ตอนที่ 340 สืบสวน

เจ้าหน้าที่ลุกขึ้นยืนและหลีกเลี่ยงหลิน ฮวงกับคนอื่น จากนั้นเขาก็ติดต่อกับหอยทากสื่อสารขณะที่เขาเดิน ทั้งสามไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังเขาและคุยกันต่อ

หลังจากนั้นสักพัก เจ้าหน้าที่ก็เก็บหอยทากไปและกลับมา อย่างไรก็ตาม เขาดูไม่ดีนัก

“เราต้องกลับไปจุดยืนยันภารกิจ”เขากล่าวขณะที่เขาใกล้ทั้งสามคน

“มันเกี่ยวกับฝูงมอนสเตอร์เมื่อกี้นี้?”หลิน ฮวงสามารถคาดเดาได้คร่าวๆ

เจ้าหน้าที่พยักหน้า“จางปิงบอกว่ามีการระบาดของมอนสเตอร์ เหตุผลยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วม เราต้องพาทุกคนกลับไป”

“ฉันเพิ่งจะเลื่อนระดับ ฉันอยากจะฆ่ามอนสเตอร์เพื่อฝึก...”หลี่ หลางฝืนยิ้ม

“ไปกันเถอะ!”หลิน ฮวงตบไหล่หลี่ หลางและอัญเชิญประตูมิติออกมา

ทั้งสี่ก้าวเข้าไปในประตูมิติและในไม่ช้า พวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในจุดยืนยันภารกิจ

เมื่อพวกเขากลับมา ผู้เข้าร่วมหลายคนก็มาถึงอยู่ก่อนแล้ว หน้านิ่งและเจ้าหน้าที่คนอื่นมีประตูมิติที่รัฐบาลกลางมอบให้ แม้หลิน ฮวงจะรู้เรื่องนี้ เขาก็ไม่ต้องการสร้างปัญหาให้หน้านิ่งและอัญเชิญประตูมิติทันที

ขณะที่เขาจ้องมองฝูงชน หลิน ฮวงก็เหลือบเห็นจาง ปิง ลั่ว หลี่และซือ คงเจี้ยนเองก็อยู่ตรงนั้นเช่นกัน จาง ปิงดูมีสีหน้ามืดมน นอกเหนือจากนั้น ลั่ว หลี่และซือ คงเจี้ยนยังดูปกติดี

ผู้เข้าร่วมกำลังถกเถียงกันถึงเหตุการณ์ของฝูงมอนสเตอร์ เกิดเป็นเสียงดังอบอวลไปทั่ว

ชายคนหนึ่งเห็นหลี่ หลางจะระยะไกลและเดินมาทางเขา

“หลี่ หลาง นายเลื่อนระดับแล้ว?!”เขามีอายุ20ปีและสูงกว่าหลี่ หลางเล็กน้อย

“ครับ พี่ชายโจว”หลี่ หลางยิ้ม

“ฉันบอกนายแล้วว่าการฆ่าคนเถื่อนหนามไม่ยาก หากนายยินดีจะเสียสละเวลานายบ้าง บางทีนายคงสามารถฆ่ามันได้ด้วยตัวนายเอง”พี่ชายโจวตบไหล่หลี่ หลาง

“เพื่อนผมช่วยผมฆ่ามัน”หลี่ หลางไม่ได้อธิบายว่าแท้จริงแล้วเขาสกัดประกายไฟจากมอนสเตอร์ตัวไหนมา

จากนั้นพี่ชายโจวก็เหลือบมองหยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลาง เมื่อเขามองหยี่ เยว่หยู่ ดวงตาเขาก็จับจ้องอยู่แต่เรียวขายาวของหยี่ เยว่หยู่และภูเขาไฟสองลูก แม้เธอจะสวมชุดทหาร เธอก็ยังไม่อาจปกปิดเรือนร่างที่งดงามได้ ในไม่ช้า พี่ชายโจวก็จ้องมองหลิน ฮวง

“หลิน ฮวงผู้นี้คือคนที่ช่วยนาย?”พี่ชายโจวสามารถเห็นว่าท่ามกลางทั้งสามคน มีเพียงหลิน ฮวงที่อยู่ในระดับทอง เขาจำได้ว่าหลิน ฮวงคือลูกศิษย์ของคุณฟู่ เขาคือคนแรกที่หยี่ ตงไล่แนะนำให้เข้ามาในมิติบรรพกาล“ฉันชื่อโจว ฉวน ยินดีที่ได้รู้จัก”

“สวัสดีครับ”หลิน ฮวงตอบรับอย่างสุภาพ เนื่องจากโจว ฉวนรู้ชื่อเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องบอกชื่อกลับ

“เธอคือ...”จากนั้นโจว ฉวนก็หันไปมองหยี่ เยว่หยู่

“เธอคือหยี่ เยว่หยู่ ลูกสาวคนโตของตระกูลหยี่”หลี่ หลางแนะนำด้วยรอยยิ้ม

“เธอมาจากตระกูลหยี่?ผู้นำของกองกำลัง?!”โจว ฉวนเปิดตากว้าง ท่ามกลางตระกูลราชวงศ์ในเขต7 นอกจากการทหารแล้ว ไม่มีตระกูลหยี่อื่นอีก หลี่ หลางจงใจเน้นย้ำที่ตระกูลหยี่ แน่นอน เขาต้องหมายถึงตระกูลหยี่แห่งกองกำลัง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้จักพวกเขา

หลังจากที่เขายืนยันตัวตนเธอแล้ว โจว ฉวนก็แสดงความเคารพต่อเธอ ตระกูลหยี่ถือเป็นตระกูลที่ทรงพลังในเขต7และเทียบได้6ตระกูลราชวงศ์ พวกเขายังอยู่ที่ด้านบนปิรามิดของตระกูลราชวงศ์ในเขต7 เหลือบไรเช่นเขาไม่อาจยั่วยุพวกเขาได้

“พี่ชายโจว คุณรู้อะไรเกี่ยวกับการระเบิดของมอนสเตอร์ไหม?”หลี่ หลางถามทันทีหลังจากแนะนำโจว ฉวนให้ทั้งคู่รู้จัก

“ฉันไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทว่า กลุ่มของเราได้พบกับการโจมตีของฝูงมอนสเตอร์หลายครั้งก่อนหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้เรากลับมาที่นี่และรวมกับพวกนายทุกคน”โจว ฉวนอธิบายสั้นๆ สิ่งที่พวกเขาประสบแทบจะเหมือนกับหลิน ฮวงและคนอื่น

“งั้น พวกคุณก็ถูกโจมตีเช่นกัน”จากนั้น หลี่ หลางก็หันมามองหลิน ฮวงและหยี่ เยว่หยู่

“ฉันได้ถามอีกสองกลุ่มและสิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นกัน เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับมอนสเตอร์”ขณะที่เขาฟังสิ่งที่หลี่ หลางกล่าว โจว ฉวนก็รู้ว่าหลี่ หลางและเพื่อนเขาต้องพบเจอมาเช่นกัน“ฉันหวังว่าผู้คุมจะสามารถหาสาเหตุได้ในเร็วๆนี้ ไม่อย่างนั้น เราคงไม่สามารถฝึกต่อไปได้”

ดวงตาของหลิน ฮวงหม่นแสงลงเมื่อได้ยินสิ่งที่โจว ฉวนกล่าว หากผู้คุมหยุดการฝึกและส่งพวกเขาออกไป การปลดผนึกของไทแรนด์คงถูกหยุดเช่นกัน

มิติบรรพกาลเป็นโลกอิสระ หากไทแรนด์ถูกทิ้งไว้ในมิติและหลิน ฮวงออกไปจากมิติ เขาคงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของการ์ด ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ระบบจะเรียกการ์ดมอนสเตอร์กลับโดยอัตโนมัติ แน่นอน หลิน ฮวงไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

“เสี่ยว เฮย การ์ดมอนสเตอร์จะได้รับผลกระทบไหมหากกระบวนการปลดผนึกถูกยกเลิก?”หลิน ฮวงถามเสี่ยว เฮย

“หากกระบวนการปลดผนึกถูกยกเลิก มันจะถือว่าล้มเหลว การ์ดมอนสเตอร์ที่ล้มเหลวในการปลดผนึกจะถูกผนึกไว้ในสภาพก่อนปลดผนึก มันจะไม่สามารถปลดผนึกเป็นครั้งที่สองได้และมันจะไม่สามารถเลื่อนระดับได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม มันยังคงอัญเชิญมาได้ตามปกติ”

“งั้นก็หมายความว่า หากการปลดผนึกถูกยกเลิก ไทแรนด์จะอยู่ในระดับทองสมบูรณ์ไปตลอดกาลและมันจะไม่สามารถเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์ได้ มันจะไม่สามารถกลายพันธ์ครั้งที่สามได้เช่นกัน ระดับพลังและความหายากจะคงเดิมไปตลอด...”

ใบหน้าของหลิน ฮวงกลายเป็นปั้นยาก ไทแรนด์คือการ์ดมอนสเตอร์ใบที่สองของเขา พวกเขาได้ร่วมผ่านความอันตรายด้วยกันมามากมาย เขาไม่อาจยอมรับได้หากเขาต้องทิ้งการ์ดใบนี้ไป“ไม่!ไม่ว่าผู้คุมจะตัดสินใจยังไง ฉันก็ต้องอยู่ต่อ!”

ประมาณสิบนาทีต่อมา เหล่าพี่เลี้ยงก็ได้นำผู้เข้าร่วมกลับมา

จาง ปิงนับจำนวนคน ทันทีที่เขายืนยันว่าไม่มีใครหายไป เขาก็เริ่มพูด

“ฉันเดาว่าทุกคนคงได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของเราแล้วว่าทำไมเราจึงเรียกพวกเธอทุกคนกลับมา มีการระเบิดของมอนสเตอร์ทั่วทั้งมิติและเหตุผลยังไม่เป็นที่แน่ชัด ผู้เข้าร่วมหลายกลุ่มได้เผชิญกับการโจมตีของมอนสเตอร์ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เราจึงขอให้พวกเธอทุกคนกลับมา เหล่าผู้คุมและเจ้าหน้าที่เราจะทำการสืบสวนหาสาเหตุให้เร็วที่สุด จากนั้นเราจะตัดสินว่าการฝึกควรดำเนินต่อหรือหยุด โปรดอดทนรอ ตั้งเต็นท์ของพวกเธอและอยู่ที่นี่สักสองวัน เราจะรู้ผลในเร็วๆนี้...”

“มันก็แค่ฝูงมอนสเตอร์ มันจำเป็นต้องหยุดการฝึกจริงๆ?”หลี่ หลางรู้สึกว่าจาง ปิงและสองผู้คุมตื่นตระหนกเกินเหตุ

“เราได้เจอกับฝูงมอนสเตอร์ระดับทองก่อนหน้า จะเกิดอะไรขึ้นหากฝูงมอนสเตอร์ไม่ใช่แค่ระดับทองและมีระดับเพลิงสวรรค์ร่วมด้วย?”หยี่ เยว่หยู่ถามหลี่ หลาง “นี่คือมิติ2ดาว มีมอนสเตอร์ระดับเพลิงสวรรค์กว่าหมื่นตัว แม้ว่าพวกเราจะอยู่ในระดับเพลิงสวรรค์ แต่หากมอนสเตอร์ระดับเพลิงแดง เพลิงฟ้า และเพลิงม่วงออกมาละ?”

เสียงของหยี่ เยว่หยู่ยิ่งทำให้หลิน ฮวงเป็นกังวล หากมอนสเตอร์ระดับเพลิงสวรรค์ระบาดออกมาด้วย มันคงเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะหยุดการฝึก

หลังจากที่พูดปลอบฝูงชน สามผู้คุมก็ยืนคุยกัน ในไม่ช้า ลั่วหลี่ และซือ คงเจี้ยนก็อัญเชิญประตูมิติของพวกเขาและจากไป มีเพียงจาง ปิงที่ยังคงจับตาดูทุกคน.....