DND.11 - ประเมินศิษย์ระดับเงิน
เมื่อมองธนูยาวอันใหม่ของนางก็ทำให้ซือหยูคิดว่านางจะต้องมั่งคั่งหรือไม่ก็มีอำนาจมาก
ผมของนางเปียกราวชื้นราวกับเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆ กลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งกระจายไปทั่ว นางราวกับดอกบัวอันงดงามอ่อนช้อยที่บานหลังฝนตก
“เข้ามาสิ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในนั้น”
นางโบกมือเบาๆและเชิญซือหยูเข้าไปด้วยแววตาสดใส
ซือหยูตกใจ
“ศิษย์ระดับเงินเช่นข้าไม่มีสิทธิ์เข้าไปในนั้นหรอก แต่ข้าขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อ”
“ไม่เป็นไร ข้าอนุญาต”
นางยิ้มและเดินเข้าไป
ซือหยูไม่ใช่คนโง่ เขาจึงขอบคุณและรีบเข้าไป กลางห้องฝึกมีสระน้ำสีหยกเล็กๆที่มีควันสีขาวลอยออกมา
กลิ่นหอมของนางลอยฟุ้งในอากาศ ซือหยูพร้อมจะถอดเสื้อและเข้าไปในสระแล้ว
ทันใดนั้นก็เกิดลมรุนแรงมาพุ่งมาจากด้านหลัง มันเร็วจนซือหยูตั้งตัวไม่ทัน
เขารู้สึกตาพร่า ดูเหมือนใครจะหยิบอะไรไปจากข้างสระ ในตอนนั้นซือหยูใช้พลังดวงตาและเร่งเวลาเพื่อให้เห็นอย่างชัดเจน
นางนั่นเอง!
ใบหน้านางแดงและเขินอายเล็กน้อย นางขบริมฝีปากเบาๆและรีบไปคว้ากระโปรงที่ข้างสระ นางลืมกระโปรงทิ้งไว้นั่นเอง
นางเข้าและออกเพียงชั่วพริบตา คนธรรมดาไม่มีทางมองเห็นแน่ คงรู้สึกได้แต่สายลมอันรุนแรง
ซือหยูรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องเข้าไปใกล้ประตูหินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากถอดเสื้อและลงสระแล้วเขาก็ยังคงตกใจ นางแข็งแกร่งมาก ความเร็วของนางเร็วจนเขาเทียบไม่ติด! นอกจากตัวตนเหนือผู้อื่นแล้วระดับพลังของนางยังสูงอีกเหรอ?
ซือหยูฝึกด้วยความระคายใจ
ซือหยูจุ่มทั้งตัวลงในสระมรกตและรู้สึกถึงความผ่อนคลายในกล้ามเนื้อทุกส่วน เขารู้สึกว่าร่างกายเขาค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆ
“ไม่แปลกใจเลยว่านี่คือห้องฝึกชั้นสูง! มันเพิ่มพลังได้ดีจริงๆ!”
ซือหยูคิดกับตัวเอง เขารีบหยิบโอสถวิญญาณมาใช้ร่วมกับสระวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังอย่างเข้มข้น!
อีกสามวันเท่านั้นจะถึงวันประเมินศิษย์ระดับเงิน เขาต้องรีบเพิ่มพลังเพื่อที่จะได้ถูกจัดอันดับสูงๆ
หนึ่งวันผ่านไป ห้องลับนั้นเงียบสนิท
สองวันผ่านไป มีเสียงหมัดออกมาเป็นครั้งคราว
สามวันผ่านไป มีลมเล็ดลอดออกมาจากห้องราวกับว่ามีเงาบินไปรอบๆพร้อมเสียงเสียดสีของเสื้อผ้า
ยอดเยี่ยม! ผลของห้องฝึกชั้นสูงช่างน่าอัศจรรย์! ซือหยูพอใจมากและรู้สึกถึงโลหิตที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง
เขาใช้โอสถวิญญาณระดับต่ำไปสามขวดพร้อมกับระดับกลางอีกหนึ่งขวด ร่วมกับผลของสระวิญญาณทำให้เขาได้สำเร็จระดับสองขั้นสูงแล้ว! เขาห่างจากระดับสามเพียงคืบเดียวเท่านั้น!
ในตอนนั้นทลายจักรวาลก็บรรลุระดับสามขั้นสูงและหมัดของเขาสามารถปล่อยได้ต่อเนื่อง 16 ครั้ง! มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะป้องกันมันได้
เมื่อเขาบรรลุระดับสามอย่างหมดจดเขาจะปล่อยหมัดได้อย่างต่อเนื่องไร้ขีดจำกัด ใครกันจะป้องกันเขาได้?
เงาเมฆาพัฒนาขึ้นมากในระดับหนึ่ง ซือหยูสามารถกระโดดไกลสามเมตรอย่างง่ายดาย ร่างกายของเขาเบาและสง่างามราวกับนกนางแอ่น ความคล่องแคล่วและความเร็วของเขาเทียบได้กับจอมยุทธระดับสามแล้ว!
“พี่เฟิง พรุ่งนี้จะถึงวันประเมินแล้ว ข้าอยากจะเข้าห้องฝึกชั้นสูงจังเลย”
คู่รักกำลังเดินมาที่ห้องฝึก
ผู้หญิงที่เดินมาคือธิดาจิ้งจอกเจียงซื่อฉิง นางพูดออดอ้อนชายหน้าตาหล่อเหลาข้างๆ
ฉินเฟิงพอใจที่นางอยากจะพึ่งพาเขาแต่เขาก็ละอายใจ สำนักนี้วิเศษมากแต่แม้จะเป็นเขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยังห้องฝึกชั้นสูง
“ฉิงเอ๋อ รอก่อน ห้องนี้มีแสงลอดออกมา นั่นหมายความว่าข้างในมีคนอยู่ หากเขาฝึกเสร็จแล้วข้าจะขอเขาดู ดีไหม?”
ฉินเฟิงพูดโดยเชื่อว่าดยุคน้อยเช่นเขาน่าจะเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายได้
เจียงซื่อฉิงดีใจ นางรู้สึกว่าอะไรก็เป็นไปได้หากอยู่กับฉินเฟิง เมื่อคิดถึงชีวิตที่อยู่กับซือหยูแล้วนางก็ส่ายหัว หากเพียงนางเจอฉินเฟิงก่อนและได้เงินกับอำนาจของเขาสนับสนุนนางก็น่าจะได้เป็นศิษย์ทองคำแล้ว
ข้าในอดีตช่างโง่เขลา เจียงซื่อฉิงถอนหายใจ
เอี๊ยด-
ประตูเปิดออกและชายหนุ่มที่มีไอน้ำรอบตัวก็ก้ามออกมา ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยและผายมืออย่างสุภาพ
“ท่านครับ ข้าฉินเฟิง บิดาข้าเป็นดยุค ข้าอยากจะขอท่านยืมใช้ห้องลับได้หรือไม่?”
ซือหยูที่เพิ่งออกมาหันไปฟังเสียงด้วยความประหลาดใจ
“โอ๊ะโอ...นี่เป็นของเพื่อนข้าน่ะ ข้าไม่มีสิทธิ์ให้เจ้ายืมหรอก”
ซือหยูตอบ เขาปิดประตูหินและเดินผ่านพวกเขาไป
เขาพยักหน้าเบาๆให้เจียงซื่อฉิงและเดินผ่านอย่างไร้อารมณ์ เขาไม่ได้มองตานางเลย แม้ว่าเขาจะมองนาง เขาก็ไม่แสดงท่าทีว่ารู้จักกันมาก่อน...ราวกับนางเป็นคนแปลกหน้า
คู่รักตกตะลึง
ฉินเฟิงทั้งตกใจและโกรธ เขาตกใจที่เจ้าเด็กยาจกนั่นเข้าห้องฝึกชั้นสูงที่แม้กระทั่งเขาก็ยังห้ามเข้าได้ และโกรธที่เขาขอร้องเจ้ายาจกนั่น!
เจียงซื่อฉิงยังคงตกใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ซือหยูมีสิทธิ์เข้าห้องฝึกชั้นสูง?
“เฮ๊อะ! ฉินเอ๋อ เจ้ามิต้องกังวล มันจะไปได้ซักกี่น้ำ! วันประเมินพรุ่งนี้ข้าจะทำอะไรให้มันดู!”
ฉินเฟิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
การพูดถึงวันประเมินทำให้เจียงซื่อฉิงดึงสติกลับมา ด้วยความสนับสนุนของฉินเฟิง นางได้สำเร็จระดับสามแล้วและหวังว่าจะได้สู้กับอันดับหนึ่งของศิษย์ระดับเงินเฉินเทียนหนาน!
อีกไม่กี่เดือนถัดจากนี้นางจะเป็นศิษย์ทองคำและเป็นที่สุดของที่สุด!
ซือหยูก็แค่สำเร็จระดับสองด้วยโชค อย่างมากเขาก็กลับบ้านและเป็นครูฝึกจอมยุทธไม่ก็นักล่า ใช้ชีวิตเฉกเช่นสามัญชน
เทียบกับนางที่ถูกลิขิตให้เป็นสตรีหมายเลขหนึ่งแล้วช่างต่างกันเสียจริง
ซือหยู...ไม่ใช่ข้าที่ใจร้าย แต่เจ้ามันไร้ประโยชน์ เจ้าให้สิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้ เจียงซื่อฉิงทำใจให้เย็นและคิดว่าสิ่งที่นางเลือกจะต้องไม่ผิด
ซือหยูกลับมาที่ห้องและอูซงก็เดินตามเขาราวกับสุนัข เขาแทบจะจำซือหยูตอนนี้ไม่ได้!
“ศิษย์พี่หยู ท่านกลับมาแล้ว ฮ่าๆๆ นี่เป็นสารท้าประลองที่ข้ารวบรวมมาทั้งแปดวัน!”
