Golden Time - ตอนที่ 9 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 9
ห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยความวุ่นวาย พยาบาลและหมอบางคนกำลังวุ่นอยู่กับการตรวจสอบอาการของผู้ป่วยทำให้ทั้งห้องดูปั่นป่วนไปซะหมด
“พวกเขาไปไหน?”
เมื่อซูฮยอคมองไปรอบ ๆห้อง เขาก็หาเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินที่ขึ้นรถมาด้วยกันเมื่อครู่ไม่พบ อาจจะเป็นไปได้ว่าเหยื่ออาจถูกส่งตัวไปที่ห้องผ่าตัดแล้วก็ได้
‘แล้วพวกเขาจะไปไหน? หรือออกไปตั้งนานแล้ว? แล้วเราล่ะ ค่ารถไปโรงเรียนก็ไม่มี?’
หรือนี่อาจจะเป็นการบังคับให้ซูฮยอคเดินกลับไปเพื่อช่วยเหลือเหยื่ออุบัติเหตุ ถ้าเดินไปโรงเรียนก็ประมาณ 2 ชั่วโมง เขาต้องไปเรียนสายอย่างแน่นอน
ซูฮยอคถอนหายใจ เริ่มเดินตามหาเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินแต่ไม่พบพวกเขา มีก็เพียงแต่ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่กำลังโอดโอยถึงความเจ็บปวดทั้งในและนอกห้องฉุกเฉิน
ที่นี่มีผู้ป่วยจำนวนมากเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะเลือกห่วงใครก่อนดีเลย
‘นี่ฉันต้องเดินกลับจริงๆหรอเนี่ย?’
เขาสามารถติดต่อแม่ที่ยังอยู่ที่บ้านได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำมันดีกว่าเพราะอาจทำให้แม่ต้องกังวลกับเขามากเกินไป
‘เดินไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกัน ถ้าต้องไปสายจริง ๆค่อยโทรหาแม่’ ซูฮยอคมุ่งหน้าไปที่ประตูห้องฉุกเฉินอีกครั้ง
ในขณะนั้นเองซูฮยอคก็ได้ยินเสียงนึงที่ทำให้เขาหยุดเดิน
“หมอ!”
เสียงนั้นดังมาจากด้านหลังม่าน มันเป็นเสียงที่ฟังดูแล้วก็พอเดาได้ว่าเป็นเสียงของคนแก่คนหนึ่ง เขามองไปที่ม่านสักครู่ จากนั้นก็เริ่มเดินต่อ
‘ฉันเกรงว่ามันจะสายเกินไปจริงๆ’
“หมอ...”
เสียงนั่นทำให้ซูฮยอคหยุดอีกครั้ง เสียงที่สั่นเครือของเธอสื่อว่าเธอกำลังรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ‘ทำไม?’ เขามีคำถามเกี่ยวกับเธอ ขณะที่ผู้ป่วยรายอื่นได้รับการดูแลจากทั้งแพทย์และพยาบาล แต่เธอกลับไม่มีใครสนใจเลย
ซูฮยอคค่อยๆแง้มม่านออก ผู้ป่วยหญิงอายุราว 50 ปลาย ๆ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยชั่วคราว เธอเห็นซูฮยอค แล้วเธอก็เริ่มเปิดปากพูดขึ้น
“หมอคะ ฉันคิดว่าอาการฉันมันหนักมาก”
นัยตาของเธอสะท้อนใบหน้าซูฮยอคและยังคงเรียกเขาว่าหมอซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
“ผมไม่ใช่หมอครับ”
“ได้โปรด เอาลูกอมให้ฉันที! ฉันจะดีขึ้นถ้าได้กินมัน ตอนนี้ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน” เสียงของเธอคล้ายกับเสียงของเด็ก
‘ความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง (ภาวะสมองเสื่อม)? ถ้านายลองจำกัดสาเหตุของโรคนี้อยู่ที่ประมาณ 70 โรคล่ะ’
ซูฮยอคกวาดสายตาทั่วร่างของเธออย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอก ใช่เธอไม่มี นี่เธอแกล้งป่วยรึเปล่าเนี่ย?
“คุณรอสักพักนะครับเดี๋ยวหมอคงเข้ามา”
มือของเธอคว้าแขนของซูฮยอคไว้ ขณะที่เขากำลังจะหันตัวเดินออกไปจากห้อง
“คุณคะได้โปรด ฉันป่วย ขอลูกอมให้ฉันเถอะ ลูกอม!”
ซูฮยอคพยายามที่จะปล่อยมือเธออย่างนุ่มนวล แต่ไม่สามารถทำได้เพราะเธอจับแขนแน่นมาก
ซูฮยอคสัมผัสมือของเธอเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนนี้ต้องทนทุกข์ทรมานตอนที่เธอให้กำเนิดลูกน้อย จากนั้นเขาก็เข้าไปใกล้ ๆเธอ แม้ว่าเธอจะนอนบนเตียงด้วยการที่ป่วยจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่เธอก็ยังคงอดทนอยู่ในห้องฉุกเฉิน ทั้งที่บนตัวเธอไม่มีแม้แต่อุปกรณ์การแพทย์อะไรเลยที่พอจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอ
“อาการของคุณหนักมากหรอครับ?”
“ใช่”
“คุณเจ็บตรงไหนมากที่สุด?”
“ปวดหัว เจ็บที่ท้องแล้วก็ขาด้วย” เธอพูด
“คุณอย่ากังวลไป ไม่นานเดี๋ยวมันจะดีขึ้น”
ซูฮยอคยิ้มราวกับกำลังปลอบเด็กและจับมือเธอไว้อย่างนุ่มนวลด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วก็เขาสามารถรู้สึกได้ถึง…
“มันร้อนมาก” เขาพูด
อุณหภูมิร่างกายของเธอเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถรู้สึกได้ทันที นอกจากนี้เขายังเห็นเหงื่อที่ไหลมาตามผมลอนของเธอ ทั้ง ๆที่อุณหภูมิในห้องฉุกเฉินก็เหมาะสมดีไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป
“คุณรู้สึกร้อนไหม?”
เธอส่ายหัวไปมา
“คุณคะ ฉันป่วย ให้ลูกอมกับฉันเถอะ ลูกอม ลูกอมมันเป็นยาสำหรับฉัน!”
ซูฮยอคจับข้อมือของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อวัดชีพจรของเธอ เพราะไม่มีอุปกรณ์วัดชีพจรเขาจึงต้องตรวจมันด้วยตัวเอง ไม่กี่นาทีผ่านไปนัยตาของเขาเบิกกว้าง ‘ชีพจรของเธอสูงมาก...’
อ๊าาาาา! ทันใดนั้นตัวเธอก็ซีดอย่างเห็นได้ชัด
“คุณไหวรึเปล่า?”
“รีบเอาลูกอมให้ฉันเร็ว! ลูกอม!”
เขายกผ้าม่านขึ้นมองไปที่หมอและพยาบาล
“คนไข้คนนี้อาการแย่แล้วครับ!”
พวกเขาไม่ได้ยินที่ซูฮยอคตะโกนหรอ? พวกเขายุ่งอยู่กับการดูแลผู้ป่วยรายอื่นอยู่ พยาบาลบางคนก็มองไปที่ซูฮยอคแล้วหัวเราะใส่เขา
“ผู้หญิงคนนั้นแกล้งป่วย เธอ แกล้ง ป่วย” พยาบาลคนหนึ่งทวนคำ
“คุณ จาง มัลซุก ขืนคุณยังโอดโอยทั้ง ๆที่ไม่ได้เป็นอะไรอยู่อย่างนี้ล่ะก็ ผมจะฉีดยาคุณ”
นี่ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งที่เจ้าหน้าที่ในห้องนี้ต้องเจอกับพฤติกรรมเดิม ๆของผู้หญิงคนนี้
‘เธอเคยมาอยู่ที่ห้องนี้หลายครั้งรึยังนะ? และเป็นปกติวิสัยทั้ง ๆที่ไม่มีอาการปวดใด ๆเนี่ยนะ?’ ก็พอเป็นไปได้ถ้าเธอสมองเสื่อม
ในสายตาซูฮยอคคิดว่าครั้งนี้เธอเจ็บปวดจริง ๆ เมื่อเธอเงียบลงพยาบาลที่ต่างสนใจเหตุการณ์ทีแรกนั้นก็กลับไปทำงานต่อ ซูฮยอคค่อย ๆ ประคองให้เธอนอนลง ตัวซีดเซียว อุณหภูมิร่างกายสูง ชีพจรเต้นเร็วอาการเหล่านี้กำลังบอกใบ้ถึงโรคอะไร?
ซูฮยอคประสานมือของเธอไว้ที่หน้าท้อง พูดกับเธออย่างนุ่มนวลแล้วค่อย ๆ เอามือกดลงบนช่องท้องของเธอ
“คุณทานอะไรมาก่อนรึเปล่าครับ?”
“ลูกอม!.
ครั้งนี้เธอไม่ได้ร้องด้วยอาการเจ็บปวดออกมา ซูฮยอคกดย้ำ ๆ บนร่างกายของเธอเพื่อตรวจสอบการตอบสนอง แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆจากเธอ อย่างไรก็ตามเธอก็แสดงภาวะตื่นกลัวออกมาแล้วก็ขมวดคิ้ว
“คุณไปทานลูกอมแสนอร่อยมาที่ไหนมาครับ?”
“ที่ข้างถนน”
ที่ไหนนะ? มือของซูฮอยคเลื่อนลงไปที่ช่องท้องใต้สะดือไปทางด้านขวาของเธอ เขาค่อย ๆกดมือลง
“โอ้ยยย!”
มีเสียงกรีดร้องออกมาจากปากเธอ ในขณะนั้นหน้าซูฮยอคก็ชาขึ้นมา ‘อาการนี้มัน...’ คำบ่นพึมพำออกมาจากปากเขา
“ไส้ติ่งอักเสบชนิดเฉียบพลัน”