ตอนที่ 56 ใครอยากได้สูตรยาของเจ้ากัน?
จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ ตอนที่ 56 ใครอยากได้สูตรยาของเจ้ากัน?
ยังดูเยาว์วัยยิ่งนัก!
ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ปรุงยาหรือวิทยายุทธ ล้วนแต่ไม่เคยขาดแคลนอัจฉริยะ... แต่หลิงฮันอายุเท่าไหร่กันเชียว?
สิบเจ็ดปี? สิบแปดปี?
ถึงแม้เขาจะเรียนรู้ศาสตร์ปรุงยามาตั้งแต่ตอนเกิดมา ด้วยอายุเพียงเท่านี้เขาจะสะสมประสบการณ์มาได้กี่ปีกันเชียว?
“สหายน้อยมาจากตระกูลชนชั้นสูงที่มีความเชียวชาญด้านการปรุงยาตระกูลใดกัน?” จางเหวยชางถามด้วยความสุภาพ มันรู้จักจูเฮอซินเป็นอย่างดี จูเฮอซินไม่มีทางล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้แน่ๆ
“ข้าเรียนรู้ด้วยตัวเอง” หลิงฮันพูด ตัวเขาที่เป็นจักรพรรดิปรุงยา จะไปเรียนรู้จากคนอื่นได้อย่างไร?
จางเหวยชางตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ส่วนตวนมู่ฉางเฟิงยังคิดว่าจูเฮอซินกำลังพูดเล่นอยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรุงยาคือการได้รับสืบทอดความรู้มา อย่างเช่นสูตรยาต่างๆ หากไม่มีอาจารย์หรือคนในตระกูลคอยสอน แล้วจะไปได้รับมาจากไหน?
คิดค้นด้วยตัวเองงั้นรึ? น่าขำ สูตรยาจะสำเร็จได้ต้องผ่านทดลองมาหลายครั้ง ถ้าคิดจะสร้างสูตรยาขึ้นใหม่ด้วยตัวเอง จากการพยายามมาทั้งชีวิตอาจจะสามารถคิดค้นขึ้นมาได้เพียงหนึ่งหรือสองสูตรเท่านั้น
“เฒ่าชาง อย่างไรก็นำสูตรเม็ดยาหวนคืนออกมาก่อน” จูเฮอซินเร่งเร้า มันเชื่อว่าตราบใดที่ได้รับการช่วยเหลือจากหลิงฮัน เฒ่าชราสองคนนี้จะต้องตกตะลึงอย่างโง่งมแน่นอน
จางเหวยชางลังเลเล็กน้อย ต่อให้สูตรเม็ดยาหวนคืนจะไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ยังมีค่าเป็นอย่างมาก มันต้องสูญเสียไปไม่น้อยกว่าจะได้มา สูตรเม็ดยาก็เหมือนกับหนังสือทักษะวรยุทธ ใครจะแสดงให้ผู้อื่นดูง่ายๆกัน?
“พี่ชายชาง ห้ามเด็ดขาด!” ตวนมู่ฉางเฟิงส่ายหน้าในทันที ขนาดบุคคลสำคัญอย่างมันยังต้องจ่ายไปไม่น้อยเพื่อที่จะได้ดูสูตรยานี่ ถ้าหากมันไม่ใช่คนที่มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสูตรเม็ดยานี้ ไม่รู้ว่าต้องจ่ายเพิ่มไปอีกเท่าไหร่
‘เจ้าเด็กนี่เป็นใครถึงคิดจะมาดูสูตรเม็ดยานี่ได้ง่ายๆ?’
จางเหวยชางมองไปยังจูเฮอซิน ไม่ใช่ว่ามันไม่ไว้ในสหายคนสนิทของมัน แต่เป็นพราะหลิงฮันยังเด็กเกินไป ทำให้มันรู้สึกไม่ไว้วางใจหลิงฮัน
“เฒ่าจาง เจ้าไม่เชื่อข้ารึ?” จูเฮอซินโกรธขึ้นมา คนที่มันพามาคือปรมาจารย์ทางด้านปรุงยาที่แท้จริง ขนาดมันยังต้องการจะติดตามหลิงฮันเพื่อให้ได้รับการชี้แนะ แต่โชคไม่ดีที่มันไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกศิษย์ของหลิงฮัน
แต่ถึงยังงั้นตวนมู่ฉางเฟิงกลับกล้ามาสงสัยในความสามารถของหลิงฮัน และคิดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะดูสูตรเม็ดยา จะไม่ให้มันโกรธได้อย่างไร?
ถ้าไม่ใช่เพราะมันไว้หน้าจางเหวยชาง มันคงจะลงมือกับตวนมู่ฉางเฟิงไปแล้ว
จางเหวยชางขมวดคิ้ว ในใจลึกๆของมันแน่นอนว่าอยากจะเชื่อใจจูเฮอซิน เพราะอย่างไรพวกมันก็เป็นสหายกันมาหลายปี มันจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจูเฮอซินเป็นคนยังไง? อย่างไรก็ตาม หลิงฮันยังเด็กเกินไปจริงๆ เด็กเกินไปจนดูไม่เหมือนกันปรมาจารย์ทางด้านปรุงยาเลยแม้แต่น้อย
“ดี! ดี! ดี!”จูเฮอซินมองเห็นความเคลือบแคลงใจในแววตาของจางเหวยชาง ทำให้มันรู้สึกโกรธจนตัวสั่น “จางเหวยชาง ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อใจข้า ถ้าเช่นนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะไม่นับว่าเป็นสหายกันอีก!”
“เฒ่าจู!” จางเหวยชางหน้าซีดเพราะความตกตะลึง จูเฮอซินถึงขนาดพูดว่าจะตัดความสัมพันธ์กับมัน เป็นข้อยืนยันแล้วว่าจูเฮอซินกำลังโกรธอยู่ขนาดไหน มันรีบโบกมือและพูด “ไม่ต้องโกรธขนาดนั้น ข้าจะนำมันออกมาเดี๋ยวนี้ ตกลงไหม?”
“เจ้าไม่ต้องฝืนตัวเอง!” จูเฮอซินเค้นเสียงในลำคอ ในสายตาของมัน หลิงฮันคือจักรพรรดิปรุงยาที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก และความไม่สุภาพที่จางเหวยชางแสดงออกมาทำให้มันรู้สึกละลายใจต่อหน้าหลิงฮันอย่างมาก เช่นนี้แล้วมันจะยังหน้าด้านขอให้หลิงฮันช่วยฟื้นฟูสูตรเม็ดยาได้อีกรึ?
“สหายน้อยหลิง ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ!” จูเฮอซินพูดกับหลิงฮันด้วยท่าทีหวั่นเกรง
หลิงฮันโบกมือให้จูเฮอซินก่อนที่จะมองไปยังตวนมู่ฉางเฟิงและพูดออกมา “เจ้าคิดว่าสำหรับข้า สูตรเม็ดยาหวนคืนมีค่าขนาดนั้นเลยรึ? ฮ่าๆ งั้นข้าจะเอ่ยชื่อสมุนไพรบางอย่างที่ใช้เป็นวัตถุดิบให้ก็แล้วกัน”
“กลีบดอกควันม่วง ผลพันดอก หญ้าวายุสลาย...” ภายในหนึ่งลมหายใจ หลิงฮันเอ่ยชื่อสมุนไพรต่างๆมากกว่าสิบชนิดออกไป
ตวนมู่ฉางเฟิง กลายเป็นงุนงง... เด็กหนุ่มคนนี้พูดเรื่องอันใดกัน? แต่กลับกัน สีหน้าของจางเหวยชางเปลี่ยนไปในทันที มือของมันสั่นสะท้านไม่หยุด สายตากลายเป็นเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ
จางเหวยชางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลิงฮันกำลังพูดอะไรอยู่? ชื่อสมุนไพรเหล่านี้ถูกเขียนไว้บนสูตรเม็ดยาหวนคืน! แต่ก็มีสมุนไพรบางอันที่เลือนรางและไม่สามารถอ่านได้ชัดเจน และจำนวนวัตถุดิบที่ต้องใช้แต่ละชนิดเองก็พร่ามัวไม่สามารถอ่านได้
สมุนไพรต่างๆที่หลิงฮันพูดมาล้วนใช้สำหรับสูตรเม็ดยาหวนคืนทั้งนั้น แถมยังมีถึงสามชนิดที่ไม่ปรากฏอยู่ในสูตรเม็ดยา นั่นหมายความว่าอย่างไร?
นั่นหมายความว่าหลิงฮันมีสูตรเม็ดยาหวนคืนฉบับสมบูรณ์!
ตัวมันช่างน่าขันจริงๆที่ดื้อรั้นไม่ยอมนำสูตรเม็ดยาที่ไม่สมบูรณ์ออกมา มันรู้สึกอับอายจนอยากจะขุดหลุมฝังตัวเอง
“สหายน้อย โปรดยกโทษให้กับความโง่เขลาของข้าด้วย!” จางเหวยชางประสานมือและก้มหัวต่ำลงจนถึงเอวของหลิงฮัน แสดงให้เห็นว่ามันรู้สึกผิดถึงเพียงใด
หลิงฮันยังคงยืนนิ่ง เขามาที่นี่เพื่อชี้แนะจางเหวยชางด้วยความเมตตา แต่กลับต้องมาถูกสงสัยแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกไม่พอใจ
ตวนมู่ฉางเฟิงเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าเฒ่าสองคนนี้ได้ถูกหลิงฮันโน้มน้าวหลอกลวงไปเรียบร้อยแล้ว มันเค้นเสียงและพูดออกไป “เจ้าหนู ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใด แต่ถ้าเจ้าคิดจะหลอกลวงข้า บอกได้เลยว่าไม่มีทาง!”
“น้องชายตวนมู่ โปรดกลับไปด้วย!” จางเหวยชางกลับมายืนตัวตรงและพูดอย่างเย็นชา
ว่าไงนะ!
ตวนมู่ฉางเฟิงเกือบจะกระโจนออกจากที่นั่ง นี่หัวของเจ้าถูกกระแทกจนเสียสติไปแล้วรึไง? เมื่อสักครู่เจ้ายังอยู่ฝ่ายเดียวกันข้าอยู่เลย แต่ตอนนี้เจ้ากลับหันปลายหอกมาชี้ใส่ข้า?
“พี่ชายจาง นี่มันหมายความว่าอย่างไร!” สีหน้าของตวนมู่ฉางเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“สิ่งที่เจ้ามอบให้ข้ามา ข้าจะให้คนนำไปส่งคืนภายหลัง แต่ในตอนนี้ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า!” จางเหวยชางพูดออกมาอย่างไม่ไว้หน้า มันถูกตวนมู่ฉางเฟิงทำให้สับสน และเกือบจะพลาดโอกาสสานสัมพันธ์กับปรมาจารย์นักปรุงยา ดังนั้นความรู้สึกในแง่ดีของมันต่อตวนมู่ฉางเฟิงจึงหายไป
ไม่ว่าจะนักปรุงยาคนไหน ไม่มีสิ่งใดที่จะมีเกียรติไปมากกว่าการฟื้นฟูสูตรเม็ดยาจากยุคโบราณอีกแล้ว
“ดี! ดี!” ใบหน้าของตวนมู่ฉางเฟิงซีดขาว คนที่มีความชำนาญทั้งด้านการปรุงยาและวิถีดาบ รวมถึงมีตำแหน่งที่เป็นที่เคารพอย่างมันต้องมาถูกขับไล่ออกไปโดยมีสาเหตุมาจากเด็กหนุ่มเพียงคนเดียว จะไม่ให้มันโกรธได้อย่างไร?
มันสะบักแขนเสื้อและเดินออกไปจากประตู ก่อนที่จะออกไป ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของมันกวาดผ่านมาทางหลิงฮัน
มันแสดงออกอย่างชัดเจนว่าทุกๆอย่างเป็นเพราะหลิงฮัน
หลิงฮันส่ายหัว นี่เป็นปัญหาที่เขาไม่ได้สร้างขึ้นเองแม้แต่น้อย ตวนมู่ฉางเฟิงอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุ มันไม่ใช่คนที่เขาในตอนนี้จะสามารถสู้ได้อย่างเท่าเทียม
“เฒ่าจู ทีนี้เจ้าพอใจหรือยัง?” จางเหวยชางพูดด้วยรอยยิ้ม
“นับว่าเจ้าฉลาดไม่เลว!” จูเฮอซินจ้องไปที่จางเหวยชางชั่วขณะ ไม่ว่าจะอย่างไรพวกมันก็เป็นสหายกันมานาน สิ่งที่มันพูดออกไปก่อนหน้านี้เป็นเพราะความโกรธและไม่พอใจเท่านั้น มันเดินไปทางหลิงฮันและก้มหัวต่ำลง “สหายน้อย ชายชราที่ไร้ความสามารถผู้นี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“ชายชราผู้นี้เช่นกัน” จางเหวยชางก้มหัวลงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของมันก็ยังไม่สุภาพเท่ากับจูเฮอซิน จูเฮอซินเรียกตัวเองว่า‘ชายชราที่ไร้ความสามารถ’ ในขณะที่มันเรียกตัวเองว่า‘ชายชรา’เพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่ามันยังคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติคู่ควรอยู่
แต่ฉีซางไต๋ที่ยืนอยู่ข้างๆมาโดยตลอด นางตะลึงเป็นอย่างมากที่อาจารย์ของนางขับไล่ตวนมู่ฉางเฟิงออกไปเพื่อเอาใจหลิงฮัน ยิ่งกว่านั้นอาจารย์ของนางยังสร้างความบาดหมางกับอีกฝ่ายอีก ชายหนุ่มคนนี้ช่างมีความสามารถจริงๆ
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*