GE13 ให้เด็กมาขู่ปีศาจเฒ่า?
Chapter 13 ให้เด็กมาขู่ปีศาจเฒ่า?
วังน้ำแข็งสร้างขึ้นจากน้ำแข็งฟ้าพิเศษของโลกพิรุณ ด้านนอกวังคุ้มกันด้วยกององครักษ์น้ำแข็งจำนวน 500 นายทั้งยังทำหน้าที่ต้อนรับแขกเหรื่อที่มา
งานประมูลผลไม้แห่งเต๋าจัดขึ้นในวังน้ำแข็ง ผู้ที่เข้าร่วมประมูลอย่างน้อยต้องบรรลุขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5
ภายในวังน้ำแข็ง โคมไฟทองแดงที่ลุกโชนด้วยเพลิงม่วงได้ถูกประดับไว้ในระยะทุกสิบก้าว
เมื่อเข้าไปถึงส่วนจัดงานประมูล หนิงฝานลงชื่อเข้าร่วมงาน เอกสารและสิ่งที่เตรียมให้ผู้เข้างานลงชื่อนั้นดูยิ่งใหญ่ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความกว้างขวางของศาลาไร้ธรรม
ข้างกายหนิงฝานมีคนผู้หนึ่งที่หนิงกงส่งให้ติดตามมาด้วย
บุคคลที่มาถึงบุตรชายของหนิงกง นาม ‘หนานเหว่ย’ ผู้ซึ่งครึ่งก้าวจะบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ หนานเหว่ยคือศิษย์ฝ่ายในของนิกายกุ่ยเชว่ เขากลับมายังเมืองฉีเหม่ยเพื่อเข้าร่วมงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า
หนานเหว่ยดูราวกับกล่องช่างพูด แม้หนิงฝานจะไม่รู้จักอีกฝ่ายแต่หนานเหว่ยก็พูดคุยกับหนิงฝานราวกับสนิทสนม
“นายน้อยอาจมิทราบความเป็นมาของน้ำแข็งฟ้าเหล่านี้ ข่าวลือว่า...”
“นายน้อยอาจมิทราบว่าเหตุใดเพลิงม่วงเหล่านี้ถึงได้ลุกไหม้ได้นาน...”
“นายน้อย... ท่านดูสตรีนางนั้นสิ...”
“นายน้อย... เหตุใดท่านไม่พูดคุยกับข้า...”
“ข้าได้ยินมาว่าพี่หนานเป็นศิษย์ฝ่ายในของนิกายกุ่ยเชว่ใช่หรือไม่?” ในที่สุดหนิงฝานก็ยอมกล่าว
“ถูกต้อง ข้ารีบกลับเมืองมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูลผลไม้แห่งเต๋าโดยเฉพาะ แต่นอกจากข้าแล้ว... สาวงามจากนิกายกุ่ยเชว่ก็มาเยือนเมืองฉีเหม่ยแห่งนี้เช่นกัน”
“อืม!” หนิงฝานไม่สนใจสาวงาม
“สาวงามนางนั้นมีความเกี่ยวพันกับตัวท่าน... เพราะท่านเจ้าเมืองหานได้จัดแจ้งให้ท่านหมั้นหมายกับนางแล้ว”
“ว่าไงนะ!” หนิงฝานขมวดคิ้ว ปีศาจเฒ่าหานจัดแจงหมั้นหมาย? ชายชราย่อมรู้ว่าหนิงฝานมีจื่อเฮ่อเป็นภรรยาอยู่แล้ว
“เมื่อ 40 ปีที่แล้วเจ้าเมืองหานได้เข้าร่วมกับนิกายกุ่ยเชว่โดยทำพัสัญญากับประมุขนิกายเอาไว้ว่า หากในอนาคตท่านเจ้าเมืองรับศิษย์ ศิษย์ของท่านต้องแต่งงานกับบุตรสาวของประมุขนิกาย..” หนานเหว่ยบอกเล่าเรื่องราว
“เมื่อ 40 ปีที่แล้วข้ายังไม่เกิดด้วยซ้ำ..” หนิงฝานรู้สึกปวดหัว
“บุตรสาวของประมุขนิกายกุ่ยเชว่มีนามว่า ‘หลานเหม่ย’ นางเป็นสตรีที่งดงามไร้เปรียบและหยิ่งทนง หากนางได้รู้ว่าท่านมีระดับการบ่มเพาะอยู่เพียงขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 นางอาจไม่สนใจท่าน”
หนานเหว่ยกล่าวเตือนอย่างนุ่มนวล เขาได้ยินมาจากบิดาว่าแม้ระดับการบ่มเพาะของหนิงฝานจะต่ำ แต่หนิงฝานเป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ที่แม้แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำยังต้องเคารพ!
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับนาง” หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบสตรีที่หยิ่งทนง
หนิงฝ่านส่ายหน้า เขาพยายามทำความเข้าใจเหตุผลที่ปีศาจเฒ่าให้เขาบรรลุขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 บางที การที่ปีศาจเฒ่าเร่งเร้าอาจเป็นเพราะต้องการเติมเต็มคำสัญญา
บรรยากาศในวังน้ำแข็งดูสลัว ภายในแบ่งพื้นที่เป็น 3 ชั้นคล้ายวงแหวน ที่ศูนย์กลางคือพื้นที่แสดงสิ่งของประมูลและรอบนอกคือที่นั่งของผู้เข้าร่วมประมูล
ชั้นที่ 1 เป็นที่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเปิดเส้นโลหิต ชั้นที่ 2 สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณ
ชั้นที่ 3 มีที่นั่งเพียง 3 ที่สำหรับผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ ที่นั่งของผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้ถูกปกคลุมด้วยม่านที่ป้องกันสายตาและสัมผัสเทพ ทำให้ผู้คนไม่ทราบถึงใบหน้าและรูปลักษณ์ที่แท้จริงของผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้
ไม่นานนักทางเข้าชั้น 1 และ 2 มีเสียงเอ็ดตะโรราวกับกำลังมีเรื่อง
ที่เบื้องหน้าทางเข้าชั้น 1 และ 2 มีสตรีที่งดงามราวกับบุบผา
พวกนางเป็นคนของศาลาไร้ธรรม เป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตเปิดเส้นโลหิต พวกนางจะแสดงสีหน้าเย็นชากับบุคคลทั่วไป แต่เมื่อพบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณพวกนางจะยิ้มรับ หากเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ พวกนางจะสุภาพนอบน้อม
ผู้รับใช้ทั้งสองนางกำลังกล่าวขอโทษสตรีในชุดฟ้านางหนึ่ง สตรีนางนี้ต้องการขึ้นชั้น 2 ของงานประมูลแต่ผู้นำศาลาไร้ธรรมได้สั่งไว้ว่าห้ามให้นางขึ้น
สตรีชุดฟ้าผู้นี้คือผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้าวสู่ขอบเขตประสานวิญญาณที่ผู้รับใช้ทั้งสองกำลังกล่าวขอโทษ
“ขออภัยแม่นาง นายท่านสั่งไว้ว่าหากมิใช่ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตประสานวิญญาณก็ห้ามมิให้ขึ้นไปชั้น 2 เด็ดขาด”
“อีกครึ่งก้าวข้าจะบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ และด้วยเหรียญตรานี้เหตุใดข้าจะขึ้นไปไม่ได้? ผู้อาวุโสของข้าก็อยู่บนนั้น ข้าอยากขึ้นไป..”
แววตาของสตรีนางนี้ดูเย็นชาและหยิ่งทนง คิ้วเรียวยาวของนางได้รูป นางนำเหรียญตราหยกดำที่มีตราสัญลักษณ์ของนิกายกุ่ยเชว่ออกมาแสดง
เมื่อผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่อยู่ไม่ไกลได้เห็นเหรียญตรา ทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัว แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณที่เดินผ่านไปมายังไม่กล้ามอง
เหรียญตรานั่นเทียบได้กับบัญชาของประมุขนิกายกุ่ยเชว่! เช่นนั้น สตรีในชุดฟ้านางนี้อาจเป็นบุตรสาวของประมุขนิกายกุ่ยเชว่
ด้วยสถานะของนางสมควรได้ขึ้นไปชั้นสอง
ผู้รับใช้ทั้งสองที่เฝ้าประตูไม่สนใจเหรียญตราของสตรีชุดฟ้า พวกนางยังคงกล่าวซ้ำคำเดิมเพียงแต่น้ำเสียงเริ่มเย็นชา “นายท่านมีคำสั่ง หากผู้ใดไม่บรรลุขอบเขตประสานวิญญาณห้ามขึ้นไปชั้นสองเด็ดขาด”
สตรีชุดฟ้าขมวดคิ้ว นางคาดไม่ถึงว่าศาลาไร้ธรรมจะเป็นเช่นนี้ ขณะที่นางกำลังถอนหายใจ เบื้องหลังได้ปรากฏบุรุษในชุดขาว ในมือถือพัด แรงกดดันที่แผ่ออกมาบ่งบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตประสานวิญญาณขั้นแรก ผู้รับใช้ของศาลาไร้ธรรมทั้งสองนางจึงได้รับผลกระทบจากแรงกดดัน
“ฮึ่ม! ผู้รับใช้ต่ำต้อยกลับหาญกล้าดูหมิ่นนิกายกุ่ยเชว่ของข้า!”
แรงกดดันทำให้มุมปากของผู้รับใช้ทั้งสองปรากฏโลหิต ดวงตาคู่งามของพวกนางหดแคบด้วยความโกรธ เมื่อบุรุษคิดจะลงมือต่อ สตรีในชุดฟ้ากลับปรามไว้
“เอาหล่ะ... ไว้งานประมูลจบค่อยรายงานเรื่องนี้กับผู้อาวุโส.. หวังว่างานประมูลจะจบลงโดยเร็ว ศิษย์พี่ไป๋ เราไปนั่งชั้น 1 เถอะ”
“ฮึ่ม! เห็นแก่หน้าศิษย์น้องหญิง ข้าจะเมตตาพวกเจ้าสักครั้ง!”
หลังจากกล่าววาจาอวดดี บุรุษชุดขาวก็จากไปพร้อมกับสตรีชุดฟ้า
แต่ทั้งสองหันกลับมาโดยฉับพลันเมื่อเห็นหนิงฝาน
บุรุษชุดขาวแค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่เป็นมิตร
สตรีชุดฟ้าที่เห็นหนานเหว่ยเดินตามหนิงฝานมาก็แอบตรวจสอบระดับการบ่มเพาะของหนิงฝาน เมื่อทราบว่าระดับของหนิงฝานอยู่เพียงขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 นางยิ่งประหลาดใจ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดหนานเหว่ยที่ครึ่งก้าวก็บรรลุขอบบเขตประสานวิญญาณถึงได้เคารพหนิงฝานมากขนาดนั้น
“ศิษย์น้องหนาน ผู้นี้คือ...” นางกล่าวถามอย่างไร้อารมณ์
“ข้าขอแนะนำ ท่านนี้คือนายน้อยของเมืองฉีเหม่ย..หนิงฝาน ส่วนสตรีนางนี้คือนายหญิงน้อยแห่งนิกายกุ่ยเชว่..หลานเหม่ย” เมื่อหนานเหว่ยกล่าวจบ หนิงฝานก็ขมวดคิ้วราวกับบอกเป็นเชิงว่าให้กล่าวซ้ำ สตรีนางนี้คือคู่หมั้นของเขา? เช่นนั้นขอเป็นโสดยังดีเสียกว่า
หนิงฝานไม่สนท่าทีของหนานเหว่ย
แต่เมื่อหลานเหม่ยได้ฟังชื่อและสถานะของหนิงฝาน นางขมวดคิ้วพลางกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าหรือหนิงฝาน?”
“เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?” หนิงฝานแปลกใจเล็กน้อย หลายวันมานี้ชื่อเสียงของหนิงฝานดูจะโด่งดังไปถึงนิกายกุ่ยเชว่
“เดิมทีข้ามิทราบ แต่เมื่อมาถึงเมืองฉีเหม่ยจึงทราบ... หนิงฝาน ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจว่าระหว่างเจ้ากับข้านั้นเป็นไปไม่ได้ ข้าชื่นชอบเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จงอย่าได้ตามรังควานข้า ข้าหวังว่าจะเข้าร่วมนิกายกุ่ยเชว่ในสักวัน” นางกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“เหตุใดข้าต้องตามรังควานเจ้า?” หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย หลังจากกล่าวจบหนิงฝานก็จากไปโดยมีหนานเหว่ยเร่งติดตาม
ท่าทีของหนิงฝานทำให้หลานเหม่ยประหลาดใจ.. คนผู้นี้นิสัยไม่เลว...แต่ก็ได้เพียงเท่านั้น
ภาวะทางอารมณ์ถือว่าดี แต่ระดับการบ่มเพาะไม่โดดเด่น
บุรุษชุดขาวจ้องหนิงฝานเขม็งพลางกล่าวเย้ยหยัน “ข่าวลือว่าหนิงฝานแสดงฝีมือเพียงเล็กน้อยก็ทำให้องครักษ์ฉีเหม่ยและองครักษ์กระบี่ยอมสยบ เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าอยู่ขอบเขตประสานวิญญาณ แต่ที่ไหนได้กลับบรรลุเพียงขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 ฮ่าฮ่า... ดูเหมือนข่าวลือจะกล่าวเกินจริง ศิษย์น้องหญิง เจ้าไม่ต้องไปสนใจมัน เราไปหาที่นั่งดีกว่า”
“อืม..”
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะจากไป ฉากเบื้องหน้ากลับทำให้ทั้งสองตกตะลึง
ทั้งสองเห็นหนิงฝานและหนานเหว่ยผ่านผู้รับใช้สตรีทั้งสองขึ้นไปบนชั้น 2 ได้อย่างงายดาย ดูเหมือนพวกนางจะไม่ได้ห้ามเสียด้วย
ที่สำคัญ ท่าทีที่พวกนางแสดงออกต่อหนิงฝานยังเต็มไปด้วยความเคารพอย่างที่สุด!
เป็นไปได้ยังไง? ผู้รับใช้ของศาลาไร้ธรรมไม่เห็นนายหญิงน้อยของนิกายกุ่ยเชว่อยู่ในสายตา
“เหตุใดมันขึ้นไปชั้นสองได้ ระดับการบ่มเพาะของมันอยู่เพียงขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 เท่านั้น!” บุรุษในชุดขาวอิจฉาหนิงฝาน จิตใจของบุรุษผู้นี้คับแคบอย่างที่สุด
หลานเหม่ยตกตะลึงเล็กน้อยแต่นางก็ได้แต่ส่ายหน้า
หนิงฝานเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 การที่ขึ้นไปบนชั้น 2 ของงานประมูลได้แสดงว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับศาลาไร้ธรรม
“ยังไงเขาก็ไม่เหมาะกับข้า” หลานเหม่ยกล่าวกับตนเองอย่างไร้อารมณ์ทั้งสีหน้ายังเย็นชา
……
บนชั้นสองวังน้ำแข็ง... หนานเหว่ยนำทางหนิงฝานเดินผ่านที่นั่งของนิกายเทียนหลีโม่ ขณะที่เดินผ่านหนิงฝานได้หันมองหวู่ตงหนานด้วยแววตาอาฆาตและได้ใช้ปลายนิ้วบดลูกกลมขนาดเล็กจนกลายเป็นผงกระจายใส่ร่างของมัน
ก่อนจะมาวังน้ำแข็งหนิงฝานได้ใช้วิธีการลับและโบราณปรุงโอสถชนิดหนึ่งขึ้นมา ผงเมื่อครู่มีนามว่า ‘ผงหอม’ ใช้เพื่อติดตามคู่ต่อสู้ หากหวู่ตงหนานอยู่ไม่ห่างจากหนิงฝานเกิน 1 พันลี้หนิงฝานก็หาตัวมันพบ
ในเมื่อหวู่ตงหนานผู้มาจากนิกายเทียนหลีโม่คิดร้ายกับจื่อเฮ่อ หนิงฝานจะไม่ปล่อยให้มันรอดกลับไปเด็ดขาด!
หนานเหว่ยสงสัยว่าเหตุใดหนิงฝานถึงได้จ้องมองหวู่ตงหนาน แต่สิ่งที่ทำให้หนานเหว่ยสงสัยยิ่งกว่าคือเหตุใดหนิงฝานถึงไม่สนใจคู่หมั้นอย่างหลานเหม่ย
“ข้าต้องเป็นประธานในงานประมูลเชิญพี่หนานกลับก่อน... ข้าวานให้ท่านไปแจ้งยุ่ยฉีและซื่อถูให้เตรียมพร้อม..” สีหน้าของหนิงฝานมืดมน สิ่งที่หนิงฝานเตรียมการย่อมเกี่ยวข้องกับหวู่ตงหนาน เพียงแต่เขาไม่อยากให้หนานเหว่ยรู้
หนิงฝานกลับลงมาจากชั้นสองและปล่อยให้หนานเหว่ยยืนมึนงงอยู่เพียงลำพัง หนานเหว่ยไม่เข้าใจหนิงฝานแม้แต่น้อยย
ไม่นานนัก ประตูทางเข้าวังน้ำแข็งก็ปิดตัวลง เพลิงม่วงลุกโหมขึ้นในโคมทองแดงทั้งหมด 1500 ดวงเพื่อให้แสงสว่าง
บนเวทีงานประมูล ชายชราผู้หนึ่งที่แผ่แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำกระแอมเพื่อให้ทำให้งานประมูลเงียบ
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดสูดลมหายใจเย็นเฉียบ พวกเขาคาดไม่ถึงว่างานประมูลในครั้งนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำเป็นประธาน!
ในแคว้นเยว่ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำมีอยู่เพียงหยิบมือ!
ศาลาไร้ธรรมช่างมีความสามารถ!
“ข้า ‘หยุนเฉี่ยว’ ผู้นำศาลาไร้ธรรมได้สั่งให้ข้าเป็นผู้ช่วยดำเนินการประมูล..”
คำกล่าวของชายชราทำให้คนทั้งงานตกตลึง
ปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำเป็นเพียงผู้ช่วยงานประมูล? เช่นนั้นขอบเขตจิตวิญญาณแรกเริ่มคงเป็นประธานงานประมูลกระมัง
ขอบเขตจิตวิญญาณแรกเริ่ม!? เมื่อคิดถึงคำนี้ผู้คนล้วนไม่กล้าสูดหายใจเพราะ 10 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเยว่ยังไม่มีผู้ใดบรรลุถึงขอบเขตนั้น
หากงานประมูลในครั้งนี้ทำให้ผู้คนมีโอกาสได้เห็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตจิตวิญญาณแรกเริ่มคงจะถือเป็นเรื่องน่ายินดี
แต่ผู้คนต้องผิดหวังเพราะผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีคือหนิงฝาน ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตจิตวิญญาณแรกเริ่ม
“เหตุใดเป็นผู้เยาว์ขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5? อย่าบอกนะว่ามันคือประธานการประมูล?”
“ข่าวลือว่าปีศาจเฒ่าหานรับศิษย์ อย่าบอกนะว่าเป็นผู้เยาว์คนนี้?!”
วังน้ำแข็งน้ำแข็งอื้ออึงไปด้วยเสียงพูดคุย ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำชั้นอยู่บนชั้น 3 ก็ขมวดคิ้ว
ศาลาไร้ธรรมกำลังทำอะไรถึงได้ให้ผู้เยาว์ในขอบเขตเปิดเส้นโลหิตมาควบคุมงานประมูล
สมควรทราบว่าทั่วทั้งแคว้นเยว่ให้ความสนใจกับผลไม้แห่งเต๋ามาก ศาลาไร้ธรรมไม่กลัวงานประมูลจะล่มเพราะผู้เยาว์เลยหรือ?
อีกมุมหนึ่งของงาน หนานกงแอบสังเกตสีหน้าของหนิงฝาน เมื่อเห็นหนิงฝานยังสงบแม้จะต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ หนานกงจึงพยักหน้าอย่างพอใจ เมื่อได้ยินหนานเหว่ยกล่าวว่าหนิงฝานได้แจ้งให้ยุ่ยฉีและซื่อถูพร้อมกับเหล่ากององครักษ์เตรียมพร้อม หนานกงก็เผยสีหน้าตื่นเต้น
“สมแล้วที่เป็นนายน้อย... หากท่านสังหารหวู่ตงหนานได้... ข้าหนานกงจะนำทัพกององครักษ์น้ำแข็งเข้าร่วมกับท่าน!”
ชั้นหนึ่งของวังน้ำแข็ง.. หลานเหม่ยจับจ้องเวทีประมูลด้วยสีหน้าสงสัย
“คาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะเป็นผู้ดำเนินการประมูล... เป็นไปได้อย่างไร..”
แต่สิ่งที่ทำให้นางต้องเชื่อคือสีหน้าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำที่ยืนอยู่บนเวที
หยุนเฉี่ยวที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่เคารพ!
เมื่อหนิงฝานขึ้นสู่เวทีประมูล หยุนเฉี่ยวก็ก้าวถอยไปหลายก้าวแล้วหยุดยืนอยู่เบื้องหลังของหนิงฝาน หนิงฝานมีวิธีการชั่วร้ายอันใดปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำถึงได้เคารพเขามากขนาดนั้น?!
หลานเหม่ยไม่กระจ่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากภายในงานก็ไม่กระจ่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับนาง
หนิงฝานเองก็ไม่กระจ่างเช่นกัน
หนิงฝานหันมองหยุนเฉี่ยวและคาดเดาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นคำสั่งของผู้นำศาลาไร้ธรรม
ผู้นำศาลาไร้ธรรมเป็นใคร? คนผู้นั้นมีแผนการอะไร?
“เชิญนายน้อยหนิงดำเนินการประมูล...” หยุนเฉี่ยวเลี่ยงสายตาหนิงฝานพลางกล่าว
“ข้า..หนิงฝาน ศิษย์แห่งนักปรุงโอสถหาน นายน้อยของเมืองฉีเหม่ย วันนี้ข้ารับหน้าที่เป็นผู้นำการประมูลผลไม้แห่งเต๋า ก่อนอื่น ข้าขอประกาศกฎการประมูล ข้อแรก...”
หนิงฝานยังไม่ทันได้กล่าวจบ บุรุษชุดขาวที่นั่งอยู่ข้างกายหลานเหม่ยพลันผุดลุกขึ้น “กล่าวไร้สาระมากความ เริ่มการประมูลได้แล้ว เรามาที่นี่เพื่อร่วมประมูลมิใช่ฟังขอบเขตเปิดเส้นโลหิตที่ 5 อย่างเจ้าพล่าม!”
บุรุษชุดขาวเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณ ด้วยระดับของมันย่อมกล่าวคำเช่นนี้ได้ มันอิจฉาหนิงฝานมันจึงตั้งใจทำให้หนิงฝานอับอาย
แต่ทันทีที่มันกล่าวจบ สีหน้าของมันกลับแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว
ดวงตาที่เฉียบคมราวกับกระบี่ของหนิงฝานจับจ้องมาที่มันพร้อมกับ ‘ปราณสังหารแก่นทองคำ’ ที่รุนแรง!
ผู้เข้าร่วมงานคนอื่นๆไม่อาจสัมผัสได้ถึงปราณสังหารของหนิงฝาน มีเพียงบุรุษชุดขาวเมื่อครู่ที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน
“แก่นทองคำ... ปราณสังหารแก่นทองคำ... เจ้าคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำ!” คำกล่าวของบุรุษชุดขาวทำให้ผู้เชี่ยวในงานอุทาน สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่หนิงฝาน
ผู้เยาว์อายุเพียง 16 ปีแต่กลับเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ?
“ข้อหนึ่ง... หากผู้ใดกล้าก่อความวุ่นวายในงานประมูล...สังหารโดยไม่มีข้อแม้!” คำกล่าวที่เย็นชาของหนิงฝานทำให้ทั้งงานประมูลเงียบสนิท
เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณสังหารของหนิงาน ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมไม่กล้าขยับสักราย!
ใบหน้าที่งดงามของนางแปรเปลี่ยน นางไม่อยากเชื่อว่าหนิงฝานคือผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำ!
ภายในที่ลับ... สตรีในชุดคลุมดำที่ปิดคลุมใบหน้าด้วยผ้าบางเผยรอยยิ้มที่ลึกลับ “ช่างน่าสนใจ ขอบเขตเปิดเส้นที่ 5 แต่กลับครองครองปราณสังหารแก่นทองคำ... สร้อยคอหยินหยางอาจอยู่กับเขา แต่ช่างเถอะ... คราวหน้าค่อยลองดูอีกครั้ง...”
หนิงฝานที่อยู่บนเวทีถอนปราณสังหารกลับก่อนเลิกสนใจบุรุษชุดขาวอีก
ยามนี้ไม่มีผู้ใดกล้าดูถูกหนิงฝานแล้ว
เหตุที่หนิงฝานเผยปราณสังหารแก่นทองคำไม่ใช่เพียงทำให้การประมูลสงบ แต่ยังเป็นการข่มขู่หวู่ตงหนาน
ซึ่งการข่มขู่นั้นคือการข่มขู่เอาชีวิต!...