ตอนที่แล้วตอนที่ 157 เรื่องเล็กฟังเจ้า เรื่องใหญ่ฟังข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 159 หวนกลับ

ตอนที่ 158 ออกจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์


ตอนที่ 158 ออกจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์

หยางไค่ก้มหน้าลงมอง เขาพบว่าจี้หยกที่อยู่บนคอของเขาเป็นจี้หยกทรงสี่เหลี่ยม แต่เมื่อสัมผัสกับมือของเขา มันกลับเยือกเย็น และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ปลอดภัย

มันคือหยกน้ำแข็งหิมะ ข้าสวมใส่มันตั้งแต่เด็ก หลายปีที่ผ่านมามันจึงดูดซับพลังลมปราณแท้จริงของข้าไปไม่น้อย เจ้าสวมใส่มันไว้ เมื่อถึงช่วงเวลาที่คับขัน ใช้พลังลมปราณของเจ้าเคลื่อนไหวเพื่อใช้อำนาจพลังที่แข็งแกร่งของมัน

จี้หยกนี้ถือเป็นของขวัญสำหรับการหมั้นหมายสำหรับคนรักหรือเปล่า ? หยางไค่จ้องมองซู่เหยียนด้วยรอยยิ้ม

ใบหน้าของหยางไค่แดงก่ำด้วยความเอียงอาย นางค่อยๆพยักหน้าตอบรับ

เมื่อได้เป็นเช่นนี้ หยางไค่รีบสัมผัสไปยังร่างกายของตนเอง แต่เขาสัมผัสร่างกายของตนเองเป็นเวลานาน ก็ยังหาสิ่งที่คู่ควรแก่นางไม่ได้

สิ่งที่มีค่าที่สุดในร่างกายของเขา มีเพียงเข็มสลายวิญญาณและโสมปีศาจหยินหยาง

มอบเข็มสลายวิญญาณให้แก่นางไม่ได้ เพราะมันชั่วร้ายเกินไป นอกจากนั้นมันยังมีจิตวิญญานเทพสวรรค์อของมารปฐพี มันจะเป็นอันตรายต่อซู่เหยียน แต่โสมปีศาจหยินหยางคงจะมอบให้นางได้ เพราะมันเป็นสมบัติแห่งฟ้าสวรรค์ที่มีจิตวิญญาณ โดยไม่ชั่วร้ายเช่นเข็มสลายวิญญาน

หยางไค่ลูบจมูกของตนเองไปมาและกล่าวด้วยความอึดอัด : เวลาอันใกล้นี้ ข้าจะมอบสิ่งของบางให้แก่เจ้าเช่นเดียวกัน

ซู่เหยียนอมยิ้มเบาๆ : ผลึกน้ำแข็งนพเก้าที่เจ้าให้ข้าก็เพียงพอแล้ว

เจ้าช่างเป็นคนดีจริงๆ หยางไค่กล่าวด้วยความชื่นชม

เจ้าไม่ต้องยกย่องเข้า ยิ่งเจ้ายกย่องข้ามันยิ่งทำให้หัวใจของข้าเต้นไปมอย่างรุนแรง !! ซู่เหยียนถอนหายใจ กุมทรวงอกของนางเอาไว้ หลังจากที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาหยินหยางผสานรวมเป็นหนึ่ง พลังแห่งปราณจิตเย็นของนางไม่สามารถสร้างอันตรายให้แก่หยางไค่ หยางไค่เปรียบเสมือนดาวข่มของตนเอง การกระทำ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขาล้วนข่มจิตใจของนางอย่างสิ้นเชิง

ฮ่าฮ่า !! หยางไค่หัวเราะอย่างมีความสุข ในใต้หล้าแห่งนี้ จะมีชายหนุ่มคนใดที่ทำให้จิตใจของหญิงสาวเช่นซู่เหยียนหวั่นไหวและวุ่นวายได้ถึงเพียงนี้ ? มีเพียงเขาคนเดียวที่สามารถทำได้ !!

อาจจะกล่าวได้ว่า หากไม่มีโชคชะตาแห่งมรดกแห่งฟ้าสวรรค์ที่พลิกผันเช่นนี้ หยางไค่รู้ดีว่าชั่วชีวิตนี้ของเขาคงไม่มีความสัมพันธุ์ที่ใกล้ชิดเช่นนี้ ชายหนุ่มที่ควรคู่กับนาง แม้นในอาณาจักรฮั่นที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่มีการดำรงอยู่ของชายคนนั้น แม้แต่ตัวเขาเอง หยางไค่ก็คิดว่าตนเองไม่เหมาะสมกับซู่เหยียน มันไม่ใช่การดูหมิ่นตนเอง แต่เพราะซู่เหยียนมีงดงาม สู่งส่ง และสง่างาม

หลังจากที่ออกจากที่นี้ เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป ? ซู่เหยียนนิ่งสงบเหมือนเดิม เขากล่าวถามหยางไค่อีกครั้ง

อะไรคือการทำอย่างไรต่อไป ?

เส้นทางในอนาคตไงล่ะ !! ซู่เหยียนเป็นผู้นำที่คิดการณ์ไกล เขาคิดถึงอนาคตของหยางไค่โดยที่หยางไค่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ : และความสัมพันธุ์ของพวกเราทั้งสอง

ข้าไม่เข้าใจ หยางไค่ขมวดคิ้วไป : อธิบายให้ชัดเจนกว่านี้

ซู่เหยียนยิ้มอย่างอ่อนหวานให้แก่หยางไค่ : เป็นเช่นนี้ ข้าคิดหนทางเลือกให้เจ้าสองทางเลือก ทางเลือกแรก เปิดเผยความสัมพันธุ์ของเรา จากฐานะและตำแหน่งของเขาในสำนัก เมื่อเราเปิดเผยความสัมพันธุ์ออกไป เจ้าจะได้รับการฝึกฝนวิชายุทธุ์จากสำนักอย่างใหญ่หลวง ไม่จำเป็นต้องสะสมแต้มแห่งชัยชนะต่อไป จะได้รับศัตราวุธ โอสพวิเศษและ สมบัติวิเศษจากสำนักอย่างง่ายดาย

เจ้ากำลังทดสอบข้า ? หยางไค่กล่าวถามซู่เหยีนด้วยรอยยิ้ม

ผู้อาวุโสกว่าส่ายหัวและกล่าวตอบ : ข้าจริงจังกับเรื่องนี้ !!

สีหน้าของหยางไค่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เขาสามารถจินตนาการได้อย่างชัดเจนถึงความวุ่นวายที่เกิดจากการเปิดเผยความสัมพันธุ์ระหว่างเขาและซู่เหยียน

เขาและซู่เหยียน คนหนึ่งเป็นเหมือนผืนดิน คนหนึ่งเปรียบเหมือนท้องฟ้าที่สูงส่ง มันไม่มีทางที่จะบรรจบกันได้ หากว่าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไปให้แก่คนภายใน หยางไค่จะถูกอิจฉาริษยาจากศิษย์สาวกคนอื่นๆ ภาพลักษณ์ภายนอกของซู่เหยียนจะดูต่ำลงในทันที ยังไม่กล่าวถึงการกีดกั้นจากเหล่าผู้อาวุโส แต่เป็นเสียงนินทา ดูหมิ่น การตัดสินใจเลือกของซู่เหยีนนครั้งนี้

หยางไค่ไม่คิดว่า ซู่เหยียนจะกล้าเผชิญหน้ากับเสียงซุบซิบนินทาจากคนอื่นเช่นนี้

เจ้าไม่ต้องรู้สึกกังวลหรือลำบากใจใดๆทั้งสิ้น ข้าเพียงแค่สร้างเงื่อนไขในการฝึกฝนวิชายุทธุ์ให้แก่ชายหนุ่มของข้าเท่านั้น !!

หยางไค่แสดงสีหน้าอย่างจริงจังและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม : ทางเลือกนี้ค่อนข้างน่าสนใจ แต่มันไม่เหมาะสมกับข้า

ราวกับว่าซู่เหยียนทราบถึงความคิดภายในใจของหยางไค่ นางจ้องมองหยางไค่และยิ้มด้วยสีหน้าที่ราบเฉย

หยางไค่กำหมัดของตนเองไวแน่น เขาจ้องมองหมัดของตนเอง : ชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างของข้า ข้าจะสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือของข้า ข้าจะสร้างมันขึ้นมาด้วยความสามารถของข้า การพึ่งพาเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ

ซู่เหยียนยิ้มอย่างแผ่วเบา : แม้ว่าข้าจะเศร้าเสียใจที่ได้ยินเจ้ากล่าวเช่นนี้ แต่ข้าก็มีความสุขอย่างยิ่ง งั้นเรามาฟังทางเลือกที่ 2 กันดีกว่า

หยางไค่กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม : ใช่ ข้าจะเติบโตและก้าวหน้าให้เร็วที่สุด !!

ทางเลือกที่ 2 พึ่งพาตนเอง !!

ข้าจะรอให้เจ้าแข็งแกร่งจนพอที่จะปกป้องข้า !! ซู่เหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม

ข้าจะไม่ให้เจ้ารอนาน !! หยางไค่จับมือของซู่เหยียน และจุมพิตสองมือของนาง ทันใดนั้นราวกับว่าเขาคิดถึงเรื่องบางอย่าง เขารีบเงยหน้าและกล่าวต่อซู่เหยียน : ใช่แล้ว ซู่เหยียน หลังจากที่เราออกไปจากที่นี้ เจ้าอาจต้องประสบพบเจอกับปัญหาบางอย่าง

หืม ? ซู่เหยีนไม่เข้าใจในสิ่งที่หยางไค่กล่าว

หยางไค่ค่อยกล่าวอธิบายให้แก่ซู่เหยียน : ศิษย์สาวกทั้ง 3 สำนักต่างเข้ามายังถ้ำสวรรค์เพียงเพราะมรดกแห่งฟ้าสวรรค์ หลังจากที่ฆ่าสัตว์อสูรทั้ง 9 ตน ค่ายกลถูกทำลาย มรดกแห่งฟ้าสวรรค์บังเกิด ศิษย์สาวกทั้ง 3 สำนักกว่า 700-800 คน ต่างเดินปีป่ายขึ้นมายังบันไดสีทอง พวกเขาต่างพบเจอกับบททดสอบแห่งพลังหยินและพลังหยาง ความแข็งแกร่งของเจ้า แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาศิษย์สาวกทั้ง 3 สำนัก นอกจากนั้นวิชายุทธุ์ที่เจ้าฝึกฝนยังเป็นวิชายุทธุ์แห่งความเยือกเย็น เจ้าคิดว่าคนเหล่านั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ?

ซู่เหยียนอึ้งไปชั่วขณะ นางครุ่นคิดแต่เรื่องของหยางไค่โดยไม่คิดถึงเรื่องของตัวเอง แต่เมื่อได้ยินหยางไค่กล่าวเช่นนี้ ทำให้ความคิดของนางกระจ่างในทันที : พวกเขาคิดว่า ข้าเป็นคนที่ได้รับการสืบทอดจากมรดกแห่งฟ้าสวรรค์แห่งนี้

ถูกต้อง ข้าคิดว่าหลายๆคนกำลังคิดเช่นเดียวกับข้า หยางไค่พยักหน้าอย่างช้าๆ

ซู่เหยียนยิ้มอย่างมั่นใจ : พวกเขาจะคิดเช่นไรก็ปล่อยพวกเขาไป แม้ว่าข้าจะเป็นผู้ที่ได้ครอบครองมรดกแห่งฟ้าสวรรคืหรือไม่ก็ตาม ข้าไม่จำเป็นที่ต้องกล่าวอธิบายใดๆให้แก่พวกเขา

เจ้าอย่างยอมรับจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด !! ไม่ว่าจะเป็นใครเจ้าก็ห้ามยอมรับต่อพวกเขา !!เรื่องนี้ค่อนใหญ่หลวง ข้าคิดว่าการปรากฏตัวของถ้ำแห่งฟ้าสวรรค์ ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ 3 สำนักที่ใกล้เคียง

เมื่อได้ยินดังนี้ ซู่เหยียนเริ่มคำนึงถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น นางไม่ต้องสนใจกับยอดฝีมือของสำนักทั้ง 3 ที่อยู่ใกล้เคียง แต่นางไม่สามารถประมาทยอดฝีมือทั้งหมดทั้งปวงจากอาณาจักรฮั่นที่ยิ่งใหญ่ เมื่อมีคนจ้องตะครุบมรดกแห่งฟ้าสวรรค์ ซู่เหยียนต้องพบเจอกับภัยอันตรายที่ใหญ่หลวงอย่างแน่นอน

ซู่เหยียนพยักหน้า : ข้าทราบแล้ว !!

จิตใจของซู่เหยียนเต็มไปด้วยความชื่นชม ให้สายตาของเหล่าศิษย์สาวกจ้องมองไปที่เขาเพียงคนเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้หยางไค่จะไม่ถูกสงสัยในความสามารถของเขา ทุกนต่างคิดว่ามรดกแห่งฟ้าสวรรค์มีเพียงผู้เดียวที่จะได้รับ ซึ่งไม่มีใครคาดคิด่ามรดกแห่งฟ้าสวรรค์ในครั้งนี้จะเป็นการแบ่งปันระหว่างคนสองคน

ซู่เหยียนจ้องมองหยางไค่ด้วยความชื่นชม : เจ้าคิดอย่างถี่ถ้วนจริงๆ

หยางไค่หัวเราะและกล่าวด้วยความขมขื่น : เพียงแค่มองเห็นวิธีการแย่งชิงจากผู้ที่มีอำนาจพลังที่แข็งแกร่งก็เท่านั้น

ซู่เหยียนจ้องมองหยางไค่ด้วยสายตาที่ตื่นตะลึง คำกล่าวนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งชีวิตที่ผันผวน ทันใดนั้นนางรู้สึกว่า ศิษย์น้องคนนี้ เป็นที่มีความลับภายในอย่างมากมาย

เมื่อถึงเวลาข้าจะกล่าวบอกแก่เจ้าเอง หยางไค่แตะไปที่มือของซู่เหยียนเบาๆ

อืม เจ้าไม่บอกข้าก็ไม่เป็นไร ซู่เหยียนพยักหน้า

พวกเราออกไปกันเถอะ ภายในสถานที่แห่งนี้คงไม่เหลือสมบัติวิเศษให้พวกเราอีก หยางไค่ลุกขึ้นในทันที

ตำหนักศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความว่างเปล่า นอกเสียจากพลังแห่งมังกรเพลิงและเมฆาเยือกเย็น มันไร้ซึ่งสิ่งต่างๆทีสถิตย์อยู่ภายใน

หลังจากที่พวกเขาได้รับมรดกแห่งฟ้าสวรรค์แล้ว ในสถานที่แห่งนี้ปรากฏแสงสีทองที่เปล่งประกายขนาดใหญ่ มันน่าจะเป็นสิ่งที่ส่งพวกเขาออกไปจากสถานที่แห่งนี้

หยางไค่จับมือของซู่เหยียนและเดินเข้าไปยังแสงสีทองนั้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด