ตอนที่แล้วตอนที่ 178 ความตายอย่างเด็ดขาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 180 ยู่เอ้าชิง

ตอนที่ 179 การเคลื่อนไหวของสำนักหยุนเซี่ย


ตอนที่ 179 การเคลื่อนไหวของสำนักหยุนเซี่ย

เมื่อกลับมายังที่พำพักในสวนขนาดใหญ่ จิตใจของหยางไค่เต็มไปด้วยความหนักอึ้ง

หากไม่ได้พบเจอกับฮู่หญิง ในเวลานี้เขาคงกำลังคิดหาวิธีการในการขโมยเรือกลไฟ และหนีออกจากสถานที่แห่งนี้

แต่ในตอนนี้ เขาไม่อยากออกจากเกาะหยุนเซี่ยแห่งนี้

สำนักหยุนเซี่ยได้รับกระดองเต่าทั้งสองชิ้น พวกเขาต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน

นอกจากนั้นพวกเขายังได้รับแผนที่ แม้จะเป็นแผนที่ด้านนอกก็ตาม แผนที่ในส่วนที่สำคัญอยู่ในการครอบครองของเขา หยางไค่รู้สึกว่าไม่ควรทำให้ความตั้งใจของฮู่หญิงล้มเหลวไป นางรวบรวมความกล้าหาญ ให้ตนเองจดจำแผนที่ไว้ ไม่ใช่ให้ตนเองกลบฝังแผนที่ที่นางปกป้องรักษามาตลอด

หากคาดการณ์ไม่ผิด ในวัน 2 วันหรือภายในเดือนนี้ สำนักหยุนเซี่ยต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน

หยางไค่ครุ่นคิดอย่างมากมาย และเขาก็มีการคาดเดาที่ตนเองมั่นใจอย่างยิ่ง

เมื่อเมียวฮวาเฉินได้รับกระดองเต่า การที่เขาต้องการมอบให้แก่สำนักหยุนเซี่ย ประการแรกเพราะต้องการปูเส้นทางในอนาคตให้แก่บุตรชายของเขา ประการที่ 2 เป็นเพราะตระกูลเมียวไร้ซึ่งความสามารถที่ค้นหาและสำรวจเกาะที่น่าอัศจรรย์นี้

ดังนั้นเขาจึงต้องหยิบยืมอำนาจของสำนักหยุนเซี่ย และยังเป็นการสร้างสัมพันธุ์อันดีให้ต่อสำนักหยุนเซี่ย เพื่อสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้แก่ตนเองโดยที่ตนเองเป็นผู้ครอบครองแผนที่ภายในของเกาะลึกลับ ซึ่งทำให้เขาสามารถหลบหนีจากภัยอันตรายทั้งมหด จนถึงบริเวณที่สำคัญที่สุดของเกาะลึกลับ หยางไค่ไม่ทราบว่าเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์จะซ่อนความลับอะไรไว้ภาย แต่หยางไค่มั่นใจได้อย่างยิ่งว่ามันต้องเต็มไปด้วยภัยอันตรายที่มากมายอย่างแน่นอน

ปัญหาเดียวในตอนนี้ คือตนเองจะลับลอบติดตามการเคลื่อนไหวของสำนักหยุนเซี่ยได้อย่างไร ? พวกเขาครอบครองแผนที่ในการค้นหาเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์ หากไม่ติดตามพวกเขาไป ตนเองไม่มีวันที่จะไปถึงเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์ได้

ในยามค่ำคืนหยางไค่แอบออกจากที่พำพักเพื่อสืบหาการเคลื่อนไหวต่างๆของสำนักหยุนเซี่ยเป็นเวลาหลายวัน จากการสนทนาของศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ย หยางไค่ทราบว่าผู้อาวุโสแห่งสำนักหยุนเซี่ยได้รับแผนที่ของเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์ พวกเขากำลังเตรียมตัวเพื่อออกค้นหาและสำรวจเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์อย่างกระตือรือร้น

ศิษย์ทั่วไปเหล่านี้รับรู้เรื่องราวที่ไม่มาก พวกเขาต่างได้ยินจากผู้อาวุโสหรือศิษย์ชั้นสูง สำหรับรายละเอียดต่างๆ พวกเขาต่างไม่ทราบ แต่ในขณะที่หยางไค่กำลังขบคิดอย่างยากลำบาก ว่าจะออกไปค้นหาสืบหาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องอย่างปลอดภัยได้อย่างไร แต่ในช่วงเช้าของวันหนึ่ง ในลานสวนขนาดใหญ่จากการตะโกนเรียกของศิษยสาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ย คนธรรมดาสามัญที่ถูกจับตัวมาต่างรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของคนเหล่านี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาต่างกล่าวพึมพาด้วยเสียงที่ต่ำทุ้ม : เกิดอะไรขึ้นต้องเข้าไปเก็บเกี่ยวยาสมุนไพรผลไม้เฮยซ๋วนอีกครั้ง ? พวกเราเพิ่งออกมาได้ไม่กี่วัน ที่ผ่านมาพวกเราต้องเข้าไปเก็บ 1 เดือน ต่อ 1 ครั้งไม่ใช่หรือไง ?

ฮึฮึ ในครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางออกไปเก็บเกี่ยวยาสมุนไพรแต่จะพาพวกเจ้าไปทำอะไร พวกเจ้าไม่ต้องถามให้มากความ ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยวคนนั้นแสะยิ้มที่มุมปากอย่างไม่หยุด

เมื่อหยางไค่ได้ยินดังนั้น จิตใจของเขาสั่นไหว เขาครุ่นคิดเป็นเวลานาน ในที่สุดก็เข้าใจความหมายของพวกเขา

หากตนเองเดาไม่ผิด รุ่งเช้าของวันนี้ .คือโอกาสของเขา!!

เมื่อถูกพามายังชายทะเล มีเรือลำหนึ่งที่ใหญ่กว่าเรือกลไฟที่เขาเคยพบเจอ เรือลำนี้มีความยากกว่า 20 จ้าง มีเสาเรือทั้งหมด 5 เสา ผ้าใบที่แขวนอยู่ตรงเสาเรือราวกับเป็นศีรษะของมังกรที่สง่างาม ลักษณะของเรือยังเต็มไปด้วยความงดงามและความสง่างามที่ปราณีตอย่างยิ่ง

ชั่วชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยพบเจอกับเรือที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ พวกเขาต่างจ้องมองมันด้วยความตื่นตะลึง

เสียงของชายผู้หนึ่งดังขึ้น โอ้ว สวรรค์ นี้คือเรืองมังกร เรือทีมีขนาดใหญ่ที่สุดของสำนักหยุนเซี่ย พวกเขาจะพาพวกเราไปแห่งหนใด ?

หยางไค่ยิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่ตนเองคาดเดาเอาไว้เป็นเรื่องจริง

เขาไม่เคยคิดเลยว่า ตนเองหาหนทางกว่าร้อยพันหนทาง ครุ่นคิดขบคิดด้วยความยากลำบากว่าจะแอบติดตามพวกเขาไปได้อย่างไร แต่พวกเขากลับพาตนเองไปยังเกาะลึกลับด้วยตนเอง โชคชะตาช่างเข้าข้างตนเองอย่างมาก

สำนักหยุนเซี่ยนำคนธรรมดาเหล่านี้มาด้วย ไม่ใช่เพราะพวกเขาจะพาคนเหล่านี้ไปค้นหาสมบัติกับพวกเขา แต่่สำนักหยุนเซี่ยต้องการคนจำนวนมากในการทำงานรับใช้บนเรือลำนี้ พวกเขาต้องการขับเคลื่อนเรือที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ แน่นอนว่าต้องใช้พละกำลังของผู้คนำจำนวนมากเช่นเดียวกัน

เมื่อคิดได้ดังนี้ สีหน้าของหยางไค่จึงนิ่งสงบลง

เรือมังกรลำนี้เป็นเรื่องของสำนักหยุนเซี่ยที่จะออกค้นหาเกาะลึกลับแน่นอนว่าบนเรือต้องมียอดฝีมืออย่างแน่นอน !! ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่าเขตแดนลมปราณแท้จริง นั่นก็คือยอดฝีมือที่อยู๋ในเขตแดนเทพสวรรค์ !!

ตนเองสามารถเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงต่อหน้าผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงและเขแดนที่ต่ำกว่า แต่หากพบเจอกับยอดฝีมืแห่งเขตแดนเทพสวรรค์ เพียงแค่พวกเขาใช้จิตวิญญานตรวจสอบร่างกายของตนเอง พวกเขาจะสามารถสัมผัสถึงพลังความแข็งแกร่งที่ตนเองพยายามซ่อนเร้นเอาไว้ ดังนั้นการเดินทางในครั้งนี้เขาต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ไมว่าอย่างไรก็ห้ามเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ ไม่เช่นนั้นตัวเขาเองจะต้องตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

หลังจากที่หยางไค่ติดตามกลุ่มคนเหล่านั้นไป และถูกผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยไล่ต้อนขึ้นเรือ ซึ่งมีคนธรรมาดาสามัญกว่า 70 คน

จากการแบ่งหน้าที่ของแต่ละคนจากผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยพวกเขาทุกคนต่างได้รับมอบหมายหน้าที่ที่แตกต่างกัน

หยางไค่ค่อนข้างโชคดี เพราะเขาถูกสั่งให้ลงไปยังชั้นล่างสุดของเรือ ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ โดยไม่มีหน้าที่ชัดเจน แต่ไม่ว่างานอะไรเขาก็ต้องทำทุกอย่าง

หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามความต้องการของหยางไค่ แม้ว่าการซ่อนตัวอยู่ด้านล่างจะปลอดภัยที่สุด แต่หยางไค่รู้ต้องการที่จะสืบหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนดาดฟ้ามากกว่า เพียงแค่ระมัดระวังตัวอย่างรอบคอบ ซึ่งไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจให้แก่ยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนเทพสวรค์ก็เพียงพอ

หลังจากที่รอเป็นเวลานาน กลุ่มคนของสำนักหยุนเซี่ยกำลังเดินมา โดยผู้ที่เดินคืออาวุโสจำนวน 2 คน ใบหน้าของพวกเขาเรียวยาว ผมและหนวดเคราเป็นสีขาว ดวงตาดุจสายฟ้า โดยมีพลังอำนาจที่กดทับทุกคนแพร่กระจายออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาทั้งสองคือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักหยุนเซี่ย

พวกเขาทั้งสองหนึ่งในนั้นเป็นชายชราที่แก่เฒ่า ส่วนอีกคนเป็นแม่เฒ่าที่แก่ชรา พวกเขากำลังกล่าวสนทนาด้วยรอยยิ้มและเดินมายังทิศทางนี้

ด้านหลังของพวกเขา ติดตามาด้วยผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยจำนวนมาก มีทั้งศิษย์สาวกหญิงและศิษย์สาวกชาย รวมกันประมาณ 50 คน ซึ่งพวกเขาก็คือศิษย์สาวกที่แข็งแกร่งของสำนักหยุนเซี่ย

ทันใดนั้นชายวัยกลางแห่งสำนักหยุนเซี่ยกล่าวตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เคารพ: ยินดีต้อนรับอาจารย์ทั้งสอง !!

เมื่อเสียงนี้ถูกตะโกนออกไป ศิษย์สาวกที่อยู่ในเรือมังกรต่างทำความเคารพอย่างรวดเร็ว

ชายชราแลแม่เฒ่าต่างหัวเราะด้วยความยินดี ร่างกายของพวกเขาลอยขึ้นไปยังเรือมังกรอย่างแผ่วเบา แม่เฒ่ากล่าวถาม : เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม? ชายวัยกลางกล่าวตอบ : ขอรับ เตรียมพร้อมทุกอย่ง ในตอนนี้รอเพียงอาจารย์ทั้งสองเท่านั้น ในเวลานี้สามารถขับเคลื่อนเรือออกไปได้เลย

อืม ชายชรากล่าวตอบ ก่อนจะโบกมือและออกคำสั่ง : เจ้าไปจัดการไป ข้าและอาจารย์หลันจะปิดกั้นตนเองและฝึกฝนวิชายุทธุ์อยู่ห้องพำพักที่อยู่ด้านล่าง หากไม่มีเรื่องที่สำคัญ ห้ามรบกวนพวกเราเด็ดขาด !

ขอรับ !

หลังจากที่ชายชราและแมเฒ่าเดินเข้าไปยังใต้ท้องเรือ หยางไค่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ฐานะของชายวัยกลางที่อยู่ในสำนักหยุนเซี่ยคงไม่ต่ำอย่างแน่นอน เขากำลังยืนอยู่เรือและสั่งการให้ผู้ฝึกยุทธุ์ทั้งหมดเข้าสู่เรือมังกรขนาดใหญ่ลำนี้

หลังจากที่สั่งการมากว่าครึ่งชั่วยาม ภายใต้คำสั่งของเขา เรือมังกรขนาดใหญ่ค่อยๆขับเคลื่อนออกจากเกาะหยุนเซี่ย

หยางไค่ยืนอยู่บนพื้นดาดฟ้า เขากำลังทำเหมือนว่ากำลังทำงาน ซึ่งความเป็นจริงเขากำลังจดจำเส้นทางของการเดินเรือต่างหาก

เรือมังกรขนาดใหญ่เคลื่อนผ่านคลื่นแห่งท้องทะเลที่กว้างไกล หนึ่งวันหนึ่งคืนในการเดินเรือ รอบข้างของเรือไร้ซึ่งเงาแห่งเกาะน้อยใหญ่ ซึ่งเหลือเพียงความกว้างใหญ่ของท้องทะเลที่ไร้ซึ่งขอบเขต

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าดวงจันทร์ส่องสว่าง หยางไค่อยู่บนเรือมังกรเป็นเวลากว่า 3 วัน เขาสืบหาเรื่องราวต่างๆอย่างระมัดระวัง โดยการสอบถามจากผู้ฝึกยุทธุ์ที่ว่างเว้นจากการทำงาน ซึ่งทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

การที่เรือมังกรนำกลุ่มคนขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เพราะต้องการเดินทางไปยังเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์นั่นเอง

แต่ว่าผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยเรียกเกาะลึกลับที่น่าอัศจรรย์ว่าเกาะซ่อนเร้น !! การกล่าวเรียกนี้ทำให้หยางไค่นึกถึงเรื่องราวตำนานที่เขาเคยได้ยินมาจากเมืองไห่เฉิน

เกาะซ่อนเร้นเป็นเกาะที่อยู่ในตำนานที่ร่ำลือกันมานานแสนนาน ทัศนียภาพและวิวทิศทัศน์แห่งภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่มันถือกำเนิดในสถานที่ไกลพ้นจากท้องทะเล การดำรงอยู่ของมันเป็นเรื่องจริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทัศนียภาพและวิวทิศทัศน์แห่งภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นถึงแพร่สะพัดไปยังผู้คนที่อยู่ห่างไกล และเข้าประทับอยู่ในสายตาของฝูงชนแห่งเมืองไห่เฉิน

บริเวณที่ก่อกำเนิดเกาะซ่อนเร้นที่เป็นภาพลวงตานั้น หากใช้วิธีการในการค้นหาทั่วไป ไม่ว่าอย่างไรก็มิอาจค้นพบมัน มีเพียงช่วงเวลาที่เหมาะสมในเวลาที่มันปรากฏตัวออกมา ถึงจะเข้าไปได้

การที่ยากต่อการค้นพบและเข้าใกล้ และเกาะที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยสายตา จึงถูกขนานนามว่าเกาะซ่อนเร้น !!

บนเกาะซ่อนเร้น เต็มไปสมบัติล้ำค่าเงินทองความมั่นคั่งที่ไม่สิ้นสุด มีวิชายุทธุ์ที่ทำให้คนธรรมดาสามัญกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุทธภพ และยังมีสมบัติแห่งฟ้าสวรรค์จำนวนมากมายที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน คนธรรมดาสามัญทั่วไปที่คิดจะเข้าสู่เกาะซ่อนเร้น ต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบากแสนเข็ญ แต่ในตอนนี้ โอกาสอันแสนวิเศษได้ตกมายังสำนักหยุนเซี่ย ดังนั้นผู้แข็งแกร่งแห่งสำนักหยุนเซี่ยจึงปรากฏตัวขึ้น แม้แต่ยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์ยังปรากฏตัวออกมา เพื่อเดินทางไปยังเกาะซ่อนเร้นที่เต็มไปด้วยความลึกลับแห่งนั้น

ในสำนักหยุนเซี่ย มียอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนเทพสวรรค์เพียง 4 คน พวกเขาเดินทางออกมาถึง 2 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของเจ้าสำนัก

หลายวันที่ผ่านมา เรื่องราวที่หยางไค่ได้ยินมา คือสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยต้องการจากเกาะซ่อนเร้น และเฝ้าครวญคิดถึงโชคชะตาที่พวกเขาจะได้รับ

ทำให้หยางไค่คิดถึงเรื่องราวของถ้ำสวรรค์แห่งมรดกฟ้าสวรรค์ เขาจึงกล่าวถามมารปฐพีที่ปิดกั้นตนเอง เขาจึงทราบว่าเกาะซ่อนเร้นไม่ใช้ถ้ำแห่งฟ้าสวรรค์ แต่อาจมียอดฝีมือแห่งบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ได้ทำการครอบครองเกาะแห่งนั้นเพื่อฝึกฝนวิชายุทธุ์ แต่เขาไม่ต้องการให้คนภายนอกรบกวนการฝึกยุทธุ์ของเขา ดังนั้นเขาจึงสร้างค่ายกลขึ้นมา ซึ่งทำให้เกาะซ่อนเร้นหายไปต่อหน้าสายตาของคนทั่วไป

หรืออาจเป็นเพราะเกาะซ่อนเร้นแห่งนี้มีค่ายกลแห่งอำนาจพลังของฟ้าสวรรค์ ทำให้คนธรรมดาสามัญมิอาจที่จะมองเห็นมันได้

แต่ไม่ว่าอย่างไร เกาะซ่อนเร้นนั้นมีโอกาสที่จะดำรงอยู่จริงตามตำนานที่กล่าวขานกันมา

จากการสนทนาของเหล่าศิษย์สาวกที่หยางไค่ได้ยินมา ทำให้เขาจดจำถึงความแข็งแกร่งของยอดฝีมือ ชายวัยกลางคนนั้นชื่อว่า ยู่ซิวผิง ความแข็งแกร่งอยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 9 เขาเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักหยุนเซี่ย

เขตแดนลมปราณแท้จริงสามารถเป็นถึงผู้อาวุโส แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของสำนักหยุนเซี่ยเทียบกับสำนักหลิงเซี่ยวไม่ได้ นอกจากนั้นยอดฝีมือแห่งเขตแดนเทพสวรรค์ยังมีอายุที่ค่อนข้างมาก แม้ว่าผู้อาวุโสแห่งสำนักหลิงเซี่ยวจะมีอายุในระดับหนึ่ง แต่พวกเขาต่างมีอายุที่น้อยกว่าอาจารย์ทั้งสองของสำนักหยุนเซี่ยอย่างแน่นอน

ยอดฝีมือแห่งเขตแดนเทพสวรรค์ทั้งสองที่ขึ้นเรือมา ชายชรามีชื่อว่าติงจาจือ เขตแดนเทพสวรรค์ขั้นที่ 5 แม่เฒ่ามีชื่อว่าโฮ่วเซียงหลันเขตแดนเทพสวรรค์ขั้นที่ 4 ทั้งสองเป็นผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักหยุนเซี่ย ในวันทั่วไปพวกเขาจะฝึกฝนวิชายุทธุ์อยู่ในสำนัก พวกเขาทั้งสองล้วนอยู่ในวัยชราภาพ หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปรากฏตัวอย่างแน่นอน

ในวันนี้ หยางไค่กำลังกวาดพื้นบนดาดฟ้าอย่างเงียบงัน ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงตะโกนแว่วมา : ชิงเอ่อ ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี้คนเดียว ? เมียวหลิงไม่ได้อยู่ดูแลเจ้าหรือไร ?

เมื่อได้ยินคำว่าเมียวหลิง หยางไค่เงี่ยหูของเขาอย่างตั้งใจ

เขาจำได้ ฮู่หญิงเจียงเคยกล่าวว่า บุตรชายของเมียวฮวาเฉินชื่อว่าเมียวหลิง !! ภัยพิบัติที่ตระกูลเจียงได้รับ เป็นเพราะเขาคนเดียว !!

ใช่หรือไม่ใช่คนเดียวกัน ? จิตใจของหยางไค่แปรเปลี่ยนเป็นความตั้งใจในทันที ในมือของเขายังคงกวาดทำความสะอาดพื้นดาดฟ้าอย่างไม่หยุด เขาจงเจาะกวาดไปยังทางด้านโน่นเพื่อสังเกตุการณ์สิ่งที่เกิดขึ้น

ด้านข้างของเรือที่อยู่บริเวณอีกฝั่ง มีหญิงสาวคนนี้ที่มีหน้างดงาม ใบหน้าของหน้ากำลังหันปะทะกับสายลมทะเลที่่พัดโชยเข้ามา นางสวมใส่เสื้อกระโปรงยาวสีคราม เมื่อสายลมพัดเข้ามา กระโปรงยาวของนางแนบติดกับร่างกายของนาง เผยให้เห็นเรือนราวที่งดงามอรชนของนาง อายุของนางประมาณ 15 ปี ทรวงอกชูชัน เอวบางที่น่าหลงไหล ขาที่เรียวยาว ผิวของนางไม่ดำคล้ำแต่ขาวเนียนเสมือนหยกที่บริสุทธุ์

แต่ว่า สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโส

ด้านข้างของนาง คือชายวัยกลาง ซึ่งก็คือผู้อาวุโสยู่ซิวผิงแห่งสำนักหยุนเซี่ย !!

ที่แท้หยิงสาวคนนี้ก็คือบุตรสาวของนางยู่เอ้าชิง!!

ชื่อยู่เอ้าชิงนี้ เขาได้ยินมาหลายครั้ง ศิษย์สาวกชายจำนวนมากต่างกล่าวถึงนางอยู่เสมอ นางอยู่ในตำแหน่งเดียวกับซู่เหยียน ศิษย์สาวกชายจำนวนมากมายต่างชื่นชมหลงไหลและเคารพนางอย่างยิ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด