ตอนที่แล้วDND.9 - ชักศึกเข้าบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.11 - ประเมินศิษย์ระดับเงิน

DND.10 - ดยุคเซี่ยนหยู


เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดผู้อาวุโสก็หัวเราะเบาๆ

“หนุ่มน้อยคนนั้นช่วยชีวิตองค์หญิงและไม่ได้ทำอันตรายใดๆต่อนาง ตามข้อตกลงข้าทำได้เพียงปกป้องนางจากอันตรายเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นข้ามิอาจแทรกแทรง”

“หากจะเป็นข้า ข้าก็ต้องใช้วิธีเดียวกับเจ้าหนุ่มนั่นดูดพิษออกมา เจ้าคิดว่าปากเหี่ยวๆของตาแก่อย่างข้าควรไปสัมผัสร่างอันประเมินค่ามิได้ขององค์หญิงหรือ?”

ผู้อาวุโสฉินหัวเราะ

นางพูดไม่ออก นางกัดฟันแน่น

“ถ้าเช่นนั้น...ท่านจำลักษณะของเด็กหนุ่มคนนั้นได้หรือไม่?”

ผู้อาวุโสฉินส่ายหัวเบาๆ

“ไม่เลย เจ้าหนุ่มนั่นเร็วมาก ข้อเท้าข้าก็สภาพไม่ดี ข้าเห็นแค่เงาจากด้านหลังเขาเท่านั้นเอง”

นางโกรธและร้อนรน

“เราตายแน่ ถ้าดยุคเซี่ยนหยูรู้เข้าจะต้องโกรธราวพายุกระหน่ำ...”

กลับมาที่เมืองในเขตเซี่ยนหยู มีเงาแสงอันรวดเร็วผ่านสายตาผู้คนไป ซือหยูที่ปิดหน้าด้วยเศษผ้ากำลังเดินทางผ่านถนนอันมืดมิด

ที่สำนักเคยมีคนบอกไว้ว่าที่ถนนเส้นนี้มีพ่อค้าตลาดมืดรับซื้อวัตถุดิบไม่ระบุที่มาจากพวกโจร

วัตถุดิบจากอสรพิษไฟมีค่ามากและขายได้ราคาดี แต่เขาเข้าในว่าหากเขาขายมันอย่างเปิดเผยจะเกิดปัญหากับตัวเขาเอง เขาไม่อาจเปิดเผยตัวให้สาวน้อยระดับสามคนนั้นได้

“ท่านลุง ท่านรับซื้อวัตถุดิบใช่หรือไม่?”

ลึกไปตามเส้นทาง เมื่อซือหยูเห็นชายแก่ถือกล้องยาสูบทรงคากคกอยู่เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้

ชายแก่เพียงกระพริบตาและตอบ

“เจ้าถามผิดคนแล้วล่ะ”

“ข้าจะขายวัตถุดิบของโจรให้ท่านถูกๆ”

ซือหยูยิ้มแย้ม เขารู้ว่าชายแก่ต้องระวังตัวจึงแสดงออกเช่นนี้ จากนั้นซือหยูก็หยิบเขี้ยวพิษมังกรไฟออกมา

ชายแก่ลืมตากว้างและพูดด้วยเสียงเบาแต่แฝงความตกใจ

“วัตถุดิบสัตว์อสูร!”

เขาตกตะลึง หนุ่มน้อยที่คุยกับเขามีพลังแค่ระดับสอง เขาจะฆ่าสัตว์อสูรระดับสามได้อย่างไร? เมื่อเขาคิดว่ามันเป็นของโจร เขาก็รู้ว่ามันไม่มีที่มาที่ไปของวัตถุชิ้นนี้แน่

“ตามข้ามา!”

ชายแก่เปิดประตูบานเล็กที่มองเห็นยากและพาซือหยูไปยังห้องลับ

ซือหยูรู้ทันทีว่าชายแก่คนนี้รับซื้อของโจรมานานแล้ว เขาจึงไม่กลัวว่าชายแก่จะหลอกเขา

“นั่นของมังกรไฟจริงรึ?”

ชายแก่สูบยาสูบมองหนังสัตว์อสูรยาวยี่สิบเมตรด้วยความตื่นเต้น

ชายแก่คิดราคาและเสนอต่อซือหยู

“ข้าซื้อถุงน้ำดีห้าสิบตำลึงเงิน เขี้ยวพิษร้อยตำลึงเงิน ส่วนหนังยาวเท่านี้ ข้าจะให้เจ้าห้าร้อยตำลึงเงิน ทั้งหมดหกร้อยห้าสิบตำลึงเงิน!”

ซือหยูหัวเราะอย่างเย็นชา

“ท่านลุง ในวันอากาศสดใสเช่นนี้ใยท่านถึงใจดำนัก ท่าไม่กลัวถูกฟ้าผ่าในวันอันสดใสนี้หรือไร? ท่านจะจ่ายหกร้อยห้าสิบตำลึงเงินกับวัตถุดิบราคาพันสองร้อยตำลึงเงินเชียวหรือ? เช่นนั้นข้าจะไปหาคนซื้อที่อื่น ในเขตเซี่ยนหยูมีคนอยากจะซื้อของพวกนี้เยอะเลยล่ะ ไม่ใช่แค่ท่านคนเดียว”

ชายแก่ละอายใจ ซือหยูเป็นคนที่รู้เล่ห์เหลี่ยมดี

“เก้าร้อยตำลึงเงิน! เจ้าจะขายมั้ย?”

ชายแก่เสนอราคาตามตลาดมืด

ซือหยูคิดว่าจากราคา 1,200 ตำลึงเงิน เขาจะขาดทุนไปหนึ่งในสี่ส่วนและไม่ค่อยคุ้มค่า

แต่ยังไงมันก็เป็นราคาในตลาดมืด

“ตกลง! แต่ท่านต้องแบ่งหนังให้ข้าทำชุดเกราะสักหน่อย”

เขาเผยดวงตาอันหลักแหลมเมื่อต่อรองกับชายแก่

ชายแก่ส่ายหัวแรงๆ

“ไม่มีทางซะล่ะ! นั่นมันมากเกินไปหน่อยนะเจ้าหนู!”

ซือหยูยิ้ม

“งั้นให้ข้าซื้อโอสถวิญญาณจากท่านเป็นไง? แบบนี้ท่านจะได้ไม่ต้องเสียอะไร!”

โอสถวิญญาณที่ขายในตลาดมืดจะถูกกว่าราคาตลาดหนึ่งในสิบส่วน โอสถวิญญาณระดับต่ำราคา 100 ตำลึงเงินจะขายในตลาดมีดเพียง 90 ตำลึงเงิน มันเป็นเรื่องดีที่หาที่นี่เจอยาก ศิษย์ระดับเงินมักจะมาที่นี่เพื่อซื้อโอสถวิญญาณราคาถูก

ดวงตาของชายแก่เป็นประกาย

“เจ้าจะเอาโอสถวิญญาณเท่าไหร่?”

“ระดับต่ำสี่ขวดกับระดับกลางอีกหนึ่งขวด!”

โอสถวิญญาณระดับกลางตามปกติจะมีราคา 500 ตำลึงเงิน แต่ในตลาดมีดจะขายเพียง 450 ตำลึงเงิน รวมกับโอสถวิญญาณสี่ขวดก็จะเป็นราคา 900 ตำลึงเงิน

“ฮ่าๆๆ! ตกลง!”

ชายแก่หยิบขวดหยกสองขวดที่มีโอสถวิญญาณระดับต่ำกับระดับกลางออกมาตามลำดับ

หลังจากยืนยันว่าโอสถวิญญาณเป็นของจริงแล้วซือหยูก็มอบหนังสัตว์อสูรและจากไป

ก่อนซือหยูจะออกไปชายแก่ก็ยื่นเหรียญให้เขา

“ฮ่าๆ เจ้าหนู ผู้ใหญ่ชอบเด็กหนุ่มตรงไปตรงมาอย่างเจ้า เอาเหรียญนี่ไป ไปหาอาจารย์ฉางซี เขาจะอยู่ในร้านช่างที่ใหญ่ที่สุดในดงหลิน เขาจะทำชุดเกราะอย่างดีให้เจ้า”

“รับมันไว้เป็นน้ำใจจากข้า ถ้าเจ้ามีวัตถุดิบดีๆอีกก็เอามาขายข้าแล้วกัน”

ชายแก่ยิ้มและปิดประตู

ซือหยูมองรอบๆ เมื่อเขาถึงสุดถนนเขาก็โยนเหรียญทิ้ง หลังจากนั้นเขาก็ดึงเศษผ้าออกจากหน้าและหายตัวไป

หลังจากสองชั่วโมง ชายแก่กำลังสร้างอุปกรณ์จากวัตถุดิบมังกรไฟอย่างร่าเริง

ปั้ง-

ประตูถูกพังเข้ามาและทหารน่ากลัวในชุดเกราะสีดำ 20 คนที่สำเร็จขอบเขตระดับห้าแล้วพุ่งเข้ามา! พวกเขายืนปิดประตูทั้งสองด้านตามลำดับราวกับกำลังต้อนรับผู้มีอำนาจ!

ที่อกของทหารเกราะดำมีสัญลักษณ์เหยี่ยวสลักไว้ มีเพียงคนของตระกูลราชวงศ์เท่านั้นที่จะใช้สัญลักษณ์นี้!

และในเขตเซี่ยนหยูนี้ คนคนเดียวที่จะมอบสัญลักษณ์ในชุดเกราะของทหารได้ก็คือดยุคเซี่ยนหยู! เขาเป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดในเขตเซี่ยนหยู!

หลังจากที่ทหารเข้ามาแล้วก็มีชายที่ดูสง่างามเดินเข้ามาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาพบหนังอสรพิษสีชาดบนพื้น

“ที่นี่สินะ?”

ชายวันกลางคนเอียงศีรษะไปมองเด็กสาวเสื้อสีม่วงข้างหลัง

ข้างๆเด็กสาวมีสาวสวยที่สวมเสื้อสีเหลืองอ่อนที่น้ำตาไหลเต็มดวงตา นางสะอื้นราวกับเพิ่งผ่านเรื่องราวอันโหดร้ายมา

เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนพูดสาวสวยก็ออกมาดูหนังอสรพิษ นางร้องไห้อีกครั้งด้วยความโกรธและละอายใจ

“ใช่แล้ว! ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าสารเลวนั่นต้องเอามาขายในตลาดมืด!”

“ใครขายให้เจ้า? มันอยู่ไหน?”

ชายวันกลางคนส่งบรรยากาศอันน่ากลัวมาที่ชายแก่ทำให้เขาหน้าซีดเผือด

ชายแก่คุกเข่าลง ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาด้วยความตกใจ เขาคุกเข่าและครวญครางซ้ำไปซ้ำมา

“ท่านดยุค อภัยข้าด้วย! สามัญชนเช่นข้าไม่รู้ว่าของพวกนี้มาจากไหน! ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย!”

ชายวัยกลางคนเอามือไขว้หลังและยืนขึ้น สีหน้าเขาเย็นชาแต่ดวงตาเต็มไปด้วยไฟพิโรธ

“ตอบข้า! ใครขายมันให้เจ้า? มันไปไหน!?”

ชายแก่ตอบ

“ปะ..เป็นเด็กหนุ่ม เขาปิดหน้า..ขะ...ข้าไม่เห็นหน้าเขา”

ทันทีนั้นชายแกก็นึกขึ้นมาได้ ราวกับว่ามันเป็นความหวังสุดท้ายของเขา

“ใช่แล้ว ขะ...ข้าให้เหรียญกับเขา บางทีเขาอาจจะไปร้านทำชุดเกราะที่ดงหลิน!”

ชายแก่คิดอ่านได้เร็ว เขาทำได้ดีแล้วที่ให้เหรียญซือหยูไป

“ไปร้านที่ดงหลินเดี๋ยวนี้! พาตาแก่นี่ไปไตร่สวนต่อ!”

ตาของดยุคเซี่ยนหยูเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

ลูกสาวของเขาถูกล่วงเกินตอนหมดสติ! คนเป็นพ่อจะไม่โกรธได้อย่างไร? เขาเข้าใจว่าเจ้าหนุ่มที่ช่วยลูกสาวเขาเจตนาดี แต่มันคือเรื่องของความบริสุทธิ์ของลูกสาวและเขาต้องการจับตัวคนคนนั้นมาอธิบายต่อหน้าลูกสาวเขา!

ทหารเกราะดำเดินทางไปร้านที่ดงหลินและทำการตรวจสอบ

“ท่าดยุค ไม่มีใครมาที่นี่เลย!”

หนึ่งในทหารรายงาน

ไม่นานทหารอีกคนก็ถือเหรียญตามมา

“ท่านดยุค ข้าเจอเหรียญนี่ที่มุมถนน มันจะต้องระวังตัวมากและโยนเหรียญนี่ทิ้งไป!”

ดยุคเซี่ยนหยูใบหน้าขุ่นเคืองมาก เขาทุบโต๊ะอย่างแรงด้วยโทสะ

“ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์!”

เอาวัตถุดิบมาขายในตลาดมืด แล้วยังปลอมตัวอีก!

มันยังเจ้าเล่ห์พ่อที่จะโยนเหรียญทิ้งและไม่ไปที่ดงหลินเพื่อไม่ให้มีเบาะแสในการตามตัวมัน

มันเจ้าเล่ห์มาก มันซ่อนตัวได้อย่างไร้ร่องรอย!

ในตอนนี้มีเพียงข้อมูลสองอย่าง อย่างแรกคือมันมีวิชาหมัดและขาที่ดี และเมื่อตรวจสอบจากศพของมังกรไฟแล้วก็พบว่ามันใช้ธนูได้เก่งจนหาตัวจับยาก พลังมันมากพอที่จะยิงธนูซ้ำธนูดอกเดิมได้!

“ไปหาอัจฉริยะที่เก่งธนูมาซะ!”

ดยุคเซี่ยนหยูโกรธเกรี้ยว เขาจะไม่เลิกราจนกว่าเรื่องนี้จะคลี่คลาย!

สาวสวยคือองค์หญิงแห่งเขตเซี่ยนหยู ดวงตาของนางแดงก่ำและกัดฟันแน่น

“ข้าจะต้องจับเจ้าวิตถารนั่นให้ได้ เจ้าโจรนั่น ข้าจะฆ่ามันให้ตายในกระบวนท่าเดียว! กล้าดียังไงมาล่วงเกินข้า….ฮือ….ฮือออ...ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว...”

ซือหยูเปลี่ยนชุดใหม่ที่สะอาดสะอ้านในร้านน้ำชาใกล้ร้านช่างดงหลิน ตอนนี้เขาเป็นคนละคนกับคนที่อยู่บนเทือกเขาแล้ว แม้ว่าหลีหมิงไห่จะอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็จำซือหยูไม่ได้แน่

เขาเอนตัวและจิบชาอย่างเงียบเชียบและรอคนที่มาหาตัวเขา

เขาอยากจะรู้ว่าคนสามคนนั้นคือใครกันแน่ และเขายังอยากรู้ด้วยว่าพวกเขามีอำนาจพอจะหาตัวชายแก่เจอและมาหาตัวเขาที่ดงหลินได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อในอนาคต

แต่เขาก็เห็นภาพที่ต้องอ้าปากค้าง

“ดยุคเซี่ยนหยู!”

ซือหยูตัวสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าของเขามีเหงื่อผุดออกมาเต็มไปหมด

สามคนนั่นเป็นคนของดยุคเซี่ยนหยู!

พวกเขาทำให้ดยุคเซี่ยนหยูออกมาสืบเรื่องด้วยตัวเอง! สาวสวยที่ร้องไห้อยู่จะต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับดยุคแน่ เป็นไปได้ว่านางอาจจะเป็นองค์หญิงของเซี่ยนหยู!

เมื่อคิดว่าเขาได้ไปสัมผัสลูกสาวของดยุคเซี่ยนหยูแล้วซือหยูก็คิดจะฆ่าตัวตาย ซือหยูเสียใจที่ช่วยชีวิตนาง การช่วยชีวิตคนอาจจะไม่ได้รับสิ่งดีๆตอบแทนมาก็ได้ ช่างเหมือนโลกใบเก่าของเขาเสียจริง

“ข้าปลอดภัยแล้ว มันยากจะหาตัวข้าเจอ หวังว่าพวกเขาจะเลิกรา ต่อไปข้าจะอยู่อย่างสันโดษ คงไม่มีใครมาเจอตัวข้าแน่”

ซือหยูถอนหายใจและกลับไปที่สำนัก

แต่เขาไม่ได้ไปที่หอพัก เขาไปที่ห้องฝึกในสำนัก ศิษย์สามารถเข้าห้องฝึกได้อย่างอิสระ สำหรับศิษย์ที่ยากจนอย่างซือหยูนับเป็นโอกาสที่ดี

แต่ห้องฝึกก็มีการแบ่งเป็นชั้นต่ำและชั้นสูง

ห้องฝึกชั้นสูงจะมีสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าและสระวิญญาณ การฝึกในสระวิญญาณจะทำให้กำลังภายในและร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมาก

น่าเศร้าที่มีห้องแบบนี้เพียง 10 ห้อง ว่ากันว่าศิษย์อสูร 10 คนเท่านั้นที่จะใช้ห้องนี้ได้ สำหรับคนอย่างซือหยูได้แต่มองและเศร้าใจกับชีวิตที่ไร้ความหมายของตน

เอี๊ยด-

“เอ๋..นั่นเจ้าใช่ไหม? เจ้ามาฝึกอะไรเหรอ?”

เป็นเสียงไพเราะเสนาะหูที่คุ้นเคย

ซือหยูหันไปมองด้วยความยินดี

“ข้าเคยเจอเจ้ามาก่อนนะ เทพธิดาน้อย”

เขารู้สึกแปลกๆ หรือตัวตนอันงดงามคนนี้จะเป็นศิษย์สำนักด้วย? ยิ่งไปกว่านั่นนางยังออกมาจากห้องฝึกชั้นสูง หรือนางจะเป็นหนึ่งในสิบอสูร? หรือนางเป็นศิษย์ที่มีสิทธิพิเศษเหนือศิษย์อื่นกันแน่?

Banshee

มีกลุ่มลับแล้วนะ ติดตามทางแฟนเพจจ้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด