Golden Time - ตอนที่ 11 [อ่านฟรี]
ตอนที่ 11
ซูฮยอคหยุดเดินและหันหลังไปพบกับรอยยิ้มที่สดใสของชายคนนั้น
จากนั้นซูฮยอคก็เดินเข้าไปหาชายคนนั้น อายุของเขาคงราว ๆ 30 ต้น ๆได้ แต่งตัวดูเรียบง่ายสไตล์ Classic Air (แฟชั่นประเภทหนึ่ง) กับนาฬิกาข้อมือสุดหรู มากไปกว่านั้นเขาทั้งยังดูหล่อเหมือนกับดารา
“ขอบคุณ”
เสียงของเขาถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณที่แท้จริงออกมา ‘สิ่งที่เลวร้ายที่สุดอาจเกิดขึ้นกับแม่เรา ถ้าไม่ใช่เด็กนักเรียนที่อยู่ตรงหน้าเราคนนี้ช่วยไว้’
เขาคิดเช่นนั้น อาจเพราะตอนที่เขากำลังเดินเข้ามาทางประตูห้องฉุกเฉินแล้วได้ยินซูฮยอคและหมอกำลังทะเลาะกันอยู่กัน
‘สายตาของเด็กคนนี้ที่กำลังจ้องมองหมอนั้น... เขาช่างดูเย็นชาและเด็ดขาด เด็กคนนี้มองไปที่หมอราวกับว่าเขากำลังกลืนกินหมอเข้าไป ใช่ เด็กชายคนนี้แหละที่ช่วยแม่เราไว้’
แต่แล้วก็ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่พบร่องรอยความเป็นหมอจากเด็กนักเรียนคนนี้แต่อย่างใด
“ค่อยยังชั่ว” ซูฮยอคยิ้มเล็กน้อย
“เธอรู้ได้ยังไงว่าแม่ของผมป่วย?” ชายคนนั้นถาม
“เธอแค่ดูป่วยหนักน่ะครับ” ซูฮยอคตอบ
ชายคนนั้นพยักหน้าช้า ๆ รับกับคำพูดที่เรียบง่ายและชัดเจนของซูฮยอค
“หนุ่มน้อย ถ้าเธออยากได้อะไรให้บอกฉันได้เลยตอนนี้”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”
ซูฮยอคไม่ได้คิดถึงอะไรเลยที่เขาต้องการอยากจะได้มัน และถ้าอะไรที่ได้มาง่าย ๆมันก็อาจจะนำเขาไปสู่ปัญหาได้ง่ายเช่นกัน
“ผมต้องไปโรงเรียนก่อน ดังนั้นดูแลแม่ของคุณให้ดีนะครับ ผลการผ่าตัดของเธอจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน คุณไม่ต้องกังวลมากเกินไปนะครับ”
แม้ว่าไส้ติ่งอักเสบจะเป็นอันตรายการมากก็ตาม แต่มันแค่ต้องได้รับการผ่าตัดให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้อาการลุกลามไปสู่เยื่อบุช่องท้องอักเสบ การผ่าตัดของเธอจะเสร็จสิ้นลงอย่างรวดเร็ว
ซูฮยอคหันหลังเดินออกจากห้องฉุกเฉินไป เขาถอนหายใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะต้องการออกไปแต่ก็ไม่กล้า
“โรงเรียนของเธออยู่ที่ไหน?”
ชายคนนั้นถามพร้อมกับดึงบุหรี่ออกมามวนหนึ่งแล้วเดินออกไปพร้อมกับซูฮยอค
แม้ว่าโรงพยาบาลรวมถึงพื้นที่ภายในเป็นเขตปลอดบุหรี่ แต่ไม่ได้รวมตรงลานจอดรถ เขาไม่สนใจและสูบบุหรี่ที่ปากคาบอยู่ ซิปโป้เปิดออกด้วยเสียงดัง ควันจากบุหรี่ถูกสูดเข้าไปภายในปอดของเขา
“หืมมม...โรงเรียนของเธอชื่ออะไร?”
“โรงเรียนมัธยมปลายมยองซังครับ”
“เธอจะกลับบ้านก่อนใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ”
“งั้นขึ้นรถผม!”
ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาแล้วโทรหาใครซักคน จากนั้นก็มีรถหรูนำเข้าคันหนึ่งมาจอดอยู่ตรงหน้าเขาทั้งคู่ คนขับรถจอดรถและลงมาเปิดประตูให้พร้อมก้มโค้งทำความเคารพอย่างสุภาพต่อหน้าเจ้านายของเขา
“ช่วยพาเด็กนักเรียนคนนี้ไปส่งที่บ้านของเขาด้วย”
“แล้วเจ้านายจะไปยังไงล่ะครับ?”
“เรื่องนั้นฉันจัดการเองได้” ชายคนนั้นพูด
ชายคนนั้นมาที่มองซูฮยอคอีกครั้งแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กดี เพราะงั้นเธอเลยขึ้นรถของฉันได้”
ซูฮยอคพยักหน้า
ดูเหมือนว่าชายคนนั้นต้องการที่จะตอบแทนซูฮยอคคืน ถึงได้ถามซูฮยอคหากว่าเขามีความต้องการที่จะอยากได้อะไร ถ้าซูฮยอคได้กลับบ้านด้วยรถของเขา เขาคงจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ตอบแทน ซูฮยอคเองก็คงรู้สึกมีความสุขด้วยเช่นเดียวกัน
ต่อจากนั้นไม่นาน ซูฮยอคก็ขึ้นรถนำเข้าสุดหรูและเริ่มออกจากโรงพยาบาล ซูฮยอคมองไปที่ข้างนอกผ่านหน้าต่างรถยนต์ เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้ช่วยคนสองคนไว้ในวันนี้
“เธอเป็นนักเรียนหรอ?” คนขับถาม
"ใช่ครับ ทำไมหรอ?"
“เธอชื่ออะไร?”
“ลี ซูฮยอค”
“ชื่อเพราะดีนะ อยู่ชั้นไหนแล้ว?”
“ผมอยู่ม.ปลายปีที่ 3 ห้อง 3 (ม.6)ครับ ถามทำไมหรอครับ?”
“ผมมีหลานคนหนึ่งอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายมยองซังเหมือนเธอ”
แล้วหลังจากนั้นเขาก็เงียบไป
“โอ้ จักรยานผม!” ซูฮยอคพูดอย่างรวดเร็ว “ช่วยจอดรถตรงนั้นด้วย!”
“ทำไมล่ะ?”
“ฉันทิ้งจักรยานไว้ตรงนั้น”
“จักรยานหรอ?”
“ใช่ครับ จักรยาน”
คนขับรถมาถึงจุดหมายตามคำสั่งของซูฮยอค
“ทำไม...ทำไมหารถจักรยานไม่เจอ?”
ซูฮยอคยืนมองด้วยความสงสัยเพราะจักรยานของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พ่อซื้อมันมาให้ฉันเลยนะ”
จักรยานคันนั้นเป็นสิ่งที่พ่อของเขาซื้อให้กับลูกชายหลังจากที่เห็นลูกต้องวิ่งเพื่อไปออกกำลังกาย
หลังจากถอนหายใจ ซูฮยอคก็เดินไปที่เสาโทรศัพท์ เขาเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับสุดท้ายสำหรับการจัดส่งในวันนี้ ตกอยู่ที่มุมของเสา หลังจากหยิบมันขึ้นมา เขาก็เดินตรงไปที่บ้านหลังหนึ่งที่มีประตูสีฟ้าและโยนมันข้ามกำแพง
ปัง ปัง! ซูฮยอคหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินและกลับขึ้นรถไปเพื่อตรงไปบ้าน
......................................................................................................................................
อัตราส่วนของผู้หญิงในโรงเรียนมัธยมปลายมยองซังมีมากกว่าผู้ชาย
แต่ถึงอย่างนั้นอัตราส่วนผู้หญิงและผู้ชายก็ถูกแบ่งไว้อย่างเท่า ๆกันในแต่ละชั้นเรียน
ม.ปลายปี 1 ห้อง 3(ม.4)
ซูฮยอคยังคงถอนหายใจเรื่อย ๆขณะนั่งมองไปที่กระดานดำที่ว่างเปล่า เพราะเรื่องจักรยานที่หายไปยังคงกวนใจเขาอยู่ ถ้ามันเป็นจักรยานที่เขาซื้อด้วยเงินตัวเองจากการทำพาร์ทไทม์เขาคงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่นี่มันเป็นของขวัญจากพ่อของเขา
“เห้อออ...”
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและหมดคาบเรียน
ครูประจำชั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุว่า “เหลือเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์การสอบกลางภาคก็จะมาถึง ทุกคนฟังให้ดี ช่วงเวลาต่อจากนี้เป็นต้นไป เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของพวกเธอได้ เพียงแค่เพิ่มคะแนนเฉลี่ยเพียง 1 คะแนน ก็สามารถเปลี่ยนอนาคตของพวกเธอได้ ตามนั้นนะ ลี ซูฮยอค!”
“ครับครู”
“ไปพบครูที่ห้องพักนะ”
เมื่อนักเรียนทยอยออกไป ซูฮยอคก็สพายกระเป๋า ‘เป็นอะไรไป?’ ไม่ว่าจะคิดถึงเรื่องนั้นมากแค่ไหนเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมครูจึงอยากพบเขาเป็นการส่วนตัว
ซูฮยอคเข้าไปที่ห้องพักครู
“อ่ะ นี่” มันเป็นใบเสร็จรับเงินที่ครูให้แก่เขา
“นี่เป็นใบเสร็จรับเงินค่าเล่าเรียนที่ครอบคลุมถึงปีที่สามของเธอ”
ซูฮยอคทำหน้าสงสัย เขาไม่เคยได้ยินว่าโรงเรียนเสนอทุนการศึกษาดังกล่าวนั่นด้วยและเขาก็อยู่ห่างไกลจากการที่เป็นผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาด้วย
“ใครเป็นคนจ่ายครับ?”
แม้แต่ครูก็ส่ายหัวราวกับว่าเขาไม่รู้ ที่จริงแล้วครูก็อยากถามซูฮยอคเช่นกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมาไม่เคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน
“ฉันได้ยินว่าใครบางคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้เธอที่สำนักงานกิจการทั่วไป”
ซูฮยอคเองก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้เหมือนกันหลังจากมองไปที่ใบเสร็จนั่น มันเป็นไปไม่ได้ที่พ่อแม่ของเขาจะเป็นคนจ่าย พ่อแม่ของเขาไม่มีเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น ขณะนั้นเองเขาก็นึกบางอย่างออกในหัว ชายคนนั้นที่เขาพบในห้องฉุกเฉิน
หลังจากแยกกับครู ซูฮยอคไปที่สำนักงานกิจการทั่วไปเพื่อถามเรื่องใบเสร็จ “คนที่มาจ่ายค่าเรียน เป็นผู้ชายรึเปล่าครับ? อายุเขาราว ๆ 30 ต้น ๆใช่มั้ย?”
พนักงานหญิงคนหนึ่งที่ออฟฟิศส่ายหัว “เป็นผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ เธอสวยมาก”
‘เธอเป็นใครกัน?’ หลังจากที่คิดเกี่ยวกับตัวตนเรื่องของผู้หญิงคนนั้นเขาก็ตรงกลับบ้านและต้องประหลาดใจอีกครั้งเพราะเห็นรถจักรยานรุ่นท็อปที่มีการออกแบบที่งดงาม จอดอยู่หน้าประตูบ้าน ดวงตาของซูฮยอคเบิกกว้างด้วยความตะลึง เนื่องจากราคาของจักรยาน มีมูลค่าถึง 15,400,000 วอน!