Golden Time - ตอนที่ 5 [อ่านฟรี]
บทที่ 5
ซูฮยอครีบเดินเข้าไปหาแม่
‘เกิดอะไรขึ้นกับขาของแม่?’
เธอเดินกระเผลกเข้าไปในห้องนั่งเล่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวเพื่อบอกกับลูกชายว่าไม่ต้องกังวล
‘ลูกอาจจะประหลาดใจสักนิด แต่แม่แค่ข้อเท้าแพลง ใช้เวลาซักวันหนึ่งก็คงหายเป็นปกติ’
ดูเหมือนซูฮยอคจะไม่สนใจคำพูดของแม่เลย เขาคุกเข่าลง ค่อยๆประคองเท้าของแม่มาไว้บนต้นขาของเขาและถอดถุงเท้าออกให้แม่อย่างช้าๆ
'เห้อออ... '
เสียงถอนหายใจสั้น ๆ มาจาก ซูฮยอค เมื่อกี้แม่บอกว่าเธอไม่ได้เป็นไรรึเปล่า? เท้าของเธอบวมและมีรอยช้ำ ทุกครั้งที่เธอขยับตัวเธอจะรู้สึกเจ็บปวดจากอาการข้อเท้าแพลง
‘เดี๋ยวเอาน้ำแข็งประคบข้อเท้าแม่ก็คงหายไวขึ้น ลูกกินอะไรมารึยัง? ห้ามขาดแม้แต่มื้อเดียวนะ เดี๋ยวแม่ไปเตรียมให้’
‘ผมกินเรียบร้อยแล้วครับ’
ซูฮยอคช่วยพยุงแม่ลุกขึ้น
‘แม่เคยข้อเท้าแพลงมาก่อนรึเปล่าครับ?’
ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้าของเธอ ตามองไปที่ซูฮยอค เธอรู้สึกได้ทันทีถึงหัวใจที่อบอุ่นของลูกชาย
‘ไม่เคย แม่ซุ่มซ่ามเอง คราวหลังจะระวังให้มากกว่านี้นะ’
ซูฮยอครู้สึกโล่งใจ หลังจากตรวจดูโชคดีที่อาการข้อเท้าแพลงของแม่ไม่ได้รุนแรงเสียจนทำให้เกิดอาการเรื้อรัง นั่นหมายความว่าอาการจะไม่แย่ลงไปกว่านี้ ซูฮยอคตรวจสอบข้อเท้าของแม่อย่างใกล้ชิด ข้อเท้าของเธอมีรอยช้ำเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการของผิวหนังอักเสบรอบๆ แล้ว? นี่เป็นอาการข้อเท้าแพลงระดับแรกรึเปล่านะ?
อาการข้อเท้าแพลงแบ่งออกเป็น 3 ระดับ : เนื้อเยื่อเอ็นฉีกขาดเป็นอาการที่ระดับ 2; ส่วนระดับที่ 3 นั้น เอ็นที่พยุงกระดูกน่องและข้อต่อของข้อเท้าฉีกขาด นี่คือระดับที่รุนแรงที่สุดและเนื่องจากขาดสื่อกลางที่สามารถยึดข้อต่อได้ จะทำให้แพลงระหว่างกระดูกของข้อต่อ เมื่อเอ็นทั้งหมดฉีกขาดทำให้เกิดเลือดออกในร่างกายและสามารถมองเห็นอาการได้ด้วยตาเปล่าคือเท้าบวมและมีอาการฟกช้ำราวกับเลือดซึมเข้าสู่ผิวหนัง ในทางตรงกันข้ามความเจ็บปวดจะน้อยลงเนื่องจากกล้ามเนื้อแข็งตัวเพราะประคบน้ำแข็ง แต่กรณีนี้แม่ของเขาโชคดีที่อาการไม่ได้รุนแรงถึงขั้นนั้น
เขาไม่เห็นการบ่งบอกถึงอาการระดับที่ 2 และ 3 ที่ข้อเท้าของแม่ เห็นก็เพียงแค่เนื้อเยื่อรอบๆเอ็นอักเสบก็เท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ คือ อาการข้อเท้าแพลงของแม่อยู่ในระดับแรก ยังคงอาจเกิดความผิดปกติกับการแพลงของแม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจมั่นใจเต็มร้อยได้
“แม่ครับ ที่บ้านเรามีผ้าพันแผลไหม?”
“แม่คิดว่าไม่มีนะ แม่ไม่เป็นอะไรมากจริง ๆ”
ทั้งหมดในบ้านที่เขาหาเจอก็มีแค่ ยา กับ ยาหม่อง จากนั้นเขาก็ฉีกเสื้อยืดออกโดยไม่ลังเลพันเสื้อเข้ากับข้อเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นเอ็นรับภาระหนักจนเกินไปอาจเกิดการอักเสบได้ และยึดเอ็นที่ข้อต่อไว้ไม่ให้เกิดอาการระดับที่ 2
“ซูฮยอค, แม่ไม่เป็น...”
เขาทำเป็นหูทวนลม ไม่ได้สนคำพูดของแม่แม้แต่คำเดียวเพราะเขากำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ 'เจ้าเด็กเกเรคนนี้มีความหมายกับแม่มากแค่ไหนกันนะ? แม่ต้องทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อเขา... '
‘แม่เดินกลับบ้านหรอ?’ ซูฮยอคถาม
แม่เดินกลับบ้านทั้งๆที่ข้อเท้าแพลงรึเปล่านะ? ถ้าขับรถก็ประมาน 15 นาทีได้ละมั้ง? เขาเสียใจราวกับว่าเขามีก้อนหินติดอยู่ภายในใจ
‘แม่ไม่เป็นอะไรจริงๆ แค่ซุ่มซ่ามนิดหน่อยแผลก็เล็กนิดเดียวเอง’ แม่พูด
คิม มยองฮี ค่อย ๆ ยิ้มพร้อมกับลูบหัวลูกชายอย่างช้า ๆ
ซูฮยอคยืนขึ้น.
‘ไปโรงพยาบาลกันเถอะครับ’
เขารู้สึกว่าอาการข้อเท้าแพลงของแม่ต้องตรวจดูด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ แม้ว่าอาการจะอยู่แค่ระดับแรก แต่การแพลงหากไม่ได้รับการรักษาอาจกลายเป็นภาวะเรื้อรังได้โดยจะเกิดอาการเป็นระยะ ๆ
‘มาเถอะครับ’ ซูฮยอคทวนคำและแม่ก็พยักหน้า
แต่ก่อนลูกชายของเธอเคยหงุดหงิดง่ายมากหากเขารู้สึกอึดอัดใจ ถ้าเขาเป็นเช่นนั้นเราคงไม่ได้คุยกันเป็นสัปดาห์ ครั้งนี้เธอจำเป็นต้องยอมลูกชายเพื่อที่จะไม่ดึงซูฮยอคคนเดิมกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าเธอไม่เห็นด้วยกับลูกชายก็ตาม ลูกชายดูแลเธออย่างดี แล้วพวกเขาก็พากันไปที่โรงพยาบาล
………………………………..………..………..………..………..………..………..……….
ตอนที่ซูฮยอคมาถึงโรงพยาบาลเขาก็ไปพบแพทย์ทันที
‘แม่ของผมข้อเท้าแพลง ผมคิดว่าอาการของเธออยู่ในระดับแรกแต่ผมไม่มั่นใจเท่าไร ผมอยากให้ X-ray เพื่อยืนยันให้แน่ชัดถึงอาการ’
หมอยกมือข้างหนึ่งแล้วเกาหัว ‘ไอเด็กคนนี้เป็นใครกันเขาทั้งวินิจฉัยโรคและเช็คอาการของแม่เขาเองได้? ทั้ง ๆที่เขายังเป็นเด็กอยู่เนี่ยนะ’
จริง ๆแล้วแพทย์เองก็คิดว่าจะทำการ X-ray ถ้าแพทย์ตรวจไม่พบเลือดออกในข้อเท้าที่แพลงและเห็นเพียงแค่เธอกำลังเดินกะโผลกกะเผลก
เมื่อภาพ X-ray ของ คิม มยองฮี ปรากฏในชาร์ต ซูฮยอคก็รีบเข้ามาดูโดยไว ไม่มีช่องว่างระหว่างกระดูกของข้อต่อ ส่วนตรงอื่นก็ดูปกติดี แม่โชคดีที่มันเป็นแค่อาการแพลงระดับแรกตามที่คาดไว้
หมอพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ‘ก็...อย่างที่นายเห็น…’
หมอพูดอย่างนี้แล้วก็หัวเราะแหยง ๆ เพราะเด็กชายตัวน้อยที่วินิจฉัยอาการของแม่เขาได้อย่างแม่นยำคนนี้
‘โชคดีที่อาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงมาก ดูเหมือนจะเป็นแค่รอยฟกช้ำจาง ๆด้วยซ้ำไป แต่คุณต้องใส่เฝือกหลังจากนั้นพักผ่อนไม่กี่วันก็คงหายดี’ หมอพูด
สำหรับอาการข้อเท้าแพลงสามารถพันข้อเท้าด้วยผ้าพันแผลได้ แต่ถ้าจะให้หายเร็วขึ้นต้องหลีกเลี่ยงการขยับข้อเท้าหรือทำกิจกรรมที่อาจเกิดการบาดเจ็บกับข้อเท้าให้น้อยลง คิม มยองฮี จ้องมองที่ลูกชายด้วยความรู้สึกว่างเปล่าและก็ยิ้มขึ้น ‘ลูกชายของคุณมีความฝันที่อยากจะเป็นหมอรึเปล่าครับ?’
‘หมอคิดว่าลูกชายของฉันพูดมันฟังดูมีเหตุผลไหมคะ?’ คิมถาม
‘ลูกชายของคุณเป็นเด็กที่ฉลาด’ หมอตอบ
‘เขาก็เรียนดีนะคะ’ ใบหน้าของเธอดูมีสีมากขึ้น
………………………………..………..………..………..………..………..………..……….
ไม่กี่วันผ่านไปอย่างรวดเร็วและในที่สุดวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มาถึง ชเว อินเบ, คิม อินซู, คิม ดงฮยอค เป็นวันที่พวกเขาต้องมานั่งเรียนด้วยกัน
ซูฮยอคได้รับทราบถึงจุดหมายปลายทางแล้ว นี่เป็นบ้านของ คิม อินซู มันเหมือนเดิมตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งซูฮยอคเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขากำลังทำอะไร? เขาไม่ได้หลีกเลี่ยงเรื่องนี้เลย
หลังจากที่เขาหยิบหนังสือเรียนและสมุดการบ้านอย่างต่อเนื่อง ซูฮยอคก็ไปบ้านของอินซู เขาใช้เวลาไปที่นั่น 40 นาทีได้ มันเป็นอพาร์ทเมนต์แบบดูเพล็กส์ขนาดใหญ่ที่ ดูมีราคาเพียงแค่ชำเลืองมองเท่านั้น จริงๆแล้วที่นี่มันมีชื่อเสียงอยู่บ้างว่าเป็นสถานที่ที่มีราคาแพง หลังจากรู้เบอร์ห้องและชั้นห้องของอินซูแล้ว ซูฮยอคก็ไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปที่นั่น
ดิง ดอง.
เมื่อเขากดกระดิ่งหน้าจอสื่อสารก็เด้งขึ้นมาและก็ดับลง มีแค่คนที่อยู่ข้างในที่จะยืนยันว่าเป็นซูฮยอค ผู้ชายที่เปิดประตูพร้อมยิ้มเล็ก ๆ หน้าตาดีเหมือนนักแสดงเรื่อง Attack on the Pin-Up Boys เขาคือ คิม อินซู
‘เข้ามาก่อนพวก นายมาที่นี่เป็นครั้งแรกใช่ไหม?’
สำหรับซูฮยอคมันก็เหมือนกับครั้งแรกเสมอในทุกๆที่ที่เขาไปเพราะเขาสูญเสียความทรงจำ