ตอนที่แล้วตอนที่ 64 ควบคุมสถานการณ์โดยไม่ต้องเปลืองแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 เริ่มต้นการประลอง

ตอนที่ 65 ถูกราชาต้าหยวนเรียกพบ


จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ ตอนที่ 65 ถูกราชาต้าหยวนเรียกพบ

 

กว๋อติงฉวนและพี่น้องจิงรู้สึกมืดมนเป็นอย่างมาก

 

สำหรับกว๋อติงฉวน การที่อาจารย์ทุบตีศิษย์ก็เหมือนกับการที่บิดาทุบตีบุตรของตัวเอง แล้วจะให้มันคิดที่จะแก้แค้นได้อย่างไร? ถ้ามันทำเช่นนั้น มันจะต้องได้รับโทษจากการอกตัญญูและทรยศอาจารย์ตนเอง

 

ในขณะเดียวกัน สองพี่น้องจิงเองก็รู้ว่าคนที่ทุบตีพวกมันมีสถานะสูงส่งขนาดไหน ต่อให้เป็นราชาต้าหยวนก็ยังต้องสุภาพและให้ความเคารพเมื่อพบกับตวนมู่ฉางเฟิง และถึงแม้เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลจะรู้เรื่องเข้า พวกเขาก็คงจะไม่หาทางแก้แค้นให้มันแน่นอน

 

นั่นหมายความว่าพวกมันจะต้องอดทนยอมรับการทุบตีนี้แบบไร้เหตุผล

 

หลิงฮัน!

 

ทั้งสามคนกัดฟันด้วยความโกรธ คนร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังคือหลิงฮัน เพราะงั้นเขาจึงกลายเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกเกลียดชัง

 

“สหายน้อยหลิง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” จูเฮอซินและจางเหวยชางรีบพุ่งเข้ามา ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความกังวล

 

“ข้าสบายดี!” หลิงฮันส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม

 

‘แน่นอนว่าต้องสบายดีอยู่แล้ว’ ทุกๆคนล้วนคิดเหมือนกัน เขาวางแผนหลอกทั้งพี่น้องจิงและตวนมู่ฉางเฟิง แถมตอนนี้ตวนมู่ฉางเฟิงได้เปลี่ยนมาฟังคำสั่งทุกๆอย่างของเขาแล้ว แล้วจะไม่ให้สบายดีได้อย่างไร?

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นนักปรุงยาทั้งสองคนมาถึงและแสดงท่าทีสุภาพต่อหลิงฮัน พวกมันจึงยิ่งสงสัยในตัวตนของหลิงฮันมากกว่าเดิม

 

หมอนี่เป็นใครกัน?

 

องค์ชายสี่ใจเต้นรัวและตัดสินใจแล้วว่าต้องดึงหลิงฮันมาสนับสนุนตนเองให้ได้ ถ้ามันได้รับการสนับสนุนจากนักปรุงยาทั้งสามผ่านทางหลิงฮัน มันจะไปกลัวทำไมเพียงแค่ตระกูลลิ่ว? ตำแหน่งราชาต้าหยวนจะต้องตกเป็นของมันแน่นอน!

 

หลิงฮันไม่คิดที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป เพราะงั้นเขาจึงหมุนตัวเดินจากไป ตวนมู่ฉางเฟิงเองก็หน้าหนาเดินตามเขาไปยังตำหนักโอสถสวรรค์ มันยังต้องสอบถามหลิงฮันถึงบทพูดและภาพประกอบของเพลงดาบสยบเมฆาสองกระบวนท่าสุดท้าย

 

จูเฮอซินและจางเหวยชางตกตะลึงเพราะเรื่องนี้เช่นกัน พวกมันไม่เคยคิดเลยว่าหลิงฮันจะไม่ได้มีความสามารถในด้านการปรุงยาที่น่าสะพรึงกลัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีวรยุทธที่ล้ำลึกอีกด้วย เขาถึงขนาดสามารถชี้แนะตวนมู่ฉางเฟิงที่ถูกเรียกว่าเชี่ยวชาญทั้งวิถีดาบและศาสตร์แห่งการปรุงยาได้

