DND.16 - ชำระแค้น
“น่าสนใจ!... น่าสนใจเกินไปแล้ว! สามัญชนที่ถูกเจียงซื่อฉิงทิ้งได้มาประลองกับนางแล้ว!”
“วะฮ่าๆๆ ข้าอยากจะรู้จริงๆว่านางคิดอะไรอยู่ตอนนี้”
ดวงตาขาวราวหิมะของเจียงซื่อฉิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางมองซือหยูราวกับคนแปลกหน้าด้วยความเยือกเย็นในดวงตาคู่นั้น ถึงซือหยูจะไต่เต้าจนเป็นศิษย์เงินระดับสูงแล้วนางก็ไม่รู้สึกสำนึกผิด
“ซือหยู ยอมแพ้ซะ เจ้าไม่คู่ควรกับข้าทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ และไม่มีวันคู่ควร”
ซือหยูยังคงเย็นชา เขามองนางเหมือนคนแปลกหน้าเช่นกัน เขาไม่พูดอะไรออกมา สตรีที่ไร้หัวใจและเห็นแก่ตัวเช่นนางไม่ควรค่าแก่การพูดให้เปลืองน้ำลาย เขารอผู้ตัดสินประกาศเริ่มประลองอย่างเงียบๆ เขาไม่อยากจะพูดอะไรกับนางอีกแล้ว
เมื่อได้รับความเงียบแทนคำตอบ เจียงซือฉิ่งมองเขาเป็นคนดื้อด้านที่ไม่รู้จักยอมแพ้ นางส่ายหัวและมองด้วยแววตาขยะแขยง
“ไม่รู้สำเหนียกตัวเอง! มาจากบ้านจนๆ เจ้าควรระวังความคิดเจ้าไว้นะ ความดื้อด้านของเจ้าที่ไม่ยอมแพ้จะทำให้เจ้าทรมาน!”
“รู้ไหมทำไมข้าถึงทิ้งเจ้า? เพราะเจ้ามันไร้ความสามารถ ยากจน แล้วตอนนี้เจ้ายังถือตัวจนน่าสมเพช ทำให้คนอื่นมองข้าแย่!”
เจียงซื่อฉิงก่นด่าราวกับจะปลดปล่อยความไม่พอใจออกมาทั้งหมด
“ข้าทิ้งเจ้า! เลือกเส้นทางของข้าเอง! ข้าตอนนั้นแย่กว่าเจ้าซะอีก แต่ดูตอนนี้สิ! ข้าจะไปไกลขึ้นและไกลจากเจ้า!”
เจียงซื่อฉิงไหล่สั่น นางโล่งใจที่ได้พูดออกมาและรู้สึกว่านางได้เลือกถูกแล้ว
เมื่อมองซือหยูอีกครั้งนางก็กลับมาเย็นชา
“เจ้า ซือหยู เจ้าไม่ดีพอสำหรับข้า เมื่อก่อนเจ้าก็ไม่ดี ต่อไปเจ้าก็จะไม่มีวันดีพอ! จำคำข้าไว้ เจ้าไม่มีวันดีพอ!”
เจ้าไม่มีวันดีพอ! คำนี้ถูกตะโกนต่อหน้าคนนับพันทั้งสำนัก คนดูมองหน้ากันไปมา บางคนเห็นใจ บางคนย่ามใจ และบางก็รู้สึกขยะแขยง
ในพื้นที่ลับ ตัวตนอันงดงามขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจเจียงซื่อฉิง นางมองซือหยูด้วยความเห็นใจและให้แววตาอบอุ่น เขาคือซือหยูผู้เป็นอัจฉริยะ แล้วยังทำกับเขาแบบนี้อีก เจียงซื่อฉิงจะต้องเสียใจแน่ เจียงซื่อฉีเย้ยหยัน สู้กับสตรีของดยุคน้อยจะต้องจบไม่สวยแน่
แต่แรกซือหยูอยากที่จะไม่สนใจนาง แต่เมื่อนางพูดมากเท่าไหร่นางก็ดูน่าตลกมากขึ้น ราวกับว่าการที่นางทิ้งซือหยูไปเป็นความผิดของเขาคนเดียว! ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี
เขายืดหลังอย่างขี้เกียจ ซือหยูส่ายหัว
“เจ้ามันแค่โสเพณี เอาล่ะ! เลือกไร้สาระโดยการไปหาชายอื่นแล้วโยนความผิดให้ข้าซักที อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย ข้าไม่ได้สนใจผู้หญิงอวดเก่งเช่นเจ้า”
ซือหยูพูดอย่างเยือกเย็นและมองเจียงซื่อฉิงราวกับคนแปลกหน้า
ฝูงชนฮือฮา!
ซือหยูที่เคยคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเจียงซื่อฉิงให้นางเปลี่ยนใจ ซือหยูที่เคยคิดจบชีวิตตัวเองในทะเลสาบจากความเศร้าโศก ในตอนนี้เขาเรียกเจียงซื่อฉิงว่าโสเพณีต่อหน้าคนนับพัน!
ไม่เพียงแค่คนดูที่ตกใจ เจียงซื่อฉิงเองก็ตัวแข็งทื่อ
ในความทรงจำของนาง ซือหยูดูแลนางราวกับทารกราวกับกลัวว่านางจะแตกสลายในอุ้งมือของเขา ไม่เคยขึ้นเสียง เมื่อเขาเห็นนางไม่พอใจ เขาก็กลัวจนไม่กล้าหายใจแรง เมื่อนางด่าเขา เขาไม่กล้าแม้จะโกรธและยิ้มรับมาโดยตลอด!
นางไม่เคยคิดว่าซือหยูจะเรียกนางว่าโสเพณีต่อหน้าผู้คนมากขนาดนี้! นางแทบไม่เชื่อว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือซือหยูตัวจริง! มันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
เจียงซื่อฉิงหน้าแดงด้วยความโกรธ ศักดิ์ศรีของนางถูกสะบั้นต่อหน้าคนทั้งสำนัก
นางรู้สึกถึงสายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องมาที่นางจนอยากจะขุดหลุมฝังตัวเองเสียตรงนั้น ในชีวิตของนางไม่เคยได้รับความอับอายถึงเพียงนี้มาก่อน ความเกลียด ความชิงชังอันรุงแรงปะทุขึ้นในตัวนาง!
“ซือหยู! ข้าเกลียดเจ้า”
ความโกรธเกลียดแต้มดวงตาของเจียงซื่อฉิง
“เชิญเจ้าเกลียดไปเถอะ”
ซือหยูยักไหล่เบาๆ ความเกลียดชังของนางทำอะไรเขาไม่ได้
เมื่อพูดจบซือหยูก็หันไปหาผู้ตัดสิน
“ท่านเจียงซื่อฉี...ท่านยังดูการแสดงไม่อิ่มหรืออย่างไร?”
การประลองควรจะเริ่มไปนานแล้ว แต่เจ้าคนตระกูลเจียงพอใจที่ซือหยูถูกท่าทอ เขาจึงแสร้งเรียงเอกสารช้าๆเพื่อประวิงเวลา
เจียงซื่อฉีไม่พอใจและเกือบจะด่าซือหยู แต่เมื่อเห็นความไม่พอใจของอาจารย์ใหญ่เย่เขาก็รู้ว่าไม่ควรยืดเวลาไปนานกว่านี้!
เขาเก็บซ่อนความโกรธและประกาศ
“เริ่มประลองได้!”
“ซือหยู! ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
เจียงซื่อฉิงพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งด้วยความเกลียดชัง
“อาภรณ์โบยบิน!”
นางโจมตีด้วยความโกรธ อาภรณ์โบนบินเป็นวิชาระดับกลาง
ผ้าสามสีพุ่งออกมาจากแขนเสื้อนางและขยับไปมาบนฝ่ามือ ผ้าผืนหนึ่งขูดกับพื้นและพื้นก็เป็นรอยเหมือนโดนมีดเฉือน! หากมันเฉือนร่างคนล่ะก็แย่แน่!
“เจียงซื่อฉิงเอาจริงแล้ว!”
“ดูไปเถอะ ถ้าซือหยูสู้นางไม่ได้เขาคงจะยอมแพ้ไปแล้ว เขาไม่ใช่คนโง่”
เจียงซื่อฉิงโกรธจนถึงขีดสุด นางคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะต้องทรมานซือหยูอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส!
“อย่าคิดว่าเจ้าจะออกจากลานประลองโดยไม่เจ็บตัว!”
เมื่อได้ยินคำขู่ซือหยูก็ยังคงใจเย็น ผ้าสามสีพุ่งเข้ามาแล้วแต่ทั้งหมัดและขาของเขาก็พร้อมแล้ว
“ทลายจักรวาล!”
ผ้าสามสีของนางดูเหมือนจะพุ่งเข้ามาพร้อมกัน แต่ซือหยูเห็นว่ามันบิดเข้ามาเป็นจังหวะ เขาเพียงต้องทำลายมันทีละผืนเท่านั้น
ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยหมัดใส่ผ้าผืนแรกอย่างรวดเร็วและแม่นยำไปที่ด้านข้าง หลังจากนั้นก็เตะผ้าอีกผืนที่กำลังจะโจมตี แล้วเขาก็ปล่อยหมัดใส่ผ้าผืนสุดท้าย และสุดท้ายเขาก็ฟาดขาราวกับแส้ไปที่จุดสำคัญบริเวณหน้าอกของเจียงซื่อฉิง!
นางหน้าซีดและใช้แขนทั้งสองข้างมาป้องกันทันทีเมื่อรู้สึกถึงแรงมหาศาล! ที่น่ากลัวกว่าคือซือหยูปล่อยหมัดและเตะอย่างต่อเนื่องไม่หยุดใส่เธอราวกับพายุฝนกระหน่ำโดยไม่ให้โอกาสพักหายใจ
สี่ครั้งต่อเนื่อง! แปดครั้งต่อเนื่อง! สิบหกครั้งต่อเนื่อง!
ในที่สุดนางก็ทนพลังมหาศาลไม่ไหว นางร้องออกมาและถูกเตะกระเด็นออกจากลานประลอง! นี่เป็นครั้งแรกที่ซือหยูใช้ทลายจักรวาลได้เต็มวิชา และใช้มันกับอดีตคนรัก! เขาไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย!
ซือหยูที่อยู่บนลานประลองมองลงไปยังเจียงซื่อฉิงที่บาดเจ็บอยู่กับพื้น นางไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้
“ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้เก่งอย่างที่คิดนี่ เมื่อก่อนเจ้าก็ไม่ได้เก่งกว่าข้า และตอนนี้เจ้าก็เป็นเหมือนเดิม!”
เมื่อได้ยินซือหยูนางก็ไม่หันกลับไปมองและกลับไปพัก นางพ่ายแพ้จริง! ระดับสามแพ้ระดับสอง! และแพ้ให้กับชายที่นางทิ้งไป! นางคิดว่าการฝึกของนางได้ทิ้งห่างซือหยูมากแล้ว แต่ในความจริงแล้วซือหยูต่างหากที่ทิ้งนางไป!