อูซงพูดอย่างเคารพและยกสารท้าประลองห้าฉบับขึ้นมา
ซือหยูที่อยู่ดีๆก็ชนะเฉินเฟิงและก้าวเข้าสู่หนึ่งในร้อยของศิษย์ระดับเงินได้สร้างความไม่พอใจแก่ศิษย์ระดับเงิน ทำให้พวกเขาอยากจะประลองด้วย ซือหยูไม่ได้สนใจเลย...ยกเว้นฉบับหนึ่งที่ทำให้เขาต้องเบิกตากว้าง มันเป็นสารท้าประลองที่เขียนด้วยเลือด! มีเพียงไม่กี่ประโยคบนนั้น
‘วันประเมินศิษย์ระดับเงิน เจ้าจงมารับความตายซะ! จากราชาระดับเงิน เฉินเทียนหนาน!’
เฉินเทียนหนานงั้นเหรอ? ซือหยูตัวแข็งทื่อ
เฉินเทียนหนานคือศิษย์ระดับเงินที่แกร่งที่สุด ราชาระดับเงินเป็นพี่ชายของเฉินเฟิง เขาจะต้องมาล้างแค้นให้กับเฉินเฟิงแน่
อูซงที่มองซือหยูอยู่พูดกับเขา
“ศิษย์พี่หยู ท่านจะลาสำนักเพื่อเลี่ยงราชาระดับเงินไหม?”
“ไม่จำเป็น!”
ซือหยูเขียนตอบกลับด้วยหมึกในสารท้าประลอง
‘ราชาระดับเงิน พรุ่งนี้ เจ้าเตรียมรักษาชื่อเอาไว้ให้ดี!’
อูซงอ้าปากค้าง ซือหยูกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน!
....
และแล้ววันที่ศิษย์ระดับเงินต่างไม่สบายใจก็มาถึง
การประเมินนี้จะคัดศิษย์ระดับเงินออกไปครึ่งส่วน จะมีห้าพันคนที่ต้องกลับบ้าน นั่นหมายความว่าเส้นทางจอมยุทธของพวกเขาจะพบจุดจบเช่นสามัญชน คือเป็นนักล่าในหมู่บ้านอันห่างไกลหรือเป็นครูฝึกจอมยุทธที่ใช้ชีวิตอย่างธรรมดา
ซือหยูมาถึงที่ประเมินเร็วกว่าปกติและนั่งเงียบๆตรงที่นั่งคนดู
มีคนรู้จักเขาไม่มากนักและไม่มีใครสนใจเขา
“ดูนั่นสิ! ลำดับสองกับสามอยู่นั่น!”
ดูจากสายตาแล้วศิษย์ระดับเงินจำนวนมากให้ความเคารพและตื่นเต้นมาก
ศิษย์ระดับเงินสองคนชายหนึ่งและสตรีอีกหนึ่งดึงดูดความสนใจจากสายตานับพันคู่ราวกับเป็นดวงดารา
ซือหยูเคยเห็นลำดับสามมาก่อน ซูเซินนั่นเอง
แปดวันก่อนตอนที่เขาสู้กับหลีหมิงห่าว เขาล้มไปกองกับพื้น คนรักตั้งแต่วัยเด็กชื่อหลีเฉียนได้ทิ้งความรักและซูเซินไป นางกลายเป็นของเล่นของหลีหมิงห่าวเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีกว่า
ซูเซินที่พบเจอกับความยากลำบากมาสภาพไม่ค่อยพร้อมและรู้สึกถึงความไม่สบายใจได้จากเขา
ข้างเขาคืออันดับสอง ฉวนหลีเฟยที่สำเร็จระดับสามแล้ว นางหน้าหวานและยิ้มแย้มแต่ก็มีเล่ห์เหลี่ยมในแววตาซุกซนของนาง นางมีเสน่ห์ยั่วยวนแม้จะอายุเพียง 14 ปี
“ฉวนหลีเฟยอาจจะได้เป็นราชาระดับเงินก็ได้! ปีที่แล้วนางแพ้เฉินเทียนหนานแค่ก้าวเดียว ปีนี้นางฝึกหนักมากจนสำเร็จระดับสามไปแล้ว”
“โอกาสคงไม่เยอะเช่นนั้นแน่ พลัง’เงาอสูร’ของเฉินเทียนหนานทั้งลึกลับและคาดเดามิได้ เขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ คนที่สู้กับพลังนี้ได้ต่างหากถึงเป็นศัตรูที่แท้จริงของเขา!”
การเข้ามาของคนอีกสองคนทำให้เกิดเสียงฮือฮาอีกครั้งหลังจากเงียบอยู่ชั่วครู่
“ดูนั่น! สาวงามแห่งสำนักเจียงซื่อฉิง!”
“ฉินเฟิงก็มากับนางด้วย!”
ซือหยูมองไปยังพวกเขาทั้งสองโดยไม่คิดอะไร
กลุ่มลับเปิดแล้ว รายละเอียดในเพจเลยจ้า