ตอนที่ 339 ถูกโจมตี
เนื่องจากหลิน ฮวงและหลี่ หลางได้ร่วมกินอาหารด้วย เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาไม่อาจขัดใจหยี่ เยว่หยู่ได้
หลังจากมื้อกลางวัน ทั้งสามก็เริ่มคุยกัน เจ้าหน้าที่ไม่ได้ร่วมสนทนาด้วย เขาเพียงนั่งข้างๆและงีบหลับ
เป้าหมายสูงของหลี่ หลางและหยี่ เยว่หยู่คือการได้รับประกายไฟและเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์ ตอนนี้ทั้งคู่ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว หลังจากที่การปลดผนึกไทแรนด์เสร็จสิ้น หลิน ฮวงก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายเขาได้เช่นกัน ส่วนที่เหลือคือของแถมสำหรับเขา เนื่องจากทั้งสามคนผ่านการฝึกรอบสองแล้ว พวกเขาจึงผ่อนคลาย
เจ้าหน้าที่ไม่ได้กระตุ้นให้ทั้งสามออกล่ามอนสเตอร์อื่นอีกเพราะเขาได้ยินจากหยี่ เยว่หยู่ว่าพวกเขาทำภารกิจเสร็จแล้ว
“หลิน ฮวง เราทั้งคู่ต่างก็บรรลุเป้าหมายของเราแล้ว จุดประสงค์ของการเข้าร่วมนายคืออะไร?เราอยากให้พวกเราช่วยไหม?”หยี่ เยว่หยู่ถาม
“เอาจริงๆแล้ว ฉันก็บรรลุในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ฉันสนใจในรางวัลซึ่งก็คือไข่มอนสเตอร์”หลิน ฮวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คนที่ได้อันดับแรกจะได้รับไข่มอนสเตอร์?”หลี่ หลางขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดอย่างรอบคอบ มันก็เป็นไปได้สำหรับหลิน ฮวงที่จะได้อันดับ1
“นายจะว่าไงหากเราทั้งคู่ส่งศพที่เราฆ่าให้นาย?จากนั้นนายก็สามารถแลกเป็นแต้มได้”หยี่ เยว่หยู่แนะนำ
“ไม่ใช่ว่านั่นถือเป็นการโกง?”หลิน ฮวงถามอย่างอยากรู้
“ไม่”เจ้าหน้าที่ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรับฟังการสนทนาของพวกเขาด้วยดวงตาปิดสนิท
“พวกเธอสามคนผ่านการฝึกรอบสองแล้วและการฝึกรอบสามก็ยังไม่เริ่มขึ้น ดังนั้น พวกเธอจึงอยู่ในระหว่างการฝึกรอบสองและสาม ในระหว่างนี้ มันถือเป็นเวลาพักสำหรับการฝึก พวกเธอมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้และมีอิสระที่จะแจกจ่ายมอนสเตอร์ที่ถูกฆ่าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกฏของรอบสามหรือรอบสาม พวกมันไม่อาจใช้ได้ในช่วงพัก”เจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียด ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็หลับตาอีกครั้งและงีบหลับไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากฟังสิ่งที่เขากล่าว พวกเขาก็สรุปได้ว่า—ศพของมอนสเตอร์สามารถจัดการยังไงก็ได้ตามใจพวกเขา
“เอาละ ฉันจะเลี้ยงมื้อหรูพวกนายหากฉันได้ที่1”หลิน ฮวงสัญญาด้วยท่าทางซึ้งใจ
“ฉันได้ยินจากท่านปูว่าไข่มอนสเตอร์ฟองนั้นถูกทิ้งไว้โดยมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าเมื่อลูกศิษย์เขาได้ฆ่ามัน มันคือมอนสเตอร์ที่ผ่านการกลายพันธ์สามครั้ง จากนั้นลูกศิษย์เขาก็มอบมันให้เขาเป็นของขวัญ ฉันไม่แน่ใจว่ามันคือมอนสเตอร์ประเภทใด แต่หากนายสามารถฝึกมันได้ มันก็น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต”หยี่ เยว่หยู่กล่าว
“มันคือมอนสเตอร์ที่ผ่านการกลายพันธ์สามครั้งและมีเลือดฟีนิกส์ในร่าง ทำไมปู่ของเธอถึงไม่เก็บมันไว้ให้เธอ?”หลิน ฮวงถามอย่างอยากรู้
“แต่เดิมมันมีไว้สำหรับฉันแต่เราก็พบในทีหลังว่าร่างกายฉันค่อนข้างพิเศษ ท่านปู่บอกว่าความเข้มข้นของเลือดฟีนิกส์ในร่างฉันค่อนข้างต่ำและตอนนี้ทั้งตระกูลก็กำลังช่วยฉันตามหาฟีนิกส์แท้จริงอยู่”หยี่ เยว่หยู่ไม่ได้ปิดบังความจริงจากพวกเขา
“ผู้นำกองกำลังช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ!”หลี่ หลางอิจฉาหยี่ เยว่หยู่
แม้กระทั่งหางตาของเจ้าหน้าที่ก็ยังกระตุกเมื่อเขาได้ยิน
หากมีคนที่ไม่รู้เบื้องหลังของหยี่ เยว่หยู่และได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกัน บางทีมันคงไม่มีใครเชื่อว่านั่นคือความจริง
หลิน ฮวงยิ้ม เขาไม่ได้อิจฉาตระกูลหยี่ เยว่หยู่เลยเนื่องจากไม่มีอะไรให้ต้องอิจฉา เขาค่อนข้างพอใจกับสภาพในปัจจุบัน เขามีนิ้วทองคำที่ทรงพลังอย่างเสี่ยว เฮย ตราบเท่าที่นิ้วทองคำเขายังคงพัฒนาต่อไป เขาก็จะสามารถฝึกฝูงฟีนิกส์เลือดบริสุทธิ์รวมถึงมังกรและมอนสเตอร์เลือดฟีนิกส์ได้
“ฉันไม่ใช่ผู้ควบคุม ฉันสามารถเลี้ยงมอนสเตอร์ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ดังนั้น ฉันจึงเลือกมันอย่างระมัดระวัง”หยี่ เยว่หยู่กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นและมองหลี่ หลาง“นายเองก็เลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์แล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาเลือกมอนสเตอร์แล้วเช่นกัน”
“ฉันควรจะเลี้ยงสักตัว ฉันจะถามคนอื่นดูและดูว่ามีมอนสเตอร์ตัวใดที่เหมาะกับฉันหลังจากเราออกไป”หลี่ หลางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ไม่มีข้อจำกัดในระดับพลังเพื่อทำสัญญากับมอนสเตอร์สัตว์เลี้ยง แต่พลังชีวิตของผู้คนจะต้องทำเช่นนั้นได้ มันเป็นเพราะผู้คนจำต้องใส่พลังชีวิตจำนวนมากเพื่อฟักไข่มอนสเตอร์ ดังนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับคนธรรมดาที่จะฟังไข่ อย่างไรก็ตาม ทุกคนจากระดับเหล็กถึงทองสามารถกระทำมันได้
หยี่ เยว่หยู่และหลี่ หลางพิจารณาที่จะเลี้ยงมอนสเตอร์หลังจากที่พวกเขาเลื่อนระดับเพลิงสวรรค์เพราะพวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกก่อนที่จะบรรลุระดับเพลิงสวรรค์ ทั้งคู่ไม่มีเวลาและพลังงานพอที่จะดูแลมอนสเตอร์ เมื่อบรรลุระดับเพลิงสวรรค์ การเพิ่มในระดับพลังจึงชะลอตัวลง จากนั้นทั้งคู๋จึงมีเวลาและพลังงานมากพอที่จะเลี้ยงดูมอนสเตอร์ ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ที่มั่นใจว่าจะเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์ได้ล้วนตัดสินใจเช่นนี้ เหล่าคนที่มีมอนสเตอร์กอนจะบรรลุเป็นระดับเพลิงสวรรค์คือเหล่าคนที่ไม่มีความสามารถในการเป็นผู้หลุดพ้น
ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ระหว่างมอนสเตอร์สัตว์เลี้ยงและมอนสเตอร์อัญเชิญก็คือการเติบโต อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์สัตว์เลี้ยงจะต้องได้รับการฝึกตั้งแต่เด็ก ดังนั้น การฝึกมอนสเตอร์จึงยากลำบากกว่ามอนสเตอร์อัญเชิญมาก นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนอิจฉาผู้ควบคุม
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข เจ้าหน้าที่ ที่กำลังงีบหลับก็ดีดตัวขึ้น
“เตรียมตัว!มีมอนสเตอร์กำลังมุ่งหน้ามาทางเรา!”เจ้าหน้าที่ตะโกนใส่ทั้งสามคน
พวกเขายืนขึ้นทันทีและหยิบเอาอาวุธออกมา
“นั่นคือมอนสเตอร์อะไร?”หยี่ เยว่หยู่ถาม
“มันคือฝูงมอนสเตอร์ระดับทอง มีพวกมันกว่า300ตัว”เจ้าหน้าที่ตอบ
“พวกมันกำลังมาหาเรา?หรือพวกมันเพียงแค่กำลังผ่านไป?”หลิน ฮวงถาม
“พวกมันดูตื่นเต้นและดูไม่เหมือนว่าจะผ่านไปเฉยๆ”
“หรือว่าพวกมันจะได้กลิ่นหอมของเนื้อย่าง?”หลี่ หลางเริ่มมองถ่านไฟที่ยังไม่ดับ
“นั่นเป็นไปได้”หลิน ฮวงพยักหน้า แต่ทว่า เขาก็ยังรุ้สึกแปลกๆ
ในไม่ช้า ทั้งสี่ก็ถูกโอบล้อมโดยฝูงมอนสเตอร์ ในที่สุดหลิน ฮวงก็สามารถเห็นศัตรูของพวกเขาได้ พวกมันคืออสรพิษวิญญาณทมิฬ
อสรพิษวิญญาณทมิฬจะอาศัยอยู่ในภูเขาไฟวิญญาณ พวกมันดูราวกับงู แต่ในความเป็นจริง อสรพิษวิญญาณดำก็คือวัตถุวิญญาณดำที่ก่อร่างขึ้น มันคือมอนสเตอร์ประเภทวิญญาณที่ดำรงอยู่ในเงา พวกมันชอบอาศัยอยู่ในที่ที่มีพลังวิญญาณสูงเพราะพวกมันต้องพึ่งพาพลังวิญญาณของธาตุต่างๆเพื่อมีชีวิต
เมื่อเห็นมอนสเตอร์ประเภทนี้ หลิน ฮวงและคนอื่นๆก็สะบัดไล่ความเป็นไปได้ที่พวกมันจะวิ่งตามกลิ่นเนื้อย่างมาทันที มอนสเตอร์พวกนี้ไม่อาจลิ้มรสและกลิ่นได้เลย พลังวิญญาณคืออาหารเพียงอย่างเดียวของพวกมัน พวกมันไม่สนใจในอาหารมนุษย์เลยแม้แต่น้อย
แม้อสรพิษวิญญาณดำจำนวนมากจะไล่ล่าพวกเขา พวกมันก็ยังอ่อนแอเกินไปสำหรับทั้งสาม ในเวลาไม่ถึงสองนาที อสรพิษวิญญาณดำกว่า300ตัวก็ถูกทำลายจนราบคาบ
เพียงเมื่อหลิน ฮวงและหลี่ หลางกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บศพ เจ้าหน้าที่ก็ตะโกนหาทั้งสามคนอีกครั้ง“ฝูงมอนสเตอร์กำลังโจมตีเราอีกครั้ง!”
ฝูงมอนสเตอร์ชุดต่อไปคือแมงป่องเพลิง พวกมันคือมอนสเตอร์ระดับทองเช่นกัน มันมีจำนวนมากกว่าฝูงก่อนหน้า—มากยิ่งกว่า1000ตัว
และมอนสเตอร์เหล่านี้ก็ถูกฆ่าล้างอย่างรวดเร็ว
และมอนสเตอร์เหล่านี้ก็ถูกฆ่าล้างอย่างรวดเร็ว
“ท่าไม่ดีแล้ว...”หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ฝูงสองไป หลิน ฮวงก็ขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นเอง หอยทากสื่อสารของเจ้าหน้าที่ก็สั่น.....