GE20 นายน้อยหนิงมาทำลายนิกายเจ้าแล้ว (1)
กระถางปรุงโอสถของหานหยวนจี๋ กระถางแรกทำลายข่ายพลัง กระถางที่สองทำลายประตูนิกาย อีกกระถางที่สามทำลายเขานักปราญ์ นิกายนักปราชญ์ที่เป็นนิกายอันดับต้นๆของแคว้นเยว่ถูกหานหยวนจี๋จู่โจม
ชายชราถอนกระถางปรุงโอสถคืนพลางเย้ยหยัน แต่ไม่นานทั่วทั้งนิกายนักปราชญ์กลับปรากฏแสงเรือนรองและเสียงคำราม
“ผู้เยาว์ที่ไหนกล้ามาหาเรื่องนิกายนักปราชญ์ของข้า”
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำร่อนลงมาจากท้องฟ้า แผ่นหมึกสีดำปกคลุมทิวทิศน์ เมื่อเห็นผู้รุกรานเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ 2 คน มันขมวดคิ้วแน่น
เป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณอันเล็กจ้อยแต่กลับกล้าทำลายนิกายนักปราชญ์ ช่างรนหาที่ตาย!
ชายชราในขอบเขตแก่นทองคำผู้นี้อาจอยู่ใน 10 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นเยว่ แต่มันหารู้ไม่ว่าในสายตาของหานหยวนจี๋แล้ว มันเป็นเพียงมดปลวก
“หรูซางเชิ่ง บิดามาแล้ว ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
ปีศาจเฒ่าหานสะบัดมือส่งกระถางโอสถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว กระถางโอสถลอยแหวกอากาศเข้าปะทะแผ่นหมึกที่เป็นสมบัติของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำอย่างรุนแรง เสียงการปะทะดังสนั่น แผ่นหมึกขนาดยักษ์ลดขนาดลงมหาศาล อานุภาพที่ยิ่งใหญ่ของมันถูกหักล้างสิ้น แต่ในขณะนั้น ที่ฝากระถางปรุงยาของปีศาจเฒ่าหานกลับปรากฏมังกรทมิฬ 8 ตัวยื้อแย่งผุดออกมาและทะยานเข้าใส่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ
เมื่อเห็นสมบัติของนถูกทำลายทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับมังกรทมิฬ สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ใบหน้าของมันซีดขาวไร้โลหิต ทั้งยังเผยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“เพลิงมังกรทมิฬ... หนึ่งใน ‘เพลิงปีศาจสิบสองชีพจรพิภพ’ เจ้าเป็นใคร? เหตุใดถึงได้ครอบครองเพลิงชนิดนี้!”
ในโลกทั้ง 9 ใบมี ‘ปราณน้ำแข็งสิบสองผืนป่าสวรรค์’ และ ‘เพลิงปีศาจสิบสองชีพจรพิภพ’ ข่าวลือกล่าวว่า หากผู้ใดได้ครอบครองหนึ่งใน ‘ปราณน้ำแข็งผืนป่าสวรรค์’ หรือ ‘เพลิงปีศาจชีพจรพิภพ’ ต่อให้เผชิญหน้ากับปีศาจเฒ่าไร้แบ่งแยก คนผู้นั้นย่อมต่อกรได้
ชายชราแก่นทองคำคาดไม่ถึงว่าปีศาจเฒ่าที่ดูธรรมดาสามัญผู้นี้จะครอบครองหนึ่งในเพลิงปีศาจชีพจรพิภพ ปีศาจเฒ่าผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่มันจะยั่วยุได้
ชายชราแก่นทองคำล่าถอยอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่นานมันพบว่ามังกรทมิฬทั้ง 8 ตัวได้ตรึงเป้าหมายไว้ที่ตัวมันและติดตามอย่างไม่ลดละ แม้มันพยายามหลบเลี่ยงแต่ไม่อาจทำได้ ตัวเลือกเพียงอย่างเดียวคือเผชิญหน้ารับมือ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คงต้องใช้ ‘สมบัติแก่นชีวิต’...” ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำกล่าวในใจก่อนจะเรียกแท่งเหล็กออกมา
เมื่อเหล่าศิษย์นิกายนักปราชญ์เห็นการกระทำ สีหน้าของพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พวกมันคาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแก่นทองคำจะถูกอีกฝ่ายที่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณทำลายสมบัติ ทั้งยังถูกต้อนให้ใช้สมบัติแก่นชีวิต
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำลงมือจู่โจมด้วยสมบัติแก่นชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีเสียงตะโกนด้วยความตระหนกออกมา “ปีศาจทมิฬโปรดเมตตา! หัวหน้าหมึกดำ เร่งเก็บสมบัติแก่นชีวิตได้แล้ว! หากเจ้ายังฝืนใช้ นิกายนักปราชญ์จะพินาศและเจ้าต้องถูกลงทัณฑ์!”
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหยุดยืนกลางนภาพลางจ้องมองปีศาจเฒ่าหาน สีหน้าเผยให้เห็นเศษเสี้ยงของความหวาดกลัว
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้นำนิกายถึงได้หยุดมัน แม้อีกฝ่ายจะทรงพลัง แต่ในเมื่อมันนำสมบัติแก่นชีวิตออกมาแล้ว ผลแพ้ชนะย่อมตัดสิน
แต่เมื่อมันก้มหน้ามองสมบัติแก่นชีวิตในมือ ใบหน้าของมันพลันซีดขาวไร้โลหิตเพราะสมบัติของมันได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากเพลิงปีศาจ
น่าหวาดกลัว! มันไม่รู้ว่าสมบัติแก่นชีวิตในมือของมันได้รับความเสียหาย ทั้งยังไม่ทราบว่าได้รับความเสียหายเมื่อใด
หากยังสู้กับปีศาจเฒ่าหานต่อ สมบัติของมันคงถูกทำลายและตัวมันก็ต้องตายด้วยเพลิงปีศาจ!
หากผู้นำนิกายไม่ห้ามไว้ ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำอย่างมันจะไม่ถูกสังหารเลยหรือ?
“ฮึ่ม! หรูซางเชิ่ง หากเจ้ายังออกมาช้าเช่นนี้อีก ครั้งหน้าบิดาจะไม่ให้อภัยเจ้า” ปีศาจเฒ่าหานอ้าปากเพื่อดูดกลืนเอากระถางโอสถและเพลิงปีศาจทมิฬเข้ามาในท้องพลางจ้องมองหรูซางเชิ่งอย่างดูหมิ่น
“เจ้าหรู... ส่งสมบัติมาให้ศิษย์ของข้า แล้วข้าจะยอมจากไปแต่โดยดี...”
“สมบัติ... นายท่านปีศาจทมิฬต้องการสิ่งใด”
“โอสถนักปราชญ์” ปีศาจเฒ่าหานแคะหู
“ว่าไงนะ? โอสถนักปราชญ์คือสมบัติที่ตกทอดกันมาในนิกายของข้า หากได้กินเพียงเม็ดเดียวก็สามารถทะลวงขอบเขตประสานวิญญาณได้ทันที...”
“ข้าเอา 10 เม็ด! ไม่งั้นข้าจะสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำของเจ้า..” ปีศาจเฒ่าหานเปลี่ยนมาแคะจมูก
“ปล้นกันชัดๆ! โอสถชนิดนี้หนึ่งปีปรุงได้เพียงหนึ่งเม็ดเท่านั้น...” หรูซางเชิ่งอยากจะร้องไห้
“ถูกต้อง บิดามาปล้น! เอาโอสถนักปราชญ์ 10 เม็ด หยกสวรรค์ 1 แสนก้อน แต่ถ้าหากยังกล่าวมากความ ข้าจะเอาสตรีในห้องของเจ้าไปด้วย!” ปีศาจเฒ่าหานกล่าวอย่างเย็นชา
“อย่าได้ช่วงชิงสตรีตัวน้อยๆของข้าเลย... ข้ายอมท่านแล้ว...” หรูซางเชิ่งขบฟันพลางนำกระเป๋าเก็บของออกมาแล้วเลือกสมบัติตามที่ปีศาจเฒ่าหานกล่าว
มันถอนหายใจอย่างต่อเนื่องพลางหันมองหนิงฝานที่ไม่ได้กล่าวมาตั้งแต่แรก “เด็กน้อย... เจ้ามีอาจารย์ที่ดี หากข้าได้อาจารย์ดีๆแบบเจ้าช่วยช่วงชิงโอสถให้ ป่านนี้ข้าคงบรรลุไร้แบ่งแยกกระทั่งอาจกลายเป็นเทพไปแล้ว”
เมื่อหรูซางเชิ่งเลือกสมบัติเสร็จ มันก็โยนให้หนิงฝานพลางจ้องมองด้วยแววตาไม่เต็มใจ
“ไปปล้นที่อื่นต่อเถอะ!”
ปีศาจเฒ่าหานหัวเราะพลางสัมผัสไหล่หนิงฝาน นำพาทั้งสองกลายเป็นสายรุ้งสีดำมุ่งไปยังเป้าหมายต่อไป