ตอนที่ 201 คนที่อ่อนแอ (FREE)
ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปที่ ซิง ฉิงซุย แต่ก็ไม่พูดอะไร
ตามจริงแล้วเขาก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับ ซิง ฉิงซุย เขาเคยได้ยินแค่ชื่อมาจาก เหยียน ซิว พวกเขาไม่เคยพบกันทั้งในการทดสอบด้านปัญญาและการทดสอบการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกได้ถึงจิตวิญาณนักสู้ของ ซิง ฉิงซุย ว่าชายคนนี้นั้นมีจิตที่บ้าคลั่งร่วมกับวิชาที่สุดยอดจากกองตรวจการความมั่นคง
บางที ...
นี่อาจจะเป็นวิธีการต่อสู้ของคนจากกองตรวจการความมั่นคง
"ตูมมม!"
ดาบอุกาบาตกับหอกฉีหหลินปะทะกันอีกครั้ง
นี่เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่อาวุธทั้งสองเข้าปะทะกัน
ออร่าของอาวุธทั้ง 2 แตกกระจายอยู่รอบตัวพวกเขา
แต่ครานี้
ซิง ฉิงซุย ถอยห่างออกไปไม่ถึง 3 เมตร
เหล่าผู้ทดสอบทั้งหมดต่างตกตะลึงในการต่อสู้ของ 2 คนนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าการต่อสู้ระหว่าง ปิง หยาง และ ซิง ฉิงซุย จะออกมาเป็นเช่นนี้
พุ่งชนอย่างเดียว?!!
หอกฉีหลิน ยังคงปล่อยเสาเพลิงสูงเฉียดฟ้าออกมา
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ตระหนักได้ว่านางกำลังหอบ และใบหน้าของนางก็ดูจะหงุดหงิดเล็กน้อย
หอกฉีหลิน เป็น 1 ใน 10 สมบัติที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเซี่ย
อย่างไรก็ตามถ้าหากคนที่ใช้มันไม่แข็งแรงมากพอ การที่จะใช้มันอย่างต่อเนื่องแบบนี้คงจะเกิดผลเสียไม่น้อย
นี่เป็นเรื่องทั่วๆไป แม้แต่ยารักษาโรคก็ยังมีผลข้างเคียง
ปิง หยาง อยู่ในระดับผนวกดาราการใช้หอกฉีหลินในแต่ละครั้งนั้นต้องใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนางแน่
อย่างไรก็ตาม กับ ซิง ฉิงซุย ที่พุ่งเข้ามาหานางเอง อาจจะเป็นเรื่องดี
ดังนั้น นางจึงไม่ต้องเคลื่อนไหวมากนักในการต่อสู้กับ ซิง ฉิงซุย
การต่อสู้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ซิง ฉิงซุย เห็นได้ชัดกว่า ปิง หยาง ที่หน้าอกของเขาดูหายใจค่อนข้างลำบาก เขาเหงื่อออกเยอะมากจนแผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ
อย่างไรก็ตามเขาถือดาบนั้นอย่างมั่นคง
ไม่ว่าเขาจะหายใจลำบากแค่ไหน แต่ในมื่อของเขายังคงเยือกเย็น
"เข้ามา!" ซิง ฉิงซุย เตรียมตัวอีกครั้ง
ปิง หยาง แทงด้วยหอกฉีหลินของนาง
เสาเพลิงพุ่งสูงเฉียดฟ้าอีกครั้ง ซิง ฉิงซุย เองก็ใช้จิตวิญญาณนักสู้ของเขาเพื่อฝ่าเข้าไปยังทะเลเพลิงอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เริ่มตวัดดาบอุกาบาต
"ตูมมม!"
ดาบปะทะเขากับแสงสีทอง
นี่คือสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือ ในครั้งนี้ ซิง ฉิงซุย ไม่ได้ล่าถอยแล้ว หลังจากที่เข้าปะทะกัน เข้ายังคงต้านเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"ตูมมม!"
มีแสงสีทองระยิบระยับเกิดขึ้นมากมายจากการปะทะกัน
ทั้งสองกระเด็นไปข้างหลัง
ห่างกัน 4 เมตร
มันยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
ทุกคนต่างพากันตกใจ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง 4 เมตรนั้นเป็นการถอยของ ปิง หยาง
นี่เป็นครั้งแรกที่ ปิง หยาง กระเด็นออกจากการต่อสู้
แต่ ซิง ฉิงซุย กระเด็นออกไป 3 เมตรซึ่งไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ
"เขาผลัก ปิง หยาง ออกไปได้จริงๆหลังจากผ่านมาหลายครั้ง ?!"
"ไม่อยากจะเชื่อเลย!"
ผู้เข้าร่วมรอบๆไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ปิง หยาง เองก็ไม่อยากเชื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่แววตาของนางแข็งค้างด้วยความประหลาดใจ
ครั้งนี้
นางคิดว่ามันคงจะเหมือนกับครั้งก่อนๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการปะทะกับ ซิง ฉิงซุยในครั้งนี้ มันไม่เป็นไปตามสิ่งที่นางคิด
นางคิดว่า ซิง ฉิงซุย คงจะไม่มีพลังเหลืออยู่อีกแล้ว แต่ความจริงแล้วต่างออกไป
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด
ทุกคนยกเว้น ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว
"เจ้าคิดว่ายังไงละ?" ฟาง เจิ้งจือ ถาม
"น่าจะยาก" เหยียน ซิว ส่ายหัวเล็กน้อย
ทั้งคำถามของ ฟาง เจิ้งจือ และ คำตอบของ เหยียน ซิว ต่างคลุมเครือ
ยังไงก็ตามพวกเขาเข้าใจกันเป็นอย่างดี
ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ยังคงถกเถียงกันเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้ ในขณะที่ ปิง หยาง กระหน่ำจู่โจมเข้าไปอีกครั้ง ถ้านางยังไม่สามารถเอาชนะ ซิง ฉิงซุย ด้วยหอกฉีหลินได้ แล้วนางจะเอาชนะ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยังไง?
เพราะแบบนี้ นางจึงเริ่มว้าวุ่น
นางพุ่งออกไป
เกือบจะเหมือนว่าไฟลุกโชนทั่วร่างของนาง
ซิง ฉิงซุย ไม่ถอยหนี แววตาของเขาดุดันราวกับสัตว์ร้ายในขณะที่เขาจับดาบเอาไว้แน่น
"ตูม..ตูม...ตูมตูม "
อาวุธทั้งสองปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
ปิง หยาง โจมตีด้วยหอกฉีหลินครั้งแล้วครั้งเล่า
เสาเพลิงสูงเปล่งแสงสีทองจางๆ พุ่งเข้าหา ซิง ฉิงซุย เรื่อยๆ
ทุกครั้งที่แสงสีทองเข้ามาใกล้ ซิง ฉิงซุย ก็ตวัดดาบขึ้นมาปิดกั้นไว้
ปิง หยาง ค่อยๆต้อนไปทีละเล็กละน้อย
ทุกครั้งช่างลำบาก ทุกครั้งที่ ซิง ฉิงซุย ถอยออกไปเขาก็ฟื้นตัวแล้วพุ่งเข้ามาอีก มันทำให้นางเอาชนะเขาได้ยาก
ซิง ฉิงซุย ยังคงเยือกเย็นในการต่อสู้
แม้ว่าเขาจะเหงื่อออกชุ่มทั่วร่างกาย เสื้อผ้าขาดจากการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่น
เขาเข้าปะทะกับหอกฉีหลินซ้ำไปมา
เขาไม่หลบแม้แต่ครั้งเดียว
การต่อสู้ของทั้งสองดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ มันรุนแรงมากซะจนเหล่าผู้ทดสอบที่อยู่บนก้อนหินหยุดต่อสู้
ทุกคนต่างจับจ้องมาที่การต่อสู้ของพวกเขา
พวกเขาอยากจะรู้ว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดนี่ผลจะออกมาเป็นยังไง
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดรั้งนี้ใกล้จะจบลงแล้ว
ฟาง เจิ้งจือ, เหยียว ซิว, หนานกง มู่
และ....
ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลัง ซิง ฉิงซุย ก่อนหน้านี้
เขาสวมชุดที่ดูธรรมดามาก เขาดูอ่อนแอและมีรอยแผลจางๆที่ลำคอ
เสื้อผ้าดูสะอาดมาก
สวมชุดแขนยาวสีน้ำเงินเข้มที่สะอาดสะอ้านเกือบจะเหมือนกับของ ฟาง เจิ้งจือ
เขายืนนิ่งเฉยราวกับตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสนามรบแห่งนี้
ปิง หยาง ยิ้มออกมา
นางไม่ได้ขอความช่วยเหลือจาก ฟาง เจิ้งจือ หรือ เหยียน ซิว, ซิง ฉิงซุย อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ ปิง หยาง อยู่ในระดับผนวกดารา
นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดนัก
อย่างไรก็ตาม ปิง หยาง ตัดสินใจอย่างไม่ลังเล แววตาของนางเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งขององค์หญิง
นอกจากนี้นางยังคงมีความดื้อรั้ง
นี่แหละคือ ปิง หยาง
นางปลดปล่อยหอกฉีหลินออก เสาเพลิงไฟพุ่งสูงขึ้นไปเฉียดฟ้า ก่อนจะพุ่งลงไปหา ซิง ฉิงซุย ตรงปลายมีแสงสว่างสีทองท่ามกลางพายุเพลิง
ราวกับเป็นแสงไฟกลางพายุ
"โฮก!" กลิ่นอายความดุร้ายเต็มไปทั่วท้องฟ้า
นี่เป็น 1 ในสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรเซี่ย เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด มันสามารถเจาะทะลวงทุกสิ่งอย่าง แผดเผาพื้นดินให้มอดไหม้ ใครกล้าพอที่จะต่อกรกับมันได้?
ผู้เข้าสอบที่อยู่ใกล้ๆ ซิง ฉิงซุย ถอยหลังไป 2-3 ก้าวอย่างไม่ตั้งใจ
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หอกฉีหลิน ใครจะรู้ว่ามันสร้างความเสียหายได้มากแค่ไหนกัน?
นอกจากนี้ ...
พวกเขารู้ดีว่า ถ้า ซิง ฉิงซุย ต้องการจะเอาชนะหอกฉีหลินล่ะก็ การยื้อคือโอกาสเดียวเท่านั้น
เขาต้องคอยหลบพลังทำลายล้างของหอกฉีหลิน
ถ้าเขาทำได้เขาอาจจะได้รับชัยชนะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเขาคาดเดาแล้ว ซิง ฉิงซุย ไม่แม้แต่จะหลบ ไม่เพียงแค่นั้น เขากลับกระโจนเข้าไปกลางทะเลเพลิง
"เขาบ้าไปแล้ว?!"
ผู้เข้าสอบทุกคนต่างคิดเช่นนั้น
ท่าทีของ เหยียน ซิว ที่สงบนิ่งเริ่มเปลี่ยนไปตามจริงแล้วเขายังเงียบขรึมอยู่ในตอนที่ ซิง ฉิงซุย มาท้าทาย ปิง หยาง
อย่างไรก็ตาม เขาเริ่มมีท่าทีจริงจังทันทีเมื่อได้เห็น ซิง ฉิงซุย กระโจนเขาทะเลเพลิง แทนที่จะล่าถอย
ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปด้วยความเร้าใจเขารู้ดีถึงพลังอันมหาศาลของหอกฉีหลินเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ซิง ฉิงซุย ถึงอยากต่อกรกับมัน
อย่างที่บอกไป เขารู้ดีว่า ซิง ฉิงซุย คงจะไม่เดินเข้าไปหาความตายหรอก
หรือเขาจะพยายามหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่คับขันที่สุดกัน?
เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่คิดจะสนใจคนอื่น ความเร็วของเขารวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เร็วกว่าหอกฉีหลิน
อย่างไรก็ตาม ดาบอุกกาบาตของเขาลากไปกับพื้นด้านหลัง เขาไม่ได้ถือมันเพื่อที่จะโจมตี
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทะเลเพลิง ผู้คนทั่วไปคงจะต้องใช้น้ำหรือไม่ก็น้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายได้ต่อกรกับมัน อย่างไรก็ตาม ซิง ฉิงซุย ไม่มีสิ่งเหล่านั้น
แต่ ...
เขาก็ทะลวงผ่านทะเลเพลิงไปได้
มีออร่าบางอย่างรอบตัวเขาที่ดูเหมือนจะช่วยเขาฝ่าเพลิงออกมา ราวกับว่าคลื่นดาบของเขาแหวกทะเลเพลิงออกเพื่อให้เขาฝ่ามันไปได้
ฟาง เจิ้งจือ เคยได้ยินเรื่องที่โด่งดังเรื่องหนึ่ง
เจ้าสามารถตัดทะเลได้ด้วยดาบงั้นรึ?
เขาไม่รู้ว่าจะมีคนทำอย่างนั้นได้จริงไหม แต่ตอนนี้ ซิง ฉิงซุย ได้ทำมันแล้ว นอกจากนี้ดาบของเขายังคงลากอยู่ที่พื้นด้านหลัง
"มันเป็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้! "
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือทายาทของกองตรวจการความมั่นคง เขาเข้าถึงเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้ตั้งแต่ยังเด็ก! อีกทั้งเขายังเก็บซ่อนพลังบางอย่างเอาไว้ในการต่อสู้รอบก่อน!"
"ข้าเดาว่าไม่มีใครสามารถทำให้เขาต้องใช้มันได้มาก่อน?"
เหล่าผู้เข้าสอบที่ได้เห็นถึงกับบเบิกตาค้าง
"จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้?" ฟาง เจิ้งจือ เหมือนจะเข้าใจดี
นี้มันคล้ายกับพลังเทพแห่งสงครามอาซูร่า ของ เหยียน ซิว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นี้อาจจะมีผลเหมือนกัน แม้จะมีชื่อที่ต่างกันก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อาซูร่านั้นถูกใช้เพื่อเพิ่มพลังให้กับวิชาที่ใช้
ในทางกลับกัน จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นี้เหมือนจะมาจากภายในจิตใจ ผู้ใช้สามารถสะสมพลังเอาไว้ล่วงหน้าได้
จิตวิญญาณนี้แต่เดิมเกิดขึ้นจากความกล้าหาญและเติบโตขึ้นด้วยเลือดและไฟแห่งสนามรบ ซิง ฉิงซุย ควบคุมสนามรบของเขาด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เนื่องจากมันคมดั่งมีดดาบ จึงสามารถตัดฝ่าทะเลเพลิงไปอย่างง่ายดาย
เขาขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมในสนามรบ
ซิง ฉิงซุย และ ปิง หยาง ต่างก้าวเข้ามาหากัน
พวกเขาอยู่ใกล้กันมากจนหอกฉีหลินเกือบจะอยู่กลางหน้าผากของ ซิง ฉิงซุย แล้ว
ที่ปลายหอกมีแสงสีทองส่องประกาย มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้หอกฉีหลิน สามาถเจาะทะลวงสิ่งต่างๆได้
ซิง ฉิงซุย มองไปที่แสงสีทองท่าทีของเขาไม่มีความกลัวอยู่เลย ที่ปลายดาบของเขาแกว่งไปมา เมื่อแสงสีทองอยู่ห่างจากหน้าผากของเขาอีกเพียงไม่กี่นิ้ว
เขาได้ใช้ดาบอุกาบาตวาดลวดลายสีดำกลางอากาศเพื่อปะกับหอกฉีหลินในจังหวะสั้นๆ
มันปะทะกับแสงสีทอง
"ตูมมม!"
เศษเสี้ยวออร่าของดาบพังทลายหลังจากเกิดการปะทะ
"ปึง ปึง ปึง ... "
เศษเสี้ยวพลังของดาบกระทบเข้ากับดาบมากมายที่ปักอยู่บนก้อนหิน
"เคร้ง" ดาบมากมายแตกหัก และร่วงหล่นลงสู่พื้น
ซิง ฉิงซุย ถอยออกไป 2-3 ก้าวเพราะเขาพึ่งได้เผชิญหน้ากับ 1 ใน 10 สมบัติที่ทรงพลังที่สุดของอาณาจักรเซี่ย หอกฉีหลิน หอกที่ทรงพลังที่สุด
แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นกลางก็ตาม เขากลับต่อกรกับมันได้
ปิง หยาง ไม่ได้ล่าถอยจากผลกระทบ นางพุ่งไปด้านหน้าด้วยหอกฉีหลิน มันอยู่ห่างจาก ซิง ฉิงซุย แค่ 5 เมตรเท่านั้น
นางต้องการจะจัดการเขาในขณะที่เขากำลังชะงัก
เหตุผลนั้นง่ายนิดเดียว
ทุกคนต่างรู้ดี แต่ดูเหมือน ซิง ฉิงซุย จะไม่เข้าใจดีนัก
เมื่อ ปิง หยาง พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ซิง ฉิงซุย ก็ทำเช่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้
"ตูมมม!"
ดาบอุกาบาตและหอกฉีหลินปะทะกันอีกครั้ง
ผลลัพธ์ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ
ซิง ฉิงซุย กระเด็นถอยมา
อย่างไรก็ตามมันเป็นระยะทางที่สั้นมาก
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดส่ายหัว ทุกคนไม่สามารถเห็นรายละเอียดเล็กๆจากการต่อสู้ที่รุนแรงดังกล่าวได้ ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ซิง ฉิงซุย ถึงยืนยันที่จะต่อสู้ด้วยวิธีนี้
สำหรับพวกเขามันเป็นวิธีที่โง่เง่ามาก มากกว่าการที่ ปิง หยาง ไม่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเสียอีก
อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว ไม่ได้ส่ายหัว
เขาสังเกตุได้ถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
อีกครั้งที่ ซิง ฉิงซุย พุ่งไปหา ปิง หยาง เหมือนครั้งก่อน เหยียน ซิว คอยสังเกตุระยะที่ ซิง ฉินซุย กระเด็นถอยหลังมา
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจสิ่งเดียวกับ เหยียน ซิว
เขามองท่าทีของ ซิง ฉิงซุย
ซิง ฉิงซุย ไม่มีอาการหวาดกลัวแม้แต่น้อยเขาพุ่งเข้าไปเรื่อยๆ
หาก ซิง ฉิงซุย ใช้ จิตวิญญานแห่งการต่อสู้
มันชัดเจนว่า..
จิตวิญญานแห่งการต่อสู้ของ ซิง ฉิงซุย จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิวเขาเห็นว่าการแสดงออกของ เหยียน ซิว นั้นเคร่งขรึมมากขึ้น
"เจ้าสังเกตุเห็นเหมือนกันงั้นหรือ?" ฟาง เจิ้งจือ กระซิบ
"ใช่" เหยียน ซิว พยักหน้ารับ
"นี่เป็นสิ่งที่เจ้าบอกข้าเกี่ยวกับ ซิง ฉิงซุย ก่อนหน้านี้?"
"ใช่ ซิง ฉิงซุย จากกองตรวจการความมั่นคง!"
เจ้ามั่นใจระดับไหนถ้าต้องสู้กับเขา?"
"ไม่ ไม่มีใครที่กล้ามั่นใจเมื่อสู้กับคนของกองตรวจการความมั่นคง "
"ต้นกำเนิดของพวกเขาคืออะไร?" ฟาง เจิ้งจือ ถาม
"กองตรวจการความมั่นคงเป็นผู้นำของกองตรวจการทั้งหมดอย่างไรก็ตามมีประวัติของพวกเขาน้อยมาก ตอนที่ก่อตั้งอาณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่ กองตรวจการความมั่นคงเป็นเพียงแค่ตระกูลแร่ร่อนเท่านั้นอย่างไรก็ตามเมื่ออาณาจักรมีความมั่นคงมากขึ้น พวกเขากลายเป็น 1 ใน 13 กองตรวจการ และได้กลายเป็นผู้นำที่สุด"
"พอมีโอกาสบ้างไหม?" ความสนใจของ ฟาง เจิ้งจือ ถูกกระตุ้น
"ไม่ พวกเขาสามารถบรรลุทุกอย่างผ่านการสู้รบ พวกเขาไม่ได้มีพรสวรรค์อันโดดเด่น แต่พวกเขามีความกระหายในการสู้รบ พร้อมด้วยความบ้าคลั่ง แม้ในวันนี้ก็ตาม กองตรวจการความมั่นคงก็ยังคงใช้วิธีเดิมๆศิษย์ทุกคนจะถูกลากออกไปที่สนามรบตอนอายุุ 6 ขวบ พวกเขาค่อยแข็งแกร่งขึ้น สุดท้ายก็อาจจะจบอยู่ที่ทหารชั้นสูง"
"แค่นี้?" ฟาง เจิ้งจือ จ้องมอง เหยียน ซิว อย่างตั้งใจ
"อืม...ยิ่งการต่อสู้เข้มข้นมากเท่าไร ความเข้มแข็งของจิตวิญญานแห่งการต่อสู้ก็มากขึ้นเท่านั้น ซิง ฉิงซุย คงคิดจะใช้พลังของหอกฉีหลิน เพื่อเพิ่มพลังจิวิญญานแห่งการต่อสู้ของตัวเอง! "
เพจหลัก : Double gate TH