GE 4 – 1 : ความลี้ลับของมิติกาลเวลา
GE 4 – 1 : ความลี้ลับของมิติกาลเวลา
ในช่วงของระดับพลังอำพันจักรสวรรค์ขั้นแรกเริ่มบ่อลมปราณจะขยายจากเดิมสิบเท่าและมันอาจมีขนาดเกือบๆลูกมะพร้าว
อย่างไรก็ตามพลังปราณที่อยู่ในบ่อลมปราณก็ยังไม่เพียงพอ พลังปราณที่อยู่ในบ่อลมปราณมีขนาดน้อยกว่า 1 ใน 10 ของทั้งหมดซึ่งเป็นขนาดของไข่ไก่ใบหนึ่งเท่านั้นเอง
ชางลั่วเฉินจึงไม่สามารถฝึกฝนขั้นต่อไปได้จนกว่าพลังปราณในบ่อลมปราณจะถูกเติมเต็มซึ่งขั้นพลังถัดไปคืออำพันจักรสวรรค์ขั้นฝึกหัด
เขาจึงนั่งสมาธิและหลับตา ในขณะที่ภาพของเครื่องรางปวงเทพของเขาก็ได้ปรากฎขึ้นมาเคล็ดวิชาจ้าวอำพันจักรสวรรค์ขั้นแรกของคัมภีร์หมิงเก้าชั้นฟ้า
เขานำพลังปราณที่อยู่ในบ่อลมปราณมาโคจรพลังลมปราณผ่านร่างกายและผ่านไปยังเส้นลมปราณที่เขาเพิ่งได้รับเมื่อครู่นี้
ในขณะที่เขาโคจรลมปราณเขารู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเขาได้หลอมรวมกับกระแสปราณภายในตัวเขาและเขาได้ดูดซับลมปราณธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวซึ่งสิ่งเหล่านี้สวรรค์ชั้นฟ้าได้สร้างไว้เมื่อนานมาแล้วเพียงแต่ไม่มีใครเคยเห็นค่าของมัน
ลมปราณธรรมชาติไหลรวมไปยังเครื่องรางปวงเทพที่อยู่ระหว่างคิ้วของเขา
เครื่องรางปวงเทพได้แปรเปลี่ยนลมปราณธรรมชาติที่มาจากสวรรค์และโลกาเป็นพลังลมปราณที่กักเก็บไว้ในบ่อลมปราณ หลังจากนั้นเขานำพลังปราณที่อยู่ในบ่อลมปราณไหลเวียนผ่านร่างกาย
มีใครเคยกล่าวไว้ว่าการไหลเวียนลมปราณครบหนึ่งรอบในร่างกายถือว่าเป็นการโคจรลมปราณที่สมบูรณ์.....
ชางลั่วเฉินลืมตาขึ้นมาเมื่อเขาโคจรลมปราณครบ 9 รอบแล้ว แต่เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพลังลมปราณของเขามีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าซึ่งตอนนี้มีปริมาณ 1 ใน 10 ของความจุทั้งหมด
ถ้านักรบคนอื่นๆรับรู้ว่าพลังลมปราณของพวกเขาเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในระยะเวลาสั้นๆพวกเขาย่อมดีใจเป็นอย่างมาก
แต่ชางลั่วเฉินรู้สึกไม่พอใจที่เขาจำเป็นต้องโคจรลมปราณถึง 9 รอบเพื่อเพิ่มปริมาณพลังปราณสองเท่า มันช้าเกินไปสำหรับเขา ถ้าเขามีแก้วผลึกวิญญาณ เขาจะสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของเขาเพิ่มเป็นทวีคูณ
การฝึกฝนที่ชางลั่วเฉินใช้ฝึกมาจาก “ คัมภีร์หมิงเก้าชั้นฟ้า ” ความเร็วในการดูดซับปราณธรรมชาติย่อมเร็วกว่านักรบที่ใช้รูปแบบการฝึกฝนที่ด้อยกว่า
แต่เขาก็ยังไม่พอใจกับความก้าวหน้าของเขาในตอนนี้
ถ้าหากเขามีแก้วผลึกวิญญาณความเร็วในการฝึกฝนของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
แก้วผลึกวิญญาณคืออัญมณีที่ถูกหล่อหลอมด้วยปราณธรรมชาติ
แก้วผลึกวิญญาณจากธรรมชาติสามารถพบเจอได้ในแร่ใต้พิภพหรืออีกทางหนึ่งคือได้มาจากซากศพของสัตว์อสูรซึ่งแก้วผลึกวิญญาณจะฝังอยู่ในร่างกายของพวกมัน
แก้วผลึกวิญญาณ 1 อันมีค่า 1,000 เหรียญเงินมีเพียงองค์ชาย ขุนนาง และหัวหน้าตระกูลใหญ่เท่านั้นที่จะมีโอกาสครอบครอง
1,000 เหรียญเงินเป็นเงินจำนวนมาก ชางลั่วเฉินและสนมหลิงในตอนนี้ไม่มีปัญญาพอที่จะหาเงินมากขนาดนั้นได้
“ แก้วผลึกวิญญาณ!!!”
หัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรงเนื่องจากความตื่นเต้นที่อยากได้แก้วผลึกวิญญาณแต่ทันใดนั้นเองอัญมณีนิลกาลที่เขาสวมใส่มาตลอดก็ได้ตกลงบนพื้น เขาหยิบขึ้นมาและถืออยู่บนฝ่ามือของเขาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง
“ หรือนี่อาจจะเป็นแก้วผลึกวิญญาณ? ”
จากนั้นเขาค่อยๆโคจรลมปราณในร่างกายและในทันใดนั้นเองเครื่องรางปวงเทพก็ได้ปรากฎขึ้นมากลางหน้าผากของเขาและแปรเปลี่ยนเป็นรูปวงกลม
จากนั้นลมปราณสีขาวได้ถูกยิงออกมาจากเครื่องรางปวงเทพไปยังอัญมณีนิลกาล
แกร๊ก !
ตัวอักขระโบราณ 4 ตัวปรากฏขึ้นมาจากอัญมณีนิลกาล
ชางลั่วเฉินไม่เคยเห็นอักขระแบบนี้มาก่อนแต่ทว่าเขาสามารถอ่านตัวอักขระทั้งสี่ได้อย่างรวดเร็ว "ประจักษ์เวลา"
ในอดีตชางลั่วเฉินเคยถ่ายลมปราณเข้าไปยังอัญมณีนิลกาลแต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในอดีตพลังปราณของเขาทรงพลังมากกว่าตอนนี้ 100 เท่า แต่เขาไม่เคยทำให้อัญมณีนิลกาลแสดงอักขระโบราณใดๆออกมาเลยแต่ทว่าในปัจจุบันเขาต้องประหลาดใจที่เขาทำให้อัญมณีนิลกาลมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งๆที่เขามีพลังระดับอำพันจักรสวรรค์ขั้นแรกเริ่มเท่านั้นและมันหมายความว่าการที่อัญมณีนิลกาลมีการเปลี่ยนแปลงมันเป็นเพราะธรรมชาติของพลังปราณของเขาในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะพลังปราณที่ทรงพลัง
นักรบที่มีเครื่องรางอัคนีจะสามารถใช้ประโยชน์จากแก้วผลึกวิญญาณธาตุไฟได้ดีกว่าแก้วผลึกวิญญาณธรรมดา โดยมันสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน 3 เท่า ในขณะที่แก้วผลึกวิญญาณธรรมดาจะเพิ่มความเร็วในการฝึกแค่ 2 เท่า
โดยในธรรมชาติ 90% จะเป็นแก้วผลึกวิญญาณธรรมดาเหมือนๆกับที่นักรบ 90% ได้รับเครื่องรางปวงเทพธรรมดาไม่มีธาตุอื่นผสม
“ มันหมายความว่าเครื่องรางปวงเทพของข้าต้องมีธาตุที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีประจักษ์เวลาแต่ว่าอัญมณีประจักษ์เวลามันคืออะไรล่ะ? ”
ในฐานะที่เป็นลูกชายของจักรพรรดิหมิงที่เก่งกาจในอดีต เขารู้จักแก้วผลึกวิญญาณหลากหลายชนิดเช่นผลึกแก้ววิญญาณไฟ ผลึกแก้ววิญญาณน้ำแข็ง ผลึกแก้ววิญญาณสายฟ้า ผลึกแก้ววิญญาณโลหิตวิญญาณและอื่นๆ แต่ทว่าเขาไม่เคยได้ยินผลึกแก้วประจักษ์เวลา
มนุษย์ไม่สามารถควบคุมเวลาและมิติได้ฉะนั้นทุกๆชีวิตย่อมเป็นไปตามกฎของเวลาและธรรมชาติ
ในขณะที่ชางลั่วเฉินครุ่นคิด วงแหวนแห่งแสงได้ปรากฎขึ้นที่อัญมณีประจักษ์เวลา โดยภายในวงแหวนเป็นเสมือนน้ำวน.....
วงแหวนได้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและในที่สุดมันก็ครอบคลุมตัวชางลั่วเฉินโดยสมบูรณ์
ชางลั่วเฉินรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมากเสมือนว่าท้องฟ้าและโลกกำลังหมุนอยู่รอบตัวเขา เขาได้พบว่าตัวเขาเองอยู่ในมิติปิดแห่งหนึ่งและร่างของเขาก็ร่วงลงบนพื้นแข็ง
โชคดีที่เขาได้บรรลุการขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณรวมไปถึงเขาได้บรรลุพลังอำพันจักรสวรรค์ขั้นแรกเริ่มซึ่งได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายอย่างมาก ถ้าเป็นร่างกายก่อนหน้านี้ตกจากที่สูงแบบนี้สามารถทำให้เขาถึงตายได้เลย
ชางลั่วเฉินลุกขึ้นมาจากพื้นและทำการยืดเส้นยืดสาย จากนั้นเขาก็เริ่มทำการสำรวจรอบๆมิติที่เขามาเยือนอย่างช้าๆ
มิตินี้มันเป็นมิติปิดตาย ไม่มีประตูหรือทางออกที่ไหนเลยและที่แห่งนี้ยังเป็นห้องกล่องลูกบาศก์ที่มีความสูง 10 เมตร ยาว 10 เมตรและกว้าง 10 เมตร
“ เกิดอะไรขึ้น? ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ที่นี่ที่ไหน? ตรงนั้นมีแท่นหินอยู่งั้นหรือ ?” ชางลั่วเฉินบ่นพึมพำกับตัวเอง
มันมีแท่นหินแท่นเดียวที่อยู่ในมิตินี้โดยที่แท่นหินมีภาพวาดที่ถูกม้วนอยู่และหนังสือที่ทำจากเหล็กมีสีเงินวางไว้....
ติดตามตอนต่อไป..............