เจียงซื่อฉิงมิอาจรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้ ในสายตาของนางเห็นซือหยูเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างพอประมาณ แต่ตอนนี้หลังจากที่นางเพิ่งพลังอย่างก้าวกระโดดเพื่อหวังจะขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นดวงดาวเจิดจรัส แต่ตอนนี้ซือหยูได้ตบนางร่วงหล่นจากฟากฟ้า ความจริงอันโหดร้ายนี้ราวกับน้ำเย็นจัดไหลผ่านร่างกายจนแข็งทื่อ
ฉินเฟิงรีบพุ่งมาหานางและจ้องซือหยูด้วยความโกรธ! จากนั้นจึงช่วยพยุงเจียงซื่อฉิงให้ยืนขึ้นแต่ก็ถูกนางปัดมือออก
นางยืนขึ้นอย่างยากลำบาก ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง นางพูดอย่างเยือกเย็น
“พี่เฟิง! ชนะมันให้ข้าที!”
“ถ้าพี่ชนะมันได้ ข้า..ข้าจะเป็นของท่าน!”
เจียงซือฉิงมองอย่างแน่วแน่ นางรู้ว่าฉินเฟิงไล่ตามความงามของนางและรู้ด้วยว่าที่ต้องทำก็แค่ทำให้ฉินเฟิงหลงใหลในตัวนาง นางไม่ปล่อยให้ฉินเฟิงแตะต้องตัวง่ายๆเพราะมันเป็นสินทรัพย์อย่างเดียวของนาง
ฉินเฟิงมีความสุขมาก หัวใจเขาเต้นแรง เพื่อทุกอย่างแล้ว..เขาแค่ต้องชนะซือหยูงั้นหรือ?
ตามกฎสำนัก ศิษย์ทองคำจะประลองกับศิษย์ระดับเงินไม่ได้เพื่อปกป้องศิษย์ระดับเงินจากการถูกรังแก
แต่นี่เป็นข้อยกเว้น! ในการประเมินศิษย์ทองคำอีกหนึ่งเดือน ศิษย์ทองคำสามคนจะเชิญศิษย์ระดับเงินมาประลองได้ เพื่อแสดงความแตกต่างของทองคำและเงินและให้กำลังใจศิษย์ระดับเงินให้พัฒนาตนเอง ศิษย์ระดับเงินที่ถูกเลือกมิอาจปฏิเสธการประลองได้
“ได้เลย! อีกหนึ่งเดือนข้าจะชนะมันอย่างง่ายดายและได้เป็นราชาทองคำด้วย!”
ฉินเฟิงร่าเริง ตามข้อตกลง หากเขาได้เป็นราชาทองคำ เจียงซื่อฉิงจะยอมหมั้นกับเขา
หลังจากเป็นราชาทองคำเขาจะได้ทุกอย่าง ฉินเฟิงตื่นเต้นและรอหนึ่งเดือนข้างหน้าแทบจะไม่ไหว!
“ไม่นะ! หนึ่งเดือนมันนานเกินไป ข้ารอไม่ได้!”
ทุกวันที่ซือหยูยังอยู่รอบๆ จะเป็นอีกวันที่นางหลับไม่สนิท
ฉินเฟิงเงยหน้าเล็กน้อยและคิดอยู่ชั่วครู่
“ให้ข้าหาทางไล่มันออกจากสำนักไหม?”
“ดี! ทำลายอนาคตมันซะ!”
นางหวาดกลัวมากว่าซือหยูจะเก่งขึ้นไปเรื่อยๆ กลัวว่านางจะต้องเสียใจเมื่อถึงวันนั้น
อาจารย์ใหญ่เย่ชมเชยอยู่ด้านบนที่นั่งพิเศษ
“ช่างเป็นเด็กที่น่าทึ่ง! ฝึกทลายจักรวาลที่ยากจนถึงระดับสามขั้นสูงแล้วหรือนี่ อีกก้าวเดียวเขาก็บรรลุขั้นสูงสุดที่โจมตีได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งแล้ว!”
ซือหยูที่ชนะเจียงซื่อฉิงได้เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งสำนัก เสียงร้องเรียกชื่อซือหยูทั้งไปทั่วทั้งลานประลอง
“ซือหยูสวนกลับเจียงซื่อฉิงที่ทิ้งเขาไปได้แล้ว!”