ตอนที่ 219 อย่าดูจากภายนอก (FREE)
อย่างไรก็ตามในตอนนี้
แสงสีทองส่องสว่างลงมาจากท้องฟ้า ราวกับน้ำตกที่ไหลลงมาจากฟากฟ้าสู๋พื้นดิน
มันเป็นน้ำตกที่ทรงพลังจากฟากฟ้า ราวกับแม่น้ำสีเงินที่ไหลออกมาจากสรวงสวรรค์
มันคือภูเขาน้ำตก
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้มีภูเขาอยู่ตรงนั้น มีเพียงท้องฟ้าที่ส่องประกายด้วยแสงสีทองอ่อน ๆ มันสูงยิ่งกว่าภูเขาลูกไหนๆ และเป็นกระแสน้ำที่ไหลลงมาอย่างรุนแรง มันเต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง
ภายในกระแสน้ำพวกนั้นมีคมดาบมากมาย
ขณะนี้สายตาของ หยิง ซาน จ้องไปที่กระแสน้ำสีทอง เขารู้สึกถึงบางอย่าง เขาเชื่อมาตลอดว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธ์ปีศาจ
ในโลกก่อนหน้านี้ที่เขาเคยอาศัยอยู่ เขาทรงพลังเป็นอย่างมาก
เริ่มจากการเข้าร่วม 10 เขตแดนปีศาจในฐานะเบี้ยล่าง
เวลาเนิ่นนานผ่านไป เขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสนามรบ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของเขาถูกเขียนลงบนหนังสือ เขาไม่มีภูมิหลังที่สูงส่ง แต่ชีวิตวัยเด็กของเขานั้นช่างโชคร้าย เนื่องจากต้องกล้ำกลืนผ่านชีวิตที่ยากลำบากตลอดมา ร่างของเขาก็เริ่มอ่อนแอลงเพราะขาดสารอาหาร
แม้จะมีความสำเร็จมากมายบนสนามรบก็ตาม โอกาสที่เขาจะตายเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนกระทั่ง ...
เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง
นางคือคนที่เขาจะจดจำไปตลอดชีวิต
เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่ได้พบนาง ไม่มีใครติดตามนางมาเลย แม้นางจะมีสถานะที่สูงส่ง นางก็อยู่อย่างโดดเดี่ยว
หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าของสนามรบที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อ นางเดินไปท่ามกลางเลือดที่ไหลนองจนกลายเป็นสีดำ สุดท้ายนางก็หันมามองที่เขา...
นางพูดขึ้นมาสั้นๆ
"หนังสือนั้นไม่สามารถตัดสินได้เพียงจากหน้าปก"
นี่เป็นคำพูดที่มีชื่อเสียงในดินแดนมนุษย์ หยิง ซาน ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงพูดเช่นนั้นกับเขา อย่างไรก็ตาม นางพูดแบบนี้มาเสมอ ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้ง จนกระทั่งเขาได้เป็น 1 ในรองหัวหน้าของ 10 ดินแดนปีศาจ
ครั้งที่ 2 ที่เขาได้พบกับนาง นางก็พูดอีก
"หนังสือนั้นไม่สามารถตัดสินได้เพียงจากหน้าปก!"
มันยังคงเป็นคำพูดเดิม แต่คราวนี้ หยิง ซาน นั้นเข้าใจดี
เขาเข้าใจว่าสุดท้ายแล้ว ตัวตนของเขาจะได้เปรียบ เขาสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆได้ เขาได้เขามาในโลกมนุษย์และกลายเป็นเผ่าพันธ์ปีศาจที่แฝงตัวอยู่ในตำแหน่งสำคัญของ 13 กองตรวจการ
ภายใน 3 ปี เขาจะกลายเป็นผู้ที่คอยชักนำเผ่าปีศาจในเมืองเหยียน เมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไป เขาจะส่งข้อมูลต่างๆของเผ่ามนุษย์เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเหล่าปีศาจจะได้เปรียบในการทำสงครามกับมนุษย์
ครั้งที่ 3 ที่เขาได้พบกับผู้หญิงคนนั้น ...
ที่ข้างๆทะเลสาบ 10 ไมล์ นางสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์กับเส้นผมที่นุ่มนวลราวกับน้ำตก หยิง ซาน ได้จดจำทุกอย่างที่นางพูดและกระทำเอาไว้
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องการให้เขาได้มีส่วนร่วมในการทดสอบต่อสู้ครั้งนี้
เขาไม่เข้าใจว่าคนที่มียศแบบเขา ทำไมถึงได้รับงานทีู่ไม่สำคัญเช่นนี้
เป็นเพราะเขาไม่ประสบความสำเร็จใน 3 ปีที่ผ่านมานี้เหรอ?
หรือเพาะเขาอายุมากขึ้น?
เขาไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเหตุผลที่จะตั้งคำถามด้วยซ้ำ แต่เขาได้ลองถามหญิงนางหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นได้ตอบว่า
"คนนั้นไม่สามารถตัดสินได้จากรูปลักษณ์ภายนอก!"
ตอนแรก หยิง ซาน ไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เมื่อน้ำตกสีทองตกลงมาจากฟากฟ้า เหนือหัวของเขา จึงได้เข้าใจ
เขาเข้าใจว่าเหตุใดหญิงสาวคนนั้นถึงของให้เขาเข้าร่วมการทดสอบการต่อสู้
เขาเข้าใจแม้กระทั่งทำไมเขาถึงเป็นคนเดียวที่สามารถรับภารกิจนี้ได้
เพราะนี่คือคนที่ตัดสินจากภายนอกไม่ได้อย่างแท้จริง!
