SGS บทที่ 46 – จงทะยานสู่สวรรค์! เรลกันของฉัน!
เจ็บปวดถึงขีดสุด!!!
ถูกแทงด้วยดาบทรายเหล็กที่สั่นสะเทือนด้วยความเร็วสูงทั่วทั้งตัว อสรพิษฟ้ากรีดร้องโหยหวน มันสะบัดหางไปมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะบัลลังค์ โพรง หรือหิน ล้วนถูกบดทำลายหมด
เลือดไหลท่วมตัวมัน จนกลายเป็นอสรพิษโลหิต มันเปิดตาที่เหลืออีกข้างนึง มองไปที่สาวน้อยผมสีสำเกาหลัด ที่ซึ่งกำลังมีไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่างกาย ด้วยความเกลียดชัง
“เกลียดฉันเหรอ?....” มิโคโตะอ่านสายตามันออก เธอที่ปกติมีนิสัยใจดีเป็นกันเอง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสาวน้อยผู้ห้าวหาญ มิโคโตะขมวดคิ้วตะโกนใส่อสรพิษฟ้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“แล้วพวกที่ถูกนายเรียกว่าของเล่นล่ะ? ตัวเองถูกทำเป็นแค่ของเล่น ใครสมควรถูกเกลียดกันแน่!”
ไฟฟ้าส่งเสียงกระหึ่ม ตอบรับกับอารมณ์ของเธอ เกิดเป็นตาข่ายสายฟ้า ภายใต้การควบคุมของมิโคโตะ ลงไปปกคลุมอสรพิษฟ้า
เสี้ยววินาทีต่อจากนั้น ก็เกิดเสียงกระแสไฟฟ้าระเบิด และที่ตามมาก็คือเสียงร้องโหยหวน ตาข่ายสายฟ้าได้ย่างเกร็ดของมัน จนสามารถได้กลิ่นเนื่อย่างลอยออกมาจากตัวอสรพิษฟ้า และผิวมันจากตอนแรกอาบไปด้วยเลือด ก็เปลี่ยนเป็นสีดำไหม้
อสรพิษฟ้าดิ้นรนไม่หยุด พยายามทำลายตาข่ายสายฟ้า แต่น่าเสียดาย ตาข่ายสายฟ้าไม่ใช่ตาข่ายจับปลาหรือจับงู แต่ถูกควบคุมโดยการคำนวณในสมองของมิโคโตะ ตรายใดที่เธอยังไม่หยุดคำนวณ ตาข่ายสายฟ้าก็จะไม่มีวันหายไป
ตอนนี้อสรพิษฟ้าเริ่มสิ้นหวังแล้ว จากตอนแรกมันถูกวู่หยารทรมาน และพอเปลี่ยนมาเป็นร่างจริง มันคิดจะทรมานกลับ แต่ขณะที่มันเพิ่งโชว์ร่างจริงไปได้แป๊ปเดียว ก็มีเด็กสาวกระโดดออกมาจากไหนก็ไม่รู้ แถมยังดิบเถื่อนกว่าเจ้ามดเมื่อกี้อีก
แม้แต่ลูกน้องของมันก็ตายจนหมด แถมร่างมนุษย์ของมันก็ถูกตัวมันเองระเบิดไปเมื่อกี้แล้ว และเมื่อมันเปิดเผยร่างที่แท้จริงมันก็ไม่เคยลิ้มรสความสิ้นหวังมาก่อน แต่ว่าตอนนี้กลับ.......
เป็นแค่สาวน้อย.....เป็นแค่สาวน้อย! แล้วข้าจะ! แล้วข้าจะ! ตายด้วยน้ำมือสาวน้อยได้ยังไง!!!!
“โฮกกก!!!” เสียงคำรามดังนสนั่นจนเกิดลมกรรโชก อสรพิษฟ้าสะบัดตัวไปมาอย่างแรง จนตาข่ายระบิดหายไป
“อะไรกัน!” มิโคโตะแปลกใจไม่น้อย เพราะเธอคิดจะจบการต่อสู้ด้วยตาข่ายสายฟ้า แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะขาดออกแบบนี้
“โฮกกก!!!”
เสียงร้องของมันไม่ได้เป็นเพราะความเจ็บและความสิ้นหวังอีกต่อไปแล้ว อสรพิษฟ้าได้บ้าคลั่งไปอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้มันคิดเพียงอย่างเดียวคือ ฆ่า!! ฆ่าสาวน้อยที่ทำให้มันเจ็บปวดขนาดนี้!!
อสรพิษฟ้าสะบัดหาง ตามรายทางที่หางมันผ่าน ไม่ว่าจะกำแพงหรือก้อนหินก็ถูกบดขยี้จนหมด จากนั้นมันก็กวาดหางใส่มิโคโตะ
ท่าของอสรพิษฟ้า ก่อให้เกิดกระแสลมแรงพัดใส่มิโคโตะ ด้วยร่างกายเล็กๆของเด็กสาวอายุ14ปีที่มีหนักน้อยกว่า40กิโลกรัม ลมนี้แรงพอที่จะพัดเธอจนปลิว
เกิดประกายสายฟ้าที่เท้าเธอ มิโคโตะรีบปรับสมดุลร่างกาย ก่อนที่จะยื่นมือไปที่เพดานกระแสสไฟฟ้าส่งเสียง ‘เปรี๊ยะๆ’ มิโคโตะใช้พลังแม่เหล็กไฟฟ้า ดึงตัวเองขึ้นไปหลบหางของอสรพิษฟ้า
“ฮินางิคุ!” หางของมันยาวมาก ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นที่สามารถกวาดไปทั่วห้องโถงที่กว้างใหญ่นี้ได้หมด แต่วู่หยานกับฮินางิคุดันอยู่ในระยะโจมตีของมันพอดี มองดูหางอสรพิษที่ใกล้เข้ามา วู่หยานก่นด่าในใจ มือจับฮินางิคุแล้วกระโดดหลบ
เห็นทั้งสองคนหลบพ้น มิโคโตะที่กำลังยืนกลับหัวบนเพดาน ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอไม่ได้สังเกตุว่ากระโปรงเธอได้ไหลลงไปตามแรงโน้มถ่วง และกางเกงในที่วู่หยานใส่ให้เองกับมือก็โผล่ออกมา ตอนนี้วู่หยานหวังจริงๆว่าตัวเองสามารถเสกให้ไอ้งูนี่ตาบอดได้
ฮินางิคุเองก็เห็น แต่เธอเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เขาเลยไม่คิดอะไร แต่กับไอ้งูเปรตนั่น มันต้องตาย!!
“มิโคโตะ รีบๆฆ่ามันได้แล้ว!” วู่หยานตะโกนเสียงดัง ในใจก็หวังว่าเธอจะสังเกตเห็นกระโปรงตัวเอง มันโอเคถ้าเธอจะโชว์ให้เขาเห็น แต่อย่าไปโชว์ให้คนอื่น..เอ่อ...ไม่สิ..อย่าไปโชว์ให้งูมันเห็น.....
“นายน่ะหุบปากไปเลย! ทำตัวดีๆแล้วดูไปซะ” ปากพูดไป มือเธอก็สะบัด ยิงหอกสายฟ้าไปอีกรอบ
แต่น่าเสียดาย ด้วยหอกสายฟ้าที่มีความเร็วแต่ขาดพลัง ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมัน หอกไม่ก่อให้เกิดดาเมจเลย มากสุดก็แค่ให้มันสตันไม่กี่วิ ไม่งั้นก็ต้องยิงให้โดนดวงตามันเหมือนเมื่อกี้
“อย่างที่คิด เทียบกับทรายเหล็กแล้ว.....” พูดไม่ทันจบหัวอสรพิษฟ้าก็พุ่งใส่มิโคโตะด้วยความบ้าคลั่ง เธอยืนมือไปข้างหน้าอย่างใจเย็น จากนั้นก็ใช้พลังดึงตัวเองไปอีกด้าน
“ปั้ง!!” เพดานยุบ หินน้อยใหญ่ร่วงลงมา อสรพิษฟ้าดึงหัวออกมาได้ก็อ้าปากคำราม ก่อนจะพุ่งใส่มิโคโตะอีกครั้ง
“โถ่เอ้ย!! น่ารำคาญจริง!!” การโจมตีที่ทั้งถี่รัวและบ้าคลั่งบวกกับหัวขนาดใหญ่ของมัน ทำให้มิโคโตะไม่มีเวลาใช้ท่าใหญ่ ตอนนี้เธอจึงทำได้แค่หลบเท่านั้น ต้องรู้ก่อนว่าการใช้ท่าโจมตีที่ทรงพลัง มันต้องใช้เวลาในการคำนวณมากขึ้นด้วย นี่ทำให้มิโคโตะเริ่มหัวเสีย
เรลกันที่ไม่สามารถโจมตีได้ก็ไม่ใช้เรลกัน คนที่สามารถมีความสุขกับลูปแบบนี้ได้คงมีแค่วู่หยานที่เห็นเธอเป็นฝ่ายรับแล้วมีควาสุข......
“ต้องการคนช่วยมั้ย มิโคโตะ!!” วู่หยานตะโกน ขณะที่อุ้มฮินางิคุไว้ในอ้อมแขน เขาก็หลบลูกหลงของการโจมตีไปมา แถมยังดูราวกับว่ากำลังสนุกอยู่ด้วย อย่าบอกนะว่าเอ็งเป็นฝ่ายรับจริงๆ?(Uke).......
“ฉันไม่จำเป็นต้องให้นายช่วย! ฉันคือ...”
“คือเรลกัน ใช้ ฉันรู้อยู่แล้ว รีบๆจัดการมันได้แล้วพี่สาวเรลกัน!” วู่หยานยังคงแค้นฝังหุ่นที่งูผีนี่เห็นกางเกงในเธอ ตอนนี้ในหัวเขาคิดแค่จะเอาเนื้อมันมาทำอาหารแบบไหนดี...
“เจ้าบ้านี่!” เสียงกระแสไฟฟ้าดังขึ้น จากตอนแรกเธอก็กำลังหงุดหงิดอยู่แล้ว พอได้ยินคำพูดวู่หยาน หลอดความโกรธเธอก็พุ่งทะลุเพดานทันที แถมยังเอาไปลงที่อสรพิษฟ้าด้วย
โบกมือน้อยๆของเธอไปที่ดาบเหล็กที่ยังคงแทงอยู่ในตัวมัน ดาบสั่นไหวอีกครั้งดูราวกับแวมไพร์ที่กำลังดูดเลือดจากแผลเก่า อยู่ๆก็เกิดรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทำให้อสรพิษฟ้าที่กำลังพุ่งตัวมาเปลี่ยนทิศทางไปชนกองหินไม่ไกลออกไป ปากก็กรีดร้อยโหยหวนด้วยความทรมาน
“โอกาสมาแล้ว!” ด้วยสีหน้าปิติยินดี มิโคโตะลงไปยืนที่พื้นพร้อมกับชี้นิ้วไปที่อสรพิษฟ้า เกิดดาบทรายเหล็กรวมตัวกันอีกครั้ง ก่อนจะถูกยิงไปที่ตัวมัน
อสรพิษฟ้าเห็น ‘เข็มดำ’ พุ่งเข้ามา มันใจหายวาบทันที โดนแทงด้วยเจ้านี่ไม่ใช้เรื่องตลกเลยนะ ตายด้วยเลือดไหลหมดตัวเป็นเรื่องเล็ก แต่ความเจ็บปวดก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องใหญ่ มันรีบม้วนตัวหลบไปได้ แต่ดาบทรายเหล็กมีมิโคโตะควบคุม ดังนั้นภายใต้การควบคุมของเธอ ดาบได้เปลี่ยนทิศทางและยังคงบินไล่ล่าอสรพิษฟ้า
มันกลิ้งหลบไปได้อีกครั้ง ก่อนจะยกหางตบใส่ดาบทรายเหล็กจนร่วงหมด
“อยู่เฉยๆให้ฉันซะ!” เธอชี้นิ้วไปที่ตัวมัน จากนั้นดาบที่ปักตามตัวมันก็ลอยออกมา ตัวดาบเต็มไปด้วยเลือดก่อนที่จะไปหมุนวนรวมตัวเหนือศีรษะของอสรพิษฟ้าดุจดั้งเมฆสีดำ
“ฮ่า!” ทันใดนั้น ดาบเล่มหนึ่งก็ได้พุ่งลงมาจากกลุ่มเมฆดำ ลงไปปักกลางหัวมัน
ถ้าก่อนหน้านี้ศีรษะของอสรพิษฟ้าดูเหมือนเม่น งั้นตอนนี้มันก็ดูเหมือนไก่ ที่มีหงอนไก่ปักหัวอยู่ ทำให้คนเห็นสับสน ดูเหมือนงูก็ไม่ใช้ไก่ก็ไม่เชิง
รู้สึกเจ็บจี๊ดตรงหัว อสรพิษฟ้าบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช้เพราะบาดเจ็บเลยหยุดโจมตี กลับกันมันยิ่งโจมตีถี่ระรัวขึ้นกว่าเดิม บ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้มันได้ใช้หางดุจแส้ไปแล้ว กลายเป็นภาพติดตาแล้วหวดใส่มิโคโตะ
มิโคโตะยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มเมฆก็สลายตัวออก แล้วบินมาวนรอบตัวเธอ และก่อตัวขึ้นมาเป็นโล่ทรายเหล็ก ป้องกันหางของมันได้หมด
แต่พื้นดินไม่ได้ใช้โชคดีไปด้วย ภายใต้การโจมตีนี้ของอสรพิษฟ้า พื้นรอบตัวมิโคโตะทรุดตัวลงกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่
มันยังคงไม่หยุดโจมตี อสรพิษฟ้าตวัดหางไม่หยุดใส่โล่ทรายเหล็กของมิโคโตะ
“แคร๊ก” โล่ทรายเหล็กเริ่มเกิดรอยร้าว ได้ยินเสียงเธอหน้าเปลี่ยนสี กระตุ้นกระไฟฟ้ารอบตัว ทำให้สปีดเธอพุ่งสูงขึ้นและพุ่งตัวหลบไปอีกด้าน
“ตู้ม!” โล่ทรายเหล็กแตกเป็นสี่ยงๆ และหางมันตบไปที่พื้นยิ่งทำให้หลุมใหญ่กว่าเดิม
ตอนนี้เธอปวดหัวเข้าจริงๆแล้ว ถึงแม้อสรพิษฟ้าจะแข็งแกร่งก็จริง แต่ก็แค่เลเวล60 ถ้าเป็นปกติเธอฆ่ามันไปได้นานแล้ว แต่เป็นเพราะร่างกายอันใหญ่โต จากปกติด้วยจำนวนดาบที่อสรพิษฟ้าโดนแทงเข้าไปมากพอให้มันตกตายได้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง และจากเลือดที่ไหลออกมาก็มากพอที่จะทำเป็นสระน้ำแล้ว แต่ก็มันก็ยังไม่ตายสักที แถมยังมีแรงมาโจมตีไม่หยุดด้วย
ถ้าเป็นเกม ก็คงพูดได้ว่าอสรพิษฟ้าเป็นบอสที่อึดสุดๆ พลังชีวิตมหาศาล และเลือดเยอะโครตด้วย.....
ด้วยความถี่ตอนนี้ ต่อให้เพิ่มรูบนตัวมันไปก็คงไม่ช่วยให้มันตายเร็วขึ้นเท่าไหร่
และท่าอื่นๆของเธอถ้าใช้กับคนทั่วไปก็นับว่าเพียงพอ แต่ถ้าใช้กับอสรพิษฟ้าดาเมจที่ทำได้มันน้อยเกินไป ไม่พอที่จะชนะมัน
แต่ที่มิโคโตะไม่รู้คือที่ตัวมันยังเคลื่อนไหวอยู่เป็นพลังใจและความบ้าล้วนๆ ถึงแม้จะยังไม่แพ้ก็เพราะร่างกายใหญ่ๆนี่ก็เถอะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวมันกับเธอระดับพลังห่างชั้นกันจริงๆ
อสรพิษฟ้าเปิดโหมดบ้าคลั่งซึ่งเท่ากับมันไม่สนใจร่างกายตัวเองแล้ว คิดแค่ว่าต้องชนะมิโคโตะ ตราบใดที่ยังไม่ตายสนิท มันก็ไม่หยุดโจมตีแน่ๆ
ดังนั้นจึงเกิดสภาวะยืดเยื้อขึ้น
มีแค่ทางเดียวคือต้อง นัดเดียวจอด หรือก็คือโจมตีครั้งเดียวต้องตาย!
และบังเอิญว่ามิโคโตะก็มีท่าแบบนั้นด้วย!
มิโคโตะยืนขึ้น สายตามองอสรพิษฟ้าที่กำลังหันหัวมาเตรียมโจมตีอีกครั้ง วินาทีต่อจากนั้นก็มีกระแสไฟฟ้าระเบิดออกมาจากตัวมิโคโตะ ครอบคลุมทั้งตัวเธอด้วยไฟฟ้า
กระแสไฟฟ้าโคจรรอบตัวเธอด้วยความเร็วสูง ผมและเสื้อผ้ามิโคโตะโบกสะบัดไปมาราวกับว่ามีลมพัด มีเสียง ‘เปรี๊ยะๆ’ ดังขึ้นไม่หยุด
มิโคโตะค่อยๆยื่นมือออกไป และที่นิ้วเธอก็มีเหรียญอันหนึ่งถูกบีบไว้อยู่ เธอชี้ไปที่อสรพิษฟ้า
ดีดเหรียญขึ้นฟ้า ในเวลาเดียวกันกระแสไฟฟ้ารอบตัวเธอก็เริ่มไปรวมตัวที่นิ้วโป้งเธอ เกิดเป็นแสงสีขาวสว่างจ้าขึ้นมา
อสรพิษฟ้าโจมตีเข้าใส่ แต่มิโคโตะเมินมันสนิท กระแสไฟฟ้ารอบตัวเธอเคลื่อนไหวอีกครั้ง ภายใต้แรงดึงดูดของแม่เหล็กไฟฟ้า เหรียญถูกดึงให้มาตกที่นิ้วหัวแม่มือของเธอ
มองอสรพิษฟ้าที่ใกล้จะมาถึงตัวเธอ มิโคโตะหรี่ตาลง เมื่อเหรียญตกลงมาถึงบริเวณเหนือนิ้วโป้ง เธอก็ดีดนิ้วออกไปทันที!
ลำแสงสีส้มยิงไปที่อสรพิษฟ้า ทะลุสมองมัน ร่างกายมัน และหางมัน! และยังพุ่งทะยานต่อจนหายลับไปจากสายตา.....