ตอนที่12 พบเพื่อนใหม่
ตอนที่12 พบเพื่อนใหม่
ปล.Bpย่อมาจากแบทเทิ้ลพอยต์น่ะครับ
หลังจากที่ผมหันหลังกลับไปเห็นมอนด์ผมก็รู้สึกดีและทักไปว่า
“มอนด์ในที่สุดนายก็มาซักที ฉันเหงาจะแย่อยู่แล้ว เจอแต่คนไม่รู้จัก”
“นายนี้ก็นะ หัดทำความรู้จักกับคนอื่นหรือหาเพื่อนใหม่บ้างสิเพื่อน”
“แอ๊ะ”
หลังจากนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่มีพวกผู้ใหญ่เลย มีแต่พวกเด็กๆทั้งนั้น
“เฮ้ย เอาจริงดิ” ผมนึกในใจ รู้สึกว่างานนี้จัดมาเพื่อสังเกตุไหวพริบและการแสดงออกของเด็กๆโดยเฉพาะเลยหละสิ ตอนนี้คงมีเหล่าขุนนาง ผู้ปกครอง ศาสตราจารย์และนักประเมินระดับสูงอยู่แน่
ก็นะถ้าเป็นงานทั่วๆไปผมคงไม่คิดอย่างงี้หรอกแต่ว่างานนี้มันเป็นงานที่เหล่าผู้มีอำนาจให้ความสนใจกันเยอะและโลกนี้ก็มีจิตวิญญาณเอนชานท์ที่ใส่คุณสมบัติ “ส่อง” ได้ด้วย ถ้าถามว่ามันคืออะไรหนะหรือ “ส่อง” หนะคือการคุณสมบัติที่ทำให้ของชิ้นหนึ่งที่มีโปรงใสเช่นคริสตัล ลูกแก้ว อัญมณี
มีคุณสมบัติในการ บันทึกภาพและเสียงได้ เหมือนกับกล้องอัดวิดิโอในชาติที่แล้ว
และถ้าเป็นการเอนชานท์ “ส่องระดับสูง” หละก็สามารถติดตั้งจุดชมไว้ได้และสามารถมองได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ หรือจะให้พูดง่ายๆคือ
“มันเป็นกล้องวงจรปิด ที่บันทึกเสียงได้ ในฉบับโลกนี้นี่เอง”
แถมเมื่อลองสังเกตดีๆ ไม่ว่าจะเป็นแจกัน โคมไฟ เชิงเทียนต่างก็ประดับไปด้วยคริสตัลเพียบ ทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น เล็ก กลาง ใหญ่
“ดูท่าว่าจะทำตัวเด่นมากไม่ได้สินะ การเผยความสามารถของตัวเองมากไปมักเป็นอันตราย” ผมคิดในใจ
“นี่เซียล์ถ้านายยังไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนงั้นฉันพานายไปแนะนำเพื่อนๆของฉันที่โรงเรียนฝึกหัดละกัน”
“อะ- เออ เออ เอางั้นก็ได้” สงสัยตอนนี้เราคงต้องไหลตามน้ำไปก่อนสิน่ะ ผมคิดในใจ
........................................................................................................
ณ ห้อง ห้องหนึ่งข้างนอกห้องโถงจัดพิธี
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซิกซ์ ลูกนายใช้ย่อยเลยนะเนี่ย ทักษะการใช้เท้าขัดขาแบบนั้นดีมากๆ นายเป็นคนสอนให้หรอ” มอนดะกำลังคุยกับซิกซ์เชิงหยอกล้อและตบไหลไปพลาง
“อืมใช่ๆ แต่นอกจากทักษะแล้ว ความเร็วนั้นข้าว่ามันเร็วกว่าระดับ 24 Bp แน่นอน ซิกซ์ ดูเหมือนลูกนายจะได้รับพรจากสวรรค์นะ” ผู้ชายผมสีดำตาสีฟ้าสูงประมาณ 190 เซนติเมตร รูปร่างสมส่วนดูกลางๆไม่บึกบึนแบบนักเพาะกล้ามแต่ก็ไม่ผอมแห้ง กำลังนั่งคุยกับซิกซ์และมอนดะ
“ฉันก็คิดว่างั้นแหละเรียว ดูเหมือนว่าฉันจะโชคดีเอาการนะ แล้วลูกนายหละเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันว่าก็ดีนะ เดี๋ยวก็รู้จัดหวังไว้กับลูกคนนี้สูงเลยทีเดียว”
ผู้ชายผมสีดำตาสีฟ้าคนนี้ก็คือเรียวมะ โอวาริ จากตระกูลโอวาริ
เป็นตระกูลไวส์เคานท์ที่อยู่ทางตะวันออกของเฉียงเหนือของเขตการปกครอง
มอนดะอีกที แน่นอนว่าทั้งสามคนนั้นเป็นเพื่อนที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันและรุ่นเดียวกัน แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามนั้นเป็นเป็นเพื่อนแท้เพื่อนตายขนาดที่เรี่ยกได้ว่าพี่น้องร่วมสาบานเลยทีเดียว (Tl. เอ พี่น้องร่วมสาบานแบบสามคนนี้คุ้นๆเนอะ)
จากนั้นมอนดะก็พูดว่า “ว่าแต่เรียวแกนี้ยังติดนิสัยพกง้าวไว้ที่หลังอีกหรอเนี่ย”
“เวลาออกมาข้างนอกถ้าไม่พกไว้มันรู้สึกไม่อุ่นใจหนะ”
“จะว่าไปซิกซ์ฝั่งนั้นดูเงียบๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” มอนดะชี้ไปทาง มาร์ควิส พันตัน เดวี่ พ่อของ เอนวี่ เดวี่ ที่ เซียล์ไปขัดขาล้มนั้นเอง
จากนั้น พันตัน ก็มองกลับมาเหมือนจะได้ยินที่มอนดะพูด เลยพูดตอบกลับไปด้วยเสียงเบาๆ แต่ดังพอทีจะได้ยินชัดเจน อย่างสงบว่า
“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยๆ แค่นี้ฉันไม่เก็บมาใส่ใจหรอก อีกอย่างให้มันโดนอย่างงี้บ้างก็ดีจะได้ดัดนิสัย เสียๆซะบ้าง” จากนั้นเขาก็พูดต่อ
“แต่ยังไง ลูกชายคนโตของข้าก็มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมากอยู่ดีนั้นแหละ ฮ่าๆๆๆ”
“ก็จริง รู้สึกว่า พึ่งทะลวงผ่านวิญญาณปฐพีมาไม่นานนี้หนิ” มอนดะพูดด้วยน้ำเสียงออกแนวหมั่นไส้
“นึกถึงเรื่อง5ปีที่แล้วทีไรข้ารู้สึกดีจริงจริ๊งที่ลูกของข้ามีจิตวิญญาณระดับโบราณ แบบพัฒนาได้ ฮ่าๆๆๆ”
คนที่กำลังพูดถึงก็คือ ลูกชายคนโตของตระกูลเดวี่ ซึ่งเขามีอายุ17ปีแล้วในตอนนี้ซึ่งมากกว่าเอนวี่ ถึง5ปี
............................................................................................................
ณ ห้องโถงพิธีปลุกจิตวิญญาณ
“นี้เซียล์จะว่าไปนายมาถึงก่อนฉันตั้งนานทำอะไรบ้างเนี่ย” มอนด์ถาม
“ก็.......................” แล้วเซียล์ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากเขาเข้ามาในหอประชุม
“เอ๋ ผู้หญิงผมสีแดง ตาสีแบบนั้น แถมจากที่นายเล่าอย่าบอกนะว่า.....”
“มีอะไรหรอ” เซียล์ถาม
“ปล่าวๆ ไม่มีอะไรคิดว่านะ ฉันคงจำผิดคนมั้ง ว่าแต่นายไปขัดขาเอนวี่แบบนั้นฉันละสะใจแทน มันชอบมีนิสัยเสียๆเอายศพ่อตัวเองกร่างใส่คนอื่นเขาไปทั่วต่างกับคนพี่ลิบลับเลย”
“หืมมมมม คนพี่หรอ” “เป็นคนยังไงนะเดี๋ยวตอนเข้าโรงเรียนลองหาดูดีกว่า”
เซียล์คิดในใจ
จากนั้นก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งผมสีดำ ตาสีฟ้า สะพายง้าวไว้ข้างหลังเดินมาและทักวว่า “มอนด์นายมาถึงแล้วหรอ โทษทีนะที่มาสายอ่ะ”
หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองที่เซียล์และพูดว่า
“แล้วนี้นายชื่ออะไรหรอ” ในขณะที่เซียล์กำลังจะตอบมอนด์ก็ได้พูดแทรกขึ้นมาว่า “เรียวชิ นี้คือเซียล์ลูกของลุงซิกซ์หนะ ที่ฉันเคยเล่าว่าไม่ได้ไปโรงเรียนฝึกหัดไง”
“อ๋อ ลูกของลุงซิกซ์นี้เอง จำได้ละ นี้พึ่งเจอกันครั้งแรกนะเนี่ย ฉัน เรียวชิ โอวาริ ลูกของ เรียวมะ โอวาริ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะเซียล์” เรียวชิพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและยื่นมือมา
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉัน เซียล์ อินากามิ” เซียล์พูดและจับมือของเรียวชิ
“เอาเป็นว่าการทำความรู้จักอยางเป็นทารการจบลงเท่านี้ เรามาปาร์ตี้กันก่อนดีกว่า” มอนด์พูด
“โอเค” จากนั้นทุกคนก็ไปตักอาหาร เติมเครื่องดื่ม นั่งกินข้าวข้างๆกันและพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง
หลังจากนั้นประมาณ2-3 ชั่วโมงเป็นเวลาประมาณ2ทุ่ม
ได้มีกลุ่มพวกขุนนางผู้ใหญ่ และผู้ที่ดูมีฐานะ ฯลฯ เดินเข้ามาในห้องโถงพิธี
แน่นอนว่าหลังจะเข้ามาแล้วพวกเขาก็เดินไปหาลูกๆของพวกเขาเอง
“เป็นไงบ้างเด็กๆ สนิทกันบ้างรึยัง” ซิกซ์พูด
“ก็ดีครับ”เซียล์ตอบ
“โหเรียวลูกนายติดนิสัยพกง้าวไปไหนมาไหนเหมือนนายเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ”
มอนดะพูดกับเรียวมะ
“.............” เรียวมะกำลังสตั้นอยู่แล้วก็พูดว่า
“ยังไงซะก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหละ เวลาเข้าโรงเรียนก็ช่วยๆกัน”
“ครับ” เด็กๆทั้งสามคนตอบอย่างพร้อมเพรียง
“เอาหละใกล้ถึงเวลาแล้วเตรียมตัวให้ดีหละ” ซิกซ์บอก
มีเพจเฟสบุ๊กและเปิดกลุ่มลับเเล้วน่ะครับติดตามได้ที่ Rebirth of Dragon spirit