GE16 หากไม่ฆ่าก็ไม่สมเป็นบุรุษ(1)
Chapter 16 หากไม่ฆ่าก็ไม่สมเป็นบุรุษ
หวู่ตงหนานไม่กล้าลงมือ เมื่อยามที่มันมาเยือนเมืองฉีเหม่ย มันปากกล้ากล่าวว่าจะช่วงชิงสตรีของหนิงฝาน แต่เมื่อได้ประสบกับปราณสังหารแก่นทองคำของหนิงฝานไป มันกลับเริ่มหวาดกลัวว่าหนิงฝานจะสังหารมัน!
“เป็นไปไม่ได้ มันจะกล้าสังหารข้าได้อย่างไร มันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ... ที่ข้ากล่าวถึงประมุขหวูเสียไปเมื่อครู่ก็เพื่อจะข่มขู่มัน แต่มันกลับหวาดกลัวชั่วขณะและแผ่ปราณสังหารดังเดิม... มันบ้าไปแล้ว มันไม่กลัวนิกายเทียนหลีโม่เลยหรือไร...”
แม้หวู่ตงหนานจะชั่วร้าย แต่สายตาของมันกลับแหลมคม มันอ่านสีหน้าท่าทางของหนิงฝานออกว่าต้องการจะสังหารมัน
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำยังไม่กล้าฆ่า แต่หนิงฝานกลับกล้า
“ด้วยพื้นเพอย่างมัน...เป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นศิษย์ของปีศาจเฒ่าหาน”
เมื่อหวู่ตงหนานพ้นประตูเมืองฉีเหม่ย มันก็มุ่งหน้าไปทิศตะวันตก มันนำเมฆเซียนออกมาเพื่อเตรียมหลบหนี แต่จู่ๆกลับพบว่าไม่สามารถถ่ายปราณเข้าไปภายในได้ ทำให้เมฆไม่อาจบิน
ยามนี้มันเริ่มสังเกตุว่าร่างกายของมันต้องผงหอม ผงหอมทำให้มันไม่สามารถใช้ปราณได้ สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวงราวกับฉุกคิดถึงบางสิ่ง
“แย่แล้ว! นี่เป็นแผนของหนิงฝาน เด็กนั่นตั้งใจสังหารข้าจริงๆ!”
มันเร่งนำยันล่องหนออกมาแปะเข้ากับกาย จากนั้นร่างของมันก็ค่อยๆหายไป! ยันล่องหนแผ่นนี้ไม่ธรรมดา มันมั่นใจว่าต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงก็ไม่อาจหาร่องรอยของมันพบ
มันเร่งปล่อยหนูสะกดกว่าหลายร้อยตัวเพื่อสำรวจทางเบื้องหน้า มันกลัวว่าหนิงฝานจะวางกับดักเอาไว้
มันมุ่งหน้าไปทางตะวันตกอย่างระมัดระวัง ผงหอมที่ต้องกายของมันค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆพร้อมกับปราณที่ค่อยๆฟื้นฟู
หากปราณฟื้นฟูมันก็สามารถขี่เมฆเซียนหลบหนีและไม่มีผู้ใดจับมันได้
แต่จู่ๆหวู่ตงหนานกลับสัมผัสได้ว่าหนูสะกดรอยที่มันปล่อยออกไปค่อยๆขาดการติดต่อทีละตัวๆ
มันไม่กล้าแผ่สัมผัสเทพ แต่ทางเลือกที่มันคิดออกกลับมีไม่มาก เมื่อมันปลดป่ล่อยสัมผัสเทพ สีหน้าของมันพลันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เพราะผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมจำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือทั้งยังเปี่ยมด้วยเจตนาสังหาร กำลังขี่สัตว์อสูรตรงเข้าหามัน
มันล่องหนแล้ว เหตุใดอีกฝ่ายถึงตามรอยมันพบ เป็นไปไม่ได้!?
“มันตามรอยข้าได้อย่างไร!”
หวู่ตงหนานเริ่มหวาดกลัวและตระหนกจนผมชี้ชัน เพราะในระหว่างนั้นปราณกระบี่จำนวนมหาศาลได้กระหน่ำเข้าใส่มันราวกับห่าฝน!
สิ่งที่ทำให้มันหวาดกลัวมากที่สุดคือปราณกระบี่แก่นทองคำที่เกิดจากผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณที่แฝงมา!
ผืนป่าในรัศมีกว่าหลายลี้ถูกปราณกระบี่สะบั้น หวู่ตงหนานที่ล่องหนได้รับบาดเจ็บ
บนผืนฟ้าปรากฏผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณสองคนเหยียบย่างนภา! หวู่ตงหนาจดจำทั้งสองได้ หนึ่งคือหัวหน้าองค์รักษ์กระบี่แห่งเมือฉีเหม่ย ส่วนอีกหนึ่งคือหัวหน้าองครักษ์เหมย
ยุ่ยฉีผู้สื่อตรง หวู่ตงหนานเคยพบหลายครั้งแต่ไม่เห็นยุ่ยฉีอยู่ในสายตา แต่ยามนี้ ยุ่ยฉีปรากฏตัวพร้อมกับหมูม่วง เขาเหยียบย่างนภาได้ทั้งระดับการบ่มเพาะยังทะลวงเข้าสู่ขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลาง
“เป็นไปไม่ได้! ยุ่ยฉีผู้ขลาดเขลาไม่สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมกลับบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลาง!”
เมื่อหวู่ตงหนานชำเลืองมองบุคคลอีกผู้ มันถึงกับหวาดกลัวและตกตะลึง
หัวหน้าองครักษ์กระบี่ซื่อถูบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสุดท้าย! ปราณกระบี่แก่นทองคำเมื่อครู่สมควรเป็นของคนผู้นี้
เป็นไปไม่ได้ที่เมืองฉีเหม่ยจะทรงพลังขนาดนี้!
สีหน้าหวู่ตงหนานแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เมื่อครู่มันสูญเสียปราณจนหมดสิ้น หากยุ่ยฉีและซื่อถูกลงมือ มันย่อมหนีไม่พ้นถูกแผ่นดินกลบหน้า
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือเหตุใดคนทั้งสองถึงไม่ลงมือ ทั้งคู่เพียงเหยียบย่างกลางเวหาเพื่อป้องกันไม่ให้มันหลบหนี
หรือจะมีผู้อื่นมาสังหารมัน?
เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง มันเร่งหันหน้ากลับก่อนพบเด็กหนุ่มที่กำลังขี่สัตว์อสูรเข้าขวางเพื่อป้องกันการหลบหนีของมัน
เด็กผู้นั้นสวมชุดขาวภายในและสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำภายนอก ดูโอ่อ่า ใบหน้าเรียบเฉย แต่เจตนาสังหารกลับรุนแรง
หนิงฝาน! บิดาจะหลงลืมเด็กผู้นี้ได้อย่างไร! หรือที่หัวหน้าองค์รักษ์ไม่ลงมือก็เพราะรอให้หนิงฝานเป็นผู้ลงมือเอง!
หวู่ตงหนานแอบเย้ยหยันหนิงฝานในใจ แต่เมื่อมันจำได้ว่าหนิงฝานเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ มันจึงเริ่มหวาดกลัว
หนิงฝานแสดงท่าทางเกียจคร้าน แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมากลับน่าเกรงขามไม่ต่างไปจากประมุขนิกายเทียนหลีโม่ ระดับการบ่มเพาะเป็นเรื่องที่ปิดบังอำพรางได้ แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นปิดบังไม่ได้ หนิงฝานมีที่มาอย่างไร?
“ผู้อาวุโสหนิงที่แท้เป็นท่าน ท่านจะยอมปล่อยข้าไปได้หรือไม่!” หวู่ตงหนานแตกตื่น มันมองสำรวจหนิงฝานแต่ไม่อาจเข้าใจได้หมด
“ข้ามาที่นี่ก็เพื่อฆ่าเจ้าเท่านั้น!” แม้ท่าทีของหนิงฝานจะเรียบเฉย แต่ทันทีที่กล่าวจบ หวู่ตงหนานกลับล่าถอยไปหลายก้าว มันสงบใจและพยายามจะใช้ชื่อเสียงของนิกายเทียนหลีโม่เพื่อขู่หนิงฝาน
ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำยังต้องเกรงใจนิกายเทียนหลีโม่ แต่หนิงฝานเป็นข้อยกเว้น ดูเหมือนมันไม่รู้จักเกรงกลัว
“ฆ่าข้า? หนิงฝาน ต่อให้เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ หากเจ้ายั่ว...”
หวู่ตงหนานยังไม่ทันได้กล่าวจบ แต่หนิงฝานกลับยิ้มขัด เป็นรอยยิ้มที่มั่นใจจนทำให้หวู่ตงหนานเริ่มตระหนก
“วางใจเถอะ ข้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ข้าอยู่เพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 5 เท่านั้น... แต่แค่นี้ก็เพียงพอให้สังหารเจ้าแล้ว”
หนิงฝานก้าวลงมาจากสัตว์อสูร เขานำกระบี่ยาวสีแดงออกมาจากกระเป๋าเก็บของ มันคืออาวุธวิญญาณระดับต่ำ แต่เมื่อกระบี่อยู่ในมือของหนิงฝาน เจตจำนงค์กระบี่ที่แผ่ออกมาทั่วร่างกลับเทียบได้ดั่งเจตจำนงค์กระบี่ประสานวิญญาณ
เพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 5 ก็เพียงพอให้สังหาร!
ยามนี้หวู่ตงหนานพยายามทำความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หนิงฝานไม่ใช่ปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำ ไม่งั้นเหตุใดหนิงฝานถึงไม่เหยียบย่างนภามา และเหตุใดหนิงฝานต้องใช้อาวุธ
เรื่องนี้ทำให้หวู่ตงหนานมีความสุข และมันก็เริ่มเข้าใจ
หนิงฝานไม่ได้โกหก แม้เขาจะบรรลุเพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 5 แต่ย่อมสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณได้! เจตจำนงค์กระบี่ของหนิงฝานสามารถเอาชนะซื่อถูกที่ยังไม่ทะลวงระดับได้! ทั้งยังคล้ายกับเจตจำนงค์กระบี่ของสตรีในแคว้นเยว่นางหนึ่ง
“เจ้าเป็นใคร... ในโลกทั้ง 9 และสวรรค์ทั้ง 4 เป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้ผิดมนุษย์เช่นเจ้า... บรรลุขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 5 แต่กลับสังหารผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ เป็นไม่ได้!”
ยามที่หวู่ตงหนานกล่าว นัยตาของมันก็เผยความชั่วร้าย มันนำยันต์เซียนจำนวนมากออกมาจากแขนเสื้อแล้วสะบัดเข้าใส่หนิงฝาน
ยามนี้มันยังไม่อาจใช้ปราณ จึงทำได้เพียงใช้ยันต์เซียน ยิ่งด้วยการลอบจู่โจมเช่นนี้ย่อมสังหารหนิงฝานได้ไม่ยาก
บังอาจคิดสังหารข้า หากสังหารหนิงฝานได้ เมืองฉีเหม่ยย่อมต้องโทษทัณฑ์ของนิกายเทียนหลีโม่ แล้วเช่นนี้ผู้ใดยังจะกล้าคิดสังหารมัน
หวู่ตงหนานหัวเราะลั่น เมื่อครู่มันเห็นหนิงฝานถูกยันต์เซียนจำนวนมากจู่โจม ไม่ว่ายังไงหนิงฝานก็หลบไม่พ้น ยามนี้ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วนฝุ่นทราย ยันต์เซียนเหล่านั้นมีคุณสมบัติของเพลิง เมื่อเข้าใกล้หนิงฝานพวกมันแปรสภาพเป็นทะเลเพลิงสีฟ้าม่วงปกคลุมร่างของหนิงฝานไว้ภายใน
หวู่ตงหนานมีความสุขราวกับรอดพ้นจากสถานะการณ์ที่น่าหวาดกลัว เมื่อครู่หนิงฝานไม่หลบ เขาย่อมตายอย่างแน่นอน
“นี่คือชะตากรรมที่เจ้ายั่วยุข้า เป็นเพียงผู้เยาว์ขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 5 แต่กลับแสร้งทำเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ กล้าใช้ปราณสังหารกับข้า ฮึ่ม! รนหาที่ตาย ฮ่าฮ่า ในเมื่อเจ้าตายแล้ว ‘ร่างทรงเสน่ห์’ นั่นชายชราผู้นี้ต้องลิ้มลองเป็นอย่างดีแน่!”
หวู่ตงหนานหัวเราะลั่น แต่ฉากถัดมากลับทำให้มันหัวเราะไม่ออก
ทะเลเพลิงที่รุนแรงเริ่มจางหายก่อนปรากฏภาพที่เพลิงหมุนวน หวู่ตงหนานตกตะลึง!
เพลิงจากยันต์เซียนของมันถูกดูดกลืนเข้าสู่ตันเถียนของหนิงฝานและหลอมรวมเข้าไปในสร้อยหยินหยาง
** ฝากกด Like แฟนเพจ ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง ด้วยนะครับ