ตอนที่8 หนี
ตอนที่8 หนี
แถบรอบนอกป่าฟอนเซ่
ณ ตอนนี้ มีเด็กหนุ่มน้อยอายุประมาณ10ขวบปีกำลังถูกล้อมจากหมาป่าสีดำนัยน์ตาสีเขียวสดอยู่5ตัว
“แย่ล่ะสิลืมย้ายที่เลยพวกมันคงตามกลิ่นเลือดมาสิน่ะ”
เซียล์คิดในใจจากนั้นจึงเริ่มตั้งสติ
“น่าจะเป็นหมาป่าลมกรด ไอพวกนี้มีจิตวิญญาณธาตุลมแถมเร็วอีกตังหากคงสลัดให้หลุดไม่ง่าย” “ถ้าสู้ตรงๆพวกมันก็น่าจะมีระดับรวบรวมวิญญาณ
ขั้น2-4 แถมตั้ง5ตัวสู้ตรงๆ ไม่ได้แน่” จากนั้นเซียล์ก็เริ่มมองไปยังรอบๆ
“ต้นไม้! ใช้ต้นไม้แต่พวกหมาป่าลมกรดมันสามารถกระโดดได้สูงถ้าเอาลมมาช่วยเป็นแรงส่ง ถ้างั้นต้องหาต้นที่สูงพอ” จากนั้นเซียล์ก็เจอต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่น่าจะสูงพอที่หมาป่าจะกระโดดเพื่อที่จะตะครุบเขาไม่ถึงห่างไปประมาณ200เมตร
“เอาหละ” จากนั้นเซียล์ก็วิ่งเข้าไปหาหมาป่าลมกรดตัวหนึ่งที่ขวางทิศทางไปยังต้นไม้ใหญ่ ที่ห่างจากตัวเขาประมาณ50เมตร จากนั้นก็เล็งหน้าไม้ตะขอและยิงตะขอ3แฉกไปที่ขาหน้าของหมาป่าลมกรด เมื่อโดนขาหน้าข้างซ้ายก็ดึงสลิงกลับทำให้ตะขอขัดขาหมาป่าลมกรดตัวนั้นจนลมและไถลไปข้างๆเล็กน้อย
จากนั้นเซียล์ก็รีบวิ่งผ่านและมุ่งหน้าไปยังต้นไม้ใหญ่ที่เหลือระยะทางประมาณ150เมตร
เมื่อหมาป่าลมกรดที่ขวางทางล้มลงและเซียล์เริ่มเคลื่อนไหว
หมาป่าลมกรดตัวอื่น จึงวิ่งตามไปด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะ2ตัวที่น่าจะมีระดับรวบรวมวิญญาณ ขั้น 3-4 พวกมันสองตัววิ่งไล่ตามด้วยความเร็วมาก
เซียล์เมื่อห่างจากต้นไม้ประมาณ20เมตรก็ยิงตะขอ3แฉกออกไปและกระโดดขึ้นต้นไม้แต่ขณะนั้นหมาป่าทั้งสองตัวก็ตามมาทัน ใช้พลังวิญญาณเรียกกระแสลม กระโดดพุ่งเขาหาเซี่ยล์พร้อมกรงเล็บอันแหลมคม
“แย่แล้ว” เมื่อเซียล์เห็นหมาป่าลมกรดทั้งสองตัวกำลังจะตะปบมาทั้งซ้ายขวา
ก็อุทานอยู่ในใจ
“หยั่งงี้คงต้องแลกกันแล้วสิน่ะ” จากนั้นเซียล์ก็แทงดาบในมือซ้ายสุดแรงเข้าใส่หมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังพุ่งมาและยอมโดนการตะปบของหมาป่าลมกรดอีกตัว
แต่การบิดตัวหลบนิดหน่อยจึงโดนตะปบเข้าที่กลางหลังแต่บาดแผลลึกไม่ถึงกระดูกและดาบคาตานะได้เสียบเข้าไปยังกะโหลกศรีษะถึงลำตัวของหมาป่าลมกรดในตัวจนมิดด้ามและหมาป่าลมกรดตัวนั้นสิ้นชีพทันที
จากนั้นเซียล์ก็ถึงข้างบนต้นไม้อย่างปลอดภัยโดยมี3บาดแผลที่กลางหลังและซากหมาป่าลมกรด1ตัวที่ติดคามาพร้อมกับดาบคาตานะ
จากนั้นพวกหมาป่าลมกรดก็พยายามกระโดดขึ้นต้นไม้ใหญ่อยู่หลายรอบ
แต่ก็ขึ้นมาไม่ได้เพราะต้นไม้สูงเกินไปพวกมันจึงถอดใจจากไป โดยที่เหลือเพียง4ตัว
“รอดแล้วเรา แถมได้ของแถมมาด้วย” เซียล์คิดในใจ
“รีบถลกหนังและเก็บคริสตัสวิญญาณสีเขียวอ่อนจากนั้นรีบออกไปดีกว่าเดี๋ยวมีสัตว์อสูรตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาอีก” จากนั้นเซียล์ก็รีบถลกหมาป่าและนำคริสตัลจิตวิญญาณออกมาแล้วรีบกลับเมือง
เมืองการูบ้าทางตะวันตก เวลาประมาณ5โมงเย็น
“เฮ่อถึงเมืองซักที” เซียล์พูดแล้วก็พูดต่อ
“ได้แผลกลับมาด้วยจะ.......” อยู่ๆเซียล์นึกขึ้นได้
“เวรแล้ว...ลืมบอกแม่ว่าจะมาที่ป่าวันนี้ โดนสวดแหงมๆ แถมได้แผลกลับมาด้วยเดี๋ยว ยิ่งไม่ค่อยอยากให้แม่เป็นห่วงด้วยสิ”
จากนั้นเซียล์ก็ทำใจแล้วก็กลับบ้าน
ที่คฤหาสน์ตระกูลอินากามิ เวลา6โมงเย็น
ในที่สุดเซียล์ก็กลับถึงบ้านและก็เห็นว่าวันนี้มีรถม้ามาจอดข้างบ้าน “วันนี้ใครมาเยี่ยมน่ะ” เซียล์คิดในใจ
จากนั้นเซียล์ก็เดินเข้าไปในบ้าน
“พ่อครับ แม่ครับ ผมกลับมาแล้วครับ”
“กลับมาแล้วหรอลูก วันนี้แอบไปที่ป่าฟอนเซ่โดยที่ไม่บอกแม่อีกแล้วใช่ไหม”แม่ตอบ
“ขอโทษด้วยครับ”
“แล้วได้แผลมาด้วยรึปล่าว บาดเจ็บตรงไหนไหม” แม่ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“มีแผลข่วนนิดหน่อยที่หลังหนะครับ” หลังจากนั้นแม่ก็ดูแผลที่หลังของเซียล์
แล้วก็พบแผลที่เป็นรอยข่วนเล็กน้อย
“เจ็บมากไหมลูก”คุณแม่ถาม
“ไม่เป็นไรครับ แผลแค่นี้เองคุณแม่ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับเดี๋ยวก็หายแล้ว”
เซียล์ตอบ ในความจริงเนื่องจากบาดแผลถึงจะไม่ลึกถึงกระดูกแต่ก็หนักเอาการ แต่ด้วยพรจากพระเจ้า เซียล์จึงเดินกลับบ้านให้ช้าลงจนบาดแผลดีขึ้นมากแล้วจึงกลับมาให้คุณแม่ดูบาดแผลที่ไม่หนักมาก
จากนั้นคุณแม่ก็ทำแผลให้ผมจากนั้นก็พูดว่า
“วันนี้มอนเด่กับพ่อของเขามาเยี่ยมด้วยน่ะ”
“งั้นหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนน่ะครับ”
หลังจากเซียล์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินมายังห้องอาหารแล้วก็พบกับคุณพ่อ คุณแม่ และคุณลุงที่มีสีผมและนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ดูอายุประมาณ30 น่าจะรุ่นเดียวกันกับพ่อของผม
และเด็กอายุราวๆ10ขวบที่สีผมและนัยน์ตาสีน้ำตาลเหมือนกับคุณลุง
“สวัสดีครับคุณลุงมอนดะ(Monda)แล้วก็มอนด์เป็นไงบ้างสบายดีป่าว”
“สบายดีแล้วนายเป็นไงบ้างเซียล์”
ใช้แล้วคุณลุงคือ บารอน มอนดะ มาโมชิ กับลูกของเขา มอนเด่ มาโมชิ
ตระกูลมาโมชิมีพื้นที่การปกครองติดกับเราตรงตะวันออกเฉียงใต้ดังนั้นจึงมาเยี่ยมกันบ่อยๆ และ มอนเด่เป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวของผมในตอนนี้ผมเรียกเขาสั้นๆว่า “มอนด์” ถ้าถามว่าทำไมมีเพื่อนคนเดียวหนะหรอ ก็เพราะว่าผมตอนเด็กๆยังศึกษาเรื่องต่างๆเกี่ยวกับเรื่องของโลกนี้อยู่และก็เรียนเองได้เยอะกว่าการสอนในโรงเรียน
ความจริงตอนแรกพ่อคิดจะส่งผมไปโรงเรียนฝึกหัดสำหรับเด็ก7-10ขวบปี แต่เพราะผมอ่านหนังสือและเรียนเองได้ดีตั้งนานแล้วพ่อจึงเปลี่ยนเป็นจ้าง
ครูฝึกดาบและวิชาการมาช่วยชี้แนะบางเวลาที่บ้านแทน
ฉะนั้นมอนด์เลยเป็นเพื่อนคนเดียวของผมเพราะเขามีดินแดนที่ติดกันเลยมาเยี่ยมค่อนข้างบ่อย แน่นอนว่าลุงมอนดะก็เป็นเพื่อนของพ่อผมสมัยยังเรียนอยู่เหมือนกัน
หลังจากนั้นผมก็เดินไปนั่งแล้วก็กินข้าวด้วยกัน
“จะว่าไปเซียล์ลูกวันนี้ไปทำอะไรมาในป่าฟอนเซ่หละลูก เห็นแม่บอกมาว่าได้แผลด้วยหนิ” คุณพ่อซิกซ์ถาม แต่ก่อนที่เซียล์จะตอบก็มีเสียงแทรกขึ้นมา
“นี่ซิกลูกแกพึ่ง10ขวบ เอาไปปล่อยป่าแล้วหรอ ฮ่าๆๆๆๆ”
ลุงมอนดะพูดอย่างขำขัน
“ไม่ได้ไปปล่อยโว้ย ลูกเขาไปเองห้ามก็ไม่ได้ แล้วสรุป ลูกไปทำอะไรที่ป่ามา”
จากนั้นทั้ง พ่อ แม่ ลุงมอนดะ และ มอนด์ก็จ้องมาที่ผม
“อะ อะ เออ.......คือว่า” จากนั้นผมก็ตอบด้วยเสียงงอ้ำๆอึ้งๆ
ติดตามตอนหน้าจ้า