหนำสำราญ แต่หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าร่างกายของมันเริ่มบวมเบ่งจากพลังที่มันดูดกลืนอย่างต่อเนื่อง

มันไม่สามารถดูดกลืนพลังเหล่านี้ได้อีกต่อไป แต่ว่าพลังเหล่านี้ยังไหลเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มันไหลผ่านร่างกายของมัน ทำให้ร่างกายที่อิ่มหนำสำราญเริ่มไม่ปกติ จนมันพุ่งเข้าไปยังด้านซ้ายของห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราและกระเด็นไปยังด้านขวาของห้วงมิติแห่งผนึกดวงดารา

การพุ่งเข้ามาเป็นเรื่องง่าย แต่การคิดที่จะออกไปจะง่ายเช่นการเข้ามาได้อย่างไร ?

หยางไค่เคยรับมือกับมัน เขารู้ดีว่าความเร็วของมันรวดเร็วอย่างยิ่ง เมื่อปล่อยให้มันได้รับอิสระจะเป็นเรื่องยากที่จะจับมันอีกครั้ง ดังนั้นเขาไม่มีทางที่จะปล่อยมัน พลังในร่างกายไหลเวียนเข้าไปยังต่อเนื่อง เป็นเหมือนการปิดผนึกทางดออก ทำให้มันไม่สามารถหนีรอดออกไปได้

กลยุทธุ์หยางของหยางไค่หมุนเวียนจนถึงขีดสุด หยดน้ำพลังลมปราณหยางที่อยู่ในจุดตันเถียนถูกถ่ายเทออกไปกว่าครึ่ง ทั้งหมดทั้งมวลต่างหมุนเวียนไปยังห้วงมิติแห่งผนึกดวงดารา และถูกพญาแมลงดูดกลืนจนหมดสิ้นเช่นเดียวกัน

หลังมือของเขา มีเสียงหึ่งๆ ดังแว่วออกมา เห็นได้ชัดว่าพญาแมลงต้องการหนีออกมา

มุมปากของหยางไค่แสะยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เหี้ยวโหด หยางไค่ระเบิดหยดน้ำพลังลมปราณหยางอีกหลายครั้ง และยังดึงพลังจากกระดูกทองคำออกมาและส่งถ่ายเทไปยังห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราอย่างไม่หยุด

จากหยดน้ำพลังลมปราณหยางที่ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ร่างกายของหยางไค่แดงก่ำ ความร้อนระอุแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขาอย่างหนักหน่วง ราวกับว่าเขากำลังถูกเผาไหม้จากดวงอาทิตย์อย่างรุนแรง ผิวหนังของเขาเริ่มมีหยดโลหิตซึมออกมาอย่างช้าๆ

มารปฐพี !! เมื่อหยางไค่รู้สึกว่าถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจึงกล่าวเรียกมารปฐพี

เมื่อมารปฐพีเฝ้าดูการกระทำที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ จิตใจของมารปฐพีถูกแทนที่ด้วยความเหี้ยมโหดและความเฉียบขาด ทันใดนั้นเข็มสลายวิญญานและมารปฐพีได้พุ่งเข้าสู่ห้วงมิติแห่งผนึกดวงดาราในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด