ตอนที่ 178 ความตายอย่างเด็ดขาด
ตอนที่ 178 ความตายอย่างเด็ดขาด
เมื่อได้ยินคำกล่าวถามของหยางไค่ ฮู่หญิงยิ้มด้วยความน่าสมเพช : ข้าไม่อยากรู้เลยว่าทำไมเมียวฮวาเฉินจึงทำเช่นนี้กับพวกเรา แต่เมื่อกล่าวถามอย่างละเอียด ข้าจึงทราบว่า เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากสิ่งของชิ้นหนึ่งที่นายท่านและเมียวฮวาเฉินต่างได้ครอบครองมัน
มันคืออะไร ?
มันคือกระดองเต่า !! นายหญิงกล่าวตอบ : หลายปีก่อนในขณะที่นายท่านและเมียวฮวาเฉินกำลังล่องเรืออยู่ในทะเล พวกเขาพบเจอกับกระดองเต่าที่ลึกลับ บนกระดองเต่ามีการแกะสลักรูปของเกาะแห่งนี้ มันน่าจะมีอายุที่เก่าแก่ ในเวลานั้นพวกเขาทั้งสองเสาะหาเกาะต่างๆที่อยู่ใกล้เคียง แต่ไร้ซึ่งเกาะที่มีรูปร่างคล้ายเกาะที่อยู่บนกระดองเต่า พวกเขาทั้งสองจึงคิดว่าเกาะที่อยู่บนกระดองเต่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันเป็นเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ พวกเขาจึงแบ่งกระดองเต่าออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งพวกเขาต่างได้รับกระดองเต่าคนละครึ่ง
ในตอนนี้ฮู่หญิงจึงหายใจด้วยความผ่อนคลาย นางรีบกล่าวต่อ : หลังจากนั้น นายท่านจึงเดินทางไปยังเมืองทงจิ่ว เพื่อทำการค้าต่างๆ เมียวฮวาเฉินยืนยันที่จะอาศัยอยู่ในเมืองไห่เฉิน หลายปีที่ผ่านมาเขาคงค้นหาเบาะแสะข้อมูลความลึกลับของกระดองเต่า จนมาถึงปีนี้ ในที่สุดเขาก็ได้รับเบาะแสะบางอย่าง แต่เขาไม่ยินยอมที่จะแบ่งปันให้แก่นายท่่าน ดังนั้นเขาจึงวางแผนและซื้อคนของนายท่านเพื่อฆ่านายท่าน จากนั้นจึงส่งสารให้ข้าและบุตรีของข้ามายังเมืองไห่เฉิน ข้าเองก็เคยพบกระดองเต่าที่เหลือเพียงครึ่งของนางท่าน ข้ารู้ดีว่ามันล้ำค่าอย่างยิ่ง ดังนั้นระหว่างที่ผ่านมา ข้าจึงพกมันติดตัวตลอดเวลา
จอมยุทธุ์ยังจำเรื่องราวที่จางติงทรยศและต้องการฆ่าพวกเราได้ไหม ?
เป็นคำสั่งของเมียวฮวาเฉินเช่นกัน ? หยางไค่หรี่ตา
ใช่ !! นายหญิงพยักหน้า : เมียวฮวาเฉินเป็นมิตรสหายที่สนิทสนมกับนายท่าน เขาคงไม่อยากลงมือด้วยตนเอง ดังนั้นเขาจึงสั่งการให้จางติงเป็นคนจัดการ ในค่ำคืนนั้นหากไม่ได้จอมยุทธุ์หนุ่มช่วยเหลือ ข้า ฮวนเอ่อ ฉุ่ยเอ่อคงตายตามนายท่านไปอย่างแน่นอน
มิตรสหายที่ดีอย่างยิ่ง !! หยางไค่หัวเราะด้วยความเหน็บแนม ก่อนจะกล่าวถามต่อ : พวกท่านทั้งสามไม่ใช่คนธรรมดาสามัญทั่วไป เมื่อพวกท่านเข้าไปยังจวนแห่งตระกูลเมียว หากเมียวฮวาเฉินต้องการทำอะไรพวกท่่าน เขาต้องทำอย่างมิดชิด แต่ทำไมเขาถึงปฏิบัติพวกท่านด้วยความโหดเหี้ยมเช่นนี้ ?
ฮู่หญิงยิ้มอย่างขมขื่น ในตอนแรกข้าเองก็ไม่เข้าใจ แต่หลังจากที่คิดทบทวน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะจอมยุทธุ์หนุ่ม
ข้า?
อืม นายหญิงพยักหน้า : ในวันนั้นที่เมียวฮวาเฉินมารับพวกเรา ข้าเคยกล่าวตามความต้องการของจอมยุทธุ์ ในระหว่างทางที่ยอดฝีมือช่วยเหลือ ฆ่าจางติงที่โหดเหี้ยม ดังนั้นพวกเราจึงไม่ได้รับอันตราย เมียวฮวาเฉินเป็นคนที่ระมัดระวัง ในตอนแรกเขาปฏิบัติต่อพวกเราอย่างดี เพราะกลัวว่ายอดฝีมืออาจจะซุกซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าลงมือ จนกระทั่งวันที่ข้าตัดสินใจจะออกจากจวนของเขา เขาจึงเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริง
หยางไค่พยักหน้าอย่างช้าๆ มันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก ?
หลังจากนั้น ..ฝันร้ายเริ่มต้นขึ้น นายหญิงร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว แต่นางยังคงกล่าวต่อ : เพื่อปกป้องชีวิต ข้าได้มอบกระดองเต่าให่แก่เขา แต่ไม่คิดว่าเมียวฮวาเฉินจะไม่ปล่อยพวกเรา
ในขณะที่นางกล่าว ร่างกายของนางสั่นสะท้าน สองมือกำไว้แน่น จนเล็บของนางกลายเป็นสีขาวซีด
ในค่ำคืนนั้น เมียวฮวาเฉินสั่งคนให้นำตัวฮวนเอ่อออกไป เขาบอกว่าเขาจะจัดงานแต่งงานให้เสร็จสิ้น แต่ฮวนเอ่อไม่ยินยอม ฉุ่ยเอ่อคอยช่วยเหลือฮวนเอ่อ แต่ไม่คิดว่าเมียวฮวาเฉินจะใจไม้ไส้ระกำโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ เขาสั่งการให้คนของเขาทุบตีฉุ่ยเอ่อจนตาย
ร่างกายของหยางไค่แข็งทื่อในทันที
นายหญิงร้องไห้อย่างไม่หยุด และกล่าวต่อ : วันที่ 2 เมียวฮวาเฉินส่งคนมากล่าวบอกแก่ข้าว่าฮวนเอ่อไม่ยอมรับความอัปยศที่เกิดขึ้น นางจึงกัดลิ้นตนเองจนตาย !!
ร่างกายของหยางไค่เต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ความเศร้าโศกก่อเกิดขึ้นในจิตใจด้วยมิอาจควบคุมได้
หญิงรับใช้ถูกทุบตีจนตายคุณหนูที่งดงามก็ได้กัดลิ้นตัวเองจนตาย
สองเดือนก่อน เขาและพวกนางยังนั่งรถม้าคันเดียวกัน แต่สองเดือนให้หลัง พวกเขาต่างแยกจากกันโดยมิอาจที่จะพบกันอีก
เมียวฮวาเฉินยังต้องการล่วงเกินข้า เสียงของฮู่หญิงสะอื้นอย่างไม่หยุด แต่นางยังคงกล่าวต่อ : แต่จากการตายของฉุ่ยเอ่อและฮวนเอ่อทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรที่มากไปกว่านี้ เขาจึงขังข้าเอาไว้ หลังวันผ่านไป เขาไม่สามารถที่จะลงมือกับข้า จากความอับอายของเขากลายเป็นความเกรี้ยวโกรธ เขาจึงขายข้าให้แก่หอเชียนจิงที่เต็มไปด้วยสิ่งมึนเมา
ไม่ต้องกล่าวถาม หยางไค่ก็ทราบดีว่ามันคือหอนางโลมนั้นเอง
พวกเขาทุบตีข้า บังคับให้ข้าทำงานให้แก่พวกเขา แต่ข้าไม่ยอม พวกเขาจึงใช้มีดกรีดใบหน้าของข้า ฮึฮึ รูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์ของข้า คงไม่มีชายหนุ่มคนไหนอยากเข้าใกล้ นายหญิงหัวเราะด้วยความเจ็บปวด : หลังจากนั้น ข้าจึงถูกขายให้แก่สำนักหยุนเซี่ย
ข้าสมควรตายตามนายท่านไป ฮวนเอ่อและฉุ่ยเอ่อตายไปแล้ว ข้าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ? แต่ข้าจะตายไม่ได้ เมื่อข้าตายไป ความไม่ยุติธรรมที่พวกนางได้รับจะไม่มีใครล่วงรู้ ดังนั้นข้าจึงต้องมีชีวิตต่อไป ข้าเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอ แต่ข้าต้องทวงคืนความยุติธรรมให้พวกนาง ข้าต้องแก้แค้นให้แก่พวกนาง !!
จิตใจของหยางไค่รู้สึกโกรธแค้นเช่นเดียวกัน แต่เขาถอนหายใจอย่างสงบนิ่งและกล่าวปลอบโยน : ฮู่หญิง ท่านเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในใต้หล้า และเป็นมารดาที่มีความอดทนมากที่สุด
ในบางครั้ง ความตายเป็นเรื่องง่ายแต่การมีชีวิตเป็นเรื่องที่ยากแสนเข็ญ
จอมยุทธุ์ เจ้าช่วยข้าอีกสักครั้งได้ไหม ? นายหญิงเงยหน้าด้วยน้ำตา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวังและอ้อนวอนต่อหยางไค่
บนยอดเขา เสียงสายลมพัดผ่าน สีหน้าของหยางไค่ยังคงราบเฉย
ข้าอ่อนแอเกินไป !! หยางไค่ถอนหายใจ
สีหน้าของฮู่หญิงมืดมนในทันที
แต่ ข้าจะเติบโตเป็นผู้แข็งแกร่ง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปี หรืออาจจะยาวนานมากกว่านี้ แต่ตระกูลเมียวแห่งเมืองไห่เฉิน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องไปเยี่ยมเยียนพวกเขาอย่างแน่นอน
หยางไค่ไมได้ทำตามคำขอของฮู่หญิง แต่เขาทำไปเพราะอาหารและของอร่อยที่ฉุ่ยเอ่อแบ่งปันให้แก่เขา
สีหน้าของฮู่หญิงอึ้งไปชั่วขณะ แต่มันยังคงเต็มไปด้วยความดีใจ นางคุกเขาลงพื้นและโค้งคำนับให้แก่หยางไค่ : ขอบคุณท่านจอมยุทธุ์อย่างยิ่ง !!
ผ่านไปเป็นเวลานาน นางจึงค่อยๆลุกขึ้นและกล่าว : อีกเรื่องที่ข้าอยากให้จอมยุทธุ์ทราบ เรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นการสั่งการของเมียวฮวาเฉิน แต่เบื้องหลังของเมียวฮวาเฉินคือสำนักหยุนเซี่ยที่คอยสั่งการ
อืม? หยางไค่ขมวดคิ้ว
บุตรชายของเมียวฮวาเฉินเป็นศิษย์แห่งสำนักหยุนเซี่ยว แต่ฐานะของเขาไม่ได้อยู่ในระดับสูง การที่เมียวฮวาเฉฺนหาหนทางร้อยแปดพันเก้าเพื่อแย่งชิงกระดองเต่าที่สมบูรณ์ เพราะต้องการมอบให้แก่สำนักหยุนเซี่ย เพื่อให้บุตรชายของตนเองมีอำนาจในสำนักหยุนเซี่ย นอกจากนั้น เหตุผลที่เมียวฮวาเฉินทรยศต่อคำหมั้นสัญญานของนายท่าน และกระทำต่อตระกูลของข้าเช่นนี้ เพราะเขาต้องการมีอำนาจชื่อเสียงในสำนักหยุนเซี่ย แต่ไร้ซึ่งหนทาง กระดองที่แกะสลักรูปของเกาะลึกลับจึงเป็นหนทางเดียวและความหวังเดียวของเขา
สำนักหยุนเซี่ย !! ข้าทราบแล้ว หยางไค่พยักหน้าเบาๆ
จอมยุทธุ์ !! ฮู่หญิงเม้มปากของนางเบาๆ นางก้มหน้าลงต่ำ และกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทา : แม้ว่าท่านจะเป็นคนที่มีจิตใจที่เมตตา ยินดีที่จะทวงคืนความยุติธรรมและแก้แค้นให้แก่ตระกูลของข้าเพราะความอ่อนโยนและความมีเมตตาของฉุ่ยเอ่อ แต่ตระกูลเจียง .ไร้ซึ่งสิ่งที่จะตอบแทนบุญคุณของท่าน
ไม่ต้องใส่ใจ
จอมยุทธุ์โปรดฟังข้าก่อน ฮู่หญิงรั้งหยางไค่เอาไว้
หยางไค่พยักหน้า
ที่จริง หลังจากที่นายท่านได้รับครึ่งหนึ่งของกระดองเต่า หลายปีที่ผ่านมานายท่านค้นหาและศึกษามันมาตลอด เมียวฮวาเฉินได้รับเบาะแสข้อมูลของกระดองเต่า นายท่านก็ได้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกระดองเต่าเช่นเดียวกัน จากข้อสรุปของนายท่าน เมื่อกระดองเต่าทั้งสองชิ้นรวมเป็นหนึ่ง มันคือแผนที่การเดินทางไปยังเกาะที่ลึกลับแห่งนั้น นอกจากนั้นเขายังได้รับแผนอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางภายในเกาะลึกลับแห่งนั้น
โอ้ว ? หยางไค่ตื่นตะลึง : แล้วแผนที่อยู่ที่ไหน ?
อยู่ .ในร่างกายของข้า นายหญิงกล่าวตอบด้วยสุ้มเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติ
ทันใดนั้นหยางไค่เกิดความสงสัยในทันที ฮู่หญิงเป็นเพียงหญิงสาวที่อ่อนแอ นางจะสามารถรักษาแผนที่ที่มีค่าเช่นนั้นได้อย่างไร ? เมียวฮวาเฉินจะไม่ค้นหาสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวนางได้อย่างไร ?
หลังจากที่เงียบเป็นเวลานาน ฮู่หญิงจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด : จอมยุทธ์ผู้มีบุญคุณ ตระกูลเจียงของเราจะตอบแทนท่านด้วนแผนที่ในการเดินทางไปยังเกาะลึกลับ
หลังจากที่กล่าวจบ นางยื่นมือถลกกางเกงของนางขึ้น ทันใดนั้นเสียงฉีกขาดของกางเกงดังขึ้น เผยให้เห็นต้นขาที่ยาวเรียวอวบอิ่มและขาวเนียน
แผนที่ ถูกแกะสลักอยู่ในร่างกายของเขา นายหญิงก้มศีรษะลงต่ำ ร่างกายของนางสั่นสะท้านอย่างไม่หยุด แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจทำเช่นนี้ เป็นความกล้าหาญที่เด็ดขาวของนางอย่างถึงที่สุด
ใบหน้าของหยางไค่แดงก่ำเล็กน้อย เขาไม่กล้าที่จะจ้องมอง เขากลืนน้ำลายตัวเองไปหลายครั้ง หลายวันที่ผ่านมาความแข็งแกร่งของหยางไค่มีความก้าวหน้าเฉกเช่นเขตแดนที่สูงขึ้น ทำให้เคล็ดวิชาหยินหยางเป็นรวมเป็นหนึ่งส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่ลึกซึ้งของตนเอง ในหัวสมองของเขาจึงประกายถึงใบหน้าของซู่เหยียนหลายครั้ง หากไม่มีความอดทนเพียงพอ เขาไม่สามารถที่จะอดทนและก้าวผ่านความรู้สึกนี้ไปได้
การกระทำของฮู่หญิงในตอนนี้ ทำให้ความอดทนของหยางไค่เริ่มจะพังทะลาย
ฮู่หญิง หยางไค่ขมวดคิ้วไว้แน่น ?
จอมยุทธุ์ . ใบหน้าของฮู่หญิงแดงก่ำเช่นเดียวกัน : สิ่งนี้คือสิ่งที่นายท่านพยายามปกป้องมาตลอดชีวิต ข้าไม่ต้องการให้มันถูกกลบฝังจนหายไป และไม่อยากให้มันตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู ถือเป็นสิ่งที่ตอบแทนบุญคุณจากข้า ข้ามอบให้แก่ท่าน จอมยุทธ์ได้โปรดรับไว้ด้วย
หยางไค่ถอนหายใจ เขารู้ดีว่าหากว่าตนเองยังคงปฏิเสธ จิตใจของนางคงไม่มีวันสงบสุข หยางไค่จึงกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา : โปรดอภัยด้วย
หยางไค่ทรุดตัวลง เขาจ้องเขม่งไปยังต้นขาของนาง มันเป็นภาพของเทือกเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันเป็นรูปร่างของเกาะแห่งหนึ่ง นอกจากนั้นบริเวณต่างของมันยังทำเครื่องหมายที่พิเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันเป็นเส้นทางในการเดินทาง ที่มีการโค้งไปมาหรือเดินตรงไป
แผนที่บนต้นขานี้ น่าจะแกะสลักจากเข็มที่ใช้ในการเย็บปักถักร้อยของนาง ซึ่งมันได้ปักจนเต็มต้นขาของฮู่หญิง จากเข่าไปยังต้นขาบนสุด แม้จะไม่สามารถมองเห็นต้นทางของแผนที่ทั้งหมด แต่มันก็ทำให้หยางไค่เข้าใจในระดับหนึ่ง
หยางไค่ไม่เข้าใจว่า หญิงสาวสามัญคนหนึ่ง ทำไมถึงมีความกล้าและความอดทนเช่นนี้ ต้นขาของนางถูกทิ่มแทงจากเข็มที่ใช้ในการเย็บปักจนกลายเป็นรูปแผนที่ขนาดใหญ่ การกระทำเช่นนี้จะต้องทนต่อความเจ็บปวดที่มากเพียงใด แล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหนจนมันสำเร็จออกมาเป็นรูปภาพแผนที่เช่นนี้ ?
สีหน้าของหยางไค่นิ่งสงบ ดวงตาของเขาจ้องมองรูปแผนที่นั่นอย่างตั้งใจ โดยไม่มีการแสดงออกถึงอารมณ์ที่ครุกกรุ่นของชายหนุ่ม
ร่างกายของฮู่หญิงสั่นสะท้านอย่างแผ่วเบา นางหลับตาไว้แน่น น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่หยุด
หลังจากนั้นไม่นาน หยางไค่จึงจดจำรายละเอียดทุกสิ่งไว้ในจิตใต้สำนึกของเขา ก่อนจะยื่นมือจัดแจงกางเกงที่ฉีกขาดของให้เรียบร้อย
จอมยุทธุ์ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง !! ฮู่หญิงค่อยนั่งลงด้วยความผ่อนปรนทุกสิ่งทุกอย่าง
เมื่อนางกล่าวคำนี้ออกมา เสมือนว่านางสามารถปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในจิตใจของนาง ในสุ้มเสียงของนาง หยางไค่สัมผัสได้ถึงความคิดที่ต้องการความตายที่เด็ดขาดโดย ราวกับนางไม่อยากมีชีวิตในโลกนี้ต่อไป
จิตใจของนางตายไปตั้งแต่แรก ความปราถนาเดียวในการการมีชีวิตคือการแก้แค้น ในเมื่อวันนี้ความปราถนานของนางเป็นจริง นางจึงไม่มีสิ่งใดต้องห่วงอีก
หยางไค่จ้องมองนางอย่างยาวนาน โดยไม่กล่าวสิ่งใด
หนึ่งวันผ่านไป หยางไค่เดินทางลงจากยอดเขา ด้านหลังของเขายังแบกกระเช้ายาวของฮู่หญิง ซึ่งภายในกระเช้ายามีมีผลไม้เฮยซ๋วนที่นางเก็บมา เขาค่อยๆเดินทางไปยังชายทะเล โดยสีหน้าที่เศร้าโศก
บนยอดเขา ฮู่หญิงนั่งอยู่ที่เดิม น้ำตาของนางไหลรวยรินออกมาจากดวงตาของนางตลอดเวลา นางจ้องมองท้องทะเลที่กว้างไกล โดยไม่ขยับเขยื้อน
หยางไค่ไม่ได้พานางกลับไป เพราะการมีชีวิตของนาง ทำให้นางทรมาณยิ่งกว่าความตายเสียอีก
นางต้องการปลดเปลื้องจากความทุกข์ทรมาณนี้
หลายชั่วยามผ่านไป หยางไค่มาถึงชายทะเล เขารอเป็นเวลานาน เรือกลไฟขนาดใหญ่ของสำนักหยุนเซี่ยจึงค่อยๆลอยล่องมา
มีคนจำนวนไม่น้อยที่รอเรือกลไฟพร้อมกับหยางไค่ เมื่อมองเห็นการกลับมาของเรือกลไฟ พวกเขาต่างตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ
ด้านข้างของเรือกลไฟ ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยยืนขวางอยู่บนทางเดินเข้าสู่เรือกลไฟ พวกเขาต่างตรวจสอบสิ่งที่ทุกคนเก็บเกี่ยวมาให้แก่พวกเขา คนที่เสร็จสิ้นภารกิจในการเก็บผลไม้เฮยซ๋วนทั้งหมด 3 จินต่างถูกปล่อยให้ขึ้นเรือ หากทำภารกิจไม่เสำเร็จ ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยจะดึงกระเช้าออกจากหลังของพวกเขา และโยนพวกเขาลงสู่ทะเล เพื่อเป็นอาหารของสัตว์อสูร
ในกลุ่มจำนวน 10 คน จะมีผู้คนประมาณ 3-4 คนที่ทำภารกิจของตนเองไม่สำเร็จ พวกเขาต่างขอร้องอ้อนวาอนด้วยเสียงที่น่าเวทนา ก่อนจะกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรต่อไป
หยางไค่รวมตัวอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ โดยไม่มีใครสงสัยในตัวเขา เพราะคนที่เก็บเกี่ยวผลไม้เฮยซ๋วนล้วนเป็นคนธรรมดาสามัญทั่วไป ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยคนใดจะจดจำคนธรรมดาสามัญทั่วไปเอาไว้ล่ะ ?
ครึ่งชั่วยามผ่านไป เรือกลไฟจึงเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง มันลอยล่องอยู่บนทะเลและเคลื่อนอ้อมไปยังเกาะหยุนเซี่ยครึ่งซีกซ้าย ก่อนจะปล่อยคนธรรมาดาสามัญเหล่านี้ลงจากรเรือ และส่งพวกเขาไปยังที่พำพักของพวกเขา