มนุษย์อายุ 15 ปีมีสติปัญญาเหนือกว่าใครจะเปรียบได้ และตอนนี้เขาได้แสดงพรสวรรค์ในการต่อสู้เกินกว่าที่ใครจะเทียบเคียง
ถ้าบุคคลนี้ยังมีตัวตนอยู่ในโลก เผ่าพันธุ์ปีศาจต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน!
"ฆ่า!"
หยิง ซาน เลิกสนใจ ซิง ฉิงซุย ที่อยู่ใกล้ๆ
เนื่องจากเป้าหมายที่แท้จริงของเขาในการทดสอบต่อสู้มีเพียง 1 เดียว คนนั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ คนที่นายเหนือหัวแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจต้องการให้เขาเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อทำให้มันต้องตายให้ได้
...
ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง หญิงสาวในชุดกระโปรงขาวกำลังเริงระบำอยู่ท่ามกลางสายฝน
นางถือร่มสีเขียวไว้ในมือ ภาพวาดหมึกบนร่มนั้นดูสดใสกว่าที่เคย ข้างๆผู้หญิงคนนี้หินสีแดงจางๆ ถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่องโดยสายฝนที่ตกลงมาจนผิวเรียบลื่น
เรือลำน้อยลอยผ่านหน้านางไปในทะเลสาบ
สร้างเส้นจางๆบนพื้นผิวทะเลสาบ
ไม่นานหลังจากนั้นเรือก็หยุดอยู่ข้างทะเลสาบ
ผู้หญิงสองสามคนสวมชุดสีเขียวเดินลงมา ไม่มีใครถือร่ม ฝนตกกระทบใบหน้าของพวกนาง แต่ทุกคนยังเต็มไปด้วยความย่ำเกรง
"นายทา่น"
"ว่า" หญิงสาวพยักหน้า แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
"มีข่าวจากเมืองเหยียน โลกแห่งเซียนได้หลุดออกจากการควบคุม ข้าเดาว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับท่าน หยิง ซาน? " หญิงสาวในชุดสีเขียวที่ด้านหน้า พูดออกมาเบาๆ
"ไม่เกี่ยวข้องกัน" นางไม่แม้จะต้องคิด ส่ายหัวออกมาเบาๆ
"นายท่านรู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร?" หญิงสาวในชุดสีเขียวค่อนข้างสับสน อย่างไรก็ตามนางไม่กล้าที่จะแสดงความสงสัยใด ๆ
"ฟาง เจิ้งจือ!"
"ฟาง เจิ้งจือ?! ไม่ว่าเขาจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน เขาก็เป็นเพียงมนุษย์ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์เท่านั้น ด้วยอำนาจของท่าน หยิง ซาน, ฟาง เจิ้งจือ ต้องตายไปแล้วแน่นอน แล้วการที่โลกแห่งเซียนหลุดจากการควบคุม จะเกี่ยวข้องกับ ... " หญิงสาวในชุดเขียวหยุดพูดและคุกเข่าลงทันที
"ไม่เป็นไร ลุกขึ้น จริงๆแล้วความน่าจะเป็นที่ หยิง ซาน จะฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ได้มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น หรืออาจกล่าวได้ว่ามีเพียง 5% " หญิงสาวมองไปยังเมืองเหยียนด้วยท่าทีขบคิด
"ขอบคุณนายท่าน! แต่ทำไม ... โอกาสถึงน้อยเพียงนั้น? ท่าน หยิง ซาน เป็นถึง... " หญิงสาวในชุดเขียวค่อยๆลุกขึ้นยืน การแสดงออกของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ อย่างไรก็ตามนางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อ
เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านางคือนาย ในเวลาเดียวกัน นางถูกเรียกว่าอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่สุดของเผ่าปีศาจในรอบพันปี ความรู้ทั้งหมดของนางช่างมากมาย เกินที่ใครจะหยั่งถึง
"อันที่จริงเหตุผลที่ข้าส่ง หยิง ซาน ไป คือเพื่อชะลอการเข้าร่วมกับรัฐบาลของ ฟาง เจิ้งจือ " หญิงสาวพูดอย่างใจเย็น
"แต่ถึงกับใช้รองหัวหน้าดินแดน... "
"คุ้มค่ามาก"
"..." หญิงสาวในชุดสีเขียวเงียบ
"ผู้ชนะบนทำเนียบมังกรทั้ง 2 จะทำให้โลกตกตะลึง และนำพาโลกไปสู่ความสงบ!"
"ข้าเข้าใจแล้ว ข้านั้นช่างโง่และมองเพียงตื้นๆ!"
"เจ้าไปได้"
"รับทราบ!"
ลมกระโชกแรงพัดผ่านมา หญิงสาวยกหัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามของเธอมองไปที่เมืองเหยียน อีกครั้ง ผมสีดำของนางปลิวไปตามสายลม ผ้าปิดหน้าก็เปิดออกเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงาม
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้ เขาต้องนึกชื่อผู้หญิงคนนี้ออกทันที
เพราะชื่อของนางคือ ...
หยุน ชิงวู?
เพจหลัก : Double gate TH