ตอนที่ 174 ผลไม้เฮยซ๋วน
ตอนที่ 174 ผลไม้เฮยซ๋วน
หลายวันที่ผ่านมา หยางไค่ใช้ชีวิตอย่างอย่างราบเรียบ นอกจากการแอบไปข้างนอกในเวลากลางคืนเพื่อตรวจสอบสถานการร์บนเกาะหยุนเซี่ย
คนที่เฝ้าดูแลลานสวนแห่งนี้ เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณหมุนเวียน ไม่มีทางที่เขาจะพบร่องรอยการเคลื่อนไหวของหยางไค่
หลังจากสำรวจสถานการณ์ภายนอกอยู่หลายครั้ง หยางไค่พบว่าด้านนอกยังมีลานสวนขนาดใหญ่ที่คล้ายคลึงกับสถานที่พำพักอาศัยของเขา คนที่พักอาศัยอยู่ในนั้นล้วนเป็นคนที่ถูกจับกุมตัวเข้าทั้งนั้น
แต่ว่ากลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในลานสวนอื่นๆแตกต่างกันคนธรรมาดาสามัญทั่วไป ผิวของคนส่วนใหญ่ซีดขาวและเหี่ยวแห้ง แม้ว่าในทุกๆวันพวกเขาจะกินอาหารทะเลที่ล้ำค่า หรือยาสมุนไพรในการบำรุงรักษาร่างกาย มันก็ไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูพลังชีวิตของพวกเขา
มารปฐพีรู้สึกถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาดจากคนเหล่านี้ ในร่างกายของพวกเขาจะมีกลิ่นอายแห่งปีศาจไม่มากก็น้อย กลิ่นอายแห่งปีศาจไม่ได้มาจากการฝึกฝนวิชายุทธุ์ของพวกเขา แต่มันเป็นการสัมผัสกับกลิ่นอายแห่งปีศาจโดยไม่ตั้งใจ
กลิ่นอายแห่งปีศาจที่ชั่วร้ายกำลังกัดกร่อนพลังชีวิตของพวกเขา
เมื่อสืบทราบดังนี้ จิตใจของหยางไค่กำลังคาดเดาการกระทำของสำนักหยุนเซี่ยอย่างเงียบๆ แต่เขาไม่กล้าที่จะตัดสินใจว่าเป็นดั่งที่เขาคาดคิดไว้หรือไม่
หลังจากที่ถูกจับกุมจากสำนักหยุนเซี่ยกว่าครึ่งเดือน นอกจากการกินและการนอน หยางไค่และคนธรรมาดาสามัญเหล่านั้นมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นอีก 1 ประการ
นั่นคือกานั่งฟังและเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต่างๆที่ถูกสอนจากศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ย
ทุกคนจะได้รับตำราเล่มเล็กๆตำราเล็มเล็กมีรูปวาดของสมบัติแห่งฟ้าสวรรค์และสมุนไพรต่างและยังมีวิธีการเก็บเกี่ยวสมบัติวิเศษอย่างละเอียด
ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยจะสอนพวกเขาทุกวันเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วยาม หยางไค่ศึกษาอย่างจริงจัง
ความรู้ประเภทนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเวลาใดก็สามารถใช้มันได้ทุกที่ทุกเวลา
การสอนและเรียนรู้นี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลากว่าครึ่งเดือน
หยางไค่มาถึงสำนักหยุนเซี่ยเป็นเวลากว่า 1 เดือน ใน 1 เดือนนี้
หยางไค่แอบฝึกฝนวิชายุทธุ์ของเขา จนก้าวข้ามเขตแดนของตนเองไปอีก 1 ขั้น ซึ่งในตอนนี้เขาอยู่ในเขตแดนลมปราณหมุนเวียนขั้นที่ 2 เขาไมได้กินโอสพวิเศษ ไม่ได้ดูดซึมพลังหยาง ก็สามารถฝึกฝนจนสำเร็จได้โดยง่าย
สิ่งที่เกิดขึ้นพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าพลังแห่งฟ้าดินในเกาะหยุนเซี่ยแห่งนี้เข้นข้นและแข็งแกร่งมากเท่าใด
หากไม่พบเจอกับสถานการณ์ที่เป็นอันตราย หยางไค่มีความเต็มใจอย่างยิ่งที่จะฝึกฝนวายุทธุ์อยู่ที่เกาะหยุนเซี่ยแห่งน้ต่อไป
หนึ่งเดือนผ่านในวันรุ่งเช้าของวันหนึ่ง ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยที่รับผิดชอบในการดูแลพวกเขาได้เรียกให้พวกเขาทุกคนมารวมตัวกัน
เวลาแห่งการฆ่าเริ่มต้นขึ้น !! หยางไค่ครุ่นคิดอยู่ในใจ
จากเบาะแสะที่หยางไค่สืบหามาได้ หยางไค่กล้าตัดใจว่าสำนักหยุนเซี่ยต้องการให้คนธรรมาสามัญเหล่านี้ไปเก็บเกี่ยวยาสมุนไพรหรือสมบัตวิเศษที่ซ่อนเร้นอยู่ในสถานที่อันตราย และสถานที่แห่งนี้ แม้แต่ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยก็ไม่เต็มใจที่จะย่างกรายเข้าไป
เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด เสียงของศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยดังขึ้น : ทุกคนมาถึงสำนักหยุนเซียเป็นเวลากว่า 1 เดือน ทุกคนต่างดูแข็งแรงขึ้นไม่น้อย นี้คือน้ำใจที่สำนักหยุนเซี่ยมอบให้แก่พวกท่านทั้งหลาย แต่ในโลกแห่งนี้คงไม่มีอะไรที่ได้มาอย่างเปล่าประโยชน์ หากพวกเจ้ายังต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นนี้ พวกเจ้าต้องทำเพื่อสำนักหยุนเซี่ยบ้าง และมันยังเป็นบททดสอบสำหรับพวกเจ้าอีกด้วย เพียงแค่พวกเจ้าผ่านการทดสอบนี้ พวกเจ้าจะสามารถกลับมาที่นี้อีกครั้ง เพื่อใช้ชีวิตที่สุขสบายเช่นนี้ต่อไป
กลุ่มคนเหล่านี้เริ่มสับสอน พวกเขาจ้องมองซึ่งกันและกันโดยไม่รู้ว่าศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
ตามข้ามา ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยไม่กล่าวพูดอะไรมาก เขาเดินนำกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากลานสวน
พวกเดินทางออกไปโดยใช้เส้นทางเดิมที่พวกเขาเคยเดินเข้ามาในวันแรกเป็นเวลากว่า 1 ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงชายทะเล ตรงนั้น เรือกกลไฟขนาดใหญ่กำลังรอพวกเขา
หยางไค่พบว่า ในเรือกลไฟลำนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่มารวมตัวกัน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เขาเคยแอบไปสำรวจมา คนเหล่านี้นั่งกุมเข่าของตนเองเอาไว้ และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ร่างกายสั่นเทา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อกลุ่มคนกว่า 30 คนขึ้นมาบนเรือ ในเรือกลไฟแห่งนี้มีกลุ่มคนธรรมาดาสามัญที่ไม่ต่ำกว่า 100 คน คนธรรมาดาสามัญที่ขึ้นเรือมาก่อนต่างจ้องมองมายังหยางไค่และกลุ่มคนอื่นๆที่เพิ่งขึ้นเรือ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสงสารที่มิอาจอธิบายออกมาได้
ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม? ชายวัยกลางที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงกล่าวถามขึ้นมา
ทุกคนมาถึงแล้ว
แล่นเรือ !! คนผู้นั้นโบกมือของเขา เรือกลไฟเริ่มเคลื่อนไหวออกไปอย่างช้าๆ
ในเวลาเดียวกัน เสียงที่ตื่นตระหนกดังขึ้น : ข้าไม่อยากไป ข้าไม่อยากไปสถานที่เลวร้ายแห่งนั้น ได้โปรด ได้โปรดปล่อยข้าไปด้วย ข้าไม่อยากไปสถานที่แห่งนั้นอีกแล้ว
ในขณะที่เขากล่าวเขาได้ตะโกนด้วยเสียงโหยหวนที่น่าสังเวชใจ ทันใดนั้นเขาได้ลุกขึ้นมาและวิ่งพุ่งไปหาผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว ดวงตาแดงก่ำราวกับปีศาจที่บ้าคลั่ง เมื่อมาถึงด้านหน้าของผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ย เขาอ้าปากและกัดเข้าไป เขายังตะโกนอย่างคนเสียสติ : พวกเจ้าอยากให้ข้าตาย ข้าจะให้พวกเจ้าตายก่อน !!
จิตใต้สำนึกของคนผู้นี้ถูกกลิ่นอายแห่งปีศาจกลืนกินจนหมดสิ้น เขากลายเป็นคนวิกลจริตที่เสียสติ เสียงของมารปฐพีดังขึ้น
บังอาจ !! ดูเหมือนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยต้องพบเจอกับเหตุการณ์นี้ เขาไม่กล่าวถาม ชักกระบี่ออกมาจากเอวและแทงไปยังทรวงอกของชายคนนั้นในทันที ก่อนจะถีบเขาลงจากเรือกลไฟในทันที
ใต้ท้องเรือมีเสียงของสัตว์อสรูที่กำลังกลืนกินเนื้อมนุษย์ดังขึ้น
จิตใจของทุกคนต่างเย็นเฉียบในทันที !!
หลังจากที่ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งสำนักหยุนเซี่ยฆ่าคนที่เสียสติไปเขาได้จ้องมองคนธรรมดาสามัญเหล่านั้นด้วยสายตาที่เยือกเย็นและกล่าวอย่างโหดเหี้ยม : ใครกล้าบังอาจสร้างความวุ่นวาย ข้าจะโยนมันลงไปให้เป็นอาหารสัตว์อสูรในทันที !!
กลิ่นอายแห่งการฆ่าของเขาครุ่กกรุ่น ท่าทีที่โหดเหี้ยมของเขา กดดัดทุกคนที่กำลังจะขยับตัว จนคนธรรมาดาสามัญคนอื่นๆไม่กล้าที่จะสบตากับเขา
บนเรือกลไฟเริ่มสงบอีกครั้ง
เป้าหมายที่เรือกลไฟเข้าเทียบท่าไม่ใช่บริเวณอื่นไกล แต่เป็นอีกครึ่งซีกขวาของเกาะหยุนเซี่ย พวกเขาเพียงแล่นเรืออ้อมมันมา เรือกลไฟก็เข้าเทียบท่าได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่อยู่บนเรือ หยางไค่เข้าใจหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมายว่ามันคืออะไร
คือการเก็บเกี่ยวสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าผลไม้เฮยซ๋วน ผลไม้ชนิดนี้หยางไค่รู้ว่ามันมีลักษณะอย่างไร หลังจากที่มาถึงเกาะหยุนเซี่ยในช่วงครึ่งเดือนหลัง
ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยเคยกล่าวสอนให้แก่พวกเขา มันอยู่ในหน้าแรกของตำราเล่มเล็ก มันเป็นผลไม้ที่มีสีดำ มันอยู่กันเป็นพวงๆที่คล้ายคลึงกับองุ่น มันเป็นสิ่งวิเศษแห่งสำหยุนเซี่ย ในบริเวณอาณาเขตที่ใกล้เคียง มันถือกำเนิดและเติบโตขึ้นในเกาะหยุนเซี่ยที่เดียวเท่านั้น
ในขณะที่ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยกำลังอธิบาย เขาอธิบายอย่างละเอียดและหลายครั้ง ในตอนนั้นหยางไค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงให้ความสนใจกับผลไม้ชนิดนี้
แต่ในตอนนี้เขาเข้าใจอย่างชัดเจน
คนธรรมาดาสามัญที่สำนักหยุนเซี่ยจับตัวมา เป้าหมายที่ใหย่ที่สุดคือการเก็บเกี่ยวผลไม้เฮยซ๋วนที่ลึกลับ
ผลไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณทางยาที่ไม่สูงมาก มากที่สุดมันก็อยู่ในขั้นสามัญเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าทำไมสำนักหยุนเซี่ยจึงต้องการและให้ความสำคัญกับมันเช่นนั้น
ทุกคนต่างได้รับกระเช้ายาของตนเอง ทุกๆคนต้องเก็บเกี่ยวผลไม้เฮยซ๋วนทั้งหมด 3 จินจึงจะถือว่าเสร็จสิ้นหน้าที่ของตนเอง แน่นอน หากสามารถเก็บรวบรวมสมบัติวิเศษอื่นๆ ก็จะสามารถหักล้างกับจำนวนของผลไม้เฮยซ๋วนได้
นี้คือเหตุผลที่สำนักหยุนเซี่ยต้องให้คนธรรมาดาสามัญร่ำเรียนเกี่ยวกับสมุนไพรและสมบัติวิเศษ หากว่าพวกเขาพบเจอกับสมบัติวิเศษอื่นๆ
ก็จะทำให้พวกเขาไม่พลาดที่จะเก็บมันกลับมาด้วบผู้คนกว่า 100 คนถูกไล่ต้อนให้ลงจากเรือ ศิษย์แห่งสำนักหยุนเซี่ยยืนอยู่บนเรือโดยไม่ขยับ เกาะครึ่งซีกขวาสำหรับพวกเขาเสมือนว่าเป็นที่ต้องห้ามสำหรับพวกเขา ไม่มีใครกล้าที่จะย่างกรายเข้าไป
ยอดฝีมือแห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงกล่าว : พวกเจ้ามีเวลา 3 วัน หลังจากนี้ 3 วัน พวกเราจะมากลับมารับพวกเจ้าอีกครั้ง หากพวกเจ้าทำหน้าที่ของตนเองไม่สำเร็จก็ไม่ต้องกลับมา ใช้ชีวิตบนเกาะนี้จนตายไปเลย ไป พวกเรากลับ !!
หลังจากที่เรือแล่นออกไป สีหน้าของผู้คนธรรมาดาสามัญที่เคยมายังบริเวณนี้ต่างจ้องมองเรือกลไฟด้วยสายตาที่สิ้นหวัง
กลุ่มคนที่มาพร้อมกับหยางไค่กว่า 30 คนไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้ามาสถานที่แห่งนี้
คนจำนวนไม่น้อยที่เดินเข้าไปพร้อมกับกระเช้ายาของพวกเขาโดยไม่กล่าวสิ่งใด
จากระยะเวลาที่ผ่านไป คนที่เหลืออยู่เริ่มน้อยลง หยางไค่จ้องมองพวกเขาอยู่บนชายทะเลด้วยความรู้สึกที่ช่วยไม่ได้
ใต้ท้องทะเล สัตว์อสูรจำนวนหนึ่งกำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะหลบหนีไปได้
หยางไค่หมุนตัวและเดินเข้าไปยังเกาะครึ่งซีกขวาที่ปกคลุมด้วยหมอกที่มืดมัว
นายน้อย สถานที่แห่งนี้มีกลิ่นอายแห่งปีศาจที่เข้มข้นและแข็งแกร่ง ไม่น่าแปลกที่ศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยไม่กล้าย่างกรายเข้ามา เสียงของมารปฐพีดังขึ้น
หากสูดดมกลิ่นอายแห่งปีศาจเข้าไปเพียงเล็กน้อย มันจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากสูดดูมมันเข้าไปเป็นเวลานาน มันจะสามารถกลืนกินจิตใจของมนุษย์ ทำให้พวกเขาเข้าสู่เส้นทางแห่งปีศาจ
เพราะเหตุนี้ สำนักหยุนเซี่ยจึงต้องจับกุมชาวประมงที่เป็นคนธรรมาดาสามัญเข้ามาและส่งตัวพวกเขามายังเกาะแห่งนี้เพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งที่พวกเขาต้องการ การที่พวกเขาเสียเวลาในการดูแลบำรุงร่างกายของพวกเขา เพราะสำนักหยุนเซี่ยต้องการให้พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง สามารถทนต่อกลิ่นอายแห่งปีศาจที่แข็งแกร่ง ไม่กลายเป็นคนวิกลจริตไปตั้งแต่ตอนแรก
สิ่งที่เจ้าชื่นชอบก็คือกลิ่นอายแห่งปีศาจนั้นไม่ใช่หรือไง? หยางไค่แกล้งหยอกล้อมารปฐพี จนทำให้มารปฐพีตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
ฮึฮึ นายน้อยกล่าวได้ถูกต้อง มารปฐพีกล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่แปลกๆ มีข้าอยู่ที่นี้ นายน้อยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกกลิ่นอายแห่งปีศาจเหล่านั้นเขาครอบคลุม แต่ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แปลกประหลาดยิ่งนัก ไม่แน่ว่าอาจมีสมบัติวิเศษซ่อนเร้นอยู่ภายใน
ข้าก็คิดเช่นนั้น หยางไค่พยักหน้า ตนเองถูกศิษย์สาวกแห่งสำนักหยุนเซี่ยจับกุมตัวมากกว่า 1 เดือน แม้จะกินนอนอย่างสุขสบาย อย่างน้อยก็ต้องเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีค่ากลับไปด้วย
เขาสะพายกระเช้ายาอยู่ด้านหลัง ก่อนจะเดินเข้าไปในเกาะที่ลึกลับแห่งนี้
ด้านนอกของเกาะไม่มีสิ่งใดแม้แต่น้อย แม้ว่าผลไม้เฮยซ๋วนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ถูกเก็บเกี่ยวไปหลายครั้ง มีเพียงการเดินเข้าไปภายในที่ลึกซึ้ง จึงจะสามารถพบผลไม้เฮยซ๋วน
คนที่มีความคิดเดียวกับหยางไค่มีจำนวนมาก พวกเขาต่างเดินทางเข้าไปเป็นกลุ่ม โดยไม่มีใครที่เดินทางเข้าไปเพียงคนเดียว
จากระยะเวลาที่ผ่านไป คนที่อยู่รอบๆเริ่มหายไปทีละคนทีละคน จนมองไม่เห็นเงาของพวกเขาแม้แต่คนเดียว
ในขณะที่กำลังเดินเข้าไป หยางไค่พบเงาร่างของคนที่อยู่ด้านหน้า เขากำลังวิ่งเข้าไปยังรีบร้อน หยางไค่มองไปยังทิศทางที่เขาวิ่งไป และพบเห็นผลไม้ที่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับองุ่นจำนวนหนึ่ง
ผลไม้เฮยซ๋วน!
******************************************
??? = ผลไม้เฮยซ๋วน (ทับศัพท์)
? สีดำ
? ลึกลับ
? ผลไม้