ตอนที่แล้วตอนที่ 174 ผลไม้เฮยซ๋วน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 176 ความอับอายของมารปฐพี

ตอนที่ 175 พวกเดียวกัน


ตอนที่ 175 พวกเดียวกัน

ดวงตาของหยางไค่จ้องเขม่งไปยังทิศทางของผลไม้เฮยซ๋วน ท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหวก้าวออกไป

เขาวิ่งไปถึงตำแหน่งของผลไม้เฮยซ๋วนก่อนคนธรรมดาสามัญคนนั้น และใช้มือเด็ดมันลงมาอย่างรวดเร็ว

จาการคาดคะแนนน้ำหนักของผลไม้เฮยซ๋วน ใน 1 พวงมันจะมีน้ำหนักประมาณครึ่งจิน นั้นหมายความว่า พวกเขาเพียงแค่ค้นหาและเด็ดผลไม้เฮยซ๋วนเพียง 6 พวง หน้าที่ที่พวกเขาได้รับมอบหมายก็จะสำเร็จไปโดยปริยาย

คนธรรมดาสามัญคนนั้นพุ่งเข้ามา เมื่อเขามองเห็นการปรากฏตัวของหยางไค่อย่างฉับพลัน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

เขาจ้องมองหยางไค่ด้วยสยตาที่ดุดันและกล่าวคำรามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำทุ้ม : เจ้าเด็กน้อย เอาผลไม้เฮยซ๋วนมาให้ข้า !!

หยางไค่ขมวดคิ้วไว้แน่น และถอนหายใจด้วยความหดหู่ใจ

เดิมทีคนผู้นี้เป็นคนยากจนที่มีจิตใจดี แต่หลังจากที่เขาเข้าสู่เกาะแห่งนี้ ร่างกายของเขาได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายแห่งปีศาจ กลิ่นอายแห่งปีศาจได้กลืนกินนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเขาไป กากระทำที่เขาแสดงออกในตอนนี้ มีเพียงแต่ความโหดเหี้ยมและบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขาจะฆ่าหยางไค่หากหยางไค่ไม่ส่งผลไม้เฮยซ๋วนให้แก่เขา

ข้าสามารถให้ผลไม้แก่เจ้าได้ หากไม่ใช่เพราะหยางไค่ต้องการสอบถามบางสิ่งบางอย่างในสถานที่แห่งนี้ เขาคงไม่ฉกฉวยผลไม้เฮยซ๋วนที่ลึกลับกับเขา

เอามาให้ข้าเร็ว !! คนผู้นั้นก้มศีรษะลงต่ำ และจ้องมองหยางไค่ด้วยท่าทางที่ชั่วร้าย

ตอบคำถามข้าก่อน สำนักหยุนเซี่ยจะนำผลไม้ลึกลับนี้ไปทำอะไร ? หยางไค่กล่าวถาม เพราะจากการประเมินของเขาคนผู้นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เข้ามายังเกาะแห่งนี้ เขาต้องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับผลไม้เฮยซ๋วนนี้อย่างแน่นอน

อย่าพูดมาก เอาผลไม้เฮยซ๋วนมาก่อนแล้วข้าจะบอกเจ้าเอง

หยางไค่หัวเราะ และยื่นผลไม้เฮยซ๋วนที่อยู่ในมือให้แก่เขา

เมื่อคนผู้นั้นได้รับผลไม้เฮยซ๋วน ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดีใจ ก่อนจะนำไปวางไว้ที่กระเช้ายาที่อยู่ด้านหลัง เขาจ้องมองหยางไค่อย่างละเอียด ความดุร้ายในสายตาค่อยๆจางหายไป เขาลังเลอยู่สักครู๋จึงกล่าวตอบ : ข้ารู้ไม่มาก แต่ข้าเคยได้ยินพวกเขากล่าวว่าต้องการผลไม้นี้เพื่อนำมันไปเป็นอาหารของปลา

ให้อาหารปลา?

