GE16 หากไม่ฆ่าก็ไม่สมเป็นบุรุษ (2)
Chapter 16 หากไม่ฆ่าก็ไม่สมเป็นบุรุษ (2)
ในเมื่อสร้อยคอหยินหยางสามารถดูดกลืนเพลิงทมิฬของปีศาจเฒ๋าหานได้ เหตุใดยังต้องกลัวเพลิงจากยันต์เซียน
หนิงฝานถือกระบี่ไว้ที่หน้าอก ดวงตาจับจ้องหวู่ตงหนานพร้อมกับปราณสังหารจักรพรรดิสวรรค์ปะทุ!
“เจ้าทำร้ายน้องชายข้า หวังจะครอบครองภรรยาข้า หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ข้าก็ไม่สมควรเป็นบุรุษ!”
สายตาของหนิงฝานทำให้หวู่ตงหนานรู้สึกราวกับร่วงหล่นลงสู่หลุมน้ำแข็ง มันมีชีวิตอยู่มา 200 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มาก แต่มันไม่เคยเห็นผู้ใดที่ปลดปล่อยเจตนาสังหารได้รุนแรงขนาดนี้มาก่อน
เปลวเพลิงสีดำลุกโชนขึ้นบนกระบี่ของหนิงฝาน เสียงแผดเผาราวกับเสียงมังกรคำราม ทั้งเพลิงสีดำยังดูราวกับเผาโลกใบนี้ให้มอดไหม้
หนิงฝานสะบัดกระบี่ เปลวเพลิงทมิฬลุกโหมจนทำให้พื้นที่กว่า 1000 จ้างสั่นสะเทือน
ถ้าข้าไม่ฆ่าเจ้า ข้าก็ไม่สมเป็นบุรุษ!
หนิงฝานกำหมัดแน่น ความเกลียดชังถ่ายลงสู่กระบี่ เขาช่วยเหลือผู้คนมากมายแต่กลับถูกทรยศหักหลัง หนิงกู่น้องชายถูกนิกายเทียนหลีโม่คุมขัง จื่อเฮ่อภรรยาถูกหวู่ตงหนานคิดมิดีมิร้าย
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าป้องกันยันต์เพลิงพวกนั้นได้ยังไง แล้วเหตุใดเจ้าสามารถเปลี่ยนให้เจตจำนงค์กระบี่เป็นเพลิงได้! เจ้าไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ หากเจ้ากล้าสังหารข้าก็เท่ากับกล้ายั่วยุนิกายเทียนหลีโม่”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้อะไรทั้งสิ้น...ตายไปได้แล้ว!”
หนิงฝานแค่นเสียงพลางแทงกระบี่ออกไป ประกายกระบี่สีดำมุ่งไปยังหวู่ตงหนาน เส้นทางยาวที่มันเคลื่อนผ่านลุกโหมด้วยเปลวเพลิงทมิฬ
เจตจำนงกระบี่กลายเป็นเพลิงอสูรทมิฬ ซื่อถูได้เคยรับกระบี่ที่ท้าทายสวรรค์จากหนิงฝานกระทั่งต้องออกกระบี่ 3 กระบวนท่าเพื่อต้านรับ ยามนี้หวู่ตงหนานสิ้นไร้ปราณ มันจะหยุดกระบี่ของหนิงฝานได้อย่างไร!
ข้าต้องทุ่มความพยายามไปมากเพื่อสังหารเจ้า ดังนั้นการสังหารเจ้าต้องกระทำด้วยมือของข้า! ยุ่ยฉีถูกห้ามไม่ให้ช่วย ซื่อถูถูกห้ามไม่ให้ลงมือ มีเพียงพลังของข้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเจ้าดับสูญ!
ข้าบรรลุเพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 5 มีเพียงกระบี่เป็นอาวุธ แต่เพียงเท่านี้ก็มากพอให้สังหารเจ้า!
กระบี่ของหนิงฝานเข้าเป้า หวู่ตงหนานเผยสีหน้าหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อ และมันจะคงอยู่เช่นนั้นไปตลอดกาล
ไร้ซึ่งโลหิต ไร้ซึ่งเสียงคร่ำครวญ กระบี่ปลิดชีวิตสิ้นในชั่วอึดใจและแผดเผาเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
ผงเถ้าของหวู่ตงหนานพัดพาไปตามสายลม
ภายในกลุ่มผงเถ้า มีดวงจิตของหวู่ตงหนานที่ยังคงอยู่ราวกับไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น หนิงฝานโบกมือด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพื่อฉวยเอาดวงจิตมาไว้ในมือ จากนั้นจึงจุดเพลิงเผามันจนสิ้นซาก
เหตุที่หวู่ตงหนานลงมือกับจื่อเฮ่อเพราะมันต้องการรู้ความลับของหนิงฝานและความลับของนิกายเทียนหลีโม่
นี่คือครั้งแรกที่หนิงฝานสังหาร หนิงฝานลงมือย่างรวดเร็วทั้งยังกำจัดดวงจิตของอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น
เหนือขึ้นไปบนผืนฟ้า สีหน้าของยุ่ยฉีและซื่อถูแปรเปลี่ยน การลงมือของหนิงฝานทำให้ทั้งสองหวาดกลัว
คาดไม่ถึงว่าผู้เยาว์ที่มีรอยยิ้มสดใสราวกับดวงตะวัน จะพลัดเปลี่ยนอารมณ์และสังหารคนได้อย่างเลือดเย็น
ผู้เยาว์ผู้นี้ถือกำเนิดมาเพื่อเป็นปีศาจ เป็นปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด แม้คนผู้นี้จะเป็นเพียงมนุษย์ แต่หากได้ลงมือ เมืองทั้งเมืองล่มสลาย กองทัพนับพันถูกทำลาย สายน้ำสั่นไหว โลกทั้งใบสั่นคลอน สวรรค์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เมื่อสังหารหวู่ตงหนานสำเร็จ หนิงฝานก็หลับตา มุมปากปรากฏรอยยิ้มที่ขมขื่น
ก่อนหน้านี้ไม่นานตนเองยังเป็นเพียงผู้เยาว์ที่บริสุทธิ์ แต่ยามนี้กลับกลายเป็นปีศาจนักฆ่าที่เลือดเย็น
ทั้งหมดนั่นก็เพื่อแก้แค้นให้หนิงกู่ หวู่ตงหนานที่ลงมือทำร้ายหนิงฝานและน้องชายอาจไม่คิดว่ามันจะพบจุดจบดั่งวันนี้
หนิงฝานหยิบกระเป๋าเก็บของหวู่ตงหนานขึ้นมา ภายในนั้นมีสมบัติที่มันสะสมไว้มากมาย
ปะการังม่วงจิตวิญญาณ กระบี่ไร้เงา เมฆเซียนระดับกลง ผลึกสวรรค์หลายพัน และผลไม้แห่งเต๋า!
ผู้ใดจะคิดว่าผลไม้แห่งเต๋าจะอยู่ในมือของหนิงฝาน
“ผลไม้แห่งเต๋าแก่นทองคำ หากมนุษย์ได้กินจะบรรลุประสานวิญญาณ หากประสานวิญญาณขั้นสุดท้ายได้กิน จะบรรลุถึงแก่นทองคำ แต่หากแก่นทองคำได้กินจะช่วยให้ทะลวงขั้น แล้วถ้าหากข้ากิน...มันจะเป็นเช่นไร!?”
“นายน้อย เราจะทำเช่นไรกันต่อ?”
“ทำลายซากของมันอย่าให้เหลือร่องรอย!”
ผ่านไปสามวัน ข่าวที่สะเทือนไปทั้งสวรรค์สองข่าวก็ปรากฏขึ้นในแคว้นเยว่ ทำให้ฝ่ายธรรมะและอธรรมปั่นป่วนยุ่งเหยิงไปอีก 3 เดือน
ข่าวแรก ลูกหลาน ‘เทพกษัตริย์แห่งโลกพิรุณ’ ได้นำกองกำลังกว่า 800 นายมายังแคว้นเยว่ตามคำสั่งของฝ่ายธรรมะราวกับพวกมันกำลังตามหาใครสักคน
ฝ่ายธรรมะได้ออกคำสั่งห้ามคนของฝ่ายอธรรมเดินทาง และเริ่มออกตามหาไปทั่วทุกเมืองในแคว้นเยว่
ข่าวที่สอง หวู่ตงหนานผู้อาวุโสนิกายเทียนหลีโม่ที่เป็นนิกายฝ่ายอธรรมอันดับหนึ่ง ได้เดินทางไปร่วมงานประมูลผลไม้แห่งเต๋าและถูกสังหารที่นั่น!
ผู้ลงมือคือผู้ใดยังไม่ทราบ แต่ประมุขนิกายเทียนหลีโม่เดาว่าเป็นฝีมือของเมืองฉีเหม่ย เพราะทันทีที่หวู่ตงหนานออกจากเมือง กององครกษ์สองกองก็เคลื่อนออกนอกเมืองอย่างมีพิรุธ
ประมุขนิกายกุ่ยเชว่ออกตัวอธิบายกับประมุขนิกายเทียนหลีโม่ว่าไม่ใช่ฝีมือของมัน
มีข่าวลือกันหนาหูมากกว่าหากประมุขนิกายเทียนหลีโม่บรรลุดวงจิตแรกเริ่ม มันจะมาทำลายเมืองฉีเหม่ยให้สิ้นซาก
ข่าวลือทำให้นิกายฝ่ายอธรรมหวาดกลัว แต่เมืองฉีเหม่ยกลับดูไม่ทุกร้อน เพราะอีก 3 เดือนข้างหน้านั้นยังอีกยาวไกล
หนิงฝานจัดงานเลี้ยงขึ้นในตำหนักแห่งหนึ่งเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับยุ่ยฉี ซื่อถู และเหล่าผู้นำกองกำลังภายในเมือง ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งหมดมีความสุขมากขนาดนี้
การกระทำของหนิงฝานทำให้ทุกคนพึงพอใจ เพราะสิ่งที่หนิงฝานทำคือสิ่งที่ปีศาจเฒ่าหานไม่ได้ทำมาตั้ง 40 ปีแล้ว
หากจะเสียใจก็มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคือหนิงฝานไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย
หนิงฝานเก็บตัวอยู่ในตำหนักซื่อฟานเพื่อปรุงยาผลไม้แห่งเต๋า
ในช่วงสามเดือนที่เก็บตัว ระดับการบ่มเพาะของหนิงฝานเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเปิดเส้นชีพจรที่ 5 ไปเป็นเปิดเส้นชีพจรที่ 10 อีกเพียงก้าวเดียวหนิงฝานจะบรรลุประสานวิญญาณ
หากหนิงฝานบรรลุประสานวิญญาณที่น้อยคนในเมืองฉีเหม่ยจะทำได้ เขาจะเข้าร่วมนิกายกุ่ยเชว่ซึ่งฐานะอาจกลายเป็นผู้อาวุโส
หากจะเสียดายก็มีอยู่เพียงเรื่องเดียวคือยามนี้เส้นชีพจรหยินหยางปีศาจทั้ง 100 เส้นได้เปิดแล้ว แต่หนิงฝานยังไม่อาจสัมผัสกับประสานวิญญาณได้
“นับเป็นข่าวร้าย” หนิงฝานเหม่อลอย คนอื่นๆอาจมองว่าง่าย แต่เมื่อเจอกับตนกลับกลายเป็นว่าไม่อาจทำได้
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใกล้ตัวมาก ผู้อื่นจึงจะสังเกตุเห็นข้อบกพร่องได้ง่ายกว่า
ในขณะที่หนิงฝานกำลังเศร้าใจ น้ำเสียงที่มีชีวิตชีวาก็ดังขึ้น
“พี่ฝาน ขอท่านลองสิ่งนั้น... บางทีท่านอาจทะลวงจุดตีบตันได้”
“สิ่งใด? หรือเจ้าหมายถึงการบ่มเพาะผสาน!” ในที่สุดหนิงฝานก็เข้าใจที่นางจะกล่าว
ยามนี้คือเวลาที่เหมาะสม ตั้งแต่คราวนั้นก็ผ่านไปสามเดือน... ปีศาจเฒ่าหานทำกระถางกลั่นโอสถระเบิดไป 12 ครั้งแต่ยังปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ไม่สำเร็จ
ในที่สุดปีศาจเฒ่าก็ยอมแพ้และตัดสินใจจะมาขอคำแนะนำจากหนิงฝาน แต่หนิงฝานพาจื่อเฮ่อออกไปข้างนอกเพื่อเล่นว่าวกับนาง
เมื่อปีศาจเฒ่าหานทราบเรื่องที่ระหว่างตนเองไม่อยู่นั้น หนิงฝานได้หาญกล้าสังหารผู้อาวุโสของนิกายเทียนหลีโม่ ปีศาจเฒ่าจึงเป็นกังวลว่านั่นจะเป็นการนำภัยพิบัติมาสู่เมืองฉีเหม่ย
แต่หนิงฝานคิดว่ามันไม่ใช่ภัยพิบัติ
“เด็กน้อย! บิดาบากบั่นปรุงโอสถแต่เจ้ากลับสังหารผู้คนเพียงลำพังโดยไม่ชวนข้า!”
ปีศาจเฒ่าหานสนใจเรื่องนี้...