ตอนที่ 366 แฟน?
มีองค์กรที่ทรงพลังจากเขตสองที่เป็นเบื้องหลังของโรงประมูลลับ เหนือสิ่งอื่นใด มันยังเป็นการรวมตัวของสมาชิกราชวงศ์รวมทั้งตระกูลราชวงศ์ระดับสูง โดยทั่วไป ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาในการประมูลนี้
ทุกคนต่างรู้ดีว่าการสร้างปัญหาให้โรงประมูลจะเป็นการประกาศสงครามกับตระกูลราชวงศ์ และยังเป็นการยั่วยุหนึ่งในองค์กรที่ทรงพลังในเขต2 แม้กระทั่งองค์กรมืดที่เป็นศัตรูกับตระกูลราชวงศ์ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
และโรงประมูลลับยังได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่นในทุกปี จะมีผู้คุมกันระดับนิรันดร์อยู่สองคน หนึ่งในพวกเขาจะประจำการอยู่ในเขตประมูล ขระที่อีกคนจะคอยเฝ้าคลังสินค้า
ผู้ทำการประมูล เหล่าผู้คุมกัน แม้กระทั่งพิธีกรหญิงล้วนอยู่ในระดับเพลิงสวรรค์ มีพวกเขาประมาณ30คน พนักงานที่เหลือต่างอยู่ในระดับทองสมบูรณ์
นอกจากนั้น สมาชิกราชวงศ์กว่าครึ่งที่เข้าร่วมการประมูลยังอยู่ในระดับเพลิงสวรรค์ และพวกเขายังพาผู้คุ้มกันมาด้วย ดังนั้นจำนวนของผู้คนระดับเพลิงสวรรค์จึงอยู่ในหลักร้อย
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ระดับความยากในการโจมตีเทียบเท่าได้กับเมืองเกรดA พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมอีกาม่วงจึงเลือกงานยากเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับแผนของอีกาม่วง
หลังจากที่ออกมิติมา ในที่สุดหลิน ฮวงก็ได้เรียนรู้เทคนิคปืนระดับกลางที่เหลืออยู่จนหมดจากหลิน ซวนในช่วง40วันที่ผ่านมา เขาเริ่มเรียนเทคนิคปืนระดับสูงตั้งแต่สองวันก่อน
ในเกมส์จ้าวแห่งปืน การผลาญพลังชีวิตคือของจริงเนื่องจากมันเป็นเกมส์VRคุณภาพสูง นี่ไม่เหมือนกับลานประลองนักล่าที่มันเพียงต้องใช้การสั่งการด้วยจิตแทน
ในช่วงเวลานั้น การฝึกเทคนิคปืนของหลิน ฮวงได้ผลาญพลังชีวิตไปมาก จำนวนครั้งเมื่อวิชาโจมตีพยุหะถูกเปิดใช้งานเกือบเทียมเท่ากับตอนที่เขาฝึกมันเพียงลำพังก่อนหน้า พลังชีวิตเขาถูกบีบอัดอย่างหนาแน่นในระหว่างการฝึก
แม้หนึ่งเดือนครึ่งจะไม่เพียงพอสำหรับหลิน ฮวงให้เลื่อนเป็นระดับทองสมบูรณ์ แต่ความเข้มข้นพลังชีวิตเขาก็ยังคงสูงกว่าก่อนหน้า
ไม่กี่วันก่อนการประมูลจะเริ่ม มันมีฝูงชนจำนวนมากที่ร้านแผงลอยรอบหอแสดงสินค้า พ่อค้าแม่ค้าหลายคนเล็งเห็นโอกาสในการเลี้ยงชีพเพราะพวกเขารู้ดีว่าเหล่าคนที่เข้าร่วมการประมูลจะเป็นคนรวยจากตระกูลราชวงศ์ โดยไม่คำนึงถึงความคุ้มค่า ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถแสดงสินค้าใหม่ๆ พวกเขาจะสามารถขายมันได้ในราคาดี มีเพียงส่วนน้อยที่กล้าจะขายของลอกเลียนแบบ พวกเขาวิ่งหนีไปทันทีหลังจากที่ได้รับเงินมากพอ
หลิน ฮวงและเล้ง เยวี่ยซินเดินไปรอบๆร้านแผงลอยในวันแรก ทั้งคู่ไม่ได้ซื้ออะไรและไม่สนใจของบนแผงลอย
สองวันต่อมา เล้ง เยวี่ยซินเคาะประตูห้องหลิน ฮวงในตอนกลางวัน เธอบอกให้เขาหาร้านอาหารให้เธอ เวลาที่เหลือจะเป็นเวลาว่างของพวกเขาซึ่งหลิน ฮวงก็เอาแต่ฝึกเทคนิคปืนระดับสูงอยู่ในห้องเขาขณะที่เล้ง เยวี่ยซินออกไปดเนเล่น
ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังจะไปประมูล อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเดินเล่นรอบๆกับหลิน ฮวงในวันแรก เธอก็เผชิญเจอกับเพื่อนเธอ จากนั้นตระกูลราชวงศ์ทั้งหมดก็รู้ว่าเธอกำลังจะเข้าร่วมการประมูล ผู้คนกว่าร้อยเชื้อชวนเธอ เธอรู้สึกว่ามันคงเป็นการหยาบคายที่จะปฏิเสธพวกเขาและยอมรับคำเชิญของเพื่อนสนิทเพียงสองคนเท่านั้น
สามวันผ่านไปและในไม่ช้า มันก็ถึงวันเริ่มต้นการประมูล
หลิน ฮวงและเล้ง เยวี่ยซินกินอาหารเช้าของพวกเขา จากนั้นก็ออกจากโรงแรม มุ่งหน้าไปยังโรงประมูล ระยะทางจากโรงแรมไปโรงประมูลไม่ถึง300เมตร ดังนั้นทั้งคู่รวมถึงไทแรนด์จึงใช้เวลาเดินไม่ถึง3นาที
การประมูลจะเริ่มตอน9โมงตรงและโรงประมูลจะเปิดให้เข้าตอน8โมงครึ่ง เมื่อทั้งสามมาถึง มันยังไม่ถึง8โมงดี
ด้านนอกโรงประมูล มีคนนับพันกำลังรออยู่ แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นชนชั้นสูง นอกจากสมาชิกราชวงศ์และผู้คุมกัน ยังมีผู้สื่อข่าวมากมาย
ทันทีที่เล้ง เยวี่ยซินปรากฏตัว ฝูงชนก็แห่กันมา
แม้กระทั่งสมาชิกตระกูลราชวงศ์ขนาดเล็กยังไม่อาจเข้าถึงได้ นับประสาอะไรกับ6ตระกูลใหญ่
ผู้สื่อข่าวคุ้นเคยกับเล้ง เยวี่ยซินดีเพราะเธอคือหนึ่งในนักล่าหัวกะทิของเขต7 เธออายุเพียง19ปีและก็บรรลุระดับเพลิงแดงแล้ว นอกจากนี้ เธอยังเป็นไอดอลของสาววัยรุ่นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่นั้น ชายหนุ่มหลายคนจากตระกูลราชวงศ์ในเขต7ยังชื่นชมเธอ
หลายคนสังเกตเห็นหลิน ฮวงที่เดินเคียงคู่มากับเธอ สำหรับไทแรนด์ ผู้คนไม่สนใจเขาแม้ความจริงที่ว่าเขาจะตัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือเครื่องแต่งกาย เขาก็ดูเหมือนผู้คุ้มกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวบางคนรีบสัมภาษณ์เธอทันที
“คุณหนูเล้ง ใครคือชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างคุณกันครับ?”
เดิมทีหลิน ฮวงคิดว่าเล้ง เยวี่ยซินจะตอบว่า’เขาเป็นเพียงผู้ติดตาม’ แต่โดยไม่คาดคิด เธอกลับตอบ“เขาเป็นเพื่อนฉัน”
จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ถามต่อ“เขาเป็นแฟนหนุ่มของคุณหรือเปล่าค่ะ?”
ทันทีที่ผู้สื่อข่าวถามคำถามนั้น สมาชิกราชวงศ์หลายคนก็จับจ้องไปที่หลิน ฮวง
“ผมเป็นเพียงผู้ติดตาม”เมื่อเห็นเล้ง เยวี่ยซินกลายเป็นจุดสนใจ จากนั้นหลิน ฮวงก็อธิบายและเหลือบมองไทแรนด์ ไทแรนด์ขยับตัวเพื่อเปิดทางให้ทั้งคู่และพวกเขาก็เดินผ่านผู้สื่อข่าวไป
เมื่อมาถึงทางเข้าโรงประมูล ผู้คุ้มกันก็สแกนแหวนหัวใจจักรพรรดิของเล้ง เยวี่ยซิน จากนั้นประตูเล็กก็เปิดขึ้นและเธอก็เดินเข้าไป
มันเป็นสิทธิพิเศษที่มอบให้แก่6ตระกูลใหญ่ แม้กระทั่งสมาชิกราชวงศ์ระดับสูงที่ถูกเชิญมาก็ยังต้องรอจนกว่าจะถึง8โมงครึ่งถึงเข้าไปได้
ผู้คนรู้สึกอิจฉา เมื่อเห็นเล้ง เยวี่ยซินพาคนสองคนเดินเข้าไปในโรงประมูล บางคนเริ่มตรวจสอบเบื้องหลังของหลิน ฮวง และก็ต้องตกใจ"แท้จริงแล้วเขาคือลูกศิษย์ของคุณฟู่! เขาสามารถจีบคุณหนูเล้งได้!”
หลิน ฮวงและเล้ง เยวี่ยซินไม่สนใจเสียงนกเสียงกา พวกเขาถูกพนักงานคนหนึ่งนำทางไปห้องVipหมายเลข3
“คุณหนูเล้ง โปรดแจ้งให้กระผมทราบหากคุณต้องการอะไร”พนักงานระดับเพลิงสวรรค์โค้งหัวให้อย่างสุภาพและจากไป
ห้องVIPไม่ใหญ่มากเพราะมันมีขนาดเพียง100ตารางเมตร มีกระจกพิเศษระหว่างพวกเขาและห้องประมูล เมื่อมองออกไปด้านนอกห้อง มันจะโปร่งใส แต่หากใครจะมองข้างใน พวกเขาจะเห็นเพียงกระจกสีเงิน
การตกแต่งในห้องค่อนข้างเรียบง่าย ด้านหน้าของกระจก มีโซฟาและโต๊ะชาเล็กๆ มีผลไม้สดบางอย่างที่ถูกวางไว้ นอกจากนั้น ยังมีตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มและขนมหวานอย่างไอศกรีม
“การประมูลจะเริ่มตอน9โมง มันยังไม่ถึงเวลา ไทแรนด์ นายอยากกินอะไรไหม?ดูเหมือนว่าเขาจะยังกินข้าวเช้าไม่อิ่ม เราสามารถสั่งอาหารได้ที่นี่”เล้ง เยวี่ยซินบอกหลิน ฮวง
“เขาชอบของหวาน ฉันจะให้เขากินไอศกรีม”ทันทีที่หลิน ฮวงพูดจบ เขาก็หยิบเอาไอศกรีมขนาดใหญ่ออกมาจากตู้เย็นและส่งให้ไทแรนด์ที่รับมันมาอย่างมีความสุข นอกจากเนื้อ ของหวานคือของโปรดมัน โดยเฉพาะไอศกรีม
“ฉันเกือบลืมไปว่ามอนสเตอร์ส่วนใหญ่จะชอบของหวาน”เล้ง เยวี่ยซินมองไทแรนด์ที่กำลังกินไอศกรีม รู้สึกขบขัน“ฉันขอไอศกรีมด้วยสิ”
หลิน ฮวงส่งให้เธอ เขาคิดอยู่สักพักและตัดสินใจเอาให้ตัวเองเช่นกัน“มันนานเกือบปีแล้วที่ฉันไม่ได้กินไอศกรีม..”
จากนั้นทั้งสามก็รอให้การประมูลเริ่มขณะที่กินไอศกรีม...