DND.15 - ศึกคู่รัก
เจียงซื่อฉิงกำลังพักอยู่ข้างๆฉินเฟิง พลังระดับสามของนางทำให้นางเป็นม้ามืดและได้ที่ 1 ของกลุ่ม เมื่อนางจ้องไปยังกลุ่มซือหยูนางก็แอบประหลาดใจอยู่เล็กๆ
ซือหยูแข็งแกร่งกว่าที่นางคิดไว้มาก เขาชนะเจียงฝานได้เลย! นางรู้สึกจุกอก ยิ่งซือหยูแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ นางยิ่งไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น นางไม่อยากจะเห็นซือหยูแข็งแกร่งไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ตอนนี้เองนางก็ได้ยินเสียงอันอบอุ่น
“ฉิงเอ๋อ ถ้าเจ้าต้องสู้กับซือหยู อย่าลืมปรานีเขาด้วยล่ะ เจ้ามีพลังระดับสามแต่เขามีพลังระดับสอง หากเจ้ารุนแรงเกินไปเขาจะบาดเจ็บได้”
ฉินเฟิงถอนหายใจ
“เพราะยังไงเจ้าทั้งคู่ก็เคยอยู่ด้วยกัน การที่พวกเจ้าต่อสู้กันเองจะเพิ่มมลทินแก่ข้า เหมือนกับว่าข้าทำให้เกิดเรื่องวันนี้ขึ้น”
เจียงซื่อฉิงเริ่มตระหนัก ใช่แล้ว! ระดับสามที่สู้กับระดับสอง ไม่ใช่ว่ามีเหยื่อเข้ามาในกำมือนางหรือยังไงกัน? หากนางต้องสู้กับซือหยูนางจะต้องชนะอย่างไม่ต้องสงสัย
นางคลายความไม่สบายใจ
“พี่เฟิงช่างเอื้อเฟื้อยิ่งนัก พี่ไม่ได้ติดหนี้อะไรซือหยู อย่ากล่าวโทษตัวเองเลย”
นางหันไปมองทางซือหยูอีกครั้งด้วยสายตาเย็นชาไร้อารมณ์
“ความสัมพันธ์ของข้ากับเขาจบลงไปนานแล้ว นับแต่นี้ร่างกายและจิตใจข้าเป็นของพี่เฟิงคนเดียว!”
“ส่วนเรื่องซือหยู ข้าจะชนะเขาด้วยพลังสูงสุด เขาจะได้รู้เสียทีว่าเขาไม่คู่ควรกับเจียงซื่อฉิงผู้นี้”
นางมองซือหยูอย่างเยือกเย็น
ฉินเฟิงแอบยิ้ม เขาไม่ได้ห่วงชีวิตของซือหยูเลย เขาเพียงแค่ใช้โอกาสพูดให้เจียงซื่อฉิงสบายใจเท่านั้น เขากลัวว่าใจนางอาจจะเอนเอียงไปหาซือหยูที่เพิ่มพลังขึ้นมา
แต่เมื่อได้ยินนางพูดว่า ‘ร่างกายและจิตใจ’ เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก
เจียงซื่อฉิงช่างงดงามเหลือล้น การได้นางมานับเป็นโชคของฉินเฟิง ดยุคน้อยเช่นเขาพบพานสตรีสวยงามมากมายแต่เจียงซื่อฉิงเป็นคนที่หายากยิ่ง น่าเสียดายที่พวกเขาคบกันเพียงในนามเท่านั้น พวกเขาไม่เคยสัมผัสตัวกันเลย ไม่เคยจับมือกันด้วยซ้ำ
“ฮ่าๆๆ ตามใจเจ้าเลย หนึ่งเดือนจากนี้หลังจากที่ข้าได้ที่ 1 ในการประเมินศิษย์ทองคำแล้วข้าจะขอท่านพ่อจัดงานหมั้นของเรา แบบนี้เป็นไง?”
ฉินเฟิงตื่นเต้น
เจียงซื่อฉิงปลื้มปิติ ร่างกายนางสั่นเล็กน้อย นางพยักหน้าเบาๆ
“ตกลง!”
คำตอบนี้จะเปลี่ยนชีวิตของนาง หนึ่งเดือนนับจากนี้นางจะได้เป็นคู่หมั้นของฉินเฟิง ลูกสะใภ้ของดยุคฉิน นางจะมั่งคั่งและใช้ชีวิตบนจุดสูงสุดเหนือคนหลายพันล้านคน
“ซือหยู! อย่าโทษข้าแล้วกัน มันเป็นเพราะเจ้าใช้ไม่ได้ ความงดงามของข้าไม่ควรจะอยู่กับเจ้า”
นางหลับตา
ฉินเฟิงดีใจมาก
“ข้าจะต้องได้อันดับ 1 ในงานจัดลำดับศิษย์ทองคำ!”
หลีหมิงไห่มองซือหยูอยู่นานอย่างสงสัย วิชาหมัดและขาของเขาทำให้หลีหมิงไห่นึกถึงคนที่ปิดหน้าที่เขาสู้ด้วยบนเขาฮวงหุน
“มีอะไร?”
หลีหมิงห่าวกำลังจะออกจากลานประลองกับหลีหมิงไห่
หลีหมิงไห่พูดอย่างลังเล
“ข้าคิดว่าคนที่ดยุคเซี่ยนหยูหาตัวอยู่มันคล้ายเขามาก วิชาของเขามันคุ้นตามากทีเดียว”
“แค่นั้นรึ?” หลีหมิงห่าวส่ายหัว
“นั่นคือวิชาทลายจักรวาล มีหลายคนฝึกวิชานั้น ตอนนี้มีคนใช้วิชานั้นอย่างน้อยๆสิบคน แต่พลังก็ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เจ้าพูด การโจมตีต่อเนื่องแปดครั้งเป็นพลังวิชาระดับสามขั้นต้น มีแต่ศิษย์ทองคำเท่านั้นที่ทำได้”
หลีหมิงไห่เห็นด้วย ซือหยูเป็นชายน่าสงสารที่ถูกทิ้ง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอยู่ดีๆเขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้ยังไง แต่การฝึกทลายจักรวาลจนถึงระดับสูงถือว่ายากเกินไป
“ข้าอยากจะเห็นฉวนหลีเฟยสั่งสอนเขากับตาจริงๆ แต่ข้าต้องรีบไปผ่อนคลายความเหนื่อยหน่ายขององค์หญิง”
หลีหมิงไห่มองซือหยูและออกไปอย่างไม่เต็มใจ
ซือหยูที่แอบมองสองพี่น้องอยู่โล่งใจ หากหลีหมิงไห่ไม่อยู่แล้วเขาจะเป็นอิสระขึ้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา การจัดอันดับศิษย์ระดับเงินมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว!
หัวหน้าผู้ตัดสินเจียงซื่อฉียืนที่กลางลานประลอง
“การประลองสุดท้ายเพื่อหาราชาระดับเงินเริ่มขึ้นแล้ว! ผู้ชนะทั้งสิบคน ขึ้นมา!”
ซือหยูและคนอื่นขึ้นลานประลอง พวกเขาเป็นผู้ชนะจาก 20 กลุ่ม เจียงซื่อฉิงก็เป็นหนึ่งในนั้น
ราชาเฉินเทียนหนานยังคงนั่งอยู่ที่เดิม หลังจาก 10 คนในลานประลองได้สู้กันแล้ว มีเพียงผู้ที่แกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะประลองกับเขาได้
“จะมีห้าคนถูกคัดออกในรอบแรก อีกห้าคนที่เหลือจะได้เข้ารอบไปประลองกันต่อ”
เจียงซื่อฉีประกาศ
ซือหยูขึ้นไปประลองตามปกติ เขาโชคดีทีเดียวที่ได้เจออันดับ 6 เขาชนะอย่างไม่ต้องสงสัย
เจียงซื่อฉิงโชคดีเช่นกัน นางชนะศิษย์อันดับ 8 อย่างง่ายดาย
จากนั้นอันดับ 3 ซูเซิน อันดับ 2 ฉวนหลีเฟยและอันดับ 5 ฟานหลีชนะทำให้ได้เข้ารอบต่อไป
เหลืออีกห้าคนเท่านั้น!
“เริ่มจับฉลาก! จะมีหนึ่งคนที่ไม่ต้องประลองและเข้ารอบต่อไปทันที”
เจียงซื่อฉีประกาศ
ทั้งห้าคนจับฉลากเรียบร้อย ซือหยูดูฉลากของตัวเองเงียบๆและตกใจ เขาโชคดีเกินไปแล้ว! ฉลากของเขาไม่มีชื่อคู่แข่งซึ่งหมายความว่าเขาจะเข้ารอบทันทีโดยไม่ต้องประลอง
เจียงซื่อฉิงมองเขาหลานครั้งทำให้ทั้งสามคนที่เหลือต้องอิจฉา
ซือหยูยินดีมากที่จะได้ชมการต่อสู้และดูพลังของแต่ละคนไปด้วย
การประลองของเจียงซื่อฉิงกันฟานหลีไม่น่าตื่นเต้นนัก ด้วยพลังระดับสามของนางทำให้นางชนะฟานหลีได้ในสองกระบวนท่าและเข้ารอบต่อไป
ซือหยูดูฉวนหลีเฟยกับซูเซิน หนึ่งในนั้นคืออันดับ 2 ที่มีโอกาสได้สู้กับเฉินเทียนหนานมากที่สุด อีกคนคืออันดับ 3 ที่พลังไม่ด้อยไปกว่ากัน ทั้งสองสำเร็จระดับสามขั้นต้นแล้ว
ฉวนหลีเฟยบนลานประลองหัวเราะ ร่างกายอ่อนช้อยของนางทำให้ชายหลายคนหลงใหล
“ฮ่าๆๆ ซูเซิน เจ้าต้องออมมือหน่อยนะ”
ฉวนหลีเฟยยิ้มซุกซน
ซูเซินใบหน้าเศร้าหมอง หลังจากที่เขาถูกลี่เฉียนทรยศและแพ้หลีหมิงห่าว เขาก็ผิดหวังและไม่สนใจนาง
“มาเริ่มกันเถอะ!”