อืม ปลาชนิดหนึ่งที่มีความวิเศษมากกว่าปลาชนิดอื่นๆ แต่ข้าไม่ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของมัน

หลังจากที่กล่าวจบ ชายคนนี้ใช้สายตาที่มีเจตนาที่ชั่วร้ายจ้องมองหยางไค่และกล่าว : รูปร่างของเจ้าค่อนข้างซูบผอม ออกเดินทางไปกับข้าดีไหม ? สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายที่มากมาย

คนผู้นี้กำลังดึงตนเองให้เข้าร่วมสมทบกับเขา? หยางไค่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม เขารู้ดีหากว่าเขาเดินทางไปพร้อมกับคนผู้นี้ เมื่อค้นพบผลไม้เฮยซ๋วนไม่ว่าอย่างไรเขาต้องมอบผลไม้เฮยซ๋วนให้แก่เขาเพื่อตอบสนองความต้องการของเขาก่อน

ไม่รับน้ำใจของข้าก็แล้วไป !! คนผู้นั้นไม่ได้บีบบังคับหยางไค่ให้ไปกัยเขา ยังถือว่าโชคดีที่ทจิตใจของเขาไม่ถูกกลืนกินไปทั้งหมด เขาสบทด้วยเสียงที่ต่ำทุ้มและเดินจากไป

หยางไค่เดินเข้าไปในเกาะครึ่งซีกขวาเพียงคนเดียว ยิ่งเดินมันก็ยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆ

หยางไค่เข้ามายังเกาะครึ่งซีกขวาเป็นเวลากว่า 1 วัน ระหว่างทางเขาพบผลไม้เฮยซ๋วนเป็นจำนวนมาก แต่หยางไค่ไม่ต้องการที่จะช่วยเหลือสำนักหยุนเซี่ยในการทำหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมาย ดังนั้นเขาจึงไม่เก็บเกี่ยวผลไม้เฮยซ๋วนเหล่านี้

สำนักหยุนเซี่ยกำหนดเส้นตายให้พวกเขาเป็นเวลา 3 วัน มันคงเป็นขีดจำกัดที่คนธรรมดาสามัญเหล่านั้นจะสามารถทนต่อกลิ่นอายแห่งปีศาจ แต่หยางไค่ได้รับการช่วยเหลือจากมารปฐพี เขาจึงไม่ต้องกังวลวกลิ่นอายแห่งปีศาจจะแทรกแซงเข้าสู่ร่างกายของเขา

เพราะมารปฐพีต้องการกลิ่นอายแห่งปีศาจในการฟื้นฟูพลังกำลังและความแข็งแกร่งของตนเอง เขาจึงดูดกลืนกลิ่นอายแห่งปีศาจที่เข้าสู่ร่างกายของหยางไค่โดยไม่ปล่อยให้มันเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อย

หยางไต่ตัดสินใจที่จะสำรวจเกาะครึ่งซีกขวานี้ก่อน เขาต้องการค้นหาความลึกลัฐที่ซ่อนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ หลังจากนั้นจึงหาทางหนีออกจากเกาะหยุนเซี่ย

เกาะครึ่งซีกขวาแห่งนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ มีเทือกเขาหลายลูกที่ไม่สูงมาก แต่มันมีความสูงชันอย่างยิ่ง คนธรรมาดสามัญไม่มีทางที่จะปีนขึ้นไปได้

จุดหมายปลายทางของหยางไค่คือยอดเขาเหล่านี้ เขาเชื่อว่าสถานที่แห่งนั้นต้องมีสมบัติแห่งฟ้าสวรรค์ที่เขาต้องพบเจออย่างแน่นอน

ในขณะที่กำลังเดินไปเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นหยางไค่หยุดฝีเท้าของตนเองอย่างกะทันหัน เพราะเขาได้กลิ่นสมุนไพรที่หอมหวานที่บริสุทธิ์ เมื่อกลิ่นหอมนี้โชยเข้าสู่จมูก มันจะให้ความรู้สึกที่ชุ่มช่ำจิตใจและอารมณ์สบายอย่างนิ่งสงบในทันที

เมื่อเสาะหาแหล่งกำเนิดของกลิ่นสมุนไพรที่หอมหวานนี้ได้ หยางไค่ค่อยๆเดินไปทางด้านขวา เขาพบเจอกับต้นหญ้าบุพผาต้นหนึ่งที่มีความสูงประมาณครึ่งหนึ่งของคนปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา

ด้านบนสุดของมันมีบุพผาสีชมพูถือกำเนิด มันบานสะพรั่งต้อนรับผู้มาเยือน โชยกลิ่นหอมที่น่าหลงใหลออกมา เมื่อจ้องมองย่างละเอียดถี่ถ้วน บุพผาสีชมพูนี้มีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับใบหน้าของหญิงสาวที่งดงาม มันกำลังจ้องมองตนเองและยิ้มให้ตนเองอย่างอ่อนหวาน

นอกจากนั้นก้านของบุพผาสีชมพูยังถือกำเนิดอย่างน่าประหลาด เพราะมันอ้อนแอ้นคล้ายคลึงกับเอวบางของหญิงสาว ด้านหน้าอวบอิ่ม ด้านหลังน่าสัมผัส มันงดงามละเอียดอ่อนอย่างประณีต ทำให้ผู้ทีพบเห็นครุ่นคิดไปเองอย่างล่องลอย

ต้นบุพผาหญิงงาม!! ดวงตาของหยางไค่ประกายด้วยความสว่าง เขาไม่คิดว่าเขาจะได้รับสิ่งของที่ล้ำค่าหลังจากที่เข้ามาได้เพียง 1 วัน จากตำราเล็มเล็กที่ศิษย์แห่งสำนักหยุนเซี่ยมอบให้แก่เขา บุพผาต้นนี้คือต้นบุพผาหญิงงามซึ่งเป็นโอสพวิเศษที่อยู่ในขั้นปฐพีระดับสูง หากสกัดมันเป็นโอสพวิเศษ และให้หญิงสาวกลืนกินมัน มันจะให้สรรพคุณที่น่าอัศจรรย์อย่างวิเศษ เพราะมันสามารถทำให้หญิงสาวอัปลักษณ์กลายเป็นหญิงงาม นอกจากนั้นมันยังสามารถทำให้ผิวของหญิงสาวมีความนุ่มนิ่มและขาวเนียนยิ่งขึ้น

หยางไค่ไม่ลังเลและไม่รีรอ เขายื่นมือไปเด็กบุพผาหญิงงามในทันที และใส่มันลงในกระเช้ายาที่อยู่ด้านหลังของเขา

จากนั้นเขาก็ยังคงสำรวจเกาะครึ่งซีกขวาอย่างไม่หยุด

สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือหยางไค่ได้ย่างกรายมาถึงบริเวณที่คนธรรมดาสามัญไม่เคยย่างกรายเข้ามา หลังจากที่พบเจอกับต้นบุพผาหญิงงามแล้ว หยางไค่มั่นใจว่าเขาต้องได้รับสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่าต้นบุพผาหญิงงามอย่างแน่นอน

เกาะครึ่งซีกขวาของสำนักหยุนเซี่ย เป็นขุมสมบัติแห่งหนึ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบ

ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยไม่กล้าเดินลึกเข้าไป พวกเขากลัวว่าจะถูกคุกคามจากกลิ่นอายแห่งปีศาจ คนธรรมดาสามัญไม่สามารถเดินเข้ามาได้ไกลเช่นนี้ ในตอนนี้มันจึงเป็นโอกาสอันหอมหวานสำหรับหยางไค่

หลังจากที่หยางไค่เดินทางข้ามยอดเขาไปเรื่อยๆ กระเช้ายาที่อยู่ด้านหลังของหยางไค่ เต็มไปด้วยต้นหญ้าสมุนไพรที่ล้ำค่าและผลไม้ที่มีจิตวิญญานจำนวนมากมาย

แม้ว่าเกาะครึ่งซีกขวาแห่งสำนักหยุนเซี่ยวจะมีบริเวณที่กว้างใหญ่ แต่จากการค้นหาของหยางไค่ดูเหมือนว่าเกาะแห่งนี้จะดูเล็กไปในพริบตา เวลาเพียงแค่ 3-5 วัน หยางไค่ก็ได้ค้นหาสิ่งต่างๆที่อยู่ในเกาะแห่งนี้ไปกว่าครึ่ง

