GE18 ทักษะลับเหยียบย่างหิมะ (1)
ตอนที่ 18 ทักษะลับเหยียบย่างหิมะ
หลังจากบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ หนิงฝานก็เก็บตัวฝึกฝนเป็นเวลา 10 วันเพื่อทำให้ปราณของตนเสถียร
ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา หนิงฝานบ่มเพาะผสานกับจื่อเฮ่อเป็นนิจ แต่ด้วยที่หนิงฝานบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ นอกเหนือจากช่วยเพิ่มเส้นโลหิตบนสร้อยหยินหยางแล้ว การบ่มเพาะผสานกับจื่อเฮ่อก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้หนิงฝานมากนัก ซึ่งผิดกับจื่อเฮ่อที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ยามนี้นางบรรลุเปิดเส้นชีพจรที่ 6 ซึ่งนับเป็นผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรแล้ว
หนิงฝานรู้สึกไม่พอใจในผลลัพธ์ของการบ่มเพาะผสาน เพราะระดับพลังของหนิงฝานสูงกว่าจื่อเฮ่อมากเกินไป เหตุการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้
ยามนี้บนสร้อยหยินหยางมีลวดลายเส้นโลหิตทั้งหมด 20 เส้น หนิงฝานรู้สึกวิงเวียน เขาต้องเก็บสะสมเส้นโลหิตบนสร้อยหยินหยางให้ได้ 99 เส้น เพราะนั่นหมายถึงการบรรลุทักษะการแปลงหยินหยางขั้นแรก ซึ่งการบรรลุทักษะขั้นแรกจะช่วยให้เปิดสมบัติซวนหยินได้
สมบัติแห่งจักรพรรดิสวรรค์ที่สืบทอดมาคือทักษะเทพที่ไม่ธรรมดา
ดังนั้นการบ่มเพาะผสานร่วมกับจื่อเฮ่อไม่ได้เอื้อยประโยชน์ให้หนิงฝานจริงหรือ? การมีหญิงงามในอ้อมกอด ผิวพรรณละเอียดอ่อนสัมผัสกาย แม้การบ่มเพาะผสานไม่เอื้อประโยชน์นัก อย่างน้อยก็ยังได้อยู่ในห้วงความรัก
ผู้ฝึกตนทั่วไปใช้เวลาเลื่อนจากขอบเขตประสานวิญญาณขั้นแรกไปยังขั้นกลาง 20 ปี
แต่สำหรับจื่อเฮ่อแล้ว หนิงฝานมั่นใจว่านางจะทะลวงขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลางได้ภายในหนึ่งปีด้วยการบ่มเพาะผสาน
นับเป็นความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว ขอบเขตเปิดเส้นชีพจรนับว่าก้าวหน้าได้ง่าย แต่ขอบเขตประสานวิญญาณนั้นก้าวหน้าได้ยากลำบาก ยิ่งหากเป็นขอบเขตแก่นทองคำ ความยากยิ่งทวีเกินจะนับไหว
นิกายกุ่ยเชว่มีศิษย์ในขอบเขตเปิดเส้นโลหิตทั้งหมดหนึ่งแสนคน มีผู้อาวุโสในขอบเขตประสานวิญญาณ 35 คน และมีประมุขนิกายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำอีก 1 คน นั่นหมายความว่าการทะลวงข้ามขอบเขตนับเป็นเรื่องยากยิ่ง
ในเมื่อหนิงฝานไม่สามารถยกระดับพลังได้ หนิงฝานจึงตัดสินใจจะฝึกฝนทักษะการต่อสู้
ในการต่อสู้ หนิงฝานมีปราณกระบี่เป็นกระบวนท่าจู่โจม ปราณกระบี่ของหนิงฝานสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงที่ทรงพลัง
หากกล่าวถึงเพลงกระบี่แล้ว เพลงกระบี่ที่ได้รับสืบทอดมาจากความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์นับเป็นเพลงกระบี่ที่สุดยอด
หนิงฝานนำฝักกระบี่ที่ได้จากงานประมูลออกมา เขาพยายามทำความเข้าใจกับเจตจำนงค์กระบี่ที่แฝงอยู่ในนั้น แต่ก็ยากจะเข้าใจ
เหตุที่ไม่สามารถทำความเข้าใจเจตจำนงค์ของกระบี่ได้นั้นเป็นเพราะมันปฏิเสธหนิงฝาน
เจตจำนงค์กระบี่นี้ดูราวกับสร้างไว้เพื่อสตรี
แม้หนิงฝานจะครอบครองเจตจำนงค์กระบี่ไม่ได้ แต่เมื่อหนิงฝานสร้างปราณกระบี่เพลิงเข้าแผดเผาฝักกระบี่ เจตจำนงค์กระบี่กลับผสานเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับเจตจำนงค์กระบี่ของเขา
ในที่สุดหนิงฝานก็ตัดสินใจฝึกฝนทักษะที่เรียกว่า ‘ทักษะลับเหยียบย่างหิมะ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะธาตุน้ำแข็ง นอกจากมันจะช่วยยกระดับปราณน้ำแข็งแล้ว มันยังช่วยให้สามารถใช้พลังน้ำแข็งในธรรมชาติเพื่อการเคลื่อนไหวได้
ทักษะนี้มาจากความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ แม้มันไม่ได้เป็นทักษะระดับสูงสุด แต่หากเทียบในแคว้นเยว่แล้ว มันอาจเป็นทักษะอันดับหนึ่งเลยก็ได้
ก่อนจะฝึกฝนทักษะนี้ได้ เส้นชีพจรของผู้ฝึกตนต้องผสานกับพลังน้ำแข็งก่อน แต่ด้วยครั้งที่หนิงฝานบ่มเพาะผสานกลางดินแดนน้ำแข็งและหิมะ ทำให้หนิงฝานสัมผัสกับพลังน้ำแข็งได้
ในค่ำคืนที่มือสลัว หนิงฝานฉวยโอกาสที่จื่อเฮ่อนอนหลับเปิดประตูห้องออกมาเพื่อเริ่มฝึกฝนทักษะลับเหยียบย่างหิมะ
การฝึกฝนเพื่อผสานกับพลังน้ำแข็งเป็นการฝึกฝนที่เจ็บปวดมาก นั่นเพราะต้องต้านทานความเย็นโดยไม่อาจใช้ปราณคุ้มกาย
หนิงฝานฝึกฝนท่ามกลางหิมะและสายลมกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยาม ริมฝีปากของหนิงฝานเริ่มเขียวคล้ำแต่เขายังไม่หยุด ไม่นานนักหนิงฝานจำต้องหยุด หลังจากพักผ่อนระยะหนึ่งแล้วก็เริ่มการฝึกฝนต่อ หนิงฝานอดทนกับความมหนาวเย็นได้อย่างยากลำบาก แต่หลังจากผ่านไปไม่นาน เขาก็เริ่มคุ้นชินกับมัน
นิกายเทียนหลีโม่ ผู้นำในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม... ข้าต้องไปทำลายนิกายเทียนหลีโม่ให้ราบ!
ในค่ำคืนที่มืดสลัว หนิงฝานทะยานเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเหลือไว้เพียงภาพติดตา ที่สำคัญการทะยานแต่ละครั้งของหนิงฝานสามารถเคลื่อนไหวไปได้กว่าร้อยจ้าง
แต่ถึงอย่าง หนิงฝานกลับยังไม่บรรลุขั้นแรกของทักษะลับเหยียบย่างหิมะ เพราะเขายังขาดบางสิ่งนั่นคือช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตาย แต่หากบรรลุ มันจะช่วยให้หนิงฝานไม่หนาวยามที่ต้องเข้าสู่ดินแดนน้ำแข็ง ทั้งยังทำให้หลบหนีได้อย่างรวดเร็ว