“มีดกรีดนภา!”
ฉวนหลีเฟยยิ้มตบเอวตัวเอง จากนั้นค้างคาวสีม่วงสองตัวก็บินออกมาจากกระเป๋าสีฉูดฉาด ค้างคาวนี้ต่างจากค้าวคาวธรรมดา มันคือสัตว์อสูรที่ดุร้าย
“สัตว์อสูรประเภทหนึ่ง ค้างคาวโลหิต?”
คนที่รู้จักมันตกใจ!
ซือหยูรู้ว่าสัตว์อสูรมันรับมือยากแค่ไหน
แต่ดูเหมือนว่าค้างคาวโลหิตจะอ่อนแอกว่ามังกรไฟมาก
“มันเป็นสัตว์อสูรที่ยังไม่โตเต็มที่! พลังของมันประมาณระดับสามขั้นต้น”
คนดูรอบๆเริ่มรู้สึกได้
หากมันเป็นสัตว์อสูรโตเต็มวัย ฉวนหลีเฟยคงจะได้เป็นราชาระดับเงินแน่นอน
“แต่ถึงมันจะยังเด็กอยู่มันก็อันตรายมาก ค้างคาวโลหิตส่งคลื่นเสียงที่คนไม่ได้ยินได้และทำให้คนหมดสติ จากนั้นมันจะเข้ามาดูดเลือด พิษในร่างมันจะเข้าสู่คนที่มันดูดเลือดจนทำให้ขยับไม่ได้จนตาย”
“ค้างคาวโลหิตในป่าจะอยู่กันเป็นฝูง หากคนที่มีพลังระดับ 4 ไปเจอมันก็สามารถถูกพิษและขยับไม่ได้ จากนั้นจะโดนฝูงค้างคาวโลหิตดูดเลือดจนตัวแห้งเหือด”
คนที่เพิ่งรู้เรื่องค้าวคาวโลหิตเป็นครั้งแรกถึงกับตัวสั่น
ในลานประลอง ซูเซินท่าทีเปลี่ยนไปและเริ่มกวัดแกว่งมีดยาวในมือโดยหวังว่าจะจัดการค้างคาวโลหิตได้
ฉวนหลีเฟยที่ยิ้มอย่างอ่อนหวานผิวปาก
ทันใดนั้นค้างคาวโลหิตก็อ้าปากและส่งคลื่นเสียงที่ไม่ได้ยิน
อ๊าก--
ซูเซินขมวดคิ้วกัดฟันแน่นและแสดงความเจ็บปวดผ่านใบหน้า ฉวนหลีเฟยใช้โอกาสนี้เข้าใกล้และวางมือเล็กๆของนางบนตัวซูเซิน
ซูเซินอยากจะสวนกลับแต่ค้างค้าวโลหิตทั้งสองตัวปล่อยคลื่นเสียงจากระยะใกล้ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ ท้ายที่สุดซูเซินก็ถูกโจมตีกระเด็นจากลานประลอง
เจียงซื่อฉีพยักหน้าเบาๆ ฉวนหลีเฟยกดดันซูเซินได้และคู่ควรกับอันดับ 2 แล้ว
“ฉวนหลีเฟยชนะ!”
ในตอนนี้เหลืออีกสามคนเท่านั้น! ซือหยู เจียงซื่อฉิง และฉวนหลีเฟย! หนึ่งในสามคนนี้จะมีสิทธิ์ได้สู้กับเฉินเทียนหนาน!
เจียงซื่อฉีแอบมองซือหยู เขาเป็นศิษย์ระดับเงินที่เกือบจะถูกขับออกจากสำนัก แต่มาถึงจุดนี้จนได้!
น่าเสียดายที่เขาจะต้องจบตรงนี้ ทั้งเจียงซื่อฉิงและฉวนหลีเฟยล้วนมีพลังระดับสาม ไม่มีโอกาสที่ซือหยูจะชนะได้เลย
“รอบรองเริ่มขึ้นแล้ว! รอบแรก ซือหยู ประลองกับ เจียงซื่อฉิง!”
คนดูส่งเสียงฮือฮาและรีบเงยหน้าไปยังลานประลอง