GE17 สายลมและหิมะ นายน้อยผู้ทรงเสน่ห์ (2)
“ห้ามมอง... พอได้แล้ว... ไม่... อื้ม~”
เสียงครางเบาๆของนางทำให้ดวงตาของหนิงฝานเป็นประกาย ในยามที่จื่อเฮ่อกำลังตระหนก นางกลับสัมผัสได้ว่าร่างกายของหนิงฝานมีบางสิ่งแปลกไปราวกับมีบางอย่างกำลังไหลเวียน
นางเห็นหนิงฝานปลดอาภรณ์ของตนทั้งหมด เปิดเผยร่างกายที่ผอมบาง แผ่นอกที่เรียบลื่น แม้ดวงตาของจื่อเฮ่อจะพร่ามัว แต่นางกลับคิดว่ายามนี้หนิงฝานช่างหล่อเหลา หล่อเหลาโดยมิอาจหาใดเปรียบ...
“พี่ฝาน... ข้าอึดอัด...” นางหายใจถี่กระชั้นทั้งครางกระเส่าเบาๆ
“เจ็บ! ไม่... อย่า...”
แปลก... เป็นความรู้สึกที่แปลก แม้จะเจ็บแต่เหตุใดกลับรู้สึกดี
จื่อเฮ่อไม่กระจ่างกับหลายๆความรู้สึก ลมหายใจของนางถี่กระชั้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง นางกอดหนิงฝานแน่น ริมฝีปากของเคลื่อนขบเข้าที่ต้นคอหนิงฝานพร้อมกับรับความรู้สึกแปลกๆกำลังเพิ่มมากขึ้น...มากขึ้น
ไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจ แต่ร่างกายที่ละเอียดอ่อนราวกับหิมะของจื่อเฮ่อก็ทำให้หนิงฝานเร่งการเคลื่อนไหว
เต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งการบ่มเพาะผสานคือสัมพันธ์ระหว่างบุรุษสตรี ผู้บ่มเพาะมากมายเข้าใจว่าต้องป้องกันไม่ให้เสียหยาง เพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาดใหญ่หลวง ดังนั้น ผู้บ่มเพาะฝ่ายอธรรมมากมายจึงคิดว่าการที่นิกายเหอฮวนใช้หยางเติมหยินเป็นเรื่องที่ผิด
สิ่งที่นิกายเหอฮวนทำไม่ใช่การบ่มเพาะ การบ่มเพาะผสานคือการดึงเอาแก่นแท้ของความรู้สึกภายในออกมา
หนิงฝานลืมเลือนการบ่มเพาะผสานไปสิ้น เขาขยับเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วงพลางกอดรัดพัวพันกับเรือนร่างที่นุ่มละมุนและบอบบางของจื่อเฮ่อ
แสงจันทร์สาดส่อง พื้นน้ำแข็งเบื้องล่างมีบุรุษสตรีเคล้าคลอ... ท่ามกลางหิมะและสายลมที่หนาวเหน็บ มีเพียงร่างกายของทั้งสองเท่านั้นที่อบอุ่น
“อื้ม.. อื้ม...” เสียงครางกระเส่าขับส่งให้ราตรีอบอวนไปด้วยบรรยากาศที่เย้ายวน
ผ่านไปสักพัก ร่างกายของจื่อเฮ่อก็เริ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ผิวกายทั่วร่างสูบฉีดด้วยโลหิตจนแดงฉาน
เหงื่อที่หอมหวานสัมผัสเสื้อคลุมที่วางปูบนพื้นหิมะ ทำให้โดยรอบอบอวนไปด้วยกลิ่นหอมมากขึ้น
หนิงฝานส่งเสียงครางพร้อมทั้งนำพาจื่อเฮ่อไปถึงจุดสูงสุดของความสุข
หนิงฝานปล่อยน้ำหนักตัวทั้งหมดลงบนเรือนร่างที่บอบบางของนาง นางเองก็ส่งเสียงครางฮึมฮัมเบาๆ ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาด ร่างกายอ่อนแรงไร้กำลัง
จื่อเฮ่อร่วมรักเป็นครั้งที่ 3 แต่สำหรับหนิงฝานแล้ว นี่คือการร่วมรักที่แท้จริงครั้งแรกของนาง
“เด็กโง่...เจ้าพักเถอะ ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวนาน ข้าจะดูแลเจ้าเอง”
หนิงฝานนำเสื้อคลุมห่มคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของจื่อเฮ่อ ส่วนตนเองนั้นเปลือยเปล่าอยู่บนหิมะ
แม้ครั้งนี้หนิงฝานจะลืมเลือนการบ่มเพาะผสานไป แต่ด้วยอำนาจของสร้อยหยินหยาง การบ่มเพาะผสานยังคงดำเนินไปด้วยตัวของมัน
หนิงฝานที่ถึงจุดตีบตันในขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 10 ได้ทะลวงขอบเขต
หนิงฝานทะลวงเข้าสู่ขอบเขตประสานวิญญาณด้วยเวลาไม่ถึง 4 เดือน ความเร็วในการบ่มเพาะระดับนี้เทียบชั้นได้กับผู้เยาว์ของตระกูลที่มีชื่อเสียง
เพลิงปีศาจทมิฬและเส้นชีพจรทั้ง 100 เส้นภายในร่างของหนิงฝานได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง หนิงฝานสามารถหลอมรวมกับธาตุแห่งธรรมชาติได้ 1 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น เพลิง วารี โลหะ ไม้ ดิน ลม และสายฟ้า
มีเพียงเส้นชีพจรสวรรค์ชนิดพิเศษเท่านั้นที่สามารถหลอมรวมกับธาตุธรรมชาติได้มากกว่าหนึ่งชนิด
ด้วยเพราะเพลิงปีศาจทมิฬไหลเวียนอยู่ภายในเส้นชีพจรของหนิงฝาน ในอนาคตเบื้องหน้า หนิงฝานย่อมกลายเป็นผู้บ่มเพาะเพลิงธาตุ
แต่กลับมีสิ่งที่ทำให้หนิงฝานประหลาดใจ ภายในเส้นชีพจรหยินหยางปีศาจของเขา ส่วนที่เป็นเส้นชีพจรหยางกลับมีธาตุน้ำแข็งเลือนลาง
ราวกับว่าหนิงฝานที่ร่วมรักกับจื่อเฮ่อท่ามกลางหิมะและสายลม ทำให้หนิงฝานดูดซับเอาธาตุน้ำแข็งเข้าไป
ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณสองธาตุ!? หนิงฝานยกฝ่ามือพลางจุดเพลิงปีศาจทมิฬขึ้น ในเพลิงปีศาจทมิฬมีเพลิงสีฟ้าจางๆที่มองได้ยากปรากฏอยู่
“นี่มัน ‘เพลิงหยินหยาง’!” ความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ปรากฏ
โบราณกล่าวว่า ผู้ฝึกตนมีโอกาสจุดเพลิงหยินหยาง แต่การฝึกฝนด้วยการแปลงหยินหยางจะทำให้มีโอกาสจุดเพลิงหยินหยางได้มากกว่า แม้เป็นเช่นนั้น วิธีการจุดเพลิงหยินหยางที่แท้จริงกลับไม่มีปรากฏ
หรือต้องเป็นการร่วมรักกับสตรีในดินแดนหิมะน้ำแข็งด้วยการบ่มเพาะผสาน
หนิงฝานจ้องมองเปลวเพลิงที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณขั้นกลางพลางดำดิ่งลงสู่ห้วงความคิด...