ตอนที่แล้วตอนที่ 214 หน่วยเกราะมังกร (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 216 เจ็บปวดพันปี (FREE)

ตอนที่ 215 มรกต (FREE)


เสียงคำรามของดาบ ดังก้องทั่วท้องฟ้า

สายลมที่พัดผ่านทำให้ชายเสื้อของ ฟาง เจิ้งจือ พริ้วไหวไปตามแรงลม

เขาถือหอกอยู่ในมือ และเผยรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูตลกมาก อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ไม่มีใครที่จะขบขันได้

เพราะว่า ดาบที่อยู่ในมืออีกข้างของเขาเป็นดาบของ เมิ่ง เทียน

ท่าทีของ หยิง ซาน ดูหวาดกลัว

ตลอดชีวิตของเขามีแต่คำยกย่องจากผู้คนนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังของคำสรรเสริญนั้น เขาผ่านความผิดพลาดล้มเหลวมานับไม่ถ้วน มันทำให้บุคลิกของเขากลายเป็นคนที่สุขุมเยือกเย็น

แต่ตอนนี้…

บุคลิกและความเด็ดเดี่ยวของเขาดูเหมือนจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่

อารมณ์ที่แปรปรวนของเขา แสดงให้เห็นถึงความเกรียวโกรธภายในจิตใจ ความรู้สึกที่ถูกปั่นหัวเล่นนั้นมันทำให้เขาไม่สามารถควบคุมความโกรธในตัวเขาได้

ที่สำคัญที่สุดคือคนที่ปั่นหัวเขาเป็นแค่คนโง่งมที่สถานะต่ำกว่าเขา

ความรู้สึกของผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์หลาย 10 ปี กลับถูกหลอกโดยเด็กอายุ 3 ขวบ ช่างน่าอัปยศ ...

หยิง ซาน ไม่ได้พูดถึงคำอื่น เขากัดฟันจนแตกออกเป็นเสี่ยง

เขาฉีกผิวหนังที่หน้าผากออกทีละนิด

ไข่มุกเขียวมรกตปรากฎขึ้นกลางหน้าผาก แสงสีเขียวมรกตที่เปล่งออกมาราวกับเปลวเพลิงนรกที่ทำให้คนสั่นสะท้านอย่างไม่ทันตั้งตัว

ดวงตาปีศาจ ต้นกำเนิดแห่งพลังแห่งปีศาจ

"เขียวรึ?" ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างสับสน

เขาจำได้ว่าในการทดสอบระดับเมืองก่อนหน้านี้ ปีศาจที่เขาปราบมีดวงตาสีฟ้า อย่างไรก็ตามดวงตาที่หน้าผากของ หยิง ซาน เป็นสีเขียว

"การที่ปีศาจมีดวงตาสีเขียวมรกต หมายความว่า หยิง ซาน ได้เข้าสู่ระดับอภินิหารแล้ว" เหยียน ซิว พูด

"ดูเหมือนว่าสีของดวงปีศาจจะขึ้นอยู่กับระดับพลังสินะ?" เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยิน เหยียน ซิว พูด เขาก็เข้าใจและเดาว่าสีของดวงตาปีศาจแสดงให้เห็นถึงระดับพลัง

ในการทดสอบระดับเมือง ปีศาจตนนั้นมีพลังอยู่ในระดับผนวกดารา

นั่นหมายความระดับผนวกดาราจะเป็นสีฟ้า และระดับอภินิหารจะเป็นสีเขียว แล้วระดับสะท้อนสวรรค์ล่ะ?

ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังจะเปิดปากถามเขาได้เปลี่ยนเป็นประโยคอื่นโดยพลัน ...

"ถ้าดวงตาปีศาจกลายเป็นสีดำ ...จะหมายความว่ายังไง?"

"เปลี่ยนเป็นสีดำ? ไม่นะ!" เหยียน ซิว ไม่ตอบคำถามของ ฟาง เจิ้งจือ เพราะความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปแล้ว เเขาไม่เคยตกใจมากขนาดนี้มาก่อน

ท่าทีของ หนานกง มู่ เองก็ตกใจมาก เขาจับดาบคู่ฟ้าเขียวไว้แน่น และขยับเข้าไปใกล้ ฟาง เจิ้งจือ อีก 2 ก้าว

มันเป็นสัญชาตญาณ อย่างไรก็ตามความหมายของการกระทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าความหวาดกลัวได้เพิ่มมากขึ้นในหัวใจของเขา

นับตั้งแต่ หยิง ซาน เผยตัวตน

หลังจากที่ถูก หยิง ซาน จับตัวและตอนที่ไปตัดโว่ตรวนทั้ง 4

หนานกง มู่ ไม่เคยแสดงท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน

แต่ตอนนี้…

เขาได้ก้าวไป 2 ก้าวอย่างเห็นได้ชัด

อีกทั้งความหวาดกลัวนั้น

ผู้คนแต่ละคนต่างรู้สึกได้ถึงความตายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาหวาดกลัวกันอย่างมาก

"วิ่ง ...เร็ว!"

ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถออกไปได้ ทั้งๆที่ดาบถูกดึงออกมาแล้ว?

"ข้าไม่อยากตาย!"

ผู้เข้าสอบเริ่มร้องตะโกนออกมา เสียงพวกเขานั้นราวกับต้องการให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้ดึงดาบออกมา ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ดาบ…

เป็นของจริงหรือปลอมกันแน่?

นี่ไม่ใช่คำถามที่พวกเขากังวลอีกต่อไป

พวกเขามีเรื่องที่ต้องกังวลมากกว่า พวกเขายืนอยู่กับที่มากกว่า 15 นาทีแล้ว

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสับสน

ใบหน้าของ หยิง ซาน บิดเบี้ยวเป็นอย่างมาก ดวงตาสีมรกตบนหน้าผากของเขา กลายเป็นสีดำเข้ม

มันเป็นฉากที่แปลกมาก อย่างน้อยที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่เข้าใจว่า หยิง ซาน พยายาม จะทำอะไร ?

"เราควรจะ...วิ่ง?" สายตาของ ปิง หยาง มองไปที่ หยิง ซาน ต่อให้นางจะเย่อหยิ่งและมีความภาคภูมิใจเท่าใดก็ตาม แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกลังเล

มือของนางเกาะแน่นอยู่ที่แขนของ ฟาง เจิ้งจือ ???

นี่เป็นสัญชาติญาณ แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่สามารถอธิบายได้

"วิ่งไปไหนละ?" ฟาง เจิ้งจือ ถาม

ทะเลดาบที่อยู่ข้างหน้าของเขานั้นไม่มีสิ้นสุด จะมีที่ไหนที่หนีไปได้

"ข้าจะถามเจ้าครั้งสุดท้า ดาบในมือเจ้าเป็น... ของจริงหรือปลอม?" หยาง ปิง มองไปที่ดาบในมือของความคาดหวัง

"ข้าไม่รู้ ข้าต้องลองทดสอบมันก่อน? " ฟาง เจิ้งจือ อธิบายอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาไม่รู้จริงๆ

"ข้าคิดว่ามันคงไม่สะดวกที่จะทดลองแล้วละ" ปิง หยาง อยากจะพูดต่อ แต่ก็หยุดลง

"ทำไม ... " ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถพูดได้จบประโยค เพราะ หยิง ซาน ได้พุ่งเข้าใส่เขาแล้ว

ในความเป็นจริง ไม่ใช่ว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของ หยิง ซาน

อย่างไรก็ตาม หยิง ซาน ได้หายตัวไป

เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ในเขตแดนแห่งความมือดที่เขาหายตัวได้ นั้นต่างกัน เพราะครั้งนี้มันเกิดจากความเร็ว

ความเร็วอันน่าตกใจ

ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ เหมือนรู้สึกชาบนหนังหัว

ราวกับว่าใบหน้าของเขาถูกตัดออกด้วยใบมีด

มันเร็วมาก อย่างไรก็ตามมันเป็นแค่ลมที่เกิดจากความเร็ว...

ลอบโจมตี?!

ไม่นี่เป็นการโจมตีตรงๆ!

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยเข้าไปในหอแห่งเต๋า และไม่เคยร่ำเรียนวิชาใดๆ อย่างไรก็ตามเขารู้กฎหนึ่งข้อ มันเป็นกฎที่เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้มา

ถ้ามีคนต้องการโจมตีที่ใบหน้าของคุณ...

คุณจะทำอะไร?

ควรหลบไปทางซ้ายหรือขวา? หรือหันหลังและวิ่งหนี? หรือหมอบหัวลงกับพื้น?

จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่เร็วพอ

หมอบลงไปกับพื้นนั้นง่ายที่สุด แต่การลุกกลับขึ้นมาอีกครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ยาก

ดังนั้นสรุป

การย่อตัวลงไปเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

การย่อตัวลงไปนี้ไม่ใช่แบบธรรมดา มันเป้นการย่อตัวลงไลึกมา ย่อแบบไม่กลัวว่าเป้ากางเกงจะฉีกขาดออกจากกัน  เพราะใบหน้านั้น ... เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า

ฟาง เจิ้งจือ นั้นรู้ดี

เขาจึงย่อตัวลงไปอย่างรวดเร็วจนก้นแทบแตะพื้น

"แคว้ก!"

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากางเกงในที่เขาสวมอยู่นั้นสามารถทนกับการนั่งย่อตัวลงไปอย่างรวดเร็วได้หรือไม่

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของเขา มันน่าหวาดหวั่นและอันตรายมาก เพรากำปั้นได้หยุดลงที่เหนือศีรษะของเขา ...

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด