GE 3 - 2 : อำพันจักรสวรรค์
GE 3 - 2 : อำพันจักรสวรรค์
อย่างไรก็ตามชางลั่วเฉินดูเหมือนไม่ค่อยพอใจกับร่างกายนี่สักเท่าไหร่ “ แม้ว่าข้าจะใช้เวลาแค่ 30 นาทีเพื่อสร้าง ‘ บ่อลมปราณ ’ แต่ขนาดของมันเทียบได้กับขนาดของไข่ไก่เท่านั้นมันมีขนาดที่เล็กเกินกว่าที่จะใส่ลมปราณทั้งหมดที่มีได้ ” เขากำลังบ่นพึมพัมกับตัวเอง
ในที่สุดเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าขนาด‘ บ่อลมปราณ ’ ของเขาในตอนนี้มันเล็กมากจนไม่สามารถที่จะใช้งานในสถานการณ์จริงได้
‘ บ่อลมปราณ ’ เป็นแหล่งกักเก็บพลังลมปราณที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
ชางลั่วเฉินได้คิดค้นการเปิดเส้นลมปราณในรูปแบบของตัวเองเพื่อให้พลังลมปราณสามารถไหลไปทั่วร่างกายของเขาได้
เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของนักรบการโคจรลมปราณคือสิ่งแรกที่ใช้ในการฝึกฝนการไหลเวียนของเส้นลมปราณ
สิ่งที่สองคือการขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณ
ชางลั่วเฉินนำโอสถชำระล้างไขกระดูกออกมา เขาสูดดมกลิ่นของโอสถเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของจริงจากนั้นเขาก็ได้เทยาทั้งหมดเข้าไปในปาก
รสชาติของโอสถชำระล้างไขกระดูกจะรู้สึกเย็นทันทีที่สัมผัสแต่เมื่อมันผ่านเข้าไปยังลำคอของเขา....ความเย็นเหล่านั้นกลับอยู่ไม่กี่วินาทีและจากนั้นมันแปรเปลี่ยนเป็นไฟร้อนรุ่มที่กำลังแผดเผาภายในร่างกายของเขา
มันรู้สึกเหมือนไฟกำลังไหม้อยู่ในตัวเขาตลอดเวลา
ชางลั่วเฉินสามารถรู้สึกได้ว่าในตอนนี้เส้นลมปราณกำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเขา
“ เวลานี้แหละ!” ชางลั่วเฉินตะโกน
“ ขั้นแรกของ ‘ คัมภีร์หมิงเก้าชั้นฟ้า ’”
สำหรับผู้ฝึกยุทธวิธีการฝึกฝนที่ต่างกันย่อมสามารถเปิดเส้นลมปราณที่ต่างกัน
ยิ่งเป็นการฝึกฝนขั้นสูงมากเท่าไหร่ เส้นลมปราณก็จะยิ่งซับซ้อนมาขึ้นเท่านั้น
เส้นลมปราณจะมีทั้งหมด 36 เส้นตาม “ คัมภีร์หมิงเก้าชั้นฟ้า ” ได้กล่าวไว้
ปัจจุบันชางลั่วเฉินไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเส้นลมปราณทั้งหมดในเวลานี้ สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือสร้างเส้นลมปราณมาหนึ่งเส้นทางจากทั้งหมด 36 เส้นทางเพื่อให้สามารถบรรลุเคล็ดวิชาขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณได้สำเร็จ
ในฐานะที่เป็นนักรบที่เก่งกาจในอดีต ชางลั่วเฉินรู้สึกไม่พอใจที่สร้างเส้นทางแค่หนึ่งเส้นทางจากทั้งหมด 36 เส้นทาง
“ จักรพรรดินีและองค์ชายแปดบอกข้าไว้ว่า ข้าต้องใช้เวลามากกว่าสามเดือนในการขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณแต่ข้ากำลังจะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าจะทำให้เสร็จภายในคืนนี้เพื่อเป็นนักรบที่เก่งกาจที่สุด”
ด้วยประสบการณ์การฝึกฝนวรยุทธของชางลั่วเฉินในอดีต เส้นลมปราณครึ่งหนึ่งได้ถูกสร้างอย่างรวดเร็ว......
อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดมหาศาลได้ถาโถมเข้ามายังร่างของเขา เขารู้สึกเหมือนเส้นลมปราณของเขากำลังจะถูกกระชากออกมาในตอนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวไปพร้อมๆกับร่างกายที่สั่นเครืออย่างควบคุมไม่ได้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเพราะร่างกายที่อ่อนแอของเขาร่างกายนี้ไม่สามารถแบกรับพลังอันยิ่งใหญ่ในอดีตของเขาได้
ถ้ามันเกิดขึ้นกับคนทั่วๆไป พวกเขาคงทนไม่ไหวเป็นแน่
แต่ทว่าด้วยความมุ่งมั่นของชางลั่วเฉินที่ช่วยเขาก้าวข้ามความเจ็บปวดถึงแม้จะมีหยาดเหงื่อออกมามากมายแต่...เขาก็ไม่ยอมแพ้
“ ขอ...... แค่..... อีก....นิด .....เดียว ” เขาพึมพำออกมา
ชางลั่วเฉินใกล้จะสำเร็จในการสร้างเส้นลมปราณเส้นแรกแล้วเขาต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้
ตูม !!!
และในที่สุดเขาก็ทำมันสำเร็จ เขาได้เส้นลมปราณเส้นแรกมาแล้ว
มันคือจิตใจที่ไม่ย่อท้อของนักรบที่ทำให้เขาผ่านมาได้ ชางลั่วเฉินจึงสามารถเปิดเส้นลมปราณเส้นแรกได้และ.....เขาได้ใช้พลังปราณเกือบทั้งหมดโคจรไหลผ่านเส้นลมปราณเส้นนั้น
ตูม!!!
เสียงดังกึกก้องที่ดังมาจากร่างกายของชางลั่วเฉิน มันดังมากเพียงพอที่จะทำให้คนๆหนึ่งหูหนวกได้เลย
ในที่สุดความเจ็บปวดทั้งหมดก็จางหายไปสิ่งที่ชางลั่วเฉินสัมผัสได้ตอนนี้คือเลือดของเขาได้หมุนเวียนรอบๆเส้นลมปราณซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกสดชื่นมากขนาดนี้มาก่อน
“ ฮ่าฮ่า! ข้าทำได้แล้ว ข้าเป็นนักรบในร่างปัจจุบันได้แล้วหลังจากที่ข้าบรรลุเคล็ดวิชาขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณได้สำเร็จ” เขาตะโกนออกมาอย่างภาคภูมิใจ
เพื่อให้ถึงระดับที่ชางลั่วเฉินอยู่ตอนนี้ องค์ชายแปดใช้โอสถชำระล้างไขกระดูกจำนวน 4 ขวดและใช้เวลาอีกครึ่งปีเพื่อบรรลุสิ่งที่ชางลั่วเฉินทำสำเร็จเมื่อสักครู่
แต่กลับกันชางลั่วเฉินใช้โอสถชำระล้างไขกระดูกจำนวน 1 ขวดและใช้เวลาแค่เพียงแค่หนึ่งคืน
เขาก็สามารถบรรลุการขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณได้แล้วและหมายความว่าตอนนี้ชางลั่วเฉินได้บรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นแรกเริ่ม
ระดับขั้นพลังของวรยุทธสามารถแบ่งออกเป็น อำพันจักรสวรรค์ ก้าวทมิฬจักรสวรรค์ ก้าวโลกาจักรสวรรค์และสุดท้ายดาราจักรสวรรค์
ในทุกๆขั้นของพลังก็สามารถแบ่งออกได้อีก 7 ขั้นย่อย ขั้นแรกเริ่ม ขั้นฝึกหัดขั้นสามัญ ขั้นหยั่งรู้ ขั้นนักปราชญ์ ขั้นนักรบเทวะ และสุดท้ายขั้นปราชญ์เทวะ
4 ระดับขั้นพลังใหญ่และ 7 ระดับขั้นพลังย่อย
ระดับพลังที่ชางลั่วเฉินบรรลุในคืนนี้คืออำพันจักรสวรรค์ขั้นแรกเริ่ม
หลังจากที่สร้างเส้นลมปราณและการโคจรลมปราณเขาสู่ระดับขั้นพลังที่สูงกว่า พละกำลังที่อยู่ในร่างกายก็จะค่อยๆแข็งแกร่ง ทุกๆครั้งที่สามารถบรรลุพลังระดับที่สูงกว่าเดิมพละกำลังก็จะเพื่มขึ้นอย่างมหาศาล
องค์ชายแปดมีระดับอำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญ เขาสามารถยกหินหนัก 3000 จินสูงถึง 10 ฟุตด้วยมือข้างเดียวหมัดของเขาอาจจะมีความแข็งแกร่งเหมือนแรงพุ่งชนของกระทิงที่กำลังบ้าคลั่ง
นักรบส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับอำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญจะสามารถเรียนรู้ทักษะที่ชื่อว่า "เคล็ดวิชากระทิงคลั่ง"
ถ้าสามารถบรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นหยั่งรู้หมายความว่าพวกเขาจะทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก 4 เท่าตัวของระดับพลังก่อนหน้านี้
ดังนั้นนักรบที่บรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นหยั่งรู้กับนักรบที่บรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญจะเสมือนกับผู้ใหญ่เล่นกับเด็กแม้ว่านักรบที่บรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นหยั่งรู้จะสู้กับนักรบที่บรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญจำนวน 10 คน นักรบที่บรรลุระดับพลังอำพันจักรสวรรค์ขั้นหยั่งรู้ก็จะสามารถชนะได้อย่างสบายๆ
ขั้นพลังย่อยที่เหลือขั้นนักปราชญ์ ขั้นนักรบเทวะ ขั้นปราชญ์เทวะมีความน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก นักรบที่อยู่ในระดับพลังที่กล่าวมาจะสามารถครอบครองพลังที่ไม่มีใครคาดคิดได้
ขั้นพลังเหล่านั้นดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝันสำหรับชางลั่วเฉิน เขารู้ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของชีวิตเขา เขาเชื่อว่า “ ถ้าอยากไปให้เร็วให้ไปคนเดียว ถ้าอยากไปให้ไกลให้ไปด้วยกันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน” ถ้าชางลั่วเฉินต้องการเป็นนักรบที่สมบูรณ์แบบเขาก็ต้องบรรลุระดับพลังอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
องค์ชายแปดได้ฝึกฝนวรยุทธเป็นเวลาแปดปีและขั้นพลังที่เขาอยู่ตอนนี้คือ อำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญ......
“ องค์ชายแปดใช้เวลา 6 เดือนในการขัดเกลากระดูกดำและทลายเส้นลมปราณในขณะที่เขาใช้เวลาเพียงหนึ่งคืน” ชางลั่วเฉินรู้สึกภูมิใจกับตัวเองมากที่เขามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
“ องค์ชายแปดใช้เวลา 8 ปีในการบรรลุขั้นพลังอำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญแต่ข้าจะทำให้ได้ภายใน 3 เดือน มันเป็นไปได้ด้วยประสบการณ์ในอดีตของข้าและข้ายังรู้ว่าต้องทำอย่างไร ” เขาคิดและวางเป้าหมายสำหรับตัวเขาเองในอีก 3 เดือนข้างหน้า
การประเมินสิ้นปีของราชวงค์จะเกิดขึ้นในอีก 3 เดือนเพื่อเป็นการตรวจสอบระดับพลังว่าได้มีการพัฒนาการไปขนาดไหน นักรบทุกๆคนในราชวงค์รวมไปถึงองค์ชาย องค์หญิงและญาติพี่น้อง จำเป็นต้องเข้าร่วมงานนี้ไม่มีข้อยกเว้น
ชางลั่วเฉินเข้าใจแล้วว่ามันเป็นวิธีเดียวที่จะได้รับความเคารพจากผู้อื่นรวมถึงทรัพยากรสำหรับฝึกฝนวรยุทธและเพื่อให้ได้สถานะบางอย่างในราชวงค์ เขาจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ให้คนในครอบครัวเห็นว่าเขามีความสามารถที่จะเป็นนักรบได้ เขาต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดเหมือนที่ทุกคนเคยรู้จัก
สามเดือน!
อีกสามเดือนข้างหน้าชางลั่วเฉินมุ่งมั่นที่จะบรรลุอำพันจักรสวรรค์ขั้นสามัญให้ได้ลึกๆในใจของเขาเขาได้ให้คำสัญญากับตัวเองแล้วว่าเขาจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าเขาจะทวงคืนศักดิ์ศรีให้ท่านแม่ของเขา !
ท่านแม่ที่ดูแลเขามาตลอดตั้งแต่ที่เขาเกิดมาและนางต้องทนทุกข์ทรมานอยู่หลายปีที่มีลูกชายเป็นขยะไร้ค่าอย่างเขา !
ติดตามตอนต่อไป.............