 

หลิงฮันไม่กลับคำพูด เมื่อพวกเขากลับถึงที่พัก เขาได้สอนกระบวนท่าที่แปดที่สูญหายไปของเพลงดาบสยบเมฆาให้กับตวนมู่ฉางเฟิง

 

ส่วนกระบวนท่าที่เก้าน่ะรึ?

 

แน่นอนว่าเขาจะยังไม่สอนกระบวนท่าสุดท้ายในทันที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตวนมู่ฉางเฟิงละทิ้งบุญคุณของเขา อย่างน้อยก็ต้องรอจนกว่าเขาจะทะลวงผ่านไปยังระดับก่อเกิดธาตุเสียก่อน เมื่อถึงตอนนั้น ถึงจะไม่มีความเสี่ยงอะไรที่จะสอนกระบวนท่าที่เก้าให้มัน เพราะอย่างไรทักษะที่ว่าก็เป็นเพียงทักษะยุทธระดับดำขั้นกลาง สำหรับหลิงฮันแล้วไม่ได้ถือว่าสำคัญอะไร

 

ตวนมู่ฉางเฟิงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี มันขอตัวกลับหลังจากได้รับบทพูดและภาพทักษะของกระบวนท่าที่แปดมา มันจะได้รับกระบวนท่าที่เก้ามาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการประพฤติตัวของมันในอนาคต

 

เมื่อหลิงฮันกลับไปถึงห้องตัวเอง เขาได้นอนหลับอย่างรวดเร็ว และหลิงตงซิงไม่ได้รู้เลยว่าคืนนั้นบุตรของมันสร้างเรื่องไว้ขนาดไหน คนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงขององค์ชายสี่ ไม่มีใครที่เป็นพวกปากพล่อย เพราะงั้นข่าวที่เกี่ยวกับหลิงฮันจึงแพร่กระจายอยู่ในหมู่กลุ่มคนเล็กๆเท่านั้น

 

ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น คนรับใช้จากราชวงศ์ต้าหยวนได้มายังตำหนักโอสถสวรรค์ เพื่อแจ้งว่าราชาต้าหยวนได้เชิญหลิงฮันเข้าพบ

 

ราชาต้าหยวนอยากจะพบเขา?

 

หลิงฮันไม่ได้ให้หลิวอู๋ตงตามเขาไป เขาเดินทางไปคนเดียวพร้อมกับคนรับใช้จากราชวงศ์ต้าหยวน ในไม่ช้าเขาก็ไปยังที่พักและเข้าไปยังห้องทำงาน เขามองเห็นชายที่เป็นราชาของเมืองนี้อยู่ในห้อง

 

ราชาต้าหยวนอายุหกสิบปีแล้ว แต่เนื่องจากมีพลังบ่มเพาะที่สูง จึงดูไม่แก่แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามรูปร่างของมันดูสูงและกำยำ ทั่วทั้งร่างปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา

 

ระดับห้วงจิตวิญญาณขั้นหก

 

หลิงฮันชำเลืองมองเพียงพริบตาเดียว ไม่มีทางที่ชายคนนี้จะปกปิดระดับพลังบ่มเพาะจากสายตาเขาได้ บนเส้นทางแห่งวรยุทธ ขั้นที่สี่และเจ็ดของทุกๆระดับพลังบ่มเพาะคือเส้นแบ่งแยก ราชาต้าหยวนได้ติดอยู่ในขั้นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว

 

“เข้าพบราชาต้าหยวน!” หลิงประสานหมัดก้มหัวคำนับเล็กน้อย

 

“เงยหน้าขึ้นได้!” ราชาต้าหยวนสะบัดมือและพูดด้วยรอยยิ้ม “รุ่นเยาว์ในยุคคนนี้ช่างสุดยอดยิ่งนัก ไม่เพียงแต่สามารถบรรลุระดับรวมธาตุขั้นสี่ได้ตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ แต่ยังมีนักปรุงยาระดับดำสามคนมาอยู่ข้างกายอีก ขนาดข้ายังไม่มีเกียรติถึงขนาดนั้น”

 

ราชาต้าหยวนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเรียบร้อยแล้ว

 

หลิงฮันหัวเราะอย่างซุกซนและพูด “ข้ามีความรู้ในด้านการปรุงยาเล็กน้อย จึงทำให้สามารถพูดคุยทั่วไปกับผู้อาวุโสจูและคนอื่นๆได้”

 

แน่นอนว่าราชาต้าหยวนไม่เชื่อคำพูดของหลิงฮัน แต่มันก็ไม่คิดที่จะพูดออกไป มันทำเพียงครุ่นคิดสงสัยอยู่ในใจ มันสงสัยว่าอัจฉริยะขนาดนี้ปรากฏตัวขึ้นมาในพื้นที่ที่อยู่ในอำนาจของมันได้อย่างไร... อัจฉริยะที่ถึงกับมีนักปรุงยาถึงสามคนต้องการจะอยู่เคียงข้างกายเขา

 

 

“แล้วเรื่องของหญิงสาวจากตระกูลหลิวล่ะ?” มันถามด้วยรอยยิ้ม เรื่องของหลิวอู๋ตงเองก็ไม่สามารถหลบซ่อนไปจากสายตาของมันได้เช่นกัน

 

“ฮ่าๆ ถ้าชายใดเกิดมาหล่อเหลา ชายคนนั้นก็จะดึงดูดสตรีจากทุกๆที่” พูดฮันพูดโอ้อวดออกมา

 

“ฮ่าๆ คนอย่างเจ้านี่นะ!” ราชาต้าหยวนเปลี่ยนหัวข้อที่จะพูดคุย “บุตรชายทั้งสองของข้า คนใดที่เจ้าคิดว่าเหมาะสมที่จะสืบทอดตำแหน่งของข้ามากที่สุด?”

 

มันเหมาะสมแล้วเหรอที่จะถามคำถามนี้กับเขา?

 

หลิงฮันยิ้มและพูด “องค์ชายทั้งสองต่างก็มีข้อดีต่างกันไป ใครที่เหมาะสมที่สุด ข้าเชื่อว่าองค์ราชาคงจะคิดเอาไว้แล้ว ท่านยังจะอยากให้ข้าพูดอะไรอีกรึ?”

 

ราชาต้าหยวนหัวเราะดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเปลี่ยนหัวข้ออีกครั้ง “ข้ามีบุตรสาวอยู่คนหนึ่งที่ยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าต้องการจะมาเป็นบุตรเขยของข้ารึไม่?”

 

บัดซบ ทุกๆคนของราชวงศ์ต้าหยวนล้วนแต่พูดตรงๆกันแบบนี้ทุกคนเลยรึไง? ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาไปสมัครเข้าร่วมการประลอง หัวหน้าพ่อบ้านเองก็พยายามจะจับคู่เขากับองค์หญิง และตอนนี้ราชาคนนี้ที่เป็นพ่อขององค์หญิงคนนั้นยังจะทำแบบเดียวกันอีก มนัทำเหมือนกับว่าอยากจะให้บุตรสาวของมันรีบแต่งงานออกไปไวๆ

 

หลิงฮันรีบโบกมือแล้วพูด “จิตใจของข้ากำลังมุ่งไปในด้านการฝึกตน และภายในช่วงสองสามปีนี้ ข้าจะไม่คิดถึงเรื่องแต่งงานใดๆ”

 

ราชาต้าหยวนรู้สึกเสียดายอย่างช่วยไม่ได้ ขนาดจูเฮอซิน จางเหวยชาง และตวนมู่ฉางเฟิงยังปฏิบัติต่อหลิงฮันด้วยความเคารพอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความสามารถในด้านปรุงยาอยู่ในระดับที่สูงมากแน่นอน ถ้าหลิงฮันกลายมาเป็นบุตรเขยของมัน เขาจะช่วยเหลือตระกูลสาขาของมันได้มากมายจนไม่อาจจินตนาการได้

 

แต่ในเมื่อหลิงฮันได้ปฏิเสธข้อเสนอของมันแล้ว ในฐานะราชา มันไม่สามารถคอยตื้ออย่างน่าอับอายได้ ยิ่งกว่านั้นบุตรสาวของมันยังงดงามมาก ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครอยากแต่งงานด้วยเสียหน่อย

 

“ถ้าเจ้าพบกับปัญหาใดๆในอนาคต เจ้าสามารถมาขอความช่วยเหลือจากข้าได้!” ราชาต้าหยวนให้คำสัญญากับหลิงฮันอย่างหนักแน่น ถึงแม้มันจะไม่สามารถเป็นพ่อตาของหลิงฮันได้ มันก็ยังยืนยันที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชายหนุ่มคนนี้

 

“ขอบคุณความเมตตาขององค์ราชา!” หลิงฮันตอบรับอย่างมีมารยาท เพราะอย่างในตัวเขาในตอนนี้ก็ยังอ่อนแอเกินไป เขาจำเป็นต้องมีคนสนับสนุนและช่วยเหลือ

 

เมื่อเขากลับไปยังตำหนักโอสถสวรรค์ เขาพบเข้ากับองค์ชายสี่ที่มาเยี่ยมเยือน และได้รอให้เขากลับมาอยู่เป็นเวลานาน

 

องค์ชายสี่พูดคุยกับเขาอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่ได้พูดเรื่องสำคัญอะไรมากมายนัก มันเพียงแค่พยายามจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮันไว้ แน่นอนว่าองค์ชายสี่รู้อยู่แล้วว่าตนเองอ่อนแอเกินไปที่จะชักชวนให้หลิงฮันเข้ารวมกับฝ่ายตนเอง ซึ่งสุดท้ายทั้งสองก็ได้เป็นเพียงสหายกัน องค์ชายสี่ไม่ได้ที่ความคิดที่จะให้หลิงฮันไปเป็นลูกสมุนของมันแม้แต่น้อย

 

ทางด้านหลิงฮันเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากที่จะมีสหายเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง ทั้งสองคนจึงพูดคุยกับอย่างสนุกสนานเป็นเวลานาน

 

หลังจากที่พักผ่อนไปอีกหนึ่งวัน ในที่สุดการประลองต้าหยวนก็ได้เริ่มขึ้น

 

สิ่งแรกที่ต้องทำคือการจับฉลาก

 

หลังจากยืนยันผู้เข้าร่วมการประลองเมล็ดพันธุ์ได้เรียบร้อยแล้ว ผู้เข้าร่วมคนอื่นจะถูกแบ่งกลุ่มตามฉลากที่ตนเองจับได้ โดยแยกออกเป็นห้าสิบกลุ่ม ซึ่งจะขึ้นประลองบนสนามตามลำดับ เมื่อการประลองเริ่มต้นขึ้น คนสุดท้ายที่ชนะการประลองในกลุ่มตนเองจะติดอยู่ในห้าสิบอันดับแรกของการประลองต้าหยวน และจะได้รับสิทธิในการเข้าร่วมกับสำนักฮูหยาง

 

หลิงฮันเองก็ได้รับตำแหน่งผู้เข้าร่วมเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าในการประลองรอบแรก เขาจะไม่พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินไป แต่แน่นอนว่าไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย

 

“พี่ชายหลิง!” หลีเฮาและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน โบกมือมาให้เขา

 

*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด