ตอนที่ 352 ปลดผนึกไทแรนด์
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและก็ล่วงเลยไปถึง6วัน หลังมื้อเช้า หลิน ฮวงอัญเชิญประตูมิติเขาและไปยังที่ที่ไทแรนด์กำลังปลดผนึกอยู่แต่เช้า มันเป็นวันสุดท้ายของการปลดผนึกไทแรนด์ เมื่อเขาเดินออกจากประตูมิติ หลิน ฮวงก็เห็นไคลี่กำลังนั่งอยู่ที่เดิม เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเธอนั่งตรงนั้นมาหลายวันแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยยืนขึ้นเลยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
“สวัสดี เธอกินอาหารเช้ารึยัง?”แม้หลิน ฮวงจะรู้ว่าการ์ดมอนสเตอร์ไม่จำเป็นต้องกินอาหาร เขาก็ยังถามอยู่ดี ไคลี่มองหลิน ฮวงแต่ก็ไม่ได้ตอบสนอง
“ยังคงเย็นชา...”หลิน ฮวงคิดกับตัวเขาขณะที่ถูจมูก เขาเดินไปหาไคลี่และนั่งข้างเธอขณะที่รอให้ไทแรนด์ปลดผนึกเสร็จ
นอกจากจะได้รับรางวัลคูณ2ในวันแรก หลิน ฮวงยังฆ่ามอนสเตอร์เพลิงสวรรค์ไปอย่างน้อย40ตัวในช่วงหลายวันมานี้ นับตั้งแต่ที่อินทรีอเล็กซานเดรี้ยนกลายเป็นเหยี่ยวอัสนีเขียว หลิน ฮวงก็ตั้งชื่อให้มันว่าสายฟ้า ตอนนี้มันอยู่ในระดับทองสมบูรณ์พร้อมกับมีความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาก เขาได้ลงมืออย่างหนักในช่วงหลายวันมานี้ นอกจากเวลาที่เขาใช้ไปกับการนอน เขาใช้เวลากว่า15ชั่วโมงในทุกวันเพื่อฆ่ามอนสเตอร์ บางครั้ง เขายังทำแม้กระทั่งกินข้าวบนหลังสายฟ้า
ขณะที่รอให้ไทแรนด์ปลดผนึก เขาก็ผ่อนคลายตัวเอง ด้วยแต้มจากการสังหารหมู่ฝูงมอนสเตอร์รวมถึงแต้มที่เขาสะสมในช่วงหลายวันมานี้ เขาก็ไม่คิดว่าการพักผ่อน2-3วันจะทำให้คนอื่นมีแต้มแซงเขา
เมื่อเวลาล่วงเลยไปอย่างช้าๆ หลิน ฮวงก็รู้สึกว่าพื้นดินรอบเขากำลังสั่น
“สายฟ้า!”หลิน ฮวงอัญเชิญสัตว์บินของเขาออกมาและขึ้นขี่มัน สายฟ้าบินสูงไปในท้องฟ้า ไคลี่สัมผัสได้ถึงบางสิ่งผิดปกติเช่นกัน เธอชี้ไปที่ปลายเท้าเธอและกระพือปีกทั้ง6 แม้ทั่งคู่จะลอยห่างจากพื้นไปหลายกิโลเมตรแต่ก็ยังได้ยินเสียงแตก เกิดเสียงดังขึ้นและแสงสีทองก็ยิงขึ้นไปในท้องฟ้าขณะที่พื้นดินยุบตัวลง
ในไม่ช้า ร่างมหึมาก็คลานขึ้นมาจากลาวาใต้ดิน มันคือสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่มีเกราะทองสูงใหญ่กว่า100เมตร แสงอาทิตย์ได้สะท้อนเข้ากับเกราะทอง ทำให้มันดูราวกับเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ลาวาสีแดงสดใสดูราวกับกระแสน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไหลลงจากร่างมันและมันก็ดูราวกับยักษ์ที่กำลังอาบน้ำ หลิน ฮวงตกใจเมื่อเห็นร่างของไทแรนด์ที่ตอนนี้ใหญ่กว่าเดิมนับสิบเท่า ไทแรนด์สังเกตเห็นหลิน ฮวงและไคลี่ในอากาศและรอยยิ้มน่ากลัวก็ฉายวาบบนใบหน้ามัน
“นายท่าน”
“ในที่สุดแกก็ปลดผนึกเสร็จแล้ว”หลิน ฮวงยิ้มกว้าง
ไทแรนด์เกาหัวมันและยิ้ม
“แกสามารถย่อส่วนได้ไหม?”หลิน ฮวงคิดว่านี่คือเรื่องสำคัญเพราะมันจะไม่สะดวกหากไทแรนด์มีขนาดใหญ่เช่นนี้
“ขอรับ ข้าสามารถ”ไทแรนด์พยักหน้า
“งั้นก็ย่อตัวให้มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปหน่อย”หลิน ฮวงคิดว่าการมีบอดี้การ์ดหุ่นล่ำอยู่ข้างตัวคงดีไม่ใช่น้อย แน่นอน เขาต้องจำมันแต่งตัว
ไทแรนด์ย่อขนาดตัวจนสูงประมาณ2.5เมตร
“ได้ไหมขอรับ?”
“เยี่ยมมาก”
“ฉันจะหาชุดเสื้อผ้าให้แกใส่เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องเก็บแกเป็นการ์ด”
ดวงตาของไทแรนด์สว่างขึ้นเมื่อมันได้ยินประโยคสุดท้าย
“อย่างไรก็ตาม ฉันจะต้องเก็บแกไว้ข้างในเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจในช่วงสองสามวันต่อจากนี้”หลิน ฮวงกล่าวเสริม
ไทแรนด์พยักหน้าอย่างยอมรับ
หลังจากที่เก็บไทแรนด์ไป หลิน ฮวงก็ถือการ์ดมันไว้ในมือ สีมันยังคงเป็นสีฟ้า การปลดผนึกไม่ได้ทำให้มันกลายพันธ์ครั้งที่สามรวมถึงการปลดผนึกระบบ มันยังสามารถอัญเชิญได้ ไทแรนด์ยังคงดูเหมือนเดิมบนการ์ด เพียงแค่ขนาดของมันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย หลิน ฮวงพลิกการ์ดเพื่ออ่านคำอธิบาย
“การ์ดมอนสเตอร์ : ไทแรนด์”
“ความหายาก : สุดยอด”
“ชื่อมอนสเตอร์ : อสูรเกราะทอง”
“ประเภทมอนสเตอร์ : อสูร”
“ระดับพลัง : เพลิงขาว”
“ทักษะ1 : เกราะทอง”
“ทักษะ2 : สุดยอดกายแกร่ง”
“ทักษะ3 : การฟื้นฟู(ขั้นสูง)”
“ทักษะ4 : สุดยอดการระเบิดพลัง(ขั้นสูง)”
“ทักษะ5 : สุดยอดพละกำลัง(ขั้นสูง)”
“ทักษะ6 : ขยายร่าง(ขั้นต้น)
“สิทธิ์การอัญเชิญ : เปิดใช้งาน”
“หมายเหตุการ์ด : ฝึกได้”
การฟื้นฟู สุดยอดการระเบิดพลัง และสุดยอดพละกำลังที่ตอนนี้ต่างอยู่ในขั้นสูงจนหมดแล้ว และยังมีทักษะใหม่อย่างขยายร่าง หลิน ฮวงกดจิ้มไปอ่านรายละเอียดทักษะเพิ่มเติม
“ขยายร่าง(ขั้นต้น) : นี่จะทำให้ร่างกายของผู้ใช้ขยายใหญ่กว่าปกติสิบเท่ารวมถึงเพิ่มพละกำลัง”
“หมายเหตุ1 : ทักษะจะคงอยู่ได้นานสุด1ชั่วโมง ขนาดของผู้ใช้จะกลับเป็นปกติหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง”
“หมายเหตุ2 : หลังจากที่ทักษะหมดลงหรือถูกปิดการทำงานโดยผู้ใช้ ผู้ใช้จะเข้าสู่สภาพอ่อนแอและจะไม่สามารถต่อสู้ได้”
“ใหญ่กว่าเดิมสิบเท่า!ไทแรนด์ในตอนนี้สูงกว่า100เมตร งั้นสิบเท่าก็จะหมายถึง1พันเมตร....มันสามารถใช้เป็นจักรกลต่อสู้ได้!”หลิน ฮวงจินตนาการว่าไทแรนด์ใหญ่แค่ไหนและตื่นเต้น จากนั้นเขาก็เก็บการ์ดไปและมองไคลี่
“ขอบคุณที่คอยอยู่ที่นี่นะ ฉันจะหาของดีๆมาให้เธอหลังการฝึกจบลง”
ไคลี่ลังเล จากนั้นก็พยักหน้า หลังจากที่เรียกไคลี่กลับเป็นการ์ด หลิน ฮวงก็ตบแผงคอเหยี่ยวสายฟ้า
“สายฟ้า กลับไปลุยกันเถอะ!”
สายฟ้ากระพือปีกมันและมุ่งหน้าไปหามอนสเตอร์ระดับเพลิงสวรรค์ตัวต่อไป
....
เวลาล่วงเลยไปพร้อมกับการฆ่ามอนสเตอร์ตลอด4วันสุดท้ายของการฝึก 8โมงเช้าวันรุ่งขึ้น หลิน ฮวงอัญเชิญประตูมิติเขาและกลับไปยังจุดรวมตัวหลังมื้อเช้า ลั่ว หลี่และอีกสองผู้คุมกำลังรออยู่เนื่องจาก9โมงคือเวลานัดส่งภารกิจ มีผู้คนกำลังรออยุ่ที่นั่นและมันก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขามายืนยันภารกิจก่อนกำหนด สามผู้คุมมองหลิน ฮวงขณะที่เขาปรากฏตัว อยากรู้ว่าเขาฆ่ามอนสเตอร์ไปกี่ตัวในระหว่างสิบวัน
“สวัสดีครับ ผู้คุม ผมมายืนยันภารกิจ”หลิน ฮวงทักทายพวกเขาและเดินไปหาเจ้าหน้าที่ เขาถูกหยุดโดยจาง ปิง
“ฉันจะคำนวณให้เธอเอง ฉันอยากรู้ว่าเธอสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้กี่ตัว”จาง ปิงอาสาที่จะคำนวณมอนสเตอร์ของหลิน ฮวง สิ่งดั่งกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพราะเจ้าหน้าที่มักจะเป็นคนทำ
“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน”ลั่ว หลี่เข้ามาใกล้ ซือ คงเจี้ยนเดินตามหลังลั่ว หลี่มาโดยไม่พูดอะไร
เหล่าผู้เข้าร่วมอิจฉาที่เห็นผู้คุมกำลังลุมล้อมหลิน ฮวง
“เอาละ งั้น...”หลิน ฮวงเลิกคิ้วขึ้นโดยไม่ปฏิเสธสามผู้คุมขณะที่นำเอาซากศพที่กองเป็นเนินเขาออกจากแหวนเก็บของเขา ผู้เข้าร่วมหลายคนอุทานเมื่อเห็นศพ ไม่ใช่เพราะเยอะแต่เพราะมอนสเตอร์ทุกตัวล้วนอยู่ในระดับเพลิงสวรรค์ แม้กระทั่งสามผู้คุมยังประหลาดใจ ขณะที่จาง ปิงเริ่มคำนวณ ลั่ว หลี่และซือ คงเจี้ยนก็ยืนข้างๆและเฝ้าดู
เขาใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกับการคำนวณซากมอนสเตอร์ทั้งหมด ทุกคนต่างตกใจ แม้กระทั่งลั่ว หลี่และซือ คงเจี้ยน
“มีทั้งสิ้น383ตัว ทั้งหมดล้วนอยู่ในระดับเพลิงขาว พวกมันถูกฆ่าด้วยดาบและฉันสามารถบอกได้ว่ามันคือฝีมือของคนๆเดียว”จาง ปิงสรุป
“นายต้องมีมอนสเตอร์ระดับเพลิงแดงอยู่กับตัว ใช่ไหม?”ลั่ว หลี่ถาม
“นิดหน่อย”หลิน ฮวงยิ้มและพยักหน้า
“แล้วระดับเพลิงฟ้าละ?”ลั่ว หลี่ถาม
“มันเป็นความลับ”หลิน ฮวงไม่อยากตอบคำถามนั้น
“ฉันจะเพิ่มแต้มลงไปในระบบ38600แต้ม นายท่านหยี่จะประกาศผลเมื่อเธอออกไปจากที่นี่รวมถึงอันดับ”จาง ปิงกล่าวกับหลิน ฮวงขณะที่ให้เจ้าหน้าที่เก็บศพ
“ผมเข้าใจ”
“หลิน ฮวง...”เพียงเมื่อเขาต้องการจะจากไป จาง ปิงก็ร้องเรียกเขา
“ครับ ผู้คุม?”จาง ปิงดูสับสน
“เธอต้องเคยได้ยินถึงเรา กองกำลังพิฆาตอสูร?”จาง ปิงถาม
“ครับ”หลิน ฮวงพยักหน้า
“เธอสนใจเข้าร่วมกับเราไหม?”จาง ปิงยื่นคำเชิญ
ลั่ว หลี่ประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่จาง ปิงกล่าว ซือ คงเจี้ยนขมวดคิ้วเช่นกัน หลิน ฮวงตกใจและไม่ได้ตอบสนองอยู่สักพัก
“น้องชาย การเลือกเข้าร่วมกับเราถือเป็นทางเลือกที่ฉลาด”ลั่ว หลี่แนะนำ
“พวกนายต้องไม่รู้ว่าเขาคือใคร ใช่ไหม?”ซือ คงเจี้ยนรู้ว่าเขาต้องแทรกในครั้งนี้
“ตัวตนเขาคือ?”จาง ปิงและลั่ว หลี่มองซือ คงเจี้ยนอย่างงุนงง
“เขาคือลูกศิษย์ของคุณฟู่ ศิษย์ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ในนาม”ซือ คงเจี้ยนบอกความจริง เขาได้สืบค้าเกี่ยวกับหลิน ฮวงหลังจากที่ค้นพบตัวตนเขา
“นายหมายถึงคุณฟู่คนนั้น?”ลั่ว หลี่ชี้ไปในท้องฟ้า
ซือ คงเจี้ยนพยักหน้า
“ฉันไม่รู้ว่านายทรงพลังขนาดนั้น”ลั่ว หลี่มองหลิน ฮวงอย่างหลงใหลมากขึ้น
“เอาละงั้น ลืมไปซะเถอะ...”จาง ปิงยอมแพ้
“ทำไมใครหลายคนจึงกลัวอาจารย์กันนัก?”หลิน ฮวงพบว่ามันแปลกเพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนจึงดูหวาดกลัวเมื่อได้ยินเกี่ยวกับคุณฟู่