กระเช้ายาที่อยู่ด้านหลังเต็มไปด้วยต้นหญ้าสมุนไพรที่อยู่ในขั้นปฐพีระดับต่ำ แลยังมีต้นหญ้าบุพผาต่างๆที่อยู่ในระดับฟ้าสวรรค์ หากนำสิ่งเหล่านี้ไปขาย เขาจะได้เงินนับล้านตำลึงในชั่วพริบตา

นอกจากนั้น สถานที่แห่งนี้ยังมีอันตรายที่ไม่มากเมื่อเทียบกับเทือกเขาวายุทะมึน เพราะในเทือกเขาวายุทะมึนเต็มไปด้วยสัตว์อสูร

หากคนที่มีความแข็งแกร่งในระดับต่ำเข้าไปยังเทือกเขาวายุทะมึน พวกเขาจะกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรในทันที

หยางไค่เดินทางอยู่ในเกาะแห่งนี้เป็นเวลาหลายวัน เขาพบเจอกับหมาป่าเพียง 2- 3 ตัวเท่านั้น

ในวันที่ 3 เรือกลไฟของสำนักหยุนเซี่ยกับมาอีกครั้ง หยางไค่ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งนึ่ง ซึ่งมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้อย่างชัดเจน แต่ว่าคนที่มีชีวิตรอดกลับไปมีเพียง 60-70 คน

ส่วนคนอื่นๆที่เหลือคงจะถูกกลิ่นอายแห่งปีศาจกลืนกินจิตใจและจิตใต้สำนึกของพวกเขา ทำให้พวกเขากลายเป็นคนวิกลจริตที่ไร้ซึ่งสติ ท้ายที่สุดพวกเขาจะตายอยู่ในเกาะแห่งนี้

วันที่ 4 หยางไค่ยืนอยู่บนเชิงเขาเล็กๆ และจ้องมองไปยังยอดเขาลูกหนึ่งที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 300 จ้าง

นี้เป็นยอดลูกสุดท้ายที่หยางไค่จะสำรวจ เมื่อสำรวจยอดเขานี้จนเสร็จสิ้น นั่นหมายความว่าหยางไค่ได้สำรวจเกาะแห่งนี้จนทั่ว

มารปฐพีที่นิ่งเงียบมาตลอดได้กล่าวตะโกนด้วยความรีบร้อน : นายน้อย ดูเหมือนว่ายอดเขาแห่งนั้นเป็นต้นกำเนิดกลิ่นอายแห่งปีศาจแห่งเกาะครึ่งซีกขวาแห่งนี้

เจ้าแน่ใจ? หยางไค่กล่าวถามด้วยความตื่นตระหนก เพราะเขาเองก็สัมผัสได้ว่า กลิ่นอายแห่งปีศาจนในบริเวฯนี้แข็งแกร่งและเข้มข้นกว่าบริเวณอื่นๆ

ข้าแน่ใจ !! จิตวิญญาณของข้ากำลังสั่นเทา ..

เจ้าหวาดกลัว ? หยางไค่กล่าวถามด้วยความสงสัย

มารปฐพีกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ : ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความตื่นเต้น !! นายน้อย หากว่าเจ้าหิวโหยเป็นเวลานาน แล้วมีอาหารที่เริดรสมาวางไว้ตรงหน้าของนายน้อย นายน้อยจะทำอะไรต่อไป ?

กลืนกินมันอย่างแน่นอน!

นายน้อยได้โปรดให้โอกาสนี้แก่ข้าด้วย !! ในขณะเดียวกัน หยางไค่ยังได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของมารปฐพีอย่างชัดเจน

หยางไค่ยิ้มจางๆ ก่อนจะปีนขึ้นไปยังยอดเขาที่สูงชัน

หยางไค่อย่างรู้อยากยิ่ง เป็นเพราะเหตุใดจึงทำให้เกาะครึ่งซีกขวาของสำนักหยุนเซี่ยมีความแตกต่างกันเช่นนี้

ในขณะที่ปีนป่ายขึ้นไป หยางไค่มองไปรอบๆด้วยความคาดหวังว่าจะพบเจอกับสมบัติที่วิเศษ แต่หลังจากที่เขาปีนขึ้นไปยังยอดเขา เขาไม่พบสิ่งอื่นใดแม้แต่น้อย มันทำให้เขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง

บนยอดเขา หยาไค่ยืนตรงอย่างมั่นคงและมองสำรวจไปรอบๆอย่างระมัดระวัง

ยอดเขาแห่งนี้ค่อนข้างแปลก มันเป็นยอดเขาที่ราบเรียบ เมื่อมองจากบริเวณที่ห่างไกลยอดเขาแห่งนี้จะประกายแสงสว่างที่สดใส เมื่อย่างกรายมาถึงที่นี้ มันทำให้เขารู้สึกถึงสิ่งต่างๆที่อยู่รอบข้างมากกว่าเดิม

ยอดเขาที่ราบเรียบไม่มีต้นหญ้าหรือต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว ดินในยอดเขาแห่งนี้มีสีแดงดั่งโลหิต อากาศที่อยู่ในบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวที่เหม็นสาบ

ผืนดินแห่งกลิ่นอายปีศาจ !!

หยางไค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ในกลางยอดเขาแห่งนี้

ก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนนี้ก็เป็นสีแดงโลหิตเช่นเดียวกัน ทันทีที่จ้องมองไป ยังสามารถมองเห็นกลิ่นอายแห่งโลหิตที่แพร่กระจายออกมา มันชัดเจนราวกับหมอกสีโลหิตที่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์

หยางไค่เดินเข้าไปด้วยความระมัดระวังอย่างช้าๆ เมื่อเขาเดินเข้าใกล้ก้อนหินสีโลหิต เขายังปลอดภัยโดยไม่ได้รับอันตรายจากก้อนหินสีโลหิตที่อยู่ตรงหน้า

เมื่อจ้องเขม่งอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง ก้อนหินขนาดใหญ่ที่เรียบราวกับกระจก มีหยดน้ำสีแดงเข้ม มันเข้มข้น และมีกลิ่นคาวที่เหม็นสาบ มันคือโลหิตสีแดงสด !!!

ลูกแก้วชีพจรโลหิตแดง !! มารปฐพีกล่าวด้วยความรู้สึกที่ชื่นชม สุ้มเสียงของเขาไมได้มีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ มันราบเฉยอย่างยิ่ง แต่มารปฐพีอยู่ใกล้ชิดกับหยางไค่เป็นเวลานาน เขาทราบดีว่ามารปฐพีมีสายตาที่เฉียบแหลม สิ่งที่ทำให้เขากล่าวออกมาด้วยความชื่นชม สำหรับตนเองแล้วมันต้องเป็นสมบัติวิเศษที่อยู่ในขั้นฟ้าสวรรค์อย่างแน่นอน

นายน้อย ในที่สุดข้าก็เข้าใจ มารปฐพีกล่าว : เพราะสถานที่แห่งนี้เคยมีปีศาจน้อยตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งปีศาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้

ปีศาจน้อย?

สถานที่แห่งนี้เขาควรจะมีพลังมาก ปีศาจเก่าพูดด้วยความพอใจด้วยตัวเอง

อ่อ เมื่อเทียบกับข้า เขาเป็นเพียงปีศาจน้อย แต่เมื่อเทียบกับความสามารถของผู้ฝึกยุทธุ์ในบริเวณนี้ เขาเป็นปีศาจที่แข็งแกร่ง มารปฐพีกล่าวดวยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมตนเอง

แข็งแกร่งมากแค่ไหน? หยางไค่กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ

เขาอยู่ในเขตแดนที่สูงกว่าเขตแดนเทพสวรรค์ !! !! มารปฐพีกล่ววอธิบายด้วยคำพูดที่หยางไค่จะสามารถเข้าใจ

หยางไค่ขยี้ศีรษะไปมา ในตอนนี้เขาอยู่ในเขตแดนลมปราณหมุนเวียน เขตแดนที่สูงกว่าคือเขตแดนผสานลมปราณ ลมปราณแท้จริง แล้วเขตแดนเทพสวรรค์

ปีศาจน้อยตนนี้ .ปีศาจน้อยมีความแข็งแกร่งที่เหนือนกว่าขตแดนเทพสวรรค์ แล้วในโลกนี้มีใครที่จะสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ ?เขาต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

เขาตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ !!

แม้ว่าร่างกายของปีศาจน้อยจะสลายไปแล้ว แต่กลิ่นอายแห่งปีศาจของเขายังคงรวมอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เกาะครึ่งซีกขวาแห่งนี้จึงแตกต่างจากเกาะหยุนเซี่ยในครึ่งซีกซ้ายและยังเต็มไปด้วยของวิเศษต่างๆ หากข้าสามารถดูดซึมกลิ่นอายแห่งปีศาจเพียงครึ่งหนึ่งของปีศาจน้อยตนนี้ ข้าจะสามารถฟื้นฟูพลังแห่งจิตวิญญานของข้าทั้งหมด แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนว่าปีศาจน้อยตนนี้ตายไปเป็นเวลานาน พลังของเขาสูญเสียไปอย่างมาก โอ้วสวรรค์ ทำไมไม่รอให้ข้ามาถึงดินแดนแห่งนี้แล้วค่อยตายล่ะ ? ปีศาจน้อยที่มารปฐพีกล่าวถึง ทำให้หางคิ้วของหยางไค่กระตุกไปมาอย่างไม่หยุด

แล้วลูกแก้วชีพจรโลหิตม่วงที่เจ้ากล่าวถึงมันคือสิ่งใด ? หยางไค่มองไปยังหยดโลหิตสีแดงที่อยู่ตรงหน้า

มันคือสิ่งที่ถือกำเนิดจากกายของปีศาจน้อย มันซ่อนเร้นพลังที่มากมายมหาศาล ข้าไร้ซึ่งกายที่เป็นมนุษย์ ไม่สามารถดูดซึมพลังของมันได้

นายน้อยหากว่านายน้อยดูดซึมมันเข้าไป มันจะยกระดับความแข็งแกร่งของนายน้อยเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ แต่ข้าไม่รู้ว่านายน้อยจะสามารถอดทนต่อคมันได้หรือไม่ เพราะคนทั่วไปไม่สามารถทนรับต่อพลังมากมายมหาศาลที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน

หลังจากที่หยางไค่ได้ยิน สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความลังเลและไม่แน่ใจ

สามารถยกระดับความแข็งแกร่งของข้า เป็นสิ่งที่ข้าต้องการ แต่หากเขาไม่สามารถทนต่ออำนาจพลังของลูกแก้วชีพจรโลหิตแดงล่ะ ?

เมื่อกล่าวคำถามนี้ออกมา มารปฐพีกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ : ธาตุไฟเข้าแทรก กลายเป็นมาร ! นายน้อย การเป็นมารก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย อยากทำสิ่งใดก็สามารถทำได้ในทันที เมือไม่พึงพอใจใครก็สามารถฆ่าเขาได้ในทันที ชอบหญิงสาวนางไหนก็สามารถจับตัวนางมาได้ หากเบื่อหน่ายนางก็สามารถทิ้งนางไปได้ ไม่ต้องคิดสิ่งใด มิอิสระ ทำตามความต้องการของตนเอง ช่างเป็นความสุขที่ยากจะหามาได้ !! นอกจากนั้น สิ่งใดที่เรียกว่ามนุษย์ แล้วสิ่งใดที่เรียกว่ามาร? ทำไมในโลกนี้ต้องแบ่งมนุษย์และมารออกเป็นสองฝ่าย มันคือความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ หากมนุษย์ไม่ไร้ซึ่งศีลธรรม แล้วมารจะถือกำเนิดจากใครล่ะ ? นายน้อยดูการกระทของสำนักหยุนเซี่ยสิ การกระทำที่ไร้ความปราณี ไร้ซึ่งศีลธรรม แต่ในสายตาของคนทั่วไปพวกเขาไม่ได้ถูกเรียกว่ามารที่ชั่วร้าย

มนุษย์และมารเป็นพวกเดียวกัน !! มารปฐพีกล่าวสรุปในที่สุด

จิตใจของหยางไค่สั่นไหว แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจ

ในขณะที่หยางไค่กำลังลังเล ด้านหลังของเขามีสายลมที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคาวพุ่งเข้ามา เสียงของมารปฐพีกล่าวตะโกน : นายน้อย ระวัง !!

หยางไค่ใช้ท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหวและเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ยืนอยู่อย่างรวดเร็ว

เสียงดังสนั่นดังมาจากตำแหน่งเดิมที่หยางไค่ยืนอยู่เมื่อสักครู่

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง หยางไค่รู้สึกว่าศีรษะของเขารู้สึกชา และไม่รู้ว่ามีงูสีโลหิตขนาดใหญ่ปรากฏตัวออกมาตอนไหน ร่างกายของมันหนากว่าเอวของตนเอง มีความยาวหลาย 10 จ้าง มันขดตัวลง ยกศีรษะขึ้นสูงและหันศีรษะมายังทิศทางตำแหน่งของหยางไค่

ดวงตาทั้งสองของมันแดงก่ำดั่งโลหิตที่เข้มข้น ปากขนาดใหญ่ของมันกำลังกลืนกินลูกแก้วชีพจนโลหิตแดง ทำให้ใบหน้าของมันมีความหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น

มารปฐพีกล่าวด้วยเสียงที่ประหลาด : งูยักษ์ตัวนี้ได้กลืนกินลูกแก้วชีพจรโลหิตแดงเข้าไป

ไม่ต้องให้มารปฐพีกล่าวบอก หยางไค่ก็มองเห็นอย่างชัดเจน ไม่น่าแปลกใจที่หินขนาดใหญ่จึงเหลือโลหิตแห่งลูกแก้วชีพจรโลหิตแดงเพียง 3 หยด เพราะมันถูกดูดกลืนจากงูยักษ์ตัวนี้

ออกมา !! หยางไค่สะบัดมือ มารปฐพีที่อยู่ในเข็มสลายวิญญานได้ปรากฏตัวออกมายังตรงหน้าของหยางไค่

หลังจากนั้น หยางไค่จับเข็มสลายวิญญาน โดยพุ่งเข็มสลายวิญญานไปยังงูยักษ์โดยที่มารปฐพีไม่สามารถตั้งรับกับการกระทของหยางไค่

นายน้อย .. มารปฐพีร้องด้วยเสียงที่โหยหวน อย่างน่าสมเพช แต่ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าตนเองไร้ซึ่งกายมนุษ์ จะหวาดกลัวงูยักษ์ตัวนี้ทำไม ? ทันใดนั้นมารปฐพีจึงเข้าใจจุดประสงค์ของหยางไค่ แม้ว่าจิตใจจะเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังชื่นชมหยางไค่ งูยักษ์ปรากฏตัวเพียงเสี้ยววินาที แต่หยางไค่คิดแผนการได้ในระยะเวลาสั้นๆ มันน่าตื่นตะลึงและน่าประทับใจอย่างยิ่ง

มารปฐพีค่อนข้างเชื่อง มันอ้าปากและกลืนกินเข็มสลายวิญญานเข้าไป มันไม่รู้สึกถึงรสชาติของสิ่งที่กลืนกิน มันรู้ในทันทีว่ามันถูกหยางไค่แสดงท่าทางที่หลอกลวง จนทำให้มันเกรี้ยวโกรธ มันชูศีรษะที่ใหญ่ยักษ์ของมัน และพุ่งเข้ามาหาหยางไค่ด้วยควาเร็วที่เสมือนสายฟ้า

ปากและขากรรไกรขนาดใหญ่ของมันเปิดอ้า ทำให้จิตใจของผู้ที่มองเห็นต่างหวาดกลัว นอกจากนั้นปากของมันยังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวที่เหม็นสาป และยังเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง

หยางไค่ปลดปล่อยลมปราณ เคลื่อนไหวด้วยท่าร่างของตนเอง และปรากฏตัวอยู่ที่ด้านล่างของงูยักษ์ พลังลมปราณหยางไหลเวียนไปยังหมัดของหยางไค่ ทันใดนั้นหยางไค่พุ่งหมัดออกไปและกล่าวตะโกนคำรามด้วยเสียงที่ดังสนั่น

หมัดเปลวเพลิงผลาญสุริยัน !!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด