ตอนที่ 191 ดูเหมือนจะแตกหัก (FREE)
...
ในส่วนโรงเรียนหลวง ฟาง เจิ้งจือ หายไปจากจอภาพ สิ่งที่เห็นมีเพียงเหล่าผู้เข้าร่วมมากมายกำลังต่อสู้กัน
ราชาต้วน และ ฮัน ฉางเฟิง กำลังจ้องไปที่ ซิง ฉิงซุย
ตอนนั้นเอง ซิง ฉิงซุย พึ่งจะเอาชนะศัตรูของเขาแล้วเข้าสู่รอบที่ 3
"ไม่เลวเลย!" ราชาต้วนกล่าวชม
"อืม ซิง ฉิงซุย ได้รับความกล้าหาญมาจากสงครามที่เข้าร่วมกับ ซิง เฮา หลังจากติดตามเขาไปยังสนามรบตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าศัตรูจะอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย ผู้ที่มีความทะเยอทะยานเช่นนี้หาได้ยากนัก" ฮัน ฉางเฟิง พยักหน้า
ความสามารถของ ซิง ฉิงซุย ทำให้เขาประหลาดใจ
"การทดสอบระดับจักรพรรดิในครั้งนี้ช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง เจ้าหน้าที่ฮัน ท่านคิดว่าใครจะได้รับชัยชนะ ซิง ฉิงซุย หรือว่า หนานกง มู่ กัน? " ราชาต้วนหันไปมองที่ หนานกง มู่ ที่พึ่งเข้าไปสู่รอบที่ 3 เช่นกัน
"ราชาต้วนเอ๋ย มันช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่งนักอภัยให้กับคำพูดของข้าด้วย แต่ศัตรูของ หนานกง มู่ นั้นอ่อนแอจนเกินไป...ยิ่งไปกว่านั้นเขาตั้งใจที่จะปิดบังพลังที่แท้จริงของเขาเอาไว้ " ฮัน ฉางเฟิง ส่ายหัว
"ฮึ่ม หนานกง มู่ ... " ราชาต้วนยังคงคิดต่อไป
องค์ชาย 9 ดูเหมือนจะคิดอยู่เช่นกัน
ฮัน ฉางเฟิง ไม่ได้พูดกับราชาต้วนต่อ และหันไปเห็นว่าองค์ชาย 9 เองก็กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน
"ฮ่า ฮ่า องค์ชาย 9 ท่านคิดอะไรอยู่รึ?"ฮัน ฉางเฟิง ถามอย่างสุภาพ
"อืม ข้ากำลังสงสัยว่า ฟาง เจิ้งจือ สามารถข้ามสะพานแตกหักไปได้หรือไม่" องค์ชาย 9 ตอบกลับขณะที่กำลังคิด
"องค์ชาย 9 ท่านคิดมากไปแล้ว โลกแห่งเซียนถูกสร้างขึ้นโดยเทพเซียนสงครามมันคืออุปสรรค ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้เข้าร่วมในระดับสะท้อนสวรรค์จะผ่านมันไปได้ " ดวงตาของ ฮัน ฉางเฟิง จ้องเขม็งทันที ในขณะที่ได้ยินคำถาม อย่างไรก็ตามเขายังคงอธิบายอย่างอดทน
"แล้วมันไม่มีวิธีที่จะข้ามผ่านไปได้เลยงั้นรึ?"องค์ชาย 9 ถามต่อด้วยความสงสัย
"มีสี แต่เจ้าต้องหาตำแหน่งที่ถูกต้อง บรรดาเหล่าผู้คนมากมายมีหลายคนที่เลือกข้ามสะพานแตกหักแต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลว ยังไงก็ตาม เท่าที่รู้ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครที่ข้ามสะพานแตกหักไปได้เลยแม้ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ก็ตาม " ฮัน ฉางเฟิง ยิ้มและพยักหน้า
"งั้นรึ ถ้างั้น ... ข้าขอเดาว่าเขาคงไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้ " องค์ชาย 9 กล่าวอย่างผิดหวัง
"ไม่ต้องคาดเดาหรอก มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว!" ราชาต้วนพูดขึ้นแล้วถอนหายใจเบาๆ
"น้อง9 ข้าไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินเจ้าหรอกนะ แต่เจ้าเองก็เป็นเชื้อสายราชวงศ์เช่นกัน บางครั้งจ้าต้องระวังให้มากเสียหน่อย แม้ว่าเจ้าจะเป็นแค่ที่ปรึกษา แต่ก็ควรศึกษาเกี่ยวกับโลกแห่เงซงเซียนมาหน่อยมิใช่รึ? ยังดีหน่อยที่ไม่มีใครมาได้ยินในสิ่งที่เจ้าถาม ผู้ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์จะสามารถก้าวผ่านสะพานแตกหักไปได้ยังไงกัน?มันเป็นความคิดของเด็กอวดดีเท่านั้น "
"ท่านช่างฉลาดยิ่งนัก" องค์ชาย 9 พยักหน้าในขณะที่ฟังราชาต้วนพูด แต่ในสายตาก็ยังคงครุ่นคิด
อย่างไรก็ตาม ที่จอมีแต่ภาพของโลกแห่งเซียนในรอบที่ 2 เขาจึงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในส่วนของรอบแรกอีกบ้าง
...
ภายในโลกแห่งเซียน
น้ำเสียงของ ปิง หยาง เริ่มหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อยๆ
"ซิง ฉิงซุย และ หนานกง มู่ กำลังจะผ่านเข้าสู่รอบ 3 แล้วแต่ข้ากลับยังอยู่ในด่านแรก!" ปิง หยาง หงุดหงิด
เหยียน ซิว ยังคงอยู่ในท่าทีสงบเยือกเย็นราวกับไม่ได้ยินเสียงประกาศใดๆ
สำหรับคนทั้ง 3 นั้น พวกเขาเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะถูก ฟาง เจิ้งจือ ผลักตกลงไป
ฟาง เจิ้งจือ ดูมีท่าทีผ่อนคลายที่สุดในหมู่พวกเขา
เขาไม่เคร่งเครียดมากนัก เขาแค่เบื่อในสิ่งที่เขามอง ทั้งหิน ทั้ง สะพานหัก ทั้งหมอกหนา
ตั้งแต่ตอนที่เขาก้าวขึ้นสะพาน เขาก็รู้สึกชื่นชมมัน
เขามองไปที่แผ่นหินไม่นาน จากนั้นก็ก้าวขึ้นไปบนสะพาน เขามองไปที่หินทุกก้อนและรอยแตกทุกรอย
ร่องรอยต่างๆแสดงให้เห็นถึงอายุของสะพาน ถ้านี่เป็นโลกเก่าของเขาละก็ ที่นี่นักท่องเที่ยวคงชื่นชอบกันไม่น้อย
แต่นี่เป็น 1 ในอุปสสรรคของโลกแห่งเซียน มันมีอะไรพิเศษกันแน่
ฟาง เจิ้งจือ สามารถบอกได้ว่า โลกแห่งเซียน นั้นแตกต่างกับมิติพิเศษที่เขาเข้าไปตอนที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์
อุปสรรคเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมา อย่างไรก็ตามสะพานนี้แตกต่างออกไป มันเป็นสะพานที่สร้างขึ้นอย่างปราณีต ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากความสวยงาม
เขาไม่รู้สึกกดดันใด ๆ เมื่อยืนอยู่บนสะพาน ไม่มีหินอุกกาบาต ไม่มีกับดัก ดูเป็นเหมือนแค่สะพานธรรมดา
แต่นี่คือโลกแห่งเซียน
โลกของ เมิ่ง เทียน
มันคงไม่มีทางเป็นสะพานธรรมดาแน่นอน
ฟาง เจิ้งจือ คาดหวังว่าจะได้เห็นคำใบ้บนสะพาน
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เขาก็ตระหนักว่า ...
ไม่มีอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างผ่อนคลาย
ท้ายที่สุด ถ้าเขาไม่สามารถข้ามไปได้ วิธีแก้ก็ง่ายๆ
แค่โยนใครสักคนออกไป
จริงๆแล้ว ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่จำเป็นต้องฝืนข้ามสะพานไปด้วยซ้ำ
ถ้าข้ามไปได้ก็ถือว่าเป็นโบนัส
ไม่มีความสูญเสียใดๆ ต่อให้เขาจะข้ามไปไม่ได้ก็ตาม
หลังจากที่ชื่นชมทัศนียภาพแล้วเขาก็เริ่มมองไปรอบๆ สะพาน เพื่อดูว่ามีภาพสะท้อนเกิดขึ้นบ้างไหม
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกผิดหวังที่ไม่มีอะไรอยู่ใต้สะพาน ไม่มีหิน ไม่มีน้ำ ทั้งหมดที่เขาเห็นคือความมืดของเหวลึก
เขามองไม่เห็นก้นเหว หรือบางทีอาจจะไม่มีก้นเหวก็ได้
"แม้ว่าด้านล่างจะไม่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่มันก็ทำให้รู้สึดเหมือนกับพระเจ้าที่ก้มมองลงไปบนโลก"
"สะพาน แตกหัก"
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ หมอกสีขาวที่ทำให้ตาของเขาพร่ามัว จากนั้นก็เกิดภาพบางอย่างขึ้นในใจของเขา
มันก็เป็นสะพานที่แตกหักเช่นเดียวกัน
ทุกครั้งที่มีพายุหิมะ สะพานจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ เป็นผลให้ เกือบจะมองไม่เห็นตัวสะพาน หิมะจะทำให้ดูเหมือนว่ามันแตกหัก แต่มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
"แม่น้ำไหลผ่านใจกลางหุบเขาที่เขียวขจี"
"อากาศชื้นแม้ว่าจะไม่มีฝน ท้องฟ้ายังคงมืดมิดแม้ว่าจะไม่มีเมฆปกคลุม"
"สะพานแตกหักตั้งอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่ร่วงหล่น"
"ระฆังลั่นในป่าทางตอนเหนือ ขณะที่ข้ากำลังคิดถึงทิวทัศน์ทางตะวันตกจากหน้าต่างบานเล็กๆที่เขาคุ้นเคย"
"สะพานที่แตกหักเป็น 1 ใน 10 สิ่งที่ยิ่งใหญ่ทีสุดในโลกเก่าของเขา จะมีโอกาสไดกลับไปสักครั้งไหมนะ? "
ในขณะที่เขากำลังคิด ฟาง เจิ้งจือ ก็ตัวแข็งทื่อ
"รอเดี๋ยวก่อน!"
สะพานที่แตกหักทางทะเลสาบตะวันตก เป็นภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นจากหิมะ
สะพานแตกหักตรงหน้าเขาก็เช่นกัน ถูกบดบังด้วยหมอกหนา ทำให้เห็นเป็นภาพลวงตา
มันมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
มันอาจจะไม่ได้แตกหักจริงๆ!
สะพานแตกหัก!
"ข้าคิดว่าข้ารู้แล้ว ... ไม่มีทาง?! อาจเป็นไปได้ว่าสะพานแตกหักนี้คือ ... " ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ เบิกกว้างขึ้นราวกับเขาได้เห็นแสงสว่าง
เพจหลัก : Double gate TH