Golden Time - ตอนที่ 19 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 19
ในวันอาทิตย์ พ่อแม่ของซูฮยอคมุ่งหน้าไปยังบ้านของคิม ฮยอนอู พวกเขาถือของมาเต็มมือไม่ได้มีอะไรมากก็แค่อาหารกับของขวัญเล็ก ๆน้อย ๆเตรียมมาเพื่อคุณคิม เพื่อต้องการจะตอบแทนที่เขาสนับสนุนลูกชายของพวกเขา พวกเขารู้สึกว่าที่มันคือหน้าที่ที่ต้องไปพบเขาต่อหน้าและแสดงความขอบคุณ ซูฮยอคพยายามจะห้ามพ่อกับแม่แต่สู้ความดื้อดึงของทั้งคู่ไม่ได้ แล้วพวกเขาก็มาถึงบ้านของคุณคิม
โฮ่ง! โฮ่ง!
“เจ้าหมาที่ตัวใหญ่ยักษ์นั่นพันธุ์อะไร?”
ประตูบ้านเปิดออกแล้วคิม ฮยอนอูก็ปรากฏตัวขึ้น
เขารับรู้จากซูฮยอคเรียบร้อยแล้วว่าจะมาหาเขาที่บ้านพร้อมกับพ่อและแม่
ต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้มที่สดใสและพูดว่า “ผมต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาทให้พวกคุณต้องมาเองถึงที่บ้าน ทั้ง ๆที่ผมควรไปหาพวกคุณก่อน”
แม่ของซูฮยอคโบกมือและพูดว่า “ไม่เลยค่ะ ไม่เป็นไร”
เธอจับมือของคิม ฮยอนอูด้วยมือทั้ง 2 ของเธอและพูดว่า
“ขอบคุณมาก ๆนะคะสำหรับความมีไมตรีจิตที่คุณได้แสดงให้ลูกชายฉันเห็น ฉันจะไม่ลืมบุญคุณนี้เลยตลอดชีวิต และจะหาโอกาสเท่าที่มีตอบแทนคืนตลอดชีวิตเช่นกันค่ะ”
พ่อของเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดเช่นกัน “ขอบคุณมากนะครับ”
เขาโค้งสุดตัวต่อหน้าคิม คิม ฮยอนอูจึงรีบเข้ามายกตัวเขาขึ้นแล้วพูดว่า
“ได้โปรดหยุดเถอะครับ ทั้งสองครับ มันไม่มีอะไรเทียบได้เลยกับสิ่งที่ซูฮยอคได้ทำลงไปเพื่อพวกเรา จะว่าไปอาหารทั้งหมดที่ซื้อมานี่มีอะไรบ้างหรอครับ? ผมหวังแค่ให้พวกคุณมา โดยไม่ต้องมีอะไรติดมือมาเลยก็ได้ครับ”
“เราจะตอบแทนผู้มีพระคุณเช่นนั้นได้ยังไงกัน? พวกเราซื้ออาหารมา 2 3 อย่างพร้อมด้วยกิมจิหวังว่าคุณจะชอบนะคะ”
“โอ้ ผมชอบกิมจิมาก ๆครับ ว่าแต่พวกคุณทานอะไรมารึยังครับ? ผมได้จัดเตรียมอาหารรอไว้ขณะที่พวกคุณกำลังเดินทางมา”
ครอบครัวของซูฮยอคก็เข้าไปในบ้านหลังจากได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคิม ฮยอนอู และอาหารบนโต๊ะกินข้าวนั้นเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายที่หน้าตาดูน่าอร่อย
“หมอ!”
แม่ของคิม ฮยอนอูวิ่งตรงมาหาซูฮยอค
คิม มยองฮีที่มีรอยยิ้มอันอ่อนโยน มองเธอด้วยความเวทนา
“ผู้หญิงคนนี้หรอที่ลูกพูดถึง?”
เมื่อซูฮยอคพยักหน้า คิม มยองฮีก็จับมือของเธอไว้แน่นและพูดว่า
“สวัสดีค่ะคุณนาย คุณมีลูกชายที่ดูดีมาก ๆ”
ตอนนั้นเองเธอก็ใช้สายตาทั้งคู่จ้องไปที่ซูฮยอคและก็มองมาที่คิม ฮยอนอู เธอยิ้มอย่างอบอุ่น นี่เธอกลับมาปกติแล้วหรอ? แต่จากที่ดูแล้วไม่น่าใช่
“หมอคะ มีอาหารน่าทานมากมายที่นี่! ไปกินกัน”
จากนั้นเธอก็ลากซูฮยอคไปที่โต๊ะ เป็นมื้อกลางวันนี้ช่างยาวนาน
พ่อแม่ของซูฮยอคอยู่ที่บ้านของคิม ฮยอนอูนานอีกหน่อย และแสดงความขอบคุณสักครู่หนึ่งก่อนจะกลับบ้านไป แล้ววันนี้ก็ผ่านไป
………...………...………...………...………...………...………...………...………...……
ซูฮยอควุ่นอยู่กับเรื่องการย้ายโรงเรียน พ่อแม่ของเขาพยายามที่จะไปปิดประการระแวกบ้านเกี่ยวกับเรื่องที่เขาได้ย้ายโรงเรียน แต่ในที่สุดซูฮยอคก็ห้ามพวกเขาไว้
พ่อแม่เขาต้องทำงานหนักเพื่อแลกกับเงิน เช่น ทำความสะอาดตึกและงานต่าง ๆที่ใช้แรง จากนี้เป็นต้นไปเขาจะไม่ยอมให้พ่อแม่หาเงินเพื่อเขาอีกแล้ว เขาจะไม่ยอมให้พ่อแม่ซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้เขาเป็นอันขาด
เขาสั่งตัดชุดนักเรียนอยู่ข้าง ๆกับดงซูด้วยเงินที่เขาได้รับมาจากคุณคิม ฮยอนอู เขาแบ่งค่าจ้างรายชั่วโมงออกเป็นครึ่งหนึ่งให้แก่ดงซู
“ซูฮยอค นี่ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? แล้วฉันจะไปโรงเรียนแจมยองยังไง?”
ดงซูอยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนแจมยองมองดูตัวเองในกระจก นี่มันไม่ง่ายเลยสำหรับเขาที่จะเชื่อว่าตัวเองจะได้ไปอยู่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงเช่นนั้น เตรียมรอนับได้เลยว่าเขาจะไปสร้างปัญหากี่ครั้งหรือไปชกต่อยกับใครกี่คน
“แม่นายดีใจเลยล่ะสิใช่มั้ยที่นายจะได้ไปเรียนที่โรงเรียนแจมยอง?” ซูฮยอคถาม
ดงซูส่ายหน้าและพูดว่า “แม่ของฉันเดินไปทั่วหมู่บ้านเพื่อไปกระจายข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันได้ย้ายโรงเรียน”
อย่างไรก็ตามสีหน้าของดงซูก็ยังดูสดใสกว่าตอนที่เขานึกภาพแม่ขึ้นในหัว และจากนั้นสุดท้ายพวกเขาทั้งคู่ก็ได้ย้ายไปที่โรงเรียนแจมยองเรียบร้อย
………...………...………...………...………...………...………...………...………...……
ซูฮยอคกับดงซูต่างยืนจ้องไปที่ประตูทางเข้าของโรงเรียนแจมยอง
“คนละระดับกันเลย!”
ซูฮยอคพยักหน้ารับคำพูดแม้ว่าประตูทางเข้าหลักจะดูแตกต่างจากโรงเรียนมัธยมปลายทั่วไป นอกจากบรรยากาศเก่า ๆแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังได้รับหน้าที่ดูแลควบคุมจราจรอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังดูเหมือนจะรับผิดชอบในส่วนของการดูแลปกป้องนักเรียนด้วย
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
หลังจากซูฮยอคพูดจบทั้งคู่ก็ก้าวเข้าไปสู่โรงเรียนแจมยอง
จากช่วงเวลาทุก ๆอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาเร็วมาก หลังจากที่ได้เข้าห้องเรียน ทั้งคู่ได้ทักทายกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ทุกคนต่างมองซูฮยอคกับดงซูด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจ
‘พวกนี้ไปเจออะไรที่แย่มาก่อนหน้านี้ที่ไหนรึเปล่าแล้วระหว่างเงินกับเรื่องเกรดอย่างไหนที่พวกเขามีดีกว่ากัน?’
จากที่พวกเขาจ้องมองซูฮยอคและดงซูจึงทำให้ทั้งคู่คิดถึง 2 ปัจจัยนี้ขึ้นมา
ซูฮยอคและดงซูไปนั่งที่ของตัวทางด้านหลังห้อง
พวกเขาสัมผัสได้ถึงความเย็นชาจากเพื่อนร่วมชั้นทั้งในระหว่างเรียนและช่วงพัก
อย่างน้อยก็น่าจะมีซักคนในหมู่เพื่อน ๆที่จะตรงเข้ามาทักทายกัน แต่ก็ไม่มีเลย
ทั้งคู่นั่งมองเพื่อน ๆราวกับกำลังสำรวจพฤติกรรมของพวกเขาอยู่
ดงซูเดินไปหาซึ่ง ๆหน้าแต่ละคนโดยไม่ละสายตาจากใครเลยแม้แต่คนเดียว
ดวงตาที่เปล่งประกายของเขานั้นบ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะมีเรื่องกับใครก็ตามที่กวนประสาทเขา
“นายมาที่นี่เพื่อจะมามีเรื่องหรอ?”
ดงซูเกาหัวกับคำพูดของซูฮยอค แล้วก็คิดว่าเขานั้นพูดถูก
“ไปหาไรกินกัน”
ทั้งคู่มุงหน้าไปยังโรงอาหารของโรงเรียน ทั้งคู่ได้แต่ยืนอึ้ง ที่นั่นมันเป็นเหมือนกับโรงอาหารที่เป็นบุฟเฟ่ต์
แวบแรกที่เห็น จำนวนเมนูของอาหารนั้นมีมากกว่า 10 อย่าง
“นี่มันคือของโปรดฉันเลย”
ดงซูเริ่มจากการตักข้าวก่อน
“พอละ ฉันกินได้เยอะจริง ๆ”
ดงซูที่เพิ่งอิ่มเดินลูบหน้าท้องแล้วออกจากโรงอาหารไป รสชาติมันยอดเยี่ยมมาก กลับกันซูฮยอคไม่พูดไม่จาขณะที่กำลังยืนจ้องบางอย่างอยู่ข้างหน้า
“มีไรหรอ?”
แล้วดงซูก็มองตามซูฮยอคไป
มีคน 3 คนกำลังเดินตรงมาที่พวกเขา คนแรกจับขาแว่นตาของตัวเอง อีกคนกำลังยิ้ม และคนที่ 3 หล่อมาก ๆ หนึ่งใน 3 คนนั้นก็คือ คิม ดงฮยอค ที่กำลังอ้าปากหัวเราะราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก
“ไหน ๆดูซิว่าใครกันเนี่ย? นายคือ ลี ซูฮยอค ใช่มั้ย? ทำไมนายถึงใส่ชุดนักเรียนแบบพวกเรา?”
ซูฮยอคเตรียมจะพูดแต่ต้องข่มมารยาทไว้ จริง ๆเขาก็สงสัยว่าโรงเรียนไหนที่พวกเขาย้ายไปและตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงนี่เองที่เหมาะกับระดับพวกเขา
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” ซูฮยอคพูด
เด็กหนุ่มที่จับแว่นตาเปิดปากพูดขึ้นว่า “ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกนายจะสามารถหามาจ่ายได้แล้ว...”
“ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับบุคคลชั้นต่ำอย่างนายที่จะมาเดินเล่นแถวนี้นะ นายไปทำอะไรมาถึงมาอยู่ที่โรงเรียนของเราได้?”
สายตาของซูฮยอคหลบมองพื้นอย่างเย็นชา
ขณะนั้นเองดงซูก็เดินไปตรงหน้าพวกเขาแล้วหัวเราะเย้ยหยันใส่ “พวกแกพูดเชี่ยอะไรออกมาวะพวกเวร?”