ตอนที่ 53 กายาต้นไม้มรณะ
จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ ตอนที่ 53 กายาต้นไม้มรณะ
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน
หลิงฮันลืมตาขึ้นมาและยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาชักดาบออกมาและฟันไปที่มือซ้าย
ถ้าใครมาเห็นเข้าคงนึกว่าเขาคิดจะทำให้ตัวเองพิการแน่นอน แต่หลังจากนั้น พวกมันจะต้องตกตะลึงจนดวงตาถลนออกมา มือที่โดนดาบฟันใส่ ไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย สิ่งที่ปรากฏขึ้นมีเพียงรอยขีดข่วนสีขาวเท่านั้น
‘พลังป้องกันของข้าเพิ่มขึ้นมามากมายจริงๆ’ หลิงฮันพยักหน้า ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใส่ปราณก่อเกิดเข้าไปที่การโจมตีเมื่อครู่ เขาก็ไม่ได้ใช้ปราณก่อเกิดในการป้องกันเช่นกัน เขาใช้เพียงพลังป้องกันทางกายภาพล้วนๆ
เขาเพิ่มพลังการฟันให้แรงขึ้น และโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ไปพร้อมๆกัน
ดาบฟันลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้ได้เกิดรอยแผลขึ้นที่มือของเขา แต่สิ่งที่น่าตกใจคือรอยแผลนั่นไม่มีเลือดไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว
‘ฮ่าๆ นี่คือขั้นต้นไม้มรณะ หนึ่งในส่วนแรกของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์! พลังกายภาพของร่างกายจะเป็นดั่งต้นไม้มรณะ ถึงแม้จะโดนฟันด้วยดาบ ร่างกายก็จะไม่มีเลือดไหล พลังชีวิตเองก็จะไม่ได้รับความเสียหายเช่นกัน!’ หลิงฮันยิ้มกว้างขึ้นไปอีก รอยแผลที่เขาเป็นคนทำถูกรักษาด้วยความเร็วสูงและหายไปอย่างรวดเร็ว ‘นี่ยังเป็นเพียงแค่กายาต้นไม้มรณะเท่านั้น!’
หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสลดใจนิดหน่อย ถ้าหากเขาสามารถไปถึงขั้นหินผาและสร้างกายาหินผาขึ้นมาได้ เมื่อตอนนั้น ผิวหนังของเขาจะกลายเป็นดั่งหินผา พลังการป้องกันของเขาจะก้าวไปสู่ระดับใหม่ ต่อให้เป็นโจมตีที่รุนแรงก็จะไม่ทำให้เขาบาดเจ็บแม้แต่น้อย ขั้นเหล็กไหลยิ่งน่าทึ่งกว่านั้น พลังกายภาพของเขาจะกลายเป็นไร้ผู้ใดเปรียบ
แต่เมื่อเขาบรรลุขั้นเพชร ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ต่อให้แขนขาที่ขาดไปก็สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ และพลังชีวิตของเขาจะทรงพลังเหนือขีดจำกัดเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
‘จากที่คัมภีร์บอกไว้ เมื่อข้าบรรลุขั้นต้นไม้มรณะแล้ว ข้าสามารถที่จะควบแน่นหยดวารีอมตะขึ้นมาได้ ไม่ว่าข้าจะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน ตราบใดที่มีหยดวารีอมตะ บาดแผลของข้าจะฟื้นฟูทันที’
หลิงฮันยังไม่เริ่มควบแน่นหยดวารีอมตะ เพราะมันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานเกินไป และไม่มีทางที่จะทำสำเร็จได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
‘ฮ่าๆ ข้าสร้างกายาต้นไม้มรณะได้แล้ว จุดอ่อนข้อเดียวของข้าในที่สุดก็ถูกกำจัดออกไปเสียที!’
ในโลกนี้ มีบางเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมาตั้งแต่เกิด ตัวอย่างเช่น เผ่าสี่วายุที่โดดเด่นเรื่องความเร็ว แม้จะอยู่ในระดับรวมธาตุก็สามารถสู้กับระดับก่อเกิดธาตุได้อย่างพอฟัดพอเหวี่ยง อีกเผ่าหนึ่งคือ เผ่าดาบเปลี่ยนกายาที่สามารถเปลี่ยนแขนทั้งสองข้างให้กลายเป็นใบมีดที่แหลมคมได้ ยิ่งระดับบ่มเพาะสูงเท่าไหร่ ใบมีดก็ยิ่งแหลมคมและแข็งแกร่งเท่านั้น
และที่แข็งแกร่งกวานั้นคือ เผ่าอสนีบาตบ้าคลั่ง คนของเผ่าจะมีสายฟ้าอยู่รอบร่างกายเมื่อเกิดมา พลังโจมตีของพวกมันรุนแรงและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เผ่าพันธุ์เหล่านี้มีร่างกายที่พิเศษ
ไม่ว่าจะชีวิตที่แล้วหรือชีวิตนี้ หลิงฮันก็ไม่มีร่างกายแบบนั้น แต่การฝึกฝนคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์จะช่วยให้เขาได้รับร่างกายพิเศษแบบนั้นมา ถือว่าเป็นการทำลายกฎแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง!
‘กายาต้นไม้มรณะสามารถเทียบได้กับร่างกายพิเศษระดับต่ำเท่านั้น แต่ถ้าข้าสามารถสร้างกายาเพชรขึ้นมาได้ เผ่าไหนกันจะมาเทียบกับข้าได้?
ในชีวิตนี้ ข้าถูกตัดสินแล้วว่าจะต้องเป็นอมตะ ข้าจะเดินไปยังเส้นทางที่ไม่มีใครเคยก้าวไปมาก่อน นั่นคือการทลายมิติและกลายเป็นพระเจ้า!’
หลิงฮันหยุดคิดฟุ้งซ่านและมองไปยังลิ่วตงกับคนอื่นๆ พลังงานจากไขกระดูกของงูยักษ์จะสลายไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่สามารถซึมซับพลังได้ภายในหนึ่งวันหนึ่งคืน พลังงานของมันจะเหลือเพียงหนึ่งในสิบ และเมื่อเป็นแบบนั้นพวกมันก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์มากมายสักเท่าไหร่
หลังจากนั้นไม่นาน ลิ่วตงกับคนอื่นๆทำการซึมซับเสร็จสิ้นและเริ่มลุกขึ้นทีละคน
พวกมันไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะซึมพลังงานงานทั้งหมดของไขกระดูก ถึงอย่างนั้นพวกมันก็มีท่าทีพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“พี่ชายหลิง เหลือเวลาอีกประมาณสิบวันก่อนจะปีใหม่ พวกเราต้องกลับกันแล้ว”
“หลังปีใหม่ พวกเราจะได้พบกันอีกครั้งที่เมืองต้าหยวน”
“ลาก่อน!”
ทั้งห้าคนกล่าวลาหลิงฮันกับหลิวอู๋ตง ถึงแม้เชินเพิงจวีจะดูลังเลเหมือนมีอะไรอยากจะพูด แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา หลีเฮาและกลุ่มของมันค่อยๆเดินไกลออกไปเรื่อยๆ
หลิงฮันมองไปยังหลิวอู๋ตงและพูด “เจ้าได้รับผลประโยชน์อะไรมาบ้าง?”
“มากมายทีเดียว!” หลิวอู๋คงพยักหน้า ใบหน้าอันงดงามของนางแสดงความสุขออกมาอย่างปิดไม่มิด “พลังป้องกันทางกายภาพของข้าเลื่อนไปยังระดับใหม่ กระดูกและกล้ามเนื้อของข้าก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเช่นกัน ถ้าข้าต้องสู้กับเชิงเหวิงควิน ข้ารับรองได้เลยว่าข้าสามารถสังหารมันได้ภายในสิบประบวนท่า!”
สัตว์อสูรที่มีสายเลือดราชาเป็นสิ่งที่หายากมาก แต่ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากมันก็มหาศาลเช่นกัน นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อหลิงฮันบรรลุถึงรวมธาตุขั้นหนึ่งระดับสูงสุดแล้ว เขาถึงได้มาที่นี่ในทันที ถ้าเขาได้รับผลประโยชน์เหล่านี้มา พลังของเข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และโอกาสที่จะชนะเลิศการประลองต้าหยวนก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ต่อให้เป็นตระกูลหลิวที่เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ที่ทรงพลังของแคว้นพิรุณ ก็อาจจะไม่สามารถหาสัตว์อสูรที่มีสายเลือดราชามาได้ การจะได้มาขึ้นอยู่กับดวงและโชคชะตาเท่านั้น
หลิงฮันกลืนเม็ดยาทะลวงกำเนิดเม็ดที่สองเข้าไปและเริ่มบ่มเพาะต่อ เขาได้มอบเม็ดยาให้หลีเฮาไปสองเม็ดเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ใช้กระบี่รุ่นเยาว์คนนี้ แต่ในอนาคตหลีเฮาจะก้าวหน้าไปได้ขนาดไหนนั้น... ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพและความพยายามของตัวมันเอง
หลังจากที่เขาดูดซับเม็ดยาทะลวงกำเนิดเสร็จ พลังของเขาได้เพิ่มไปยังรวมธาตุขั้นสามระดับสูงสุด ต่อจากนี้ไปเม็ดยานี้จะไม่ได้ผลและไม่สามารถช่วยให้พลังบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว
หลิงฮันยังมีเม็ดยาทะลวงกำเนิดเหลืออยู่อีกหกเม็ด เมื่อกลับตระกูล เขาจะนำพวกมันไปให้หลิงตงซิงเพื่อให้หลิงตงซิงมอบให้เหล่าคนที่โดดเด่นในตระกูล
“กลับบ้านกันเถอะ!” หลิงฮันพูดกับหลิวอู๋ตง
“อืม!” หลิวอู๋ตงตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันงดงาม นางไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่านิสัยอันเย็นชาของนางกำลังค่อยๆละลายไปเมื่ออยู่ต้องหน้าหลิงฮัน
ทั้งสองคนออกจากหุบเขาเจ็ดวายุและกลับไปยังโรงแรมที่ฝากม้าเอาไว้ หลังจากจ่ายค่าบริการให้โรงแรม พวกเขาก็ขี่ม้ากลับเมืองหมอกเมฆาทันที
ทั้งสองคนขี่ม้าในตอนกลางวันและพักผ่อนตอนกลางคืน หลิงฮันใช้เวลาในช่วงนี้เพื่อการควบแน่นหยดวารีอมตะ ผ่านไปสองวัน เขาสามารถสร้างหยดวารีที่มีขนาดประมาณเม็ดข้าวขึ้นมาได้ โดยปกติแล้วหยดวารีควรจะมีขนาดเท่าเม็ดถั่วถึงจะแสดงผลลัพธ์ออกมาได้เต็มที่ ถึงแม้หยดวารีของหลิงฮันจะยังอ่อนแออยู่มาก แต่ก็นับว่ามีประโยชน์อยู่
‘ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้เวลาประมาณสิบวันในการควบแน่นหยดวารีหนึ่งหยด การประลองต้าหยวนจะจัดขึ้นในต้นปีหน้า ยังมีเวลาเหลืออยู่ สิ่งนี้จะหลายเป็นไพ่ลับของข้า’
เจ็ดวันต่อมา ทั้งสองคนกลับไปถึงเมืองหมอกเมฆา และหลิงฮันได้ทะลวงผ่านระดับรวมธาตุขั้นสี่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเขานี่ไม่นับว่าเป็นเรื่องยากแม้แต่น้อย
อีกสามวันจะเป็นวันสุดท้ายของปี หลายๆบ้านในเมืองต่างก็ใช้โคมไฟประดับตกแต่งเพื่อเตรียมตัวฉลองปีใหม่
บรรยายกาศในตระกูลหลิงเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง เนื่องจากหลิงจงควั่นได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ตระกูลหลิงอยู่ภายใต้การควบคุมของหลิงตงซิงเพียงคนเดียว ทำให้ทุกคนล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
“นายน้อยฮัน!”
“นายน้อยฮัน!”
เมื่อหลิงฮันเดินผ่าน คนรับใช้ทุกคนต่างทักทายเขาด้วยความเคารพ ชายหนุ่มที่กำลังจะอายุสิบเจ็ดปีคนนี้ ในอนาคตจะกลายเป็นเสาหลักของตระกูลหลิง ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกเขาอีกแล้ว
“ฮันเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว” หลิงตงซิงเผยสีหน้าโล่งใจออกมา และเปลี่ยนเป็นตกตะลึงอย่างรวดเร็ว “พลังบ่มเพาะของเจ้าเพิ่งขึ้นอีกแล้ว!”
“รวมธาตุขั้นสี่!” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
หลิงตงซิงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มันยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ
มันรู้ตัวแล้วว่าบุตรของมันมีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาด ในอนาคตมันมีหน้าที่เพียงแค่คอยมองดูหลิงฮันทะยานก้าวหน้าด้วยความพึงพอใจ
ในฐานะบิดาแล้ว ไม่ใช่ว่านี่คือสิ่งที่มันควรภูมิใจที่สุดรึไง?
สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้คือการฉลองปีใหม่
แต่หลิงฮันก็ไม่คิดจะทำตัวผ่อนคลายและทำการบ่มเพาะอย่างหนักทุกวัน เขาหลอม’เม็ดยารวมวิญญาณ’ขึ้น โดยเม็ดยานี้จะทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็พอจะช่วยเขาได้บ้าง
หลิวอู๋ตงเองก็แสดงพรสวรรค์ทางด้านทักษะดาบที่ยอดเยี่ยมออกมา ภายในระยะเวลาสิบวันนิดๆ นางสามารถสร้างปราณดาบอีกเล่มขึ้นมาได้
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*