ตอนที่แล้วDND.8 - กำไรจากเหตุพิพาท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.10 - ดยุคเซี่ยนหยู

DND.9 - ชักศึกเข้าบ้าน


มังกรไฟพุ่งเป็นเส้นตรงไปทางหญิงสาว

เมื่อรู้สึกถึงวิกฤติ ท่ามกลางความตื่นตระหนักที่ต้องการจะเอามันออกไปให้ไกล นางได้หยิบบอลสีเงินออกมาจากเสื้อ

ตู้ม-

เกิดเสียงดังราวกับฟ้าผ่า

แก้วหูของซือหยูสั่นอยู่บนต้นไม้ กำลังภายในของเขาสั่นสะเทือนจนเกือบตกจากต้นไม้

ทันใดนั้นแรงระเบิดมหาศาลก็ปะทุออกมาทำให้บริเวณรอบๆสั่นอย่างบ้าคลั่ง

มังกรไฟโดยแรงระเบิดและร้องโหยหวนออกมา

หัวของมันโดนระเบิดหายไปครึ่งส่วนเหลืออีกส่วนที่โชกเลือดเอาไว้ เกล็ดใหญ่ตรงส่วนหัวของมันหลุดออกเป็นแผลใหญ่

ความเจ็บปวดทำให้มันโกรธมาก มันบิดตัวไปมาอย่างบ้าคลั่งและพุ่งตรงไปยังหญิงสาว มันอ้าปากกว้างพร้อมที่จะเขมือบนาง

ซือหยูแอบส่ายหัว พลังระเบิดของหญิงสาวน่ากลัวมาก! มันต้องเป็นสมบัติที่ใช้ในยามฉุกเฉินราคาแพงแน่ หากเป็นสถานการณ์ปกติระเบิดนั่นจะต้องฆ่าจอมยุทธระดับสามขั้นสูงได้เลย

แต่หญิงสาวตัวน้อยก็ตื่นตระหนกเกินไป ห่างจากส่วนหัวเจ็ดนิ้วคือหัวใจของอสรพิษ หากเธอเล็งไปตรงนั้นมันคงตายแล้ว

ซือหยูที่เห็นสถานการณ์ย่ำแย่ดึงธนูสีชาดออกมา เขาใช้พลังดวงตาและเล็งไปที่จุดสำคัญ เขาเล็งไปตรงแผลใหญ่ของมันและปล่อยลูกธนูทันที

ฟึ่บ-

ธนูแล่นไปตรงเป้าพอดี! แต่มันก็ไม่ทะลุหัวใจเพราะผิวของมันหนาเกินไป แม้ธนูจะแล่นตรงจุดมันก็เจาะทะลุไปไม่ถึงส่วนหัวใจ

มังกรไฟร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด มันเชิดหัวหาคนที่ยิงธนูใส่มันจากบนต้นไม้ด้วยความโกรธ

“มองอะไรกัน? เจ้าปีศาจ!”

ซือหยูใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเพราะเขาไม่มีวิธีป้องกันตัวเองจากสัตว์อสูรที่มีพลังอยู่ในระดับสาม

ซือหยูยิงธนูอีกดอกทันทีโดยไม่ลังเล ธนูดอกนี้แม่นยำมากและเขายิงใส่ลูกธนูที่ปักอยู่บนตัวมันดอกแรก มันทำให้ธนูดอกแรกฝังลึกลงไปอีกและทะลุหัวใจของมัน

มังกรไฟคำราม มันอ้าปากและพ่นพิษสีดำออกมาเขี้ยวของมันถูกชะโลมด้วยพิษเหลว

ซือหยูรีบย้ายไปหลังต้นไม้อย่างรวดเร็ว

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างทะลุมาจากต้นไม้ข้างหลังเขาอย่างแรง

เขาหันไปมองและพบมังกรไฟบนพื้นดิ้นด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะตาย เขาเข้าไปหามันตอนที่มันหยุดนิ่ง

สำหรับหญิงสาวคนนั้น ดูเหมือนสตินางยังคงลางเลือนจากแรงระเบิด

ซือหยูโล่งใจและเก็บถุงน้ำดี เขี้ยว และหนังของมันมาโดยไม่ลังเล มันมีค่ามหาศาล หลังจากเสร็จแล้วเขาก็มองมีดที่ถืออยู่ด้วยความประหลาดใจเพราะหนังของมันแข็งกว่าที่เขาคิดไว้

เขาดีใจมาก โชคดีที่ระเบิดนั่นระเบิดหนังของมันออกไปจนพบจุดสำคัญ ไม่เช่นนั้นลูกธนูเพียงอย่างเดียวคงเจาะทะลุหนังหนาๆของมันไม่ได้แน่

เมื่อซือหยูลุกขึ้นและกำลังจะออกไปเขาก็ได้ยินเสียงโอดครวญเบาๆจากข้างหลัง

เมื่อเขามองกลับไปก็พบใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาวที่ใช้ระเบิด นางเหงื่อไหลเต็มหน้าผากและหายใจแรง อกของเธอขยับขึ้นลงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

“แย่ล่ะสิ! นางโดนพิษ!”

ซือหยูไปดูนางและพบชิ้นส่วนเขี้ยวที่เคลือบพิษสีดำเจาะทะลุเสื้อผ้าถูกอกของนาง

ก่อนที่มังกรไฟจะตาย มันได้ปล่อยพิษพร้อมเศษเขี้ยวเพื่อโจมตีสวนกลับ นางถูกเขี้ยวจนติดพิษ

ซือหยูถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวโดยไม่ลังเล เขาตรวจสอบและพบเศษเขี้ยวที่อกด้านขวาของนาง

เนื้อบริเวณแผลนางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม บ่งบอกว่าพิษได้กระจายไปในร่างแล้ว เมื่อพิษเข้าสู่หัวใจ พลังเหนือธรรมชาติใดๆก็ช่วยนางไม่ได้

ในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้ การช่วยเหลือคนเจ็บคือสิ่งสำคัญ ซือหยูขยับมือรวดเร็วปานสายฟ้าและใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบเศษเขี้ยวพิษออกมาอย่างระวัง

“โชคดีที่แผลนางใหญ่ ข้าไม่ต้องผ่ามันเพิ่ม ไม่อย่างนั้นนางคงจะได้แผลเป็นขนาดใหญ่แน่”

ซือหยูดูแผลของนางอย่างรวดเร็วและพยักหน้าให้ตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงและเช็ดเลือดที่ปากแผลออก จากนั้นเขาก็ใช้ปากดูดเลือดที่ผสมกับพิษออกมา

หญิงสาวที่ไม่ได้สติดูเหมือนจะเจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา

ซือหยูดูดเลือดพิษและรีบพ่นทิ้งก่อนที่มันจะเข้าเส้นเลือดในปากของเขา หลังจากนั้นเขาก็ก้มหัวและดูดเลือดจากแผลต่อไป

หลังจากดูดเลือดออกมาหกครั้ง เลือดก็กลับมาเป็นสีแดงชาด ซือหยูห้ามเลือดให้นาง และเริ่มรู้สึกว่าปากของเขาชาเล็กน้อง ดูเหมือนพิษจะเข้าสู่เส้นเลือดของเขาไปบ้าง

แต่นี่มันก็คุ้มค่าเพราะนางเริ่มหายใจคงที่และถึงแม้จะหมดสติ ชีวิตของนางก็มิได้ตกอยู่ในอันตรายแล้ว

ซือหยูนั่งลงและนำเสื้อผ้าของนางมาคลุมตัวนางก่อนจะรีบออกไปทันที

เขารู้สึกว่าการช่วยผู้หญิงแบบนี้แทนที่จะได้รับความพอใจ มันน่าจะมีโอกาสมากที่จะถูกเข้าใจผิด ซึ่งจะทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตราย

เพราะยังไงผู้หญิงเสื้อม่วงนั่นก็สำเร็จระดับสามแล้ว! และเขายังอยู่ในที่รกร้าง หากมีคำสั่ง ผู้หญิงเสื้อม่วงคงจะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย

“เจ้าทำอะไรน่ะ?”

เมื่อซือหยูกำลังจะหนีไป องครักษ์ร้อยก็ยืนโงนเงนและพบคนแปลกหน้ากำลังจะลอบออกไป

เขายังเห็นมังกรไฟที่ถูกตัดเอาจุดสำคัญออกไปหมดอีกด้วย! เขาโกรธมาก

“เจ้าเป็นโจรขโมยของของพวกข้างั้นเรอะ!?”

ตอนเขาหมดสติ เขาได้ยินเพียงเสียงดังกึงก้อง ในใจเขาคิดว่าองค์หญิงน้อยได้ใช้ระเบิดฆ่ามังกรไฟไปแล้ว

แต่เขาก็ไม่คิดว่าเมื่อเขาได้สติ เขาจะเห็นองค์หญิงหมดสติและส่วนสำคัญของมังกรไฟถูกขโมยไป!

ซือหยูไม่หันหลังเขา เขายังคงระวังตัวและใช้โอกาสฉีกเศษเสื้อผ้ามาปิดหน้าเขาและหนีไปอย่างไม่ลังเล

เขาไม่คิดว่าพิษน้อยนิดในร่างกายเขาจะเริ่มมีผลทำให้ร่างกายเขาเสียความเร็วและใช้เงาเมฆาได้ไม่เต็มที่

“เจ้าจะไปไหน!?”

เด็กหนุ่มระดับสองขั้นสูงใช้โอกาสนี้ไล่ตามซือหยู

ซือหยูหันมาพูดอย่างเย็นชา

“ฮื่ม! ข้าเป็นคนช่วยพวกเจ้าทั้งหมด! เจ้าไปดูสภาพพรรคพวกเจ้าก่อนเถอะ”

องครักษ์ระเบิดความโกรธ

“ไอ้โจร! เจ้ากล้าดียังไง! เจ้าทำร้ายเจ้านายและขโมยเหยื่อของเราโดยไม่บอกกล่าว แล้วปากเจ้ายังพ่นคำโกหกออกมาอีก! ระดับสองขั้นสูงอย่างเจ้าจะไปฆ่ามังกรได้ยังไง? เจ้าคือคนที่ทำร้ายพวกเราและขโมยเหยื่อของเราไปแน่นอน!”

“รับไปซะ! หมัดพยัคฆ์พิโรธ!”

เขากระโดดสูงราวกับพยัคฆ์ที่กำลังกระโดดลงจากภูเขาเข้าไปหาซือหยู

หมัดพยัคฆ์พิโรธเป็นวิชาบ่มเพาะพลังขั้นกลางที่แข็งแกร่งมาก! มันระดับสูงกว่าทลายจักรวาลของซือหยู

ซื้อหยูเกรี้ยวกราด

“นี่หรือวิธีแสดงความขอบคุณความเอื้อเฟื้อของข้า!”

“ทลายจักรวาล!”

ร่างกายของซือหยูเริ่มเร็วขึ้น เขาเตะและต่อยอย่างต่อเนื่องสวนกลับไป

หมัดและลูกเตะของเขาเคลื่อนไหวเร็วจนเห็นเป็นแค่เงาโจมตีไปที่ส่วนอกของศัตรูพร้อมๆกัน

องครักษ์ที่ถูกหมัดและลูกเตะโจมตีใส่พร้อมๆกันร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และวิชาหมัดของเขาก็หยุดลงทันที

แต่ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบก็มีหมัดชกมาที่จุดเดิมอีกครั้ง

เขาทั้งโกรธและกลัว เขาใช้แขนทั้งสองข้างป้องกันหน้าอกของตัวเอง เมื่อศัตรูหยุดโจมตีเขาจะใช้โอกาสนั้นสวนกลับ

แต่ศัตรูของเขายังคงปล่อยหมัดและเตะอย่างต่อเนื่อง ต่อยและเตะซ้ำๆไปยังจุดเดิม

หมัดและลูกเตะปล่อยออกไปจนถึงการโจมตีสุดท้ายเมื่อซือหยูยกขาขึ้นไปกลางอากาศและเตะใส่แขนทั้งสองข้างขององครักษ์อย่างแรง

อ๊ากก-

เด็กหนุ่มทนไม่ไหวอีก แขนทั้งสองข้างบาดเจ็บอย่างรุนแรงและร่างของเขาก็กระเด็นไปไกลราวห้าเมตรทำให้เขาตกตะลึง ศัตรูของเขาแค่สำเร็จระดับสองขั้นกลางแต่ก็ชนะเขาได้!

