บทที่ 47 - ฉันยังต้องเลื่อนอาชีพไปขั้นสอง (10) [อ่านฟรีวันที่ 19/09/61]
บทที่ 47 - ฉันยังต้องเลื่อนอาชีพไปขั้นสอง (10)
โทรลล์ทั้งสามตัวที่ต้องทรมานกับเวทย์ลวงตาที่เอิลต้าได้ใช้มันด้วยพลังเล็กน้อยของเธอและกำลังเดินมาเหมือนกับคนที่กำลังหลับ
บาดแผลที่เขาได้มาจากการต่อสู้กับยมทูตมันร้ายแรงเกินไปจนแผลพวกนี้ไม่สามารถจะฟื้นฟูได้เต็มที่จากพลังของนายูนา แต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรสำหรับการฆ่าโทรลล์
คังฮาจินบอกว่า 30 วินาที
ยูอิลฮานก็บอกว่านั่นพอแค่นี้มันก็พอแล้ว
"ฮ่าห์"
เขาได้พุ่งไปพร้อมตะโกนสั้นๆ โทรลล์ไม่ได้สังเกตุเห็นตัวเขาเลย ยูอิลฮานได้ยกหอกของเขาขึ้นและขว้างหอกที่แม้ว่าจะเจอศึกหนักมาก็ยังไม่ได้เสียความคมไป
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 520,938]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 518,556]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 549,289]
การโจมตีนี้รวดเร็วเหมือนกับแสงไฟ มันเป็นการโจมตีที่ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ที่ใช้ไม่ได้แม้แต่มานา หอกนี่ได้ฆ่าโทรลล์ภายในครั้งเดียว
การโจมตีโดยไม่รู้ตัวที่สมบูรณ์แบบนี้มันก็มากพอที่จะทำให้โทรลล์ตัวอื่นๆไม่รู้ตัวอีกด้วย!
ใช่แล้ว ในตอนนี้เขาเพิ่งจะฆ่ามอนสเตอร์ในเวลาแค่ 3 วินาทีด้วยการโจมตีโดยที่ศัตรูไม่รู้ตัว
[ฆ่ามอนสเตอร์คลาส 2 ด้วยการโจมตีโดยไม่รู้ตัวในครั้งเดียว 100/100]
[ฆ่ามอนสเตอร์คลาส 3 ด้วยการโจมตีโดยไม่รู้ตัวในครั้งเดียว 1/1]
[คุณได้เติมเต็มเงื่อนไขในการเลื่อนอาชีพแล้ว คุณได้ก้าวหน้าสู่ยมทูตหน้าใหม่สำเร็จ!]
ตอนนี้แผนของเอิลต้าได้สมบูรณ์แบบแล้ว
[คุณได้กลายเป็นยมทูตฝึกหัด ผลของการปกปิดตัวตนเพิ่มขึ้น 10% โอกาสโจมตีติดคริติคอลและพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 30% เมื่อโจมตีทีเผลอ พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเผชิญหน้ากับ 'ชีวิต']
[เงื่อนไขการวิวัฒนาการปกปิดตัวตนได้ง่ายยิ่งขึ้น]
[คุณได้ดูดซับบันทึกที่สะสมเอาไว้ คุณได้กลายเป็นเลเวล 53 พละกำลัง +5 ความว่องไว +5 สุขภาพ +5 พลังเวทย์ +5]
[คุณได้เรียนรู้สกิลติดตัว นักสะสมความตาย คุณสามารถจะรวบรวมพลังแห่งชีวิตของพวกที่คุณฆ่าไปได้]
[คุณไม่สามารถจะใช้มานาได้ คุณไม่สามารถเรียนสกิลใช้งานได้]
[คุณสามารถได้รับคลาสย่อยได้]
[ยูอิลฮาน]
[มนุษย์ ยมทูตหน้าใหม่ เลเวล53]
[ฉายา - ผู้โดดเดี่ยวระดับจักรวลา หนึ่งครั้งกับนาย หนึ่งครั้งกับฉัน(โอกาสติดคริติคอลเพิ่มขึ้น 10%) ผู้สร้างตำนาน(สิ่งที่ผลิตเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 20%) ไม่มีครั้งที่สองและสาม แต่มีแค่ครั้งเดียว (เพิ่มค่าประสบการณ์และโอกาสได้รับหินพลังเวทย์ขึ้น 20%)]
[พละกำลัง - 152 ความว่องไว - 156 สุขภาพ - 147 พลังเวทย์ - 69]
[สกิลใช้งาน - ปกปิดตัวตนเลเวลสูงสุด , ความเชี่ยวชาญหอกเลเวลสูงสุด , ความเชี่ยวชาญอาวุธไม่มีคมเลเวลสูงสุด , การยิงเลเวลสูงสุด , ความเชี่ยวชาญดาบเลเวลสูงสุด , ตีเหล็กเลเวลสูงสุด , พลังฟื้นฟูเหนือธรรมชาติเลเวลสูงสุด , ทำอาหารเลเวล 11 , การโจมตีคริติคอลเลเวล 9 , ความต้านทานพิษระดับสูงเลเวล 4 , นักสะสมความตายเลเวล 1]
คลาส 1 มันเทียบไม่ได้เลยกับคลาส 2 นอกไปจากนี้ยมทูตหน้าใหญ่ที่ยูอิลฮานได้รับมาก็ยังเป็นคลาส 2 ที่น่าจะมีพลังที่มากที่สุดในคลาส 2 ทั้งหมดบนโลกอีกด้วย เป็นควาสที่ทรงพลัง มันจะไม่เกินเลยไปเลยหากจะบอกว่ามันได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแค่ตัวเขา มันเป็ฯพลังที่สามารถดูถูกมอนสเตอร์คลาส 3 เป็นมอนสเตอร์ตามปกติได้ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
ยังไงก็ตามสิ่งเหล่านี้มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับยูอิลฮาน แค่คลาสหนึ่งเขาก็ต้อนยมทูตจนมุมได้แล้ว การที่เขาได้พลังของคลาส 2 มามันก็ไม่ได้สำคัญอะไรไปมากกว่าพลังของเขาเลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่เขาเลเวลอัพขึ้นมา การเพิ่มเลเวลทำให้เกิดกระบวนการทำให้ตัวเขาพัฒนาขึ้นไป เพราะแบบนี้พลังชีวิตของเขาก็ได้ถูกฟื้นคืนโดยสมบูรณ์! สำหรับเขาแค่นี่ก็พอแล้ว
เพราะแบบนี่ยูอิลฮานจึงไม่ได้สนใจแม้แต่มาอ่านข้อความที่ปรากฏมาเลย เขาทำเพียงแค่วิ่งย้อนกลับไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่จัดการโทรลล์เสร็จและเลเวลอัพขึ้นมา
จากที่สัญญาไว้ 30 วินาทีตอนนี้เหลือแค่ 10 วินาทีแล้ว
"ก๊าซซซซซซซ!"
[เจ้ามันอ่อนแอ เจ้ามันอ่อนแอเกินไป!]
"ได้โปรดทำให้พี่ไม่ตายยยย!"
อัศวินศักดิ์สิทธิ์คังฮาจินได้ทนกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องจนไม่ไหวแล้ว เขาก็ยังมีความสามารถเป็นพิเศษอยู่ แต่ว่าการที่มันเป็นไปได้แบบนี้เพราะการฟื้นฟูพลังชีวิตของนายูนา
"ก็แค่ทนรอเจ้านั่น อึก!"
[ส่งชีวิตของเจ้ามาให้ข้า]
"อย่าตายยยย!"
การดิ้นรนของคังฮาจินและการโจมตีที่รุนแรงของยมทูตทำให้นายูนาต้องทำการร่ายเวทย์อย่างวุ่นวาย โชคร้ายที่ทูตสวรรค์ทั้งสองไม่สามารถจะช่วยการต่อสู้ด้วยได้ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงชนะได้แน่นอน
[ถ้าคังฮาจินตายก็ไม่เป็นไร แต่ว่าหากเป็นแบบนี้นายูนาได้ตายแน่!]
[เธอนี่มันเลือดเย็นหรือใจดีกันนะ]
[ถ้านายูนาตายงั้นฉันจะโกรธเธอแน่เอิลต้า!]
[รอดูไปซะ อย่ามาพูดอะไรที่มันไม่ดีสิ]
เอิลต้าที่ได้เจอกับความสงบสุขอย่างการที่ยูอิลฮานปลอดภัยและเฟย์ต้าที่แทบจะร้องออกมาเพราะคนที่เธอปกป้องอยู่กำลังดูเหมือนจะตาย
ในขณะที่ทูตสวรรค์ทั้งสองตนกำลังคิดต่างกันอยู่นี่ เกราะของคังฮาจินในท้ายที่สุดแล้วก็แตกออกมา
"อั๊ก!"
[ตายยยย!]
"กรี๊ดดด! ไม่นะ"
ในตอนนี้เองนายูนาที่กำลังร่ายเวทย์ให้คังฮาจินได้กางแขนของเธอออกไปยังยมทูตเป็นครั้งแรก
"ได้โปรดลงโทษคนไม่ดีคนนั้น!"
แสงสีชมพูสดใสได้กระจายออกมาจากมือของนายูนาและโดนเข้ากับยมทูต ยมทูตที่ถูกการโจมตีของเธอโดยตรงในขณะที่ไม่ได้เตรียมรับมือกับมันทำให้มันต้องลอยออกไปหลายสิบเมตรก่อนจะปะทะเข้ากับพื้น ภาพลักษณ์ของมันน่าสงสารมากกว่าในตอนที่ยูอิลฮษนสู้กับมันซะอีก
[ก๊าซซซซซซซซ!]
[ผู้หญิงคนนั้นมันอะไรกันนะ!?]
[เธอคือเด็กที่จะช่วยมนุษยชาติ]
การโจมตีของเธอจะต้องมีพลังมากกว่าที่เห็นแน่นอน พลังของนายูนาถึงกลับสามารถจะทำให้ยมทูตตกไปอยู่ในสภาพแบบนี้ได้
ในจุดนี้มันได้ทำให้พลังชีวิตของยมทูตที่ลดลงไปในตอนสู้กับยูอิลฮานแต่ว่าได้ฟื้นขึ้นมาระหว่างสู้กับคังฮาจินได้ลดลงไปอย่างมากและมึนงงไป
แต่ปัญหามีอยู่สองอย่างก็คือหนึ่งมันไม่ได้มึนนานนักและอีกอย่างก็คือพลังของนายูนาหมดลงไปแล้ว
"เราต้องทำยังไงดีพี่ วิ่งเร็ว!"
"ฉันยังมึนอยู่เลย"
คังฮาจินได้กัดฟันตอบกลับมา นี่มันเป็นเพราะแรงกระแทงที่เขาได้จากยมทูตมันมากเกินไป เขาทำได้แต่ขยับปากเท่านั้นเอง การที่เขาไม่ได้ติดคำสาปไปก็เป็นเพราะนายูนาแต่ว่าหากว่ายมทูตได้ฟื้นตัวกลับมาจากการมึนงงถ้างั้นมันก็คงไม่มีครั้งต่อไปแล้ว เขาจะต้องตายจริงๆ
เหี้ยเอ้ย! - ในตอนนี้คังฮาจินได้พึมพัมแบบนี้ออกมาได้มีใครบางคนมาจับมือของเขาเบาๆและกระซิบขึ้น
"ให้ฉันเข้าปาร์ตี้"
คังฮาจินได้หยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้เอง
[คุณได้รับสมาชิกปาร์ตี้คนใหม่]
[สมาชิกปาร์ตี้ : 3]
สัมผัสที่พิเศษของการเข้ามาตี้ได้เชื่อมต่อเข้ากับสมาชิกใหม่ ในที่สุดคังฮาจินก็รู่ถึงสถานการณ์และเปิดตาของเข้ากว้างขึ้น เขาไม่สามารถจะมองได้เลยถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มึนงงก็ตาม แต่ว่ามันก็ชัดเจนว่าใครเป็นคนเข้ามาในปาร์ตี้
"นายกลับมา..."
"ชู่วว"
คังฮาจินได้กระซิบเบาๆและพุ่งตัวออกไป ในที่สุดคังฮาจินก็ได้เห็นแผ่นหลังของเขาแล้ว เกราะสีดำที่เต็มไปด้วยรอยและแม้กระทั่งบางจุดก็ยังถูกทำลายไปและช่วงไหล่ก็ดูจะปลอดภัย
คังฮาจินได้กลายเป็นโล่งใจ จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์แปลกๆหลังจากที่เขาโล่งใจ เขาที่แก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเองมาจนถึงตอนนี้ไม่เคยได้มีประสบการณ์ที่โล่งใจจากการที่โยนงานให้กับคนอื่นเลย
ยังไงก็ตามไม่ว่าคังฮาจินจะเป็นยังไงยูอิลฮานก็ไม่ได้สนใจซักนิด เขาสนใจเพียงแต่วิ่งออกไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยพลังใหม่ที่ได้รับมานี้ทำให้เขาจับหอกแน่น
ยมทูตที่ตกอยู่ในสภาพมึนงงทำให้จุดอ่อนทั้งหมดของมันเผยออกมาและไม่ได้สังเกตุเห็นตัวของยูอิลฮานเลย
แน่นอนว่าต่อให้ยมทูตอยู่ในสภาพเต็มพร้อมยูอิลฮานก็ไม่ได้กลัวเลย เขาได้อ่านยมทูตออกหมดทุกด้านแล้ว ตัวเขาในตอนนี้ได้วิเคราะห์และอ่านสิ่งที่มันจะทำได้หมดแล้วมันจึงไม่มีทางใดที่เขาจะต้องไปกลัว
[ก๊าซซซ มนุษย์ บันทึกใหม่ บันทึก!]
ยมทูตที่หลุดจากการมึนงงได้พูดขึ้นอย่างไร้สาระและยืนขึ้นมา ยังไงก็ตามมันก็ยังไม่ได้สังเกตุเห็นยูอิลฮานเลย
นี่มันเป็นเรื่องปกติมาก ในตอนแรกที่มันเจอยูอิลฮานก็เพราะว่าเอิลต้าอยู่กับเขา มันไม่ได้มีพลังในการมองผ่านการปกปิดตัวตนของเขา
ยังไงก็ตามตัวยูอิลฮานในตอนนี้ได้วิ่งไปเพียงลำพังและเอิลต้าก็ได้เฝ้ามองดูเขาจากด้านหลัง และพลังการปกปิดของเขาก็ยังถูกเสริมพลังไปอีกด้วย
ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานพลังเหนือมนุษย์ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ แขนทั้งสองข้างของเขาได้เต็มพลังและเหวี่ยงหอกออกไปโดยไม่ลังเล หอกของเขาได้ปักเข้าไปในอกของยมทูตอย่างสวยงามซึ่งเป็นจุดที่เขาได้ทะลวงมาแล้วนับพันครั้ง
[ติดคริติคอล]
ในวินาทีนี้ยมทูตได้เงยหน้าของมันขึ้นมา ในตอนนี้ที่ดวงตาของมันได้มองเข้ามาที่ยูอิลฮาน เขาก็ได้ตระหนักได้ถึงความจริงที่เขาไม่เคยคิดมาก่กอน
มันไม่ใช่ 'มัน' อย่างที่ยูอิลฮานคิด ไม่ใช่มันที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาด เขาได้รู้สึกอายขึ้นมา ในตอนนี้ยมทูตก็เปิดปากขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง
[ขะ ขอบคุณ...]
เสียงนี้ไม่ใช่เสียงคำรามอีกแล้ว แต่มันเป็นเสียงที่ชัดเจนของหญิงสาวที่ดังออกมา แค่ฟังจากเสียงนี้โดยไม่ไปนึกถึงการต่อสู้มันก็เหมาะกับดอกไม้งามมาก
"ฮึบห์"
ยูอิลฮานได้ตอบรับด้วยการเอาชีวิตของยมทูตด้วยการสะบัดหอกอีกครั้ง การกระทำที่ไร้ปราณีนี้ได้ทำให้ยมทูตยิ้มขึ้นเล็กๆก่อนจะล้มลงไป
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 31,969,409]
[คุณได้กลายเป็นเลเวล 55 พละกำลัง +4 , ความคล่องแคล่ว +2, สุขภาพ +2, พลังเวทย์ +2]
[คุณได้รับบันทึกของเรต้า คาร์อิฮ่าห์ เลเวล 157]
[นักสะสมความตายได้ทำงาน คุณได้ดูดซับและเก็บพลังชีวิตของเรต้า คาอิฮ่าห์เอาไว้]
นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ค่าประสบการณ์ถึงแปดหลัก ยูอิลฮานได้หันไปมองอย่างตกใจ แต่ว่ามันดูเหมือนว่าคังฮาจินกับนายูนาจะคิดว่าการเพิ่มเลเวลนี้ถูกต้องทำให้พวกเขาเริ่มมีชีวิตชีวา
"ฟู่ เจ้านั่นมันแข็งแกร่งจริงๆ ฉันไม่เคยคิดว่าจะเจอกับศัตรูแบบนี้เลยต่อให้เป็นในระหว่างที่ฉันอยู่ในหอคอยนรกถึง 10 ปีก็ตาม"
"มันเหนื่อยมาก"
จากนั้นเมื่อยินยันถึงความปลอดภัยแล้วในที่สุดทั้งสองคนก็ได้พูดกันออกมาอย่างโล่งอก ยูอิลฮานก็ยังโล่งใจหลังจขากยืนยันแล้วว่าไม่มีศัตรูอยู่ใกล้ๆ
และเขาก็ได้หยิบเอามีดกระดูกออกมาเพื่อที่จะทำการชำแหละเรต้า คาร์อิฮ่าห์
[หยุดตรงนั้นเลย]
"อา ทำไมล่ะ?"
[เธอเป็นผู้หญิง]
"นี่เป็นมอนสเตอร์"
[เธอเป็นผู้หญิง]
"ฉันบอกว่าเป็นมอนสเตอร์ไง"
ยูอิลฮานไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินเลยซักนิด เขาจะไปสนใจกับมอนสเตอร์ทำไมล่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผิวหนาๆหรือไม่ก็กระดูกแข็งๆ หรือไม่ก็หินพลังเวทย์ - ก็แค่สามอย่างนี้เอง!
ยังไงก็ตามในเวลาต่อมาในตอนที่เขากำลังจะทำหน้าที่ของเขาร่างของเรต้า คาร์อิฮ่าห์ก็ได้ล้มลงไปกับพื้นอยู่ก็ดูจะเปล่งแสงจางๆออกมาก่อนที่มันจะกลายเป็นเถ้าสีดำ ยูอิลฮานได้คิดขึ้นอย่างเสียดายเมื่อเห็นแบบนี้ แต่กับเอิลต้า เฟร์ต้า คังฮาจินและนายูนาต่างก็ตัวแข็งทื่อไปหลังจากได้เห็นฉากๆเดียวกันนี้
"หือ?"
"ฉันคิดว่ามันไม่มีทาง แต่ว่า...."
มีเรื่องบางอย่างอยู่
ยูอิลฮานได้สังหรณ์ใจขึ้นมาทันทีและเขาก็ยังตัวแข็งทื่อตามไปด้วยเพื่อที่จะไม่ให้น้อยหน้าคนอื่น การกระทำนี้ราวกับการใช้สกิลก็อปปี้
[ไม่มีทางน่า มันเป็นพวกเบรกเกอร์จริงๆ]
ในขณะที่ยูอิลฮานต้องทนกับคำที่เขาไม่เข้าใจนี้ เอิลต้าก็ได้ลอยเข้ามาบนหัวยูอิลฮานและอธิบายเบาๆ
[คนที่ยึดมานาจากมอนสเตอร์ด้วยการกินหินพลังเวทย์ลงไปจะถูกเรียกว่าเบรกเกอร์ คนพวกนี้จะกลายเป็นเถ้าสีดำในตอนนี้ที่ตายอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ]
"อ่อ"
ในที่สุดยูอิลฮานก็รู้แล้ว ถ้างั้นเรต้า คาร์อิฮ่าห์ก็ไม่ใช่มอนสเตอร์แต่เป็นผู้หญิงจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นเผ่าพันธ์ทรงสติปัญญาประเภทไหนก็ตามที
ยังไงก็ตามมันมีสองอย่างที่เป็นเรื่องดี หนึ่งก็คือมีหินพลังเวทย์สีดำเหลืออยู่ สองก็คือมีผ้าคลุมสีดำและเคียวสีดำเหลืออยู่
แน่นอนว่าทูตสวรรค์ต่างก็ยินดีในเรื่องอื่น
[อ่า ทางเข้าดันเจี้ยนเปิดขึ้นมาแล้ว] (เฟย์ต้า)
[พวกเรากลับมาใช้พลังได้แล้ว ดังนั้นเธอคนจะต้องมีความลับอะไรแน่ๆ ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดายที่เราหาความจริงจากเธอไม่ได้ก็ตาม] (เอิลต้า)
เอิลต้าได้มองมาที่ยูอิลฮานเงียบๆทำให้ยูอิลฮานบ่นออกมา
"เธอมองฉันทำไมนะ? ฉันทำอะไรผิดไปล่ะ?"
[ฉันมองคุณเพราะว่าคุณหล่อมาก ทำไมต้องขมขื่นด้วยล่ะ?]
การสวนกลับคำพูดของเอิลต้าได้มากขึ้นในยทุกๆวัน ยูอิลฮษนได้แต่เดาะลิ้นยอมรับมัน
มันไม่มีปริศนาใดเหลือเอาไว้เลย กลับกันเลยมันมีแต่สิ่งที่น่าสงสัยมากขึ้นไป ดันเจี้ยนลึกลับที่ซึ่งถูกจำกัดพลังของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง เบรกเกอร์คลาส 3 ที่ซึ่งไม่มีทางจะมาอยู่บนโลกได้และโลกที่ถูกทอดทิ้ง
เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโลกกันแน่
มีเพียงเรื่องเดียวที่เขามันใจก็คือเขาได้เอาชนะมันมาได้และรอดอยู่