บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 3 เสนอตัว
ตอนที่ 3
เสนอตัว
“ข้าได้ยินมาว่า มนุษย์จะปรุงอาหารก่อนกิน” อสูรแมงมุมพูดด้วยท่าทีไม่มั่นใจ แต่เนื้อดิบของไกฟ้าหงอนทองเจ้าตัวน้อยของนางก็ไม่กินเสียด้วย แถมไฟที่เจ้าตัวน้อยจุดเพื่อปรุงอาหารเองก็เผาเนื้อของไก่ฟ้าหงอนทองไม่ได้ซะด้วย
“ระ เรื่องนั้น....” พยัคฆ์อัสนีพูดอะไรไม่ออก ในป่าอสูรแห่งนี้มีเขตแดนทั้งสิ้น 5 เขตแดน ป่าเมฆาอัสนีของมันเป็น 1 ในนั้น โดยป่าของมันรวมเหล่าอสูรธาตุสายฟ้าไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาคือป่าวัฒนะของมังกรธรณี แน่นอนมันรวบรวมเหล่าอสูรธาตุดินและไม้เอาไว้ไม่ต่างจากป่าเมฆาอัสนีเลย ต่อมาคือดินแดนของไก่ฟ้าหงอนทอง เขตแดนที่ชื่อว่าสันเขาทองคำ ที่นั่นเป็นเหมือนป่าเขตร้อนที่มีทุ่งหญ้าสีทองและทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาล แม้ไก่ฟ้าจะไม่ใช่สัตว์ที่อาศัยในทะเลทราย แต่ไก่ฟ้าหงอนทองกลับบอกว่าตนชื่นชอบสีของผืนดินแห่งนี้มันเลยยึดปกครองที่นั่นเป็นของมัน ส่วนอีก 2 เขตที่อสูรแมงมุมยังไม่ได้ไปคือเขตเขาเหมันต์ที่เต็มไปด้วยหิมะและความหนาวเย็น เจ้าของดินแดนดังกล่าวคือจิ้งจอกเหมันต์ ส่วนอีกเขตคือภูเขาดำ เป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยขี้เถ้าจากปล่องภูเขาไฟ เจ้าของที่แห่งนั้นคือราชสีห์เพลิงคู่กัดของพยัคฆ์อัสนี
“ข้าคิดว่าไฟของแดนภูเขาดำคงปรุงได้” พยัคฆ์อัสนีนึกถึงยามที่มังกรธรณีกลั่นแกล้งตนเมื่อวาน มันละอยากรู้จริงๆ ว่าหากนางแมงมุมไปเยี่ยมเยือนราชสีห์เพลิงมันจะทำหน้าเช่นไร
“เหรอ” นางทำเช่นเดิมไม่มีผิด พอได้คำตอบนางก็จะมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายโดยไม่สนใจอย่างอื่นอีก นางเดินตรงไปยังเขตภูเขาดำอย่างรวดเร็วพร้อมทิ้งรอยเท้าทั้ง 8 เอาไว้ให้มันดูต่างหน้า
“ข้าละอยากรู้จริงๆ ว่าราชสีห์เพลิงจะทำหน้าอย่างไร มันกับไก่ฟ้าหงอนทองเย่อหยิ่งมากหวังว่าจะไม่จบด้วยการที่นางฆ่ามันหรอกนะ” อยู่ๆ ภาพอสูรแมงมุมฆ่าเจ้าราชสีห์เพลิงคู่แค้นของมันก็แวบเข้ามาในหัว สาเหตุที่ป่าแห่งนี้ถูกแบ่งเป็น 5 เขตเพราะพวกมันทั้ง 5 ต่างแข็งแกร่งสูสีไม่สามารถตัดสินกันได้ ทำให้ทุกตนต่างอยู่ในเขตของตนเอง นั่นหมายความว่าอสูรแมงมุมที่ฆ่าไก่ฟ้าหงอนทองและยังเกือบจะฆ่ามันได้อย่างง่ายดายสามารถฆ่าราชสีห์เพลิงได้อย่างไม่ยากเย็นเป็นแน่
“ผิดท่าแล้ว...” อยู่ๆ แผ่นหลังของพยัคฆ์อัสนีก็เย็นวาบขึ้นมา มันนึกขึ้นได้ว่าราชสีห์เพลิงไม่รู้จักอสูรแมงมุม หากมันทำตัวผยองเข้าโจมตีอสูรแมงมุมมันคงโดนฆ่าตายในพริบตาแน่ๆ แม้จะไม่ได้รักใคร่กันราวพี่น้อง แต่เจ้าราชสีห์เพลิงก็ไม่ได้เป็นอสูรที่เลวร้ายนัก ทั้งยังแข่งขันกับมันมาตลอด ที่ตนส่งอสูรแมงมุมไปเพราะแค่ต้องการหยอกเย้าเท่านั้นแต่หากมันโจมตีนางจริงๆ ขึ้นมานางคงฆ่ามันไม่ต่างจากที่ทำกับไก่ฟ้าหงอนทองเป็นแน่
วูมมม! แม้จะมีฝีมือทัดเทียมอสูรแมงมุมไม่ได้ แต่เรื่องความเร็วพยัคฆ์อัสนีไม่คิดว่าตนจะด้อยกว่าใคร มันใช้เวลาไม่นานก็ไล่ตามอสูรแมงมุมทัน แต่กว่าจะตามทันก็เข้าเขตแดนของภูเขาดำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตุบ... ตุบ.... อุ้งเท้าของราชสีห์เพลิงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของอสูรแมงมุม เมื่อมีอสูรที่แข็งแกร่งก้าวล้ำเขตแดนย่อมเป็นราชาของเขตแดนนั้นๆ อยู่แล้วที่ต้องออกมาตรวจดูด้วยตนเอง
“เจ้าเป็น เฮ้ย....” ราชสีห์เพลิงยังไม่ทันได้ถามจบ เงาร่างสายฟ้าก็ผ่าวาบเข้าใส่ร่างของมันอย่างไม่ทันตั้งตัว หรือว่าพยัคฆ์อัสนีจะคิดยึดเขตแดนของมันแล้วพาอสูรอีกตัวมารุมมันเพื่อเอาชนะ
“อยู่นิ่งๆ” พยัคฆ์อัสนีคำรามพลางกดร่างของราชสีห์เพลิงเอาไว้ไม่ให้เจ้าไปยุ่งกับอสูรแมงมุม
“เจ้าต้องการอะไร จะมาชิงเขตแดนของข้างั้นเรอะ” ราชสีห์เพลิงไม่ได้สนใจอสูรแมงมุมอีกต่อไป ในเมื่อคู่แค้นของมันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าแล้ว
“ข้าช่วยชีวิตเจ้าต่างหาก” พยัคฆ์อัสนีกล่าวเสียงเข้ม ก่อนจะมองไปทางอสูรแมงมุม พอเห็นว่าราชสีห์เพลิงไม่ได้ขวางนางแล้ว นางจึงเดินต่อไปยังธารลาวาของภูเขาดำอย่างเรื่อยเปื่อย ปกติแล้วอสูรเผ่าแมงมุมแพ้ธาตุไฟอย่างรุนแรง แต่นางกลับเดินในภูเขาไฟราวกับเดินเล่น แม้แต่ธารลาวานางยังเดินเหยียบย่ำอย่างไม่แยแส เล่นเอาราชสีห์เพลิงลอบประหลาดใจ
“นางทำอะไร” ราชสีห์เพลิงถามพลางจ้องมองการกระทำของอสูรแมงมุม ขณะกำลังสงสัยอยู่นั้นอสูรแมงมุมก็เปิดมิติมืดขึ้นมา
ตุบ! รังไหมสีขาวตกลงมาบนพื้น มันมีขนาดใหญ่พอสมควร อาจจะใหญ่พอๆ กับอสูรแมงมุมทั้งตัวเลย
ครืดด! ขาหน้าของอสูรแมงมุมปาดไปบนรังไหมนั่นอย่างรวดเร็วทำให้รังไหมเกิดรอยฉีกขาด
“!!!!!!” บัดนี้ขนทั้งตัวของราชสีห์เพลิงพากันตั้งชูชันไม่เว้นแผงคอของมัน อสูรแมงมุมนั่นจับไก่ฟ้าหงอนทองมายังเขตแดนของตนงั้นเหรอ
“มันยังมีชีวิตอยู่” อยู่ๆ พยัคฆ์อัสนีก็พูดออกมาด้วยท่าทีโล่งใจ ดูเหมือนนางจะแค่จับไก่ฟ้าหงอนทองมาเป็นๆ เท่านั้นไม่ได้สังหาร ทำให้พยัคฆ์อัสนีรีบพุ่งกายออกไปทันที
“อสูรแมงมุม เจ้าอย่าพึ่งปรุงมัน” เห็นพยัคฆ์อัสนีเข้าไปคุยกับอสูรแมงมุมราชสีห์เพลิงกลับแสดงท่าทีงุนงงออกมา นี่มันเรื่องอะไรกัน...
“ทำไม” อสูรแมงมุมถามพลางหันมามองพยัคฆ์อัสนี
“นะ เนื้อของมันไม่ได้อร่อยเท่าไหร่ ข้ากลัวว่าลูกของเจ้าจะไม่ชอบ” พยัคฆ์อัสนีพูดพลางลอบมองรังไหมที่มีหัวของไก่ฟ้าหงอนทองโผล่ออกมา มันยังหายใจอยู่แน่ๆ แต่ไม่ทราบว่าในรังไหมนั่นสภาพร่างกายมันเป็นอย่างไร
“แต่ข้าหาแกะทองคำที่เจ้าพูดถึงไม่พบ แถมเจ้าไก่ตัวนี้ยังมาโจมตีข้าอีก” อสูรแมงมุมพูดพลางโยนร่างของไก่ฟ้าหงอนทองลงกับพื้น ทำให้ราชสีห์เพลิงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาที่ตนไม่ได้เผลอโจมตีนางก่อน
“เรื่องนั้นมันย่อมทำให้เจ้าได้ มันเป็นราชาแห่งสันเขาทองคำมันสามารถหาแกะทองคำมาให้เจ้าได้” พยัคฆ์อัสนีพูดพลางมองไปทางไก่ฟ้าหงอนทอง
“มัน....” อสูรแมงมุมได้ยินเช่นนั้นก็ยกขาหน้าขึ้นกรีดรังไหมออกจากกันจนเผยให้เห็นร่างของไก่ฟ้าหงอนทองภายใน พริบตานั้นทั้งพยัคฆ์อัสนีทั้งราชสีห์เพลิงต่างขนลุกซู่ ขนส่วนอื่นๆ ของไก่ฟ้าหงอนทองถูกถอนออกไปจนหมด หากมันมีขนาดเท่าไก่ปกติคงไม่ต่างจากไก่ที่พร้อมนำมาปรุงอาหารเท่าไหร่ แถมปีกข้างหนึ่งของมันยังถูกตัดขาดไปอีกต่างหาก ไม่เหลือสภาพของราชาแห่งสันเขาทองคำเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าหาแกะทองคำมาได้งั้นเหรอ” อสูรแมงมุมถามพลางก้มลงมองร่างของไก่ฟ้าหงอนทอง มันบาดเจ็บอย่างหนัก แต่พอเห็นดวงตาทั้ง 8 ของนางจ้องมองมายังตนหน้าของมันที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเข้าไปใหญ่
“ดะ ได้...” ไก่ฟ้าหงอนทองพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ตัวของมันสั่นเทาราวกับลูกนกพึ่งออกจากไข่ไม่มีผิด
“ดี” อยู่ๆ อสูรแมงมุมก็วางขาข้างหนึ่งของนางไปบนตัวของไก่ฟ้าหงอนทอง พริบตานั้นปีกของไก่ฟ้าหงอนทองงอกใหม่ราวปาฏิหาริย์ แถมขนทั้งตัวยังงอกออกมาราวกับไม่เคยโดนถอนมาก่อน
“.....” ราชาทั้ง 3 ต่างนิ่งเงียบไป แน่นอนว่าพวกมันรู้วิชารักษาและเวทเยียวยา แต่พลังของอสูรแมงมุมน่าพิศวงอย่างมาก ในหมู่ราชาทั้ง 5 เขตแดนไม่มีใครเลยสามารถใช้วิชารักษาได้น่าเหลือเชื่อเท่านี้ แม้แต่มังกรธรณีก็ต้องใช้ทั้งเวลาใช้ทั้งสมุนไพรเพื่อรักษาไก่ฟ้าหงอนทองให้เหมือนที่อสูรแมงมุมทำเมื่อครู่
“ไปเอาแกะทองคำมาให้ข้า” ได้ยินคำสั่งของอสูรแมงมุม ดวงตาของไก่ฟ้าหงอนทองก็ราวกับกดเล็กลง มันก้มหัวให้อสูรแมงมุมราวกับตำแหน่งราชาแห่งสันเขาทองคำไม่ได้เป็นของมันแต่อย่างไร
“ขอรับนายหญิง” พูดจบไก่ฟ้าหงอนทองก็กางปีกบินไปอย่างรวดเร็ว แม้สายพันธุ์เดิมของมันจะบินไม่ค่อยได้แต่ในเมื่อเป็นสัตว์อสูรแล้วมันย่อมบินได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่อสูรอินทรีที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดบนท้องนภายังบินตามมันตอนนี้ไม่ทัน
วูบ! อึดใจเดียวร่างของไก่ฟ้าหงอนทองก็กลับมาพร้อมแกะทองคำในอุ้งเท้า 2 ตัว
“เชิญขอรับนายหญิง” ไก่ฟ้าหงอนทองส่งแกะทองคำให้นายหญิงของมันด้วยท่าทีเคารพอย่างออกนอกหน้า แต่พยัคฆ์อัสนีและราชสีห์เพลิงต่างไม่ต่อว่ากับท่าทีของมันแม้แต่น้อย มันคงผ่านค่ำคืนอันโหดร้ายมาแน่เพราะแม้แต่ตอนนี้ขนไก่ของมันยังสั่นระริกราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะลงมือทำร้ายตน
“นะ นายหญิง ขนของแกะทองคำนุ่มสบายยิ่งนัก ข้าคิดว่านำมันมาทำเตียงนอนให้นายน้อยคงเป็นความคิดที่ดี” เห็นอสูรแมงมุมจะโยนแกะทองคำลงไปในลาวาของภูเขาดำทั้งๆ อย่างนั้น ไก่ฟ้าหงอนทองจึงรีบห้ามนางเอาไว้ก่อน ปกติการล่าแกะทองคำไม่ได้ล่าเพื่อเนื้อแต่ล่าเพื่อขน เห็นนางจะเผาขนอันมีค่าของพวกมันทิ้งไก่ฟ้าหงอนทองก็อดเสียดายไม่ได้
“เจ้าพูดมาก็ถูก..” ฟึบๆ ๆ เพียงสะบัดขาไม่กี่ครั้งขนสีทองของแกะทองคำก็หลุดออกมาอย่างเกลี้ยงเกลาราวกับบรรจงใช้ใบมีดกรีดขนของแกะทองคำออกมา
ตุบ! หลังจากลอกขนออกจนหมดอสูรแมงมุมก็โยนแกะทองคำลงบนลาวา แต่คำแนะนำให้ใช้ลาวาเพื่อปรุงอาหารมาจากพยัคฆ์อัสนี และมันก็แนะนำเพราะเห็นว่านางจะย่างไก่ฟ้าหงอนทองที่มีพลังคุ้มกายสูงส่ง แต่มันตรงกันข้ามกับแกะทองคำ พวกมันไม่ได้มีพลังคุ้มกันมากมายขนาดนั้น เพียงโยนลงลาวาไม่นานร่างของมันก็ไหม้ดำและเริ่มกลายเป็นเถ้าถ่าน
วูบ! อยู่ๆ ดวงตาทั้ง 8 ข้างของนางก็หันมามองพยัคฆ์อัสนี ทำเอามันสะดุ้งโหยง
“นายหญิง..”ราชสีห์เพลิงที่อยู่ข้างๆ อยู่ๆก็พรวดออกมา ทำให้สายตามุ่งร้ายของอสูรแมงมุมหันมามองที่ราชสีห์เพลิงแทน
“ข้าคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องไฟ ให้ข้าเป็นผู้ปรุงให้แก่นายหญิงเถิด”