วิชาเตะและต่อยที่ผสมกันแบบแปลกๆนี้เป็นวิชาบ่มเพาะพลังพื้นฐานแน่นอน แต่ก็มีพลังเหนือกว่าเขา!

เหตุผลที่ซือหยูชนะเขาได้เพราะว่าองครักษ์ได้ผ่านการต่อสู้อันยากลำบากมาและใช้พลังไปจนหมด ประกอบกับเขาเพิ่งจะได้สติจึงแสดงพลังที่แท้จริงออกมาไม่ได้

หลังจากเตะเขาจนกระเด็นไปแล้ว ซือหยูก็ได้เงาเมฆาหนีทันที ไม่นานเขาก็หายไปในหมู่แมกไม้

เมื่อซือหยูหนีไปหญิงสาวเสื้อม่วงก็ตื่นขึ้นและฟื้นพลังเต็มที่!

“หลีหมิงไห่ เกิดอะไรขึ้น?”

นางถามด้วยความมึนงงและยืนอย่างไม่มั่นคง นางเพียงเห็นเงาคนทำให้หลีหมิงไห่กระเด็นและหนีออกไปอย่างรีบร้อน

เขาอธิบายสถานการณ์กับหญิงสาวอย่างน่าสังเวช

หญิงสาวเสื้อม่วงตกใจ แต่นางก็ไม่ได้ห่วงเรื่องมังกรไฟเพราะนางห่วงเรื่ององค์หญิงมากกว่า

นางไปทางองค์หญิงและตรวจสอบ เมื่อยืนยันได้ว่าชีวิตขององค์หญิงปลอดภัยนางก็เบาใจ แต่นางเป็นคนละเอียดจึงเห็นชุดขององค์หญิงไม่ที่ไม่เรียบร้อยและเห็นคราบเลือดที่อกของนาง! และยังเห็นเลือดสีคล้ำกับเศษเขี้ยวพิษข้างๆองค์หญิง!

ดูเหมือนนางจะคิดอะไรบางอย่างได้ นางหน้าซีดและเค้นเสียงพูด

‘หลีหมิงไห่ เจ้าออกไปก่อน!’

เมื่อเขาไปนางก็ถอดเสื้อผ้าขององค์หญิง นางพบแผลจากเขี้ยวพิษและร่องรอยผิวสีคล้ำที่ถูกพิษ! แต่เลือดที่ผสมพิษได้ถูกเอาออกไปและชีวิตองค์หญิงก็ไม่อยู่ในอันตราย

ทันใดนั้นนางก็เห็นรอยดูดจากแผลเพื่อช่วยชีวิตองค์หญิง นางเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวและเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิง!

นางหันไปด้วยความโกรธและพูดอย่างเย็นชา

“ผู้อาวุโสฉิน ทำไมท่านไม่หยุดมัน? ร่างกายขององค์หญิงประเมินค่ามิได้ นางจะยอมรับที่ร่างกายถูกชายสัมผัสได้อย่างไร? ชื่อเสียงของนางล่ะ? หากดยุคเซี่ยนหยูรู้เรื่องนี้เข้าเขาจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่”

ฟึ่บ-

เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกับลม ชายแก่ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า

ชายแก่คนนี้อยู่ที่ต้นไม้อีกต้นตั้งแต่แรก ซือหยูไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ!

ชายแก่คนนี้พลังน่ากลัวจนพูดออกมาไม่ได้ เขาเป็นจอมยุทธชั้นสูงที่แอบปกป้ององค์หญิงอย่างลับๆ

ไม่ว่าดยุคเซี่ยนหยูจะใจร้ายกับลูกสาวยังไง เขาก็ไม่เสี่ยงให้ลูกสาวที่พลังยังอ่อนแอเข้าไปในภูเขาเพียงลำพัง ผู้อาวุโสฉินที่แอบปกป้องนางจะออกมาทันทีเมื่อชีวิตองค์หญิงตกอยู่ในอันตราย

Banshee

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด