ตอนที่ 214 หน่วยเกราะมังกร (FREE)
ในเมืองเหยียนยังคงมีฝนตกหนัก
องค์ชาย 9 หลิน หยุน ยืนอยู่ภายใต้พายุที่พัดกระหน่ำด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก ฝนตกลงมาบนใบหน้าของเขา อย่างไรก็ตามเขายังคงยืนอยู่
ที่ด้านหน้าของเขาคือโรงเรียนหลวง ขันทีผันสวมชุดที่ดูเป็นทางการรออยู่ด้านนอกประตูสถาบันชั้นสูง หมายความว่าจักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ อยู่ด้านในนั้น
โลกแห่งเซียนเสียการควบคุมไปแล้ว
นี่เป็นเหตุฉุกเฉิน เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นภายในโลกแห่งเซียน ไม่เพียงแค่นั้น การสอบยังคงดำเนินอยู่ และมีเรื่องความปลอดภัยของอาณาจักร
ที่สำคัญที่สุดคือ ปิง หยาง ก็อยู่ในโลกนั้นเช่นกัน
องค์หญิง ปิง หยาง ผู้ที่องค์จักรพรรดิทรงโปรดปราน
แม้แต่องค์ชายในปัจจุบันก็ไม่อาจเทียบกับองค์หญิง ปิง หยาง แห่งอาณาจักรเซี่ยได้ เนื่องจาก ปิง หยาง หมายถึงการป้องกัน การป้องกันที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรเซี่ย
ถ้าเป็นตอนอื่น องค์ชาย 9 หลิน หยุน จะวิ่งเข้าไปในสถาบันชั้งสูงโดยไม่ลังเลเลย แม้จะต้องได้พบกับอารมณ์โกรธเกรี้ยวที่ยิ่งใหญ่
แต่ตอนนี้…
เขาหยุด
เหตุผลก็คือนอกจากขุนนางผันแล้ว มีเหล่าทหารในชุดเกราะอยู่ที่ด้านนอกของประตูอีกด้วย ไม่ว่าฝนพายุจะกระหน่ำแรงเพียงใด เกราะบนร่างของพวกเขาก็ยังคงปราศจากน้ำฝน
นั่นหมายความว่าทุกคนอยู่ในระดับพลังสะท้อนสวรรค์
กองทัพทหารที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ระดับกลาง
มีเพียงสิ่งเดียวในอาณาจักรเซี่ยแห่งนี้
นั่นคือหน่วยเกราะมังกร
ลายสลักมังกรทองที่บนหน้าอกของพวกเขานั้นหมายถึงสถานะที่ยิ่งใหญ่ เมื่อพวกเขาเข้าสู่เมืองหลวงของจักรพรรดิ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทักทายองค์ชายและไม่ต้องแม้แต่ลงจากหลังม้า นั่นคือสิทธิพิเศษของหน่วยเกราะมังกร
พื้นเพของหน่วยกราะมังกรแต่ละคนนั้นเป็นเหล่าชนชั้นสูง พวกเขามาจาก 13 กองตรวจการและเป็นลูกหลานโดยตรงของพวกขุนนาง อย่างไรก็ตามพวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเท่านั้น
พวกเขาเป็นตัวแทนของจักรพรรดิ ในขณะเดียวกัน พวกเขามีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิและกองตรวจการทั้ง 13 หน่วยรวมถึงพวกตระกูลขุนนางทั้งหลายอีกด้วย
การที่หน่วยเกราะมังกรปรากฎตัวขึ้นในเมืองหลวงของจักรพรรดิแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม มีอีกหลาย 10 คนของหน่วยเกราะมังกรที่ปรากฎตัวขึ้นในเมืองหลวงแห่งจักรพรรดิในเวลาเดียวกันนี้นั่นหมายความได้ถึงสิ่งเดียว มีบางอย่างเกิดขึ้น บางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรเซี่ย
องค์ชาย 9 หลิน หยุน หยุดชะงัก เขาลังเล อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ลังเลอีกต่อไป
องค์ชาย 9 หลิน หยุน รีบเคลื่อนไหว
ทีละกาว ทีละก้าว ไปจนถึงประตูของสถาบันชั้งสูง
เหล่าทหารยามและขุนนางผันกระตุกปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หน่วยเกราะมังกรกว่า 10 คน จ้องมาที่องค์ชาย 9 หลิน หยุน
มีคนเดินออกมาขวางหน้าองค์ชาย 9 หลิน หยุน เอาไว้
ท่าทีของเขาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง
เขาถือดาบอยู่ในมือ... เขาชักดาบออกจากฝักแล้ว ดาบที่เงาวาวจนเปล่งประกายด้วยแสงสีเงินท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำ
"องค์ชาย 9 ท่านมีเรื่องเร่งด่วนอะไรงั้นรึ?" คนที่พูดไม่ใช่คนที่ถือดาบ แต่เป็นคนที่อยู่ด้านข้าง ขุนนางเว่ย อายุราว 30 และมีท่าทีที่เย็นเยือกราวกับน้ำแข็งเช่นเดียวกัน
"ใช่" องค์ชาย 9 พยักหน้าด้วยความจริงจัง
"ด่วนแค่ไหน?"
"เร่งด่วนมาก!"
"เกี่ยวกับอะไรงั้นรึ?"
"การทดสอบระดับจักรพรรดิ"
"การสอบระดับจักรพรรดินั้นเป็นเหมือนอนาคตของอาณาจักรเซี่ย อย่างไรก็ตามข้าเชื่อว่าท่านน่าจะรอได้สักพักหนึ่ง"
"ถ้ามันยังเกี่ยวข้องถึงความปลอดภัยของ ปิง หยาง ด้วยเล่า?"
"องค์ชาย 9 เชิญเข้าไปได้!"
ทหารที่ขวางทางอยู่ เปิดททางให้องค์ชาย 9 ทันที
ไม่มีการเอ่ยคำพูดขอโทษใดๆ เขาก็เงียบและกลับไปยืนที่เดิม ราวกับว่าเขาไม่เคยขวางทางมาก่อน
การแสดงออกของ ขันทีผัน ตกใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขาผลักประตู้เข้าไปเงียบๆ
องค์ชาย 9 เดินเข้าไป ช่วงเวลาที่เขาก้าวข้ามประตูเดินเข้าไปยังสถาบันชั้นสูง หยดาฝนที่ตกกระทบตัวเขาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะหยุดค้างอยู่กลางอากาศ
เมื่อองค์ชาย 9 ผ่านไปล้ว มันตกลงสู่พื้นและกลับไปรวมเข้ากลับพายุอีกครั้ง
...
ภายในสถาบันชั้นสูง มีกลิ่นหอมอ่อนๆลอยอยู่ในอากาศ อย่างไรก็ตามกลิ่นนั้นดูเหมือนผสมกับกลิ่นเลือดจางๆ
สมาชิกของหน่วยเกราะมังกน ยืนอยู่ที่ฝั่งซ้ายและขวา ตรงกลางลานมีร่างของคนหนึ่งถูกธงสีแดงเลือดคลุมไว้
มีคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ธง
นีถือเป็นพิธีการของหน่วยเกราะมังกร มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้นที่จะเกิดพิธีกรรมนี้ขึ้น นั่นหมายความว่ามีใครบางคนในหน่วยเกราะมังกรได้เสียชีวิตลง
และผู้ที่ตายกำลังถูกนำร่างกายมาที่สถาบันชั้นสูงนี้
มัน...
ไม่ง่ายเหมือนการตายของคนธรรมดาทั่วไป
หน่วยเกราะมังกรประกอบด้วยคน 500 คน เป็นจำนวนที่คงที่ตั้งแต่อาณาจักรเซี่ยได้ก่อตั้งขึ้นมา ใน 1 หน่วยจะมี 50 คน ในทุกหน่วยจะมีการแต่งตั้งราชฑูตมังกร
"ราชฑูตมังกรตาย?!" องค์ชาย 9 เข้าใจทันทีว่าทำไมทหารที่ประตูถึงบอกว่า เรื่องการทดสอบระดับจักรพรรดินั้นสามารถรอได้
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
องค์ชาย 9 ไม่ได้ถาม เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะถาม สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือตอบคำถามองค์จักรพรรดิอย่างถูกต้องเมื่อถูกถาม
"ขออภัยฝ่าบาท!"
"พูด" เสียงขององค์จักรพรรดิดังมาจากหลังโต๊ะ อย่างไรก็ตามดูเหมือนเขาจะไม่สนใจแม้แต่ให้องค์ชาย9 ที่นั่งคุกเข่าอยุ่ลุกขึ้นมา
" โลกแห่งปราชญ์นั้นหลุดออกจากการควบคุม ทุกคนที่เข้าสู่รอบที่ 3 ยังติดอยู่ในนั้น องค์จักรพรรดิโปรดให้อภัยกับความไร้ประโยชน์ของข้า! "
"เจ้าได้สืบหาสาเหตุเบื้องหลังหรือยัง?"
"ข้ายังไม่กล้ายืนยัน แต่ยังไงก็ตาม ข้าคาดว่ามันเกี่ยวข้องกับดาบที่อยู่ในโลกแห่งเซียน"
"คาดเดา? ในฐานะผู้คุมสอบ เจ้ากล้าบอกข้าว่า เจาคาดเดางั้นหรือ? นอกจากนี้เจ้ายังเดาว่าเป็นเพราะดาบที่ไม่เคยปรากฎออกมา? เจ้ารู้หรือไม่ว่า ปิง หยาง เองก็เข้าสอบครั้งนี้ด้วย? "
"ข้ารู้"
"ด้วยความสามารถของนาง แม้ว่าจะใช้หอกฉีหลิน แต่นางก็คงไม่มีพลังงานมากนัก ... ปิง หยาง ไม่ได้เข้าสู่รอบที่ 3 ใช่หรือไม่? "
"ปิงหยางไม่ได้ใช้หอกฉีหลิน นางตาม ฟาง เจิ้งจือ ผ่านสะพานที่แตกหัก แผ่นศิลาแฝดและเข้าสู่รอบที่ 3... "
"สะพานแตกหัก, ศิลาแฝด? เจ้าหมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถ ไขปริศนาพวกนี้ได้? "
"เขาทำได้แม้แต่ไขปริศนาของบ้านหิน"
"งั้น ปิง หยาง เองก็ถูกขังอยู่ในโลกแห่งเซียนด้วย?"
"ใช่"
"แล้วทำไมเจ้ายังมามัวคุกเข่าอยู่ละ?! ตามข้าไปที่โรงเรียนหลวง! " หลังพูดจบองค์จักรพรรดิลุกขึ้นทันที โดยไม่สนใจองค์ชาย 9 ที่คุกเข่าอยู่
เมื่อสมาชิกของหน่วยเกราะมังกรได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ แต่พวกเขายังคงยืนนิ่งๆ ท่าทีของพวกเขายังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม รางกับรูปปั้น
องค์ชาย 9 กวาดตามองสมาชิกทั้ง 2 ของหน่วยเกราะมังกร และมองไปยังร่างของราชฑูตมังกรที่วางอยู่กลางลาน ก่อนจะจากไปโดยไม่พูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะชบคิดบางอย่างอยู่
...
เพจหลัก : Double gate TH