ตอนที่ 334 ตราพิฆาตอสูร
แม้หลิน ฮวงจะยอมช่วยหลี่หลาง เขาก็มองหยี่ เยว่หยู่อย่างสับสน เขาคิดว่าหลี่ หลางต้องถูกกระตุ้น ไม่อย่างนั้น เขาคงจะไม่ขอร้องแบบนี้ด้วยตัวเขาเอง หลิน ฮวงเคยกล่าวแต่แรกว่าจะช่วยเขาล่ามอนสเตอร์ไฟชีวิต แต่เขากลับถูกปฏิเสธ หลิน ฮวงไม่คิดว่าหลี่ หลางจะกลับคำพูดมาขอร้องเขาเช่นนี้
“นายเลือกมอนสเตอร์ไฟชีวิตตัวไหน?”หลิน ฮวงถามหลี่ หลาง
“ตอนแรกฉันต้องการคนเถื่อนหนาม แต่ตอนนี้ฉันต้องการอสูรหอกนรก”หลี่ หลางกล่าวอย่างหนักแน่น
“อสูรหอกนรก...”หลิน ฮวงเอ่ยชื่อซ้ำเบาๆ เขาสามารถบอกได้ว่าทำไมหลี่ หลางจึงเลือกมอนสเตอร์ตัวนี้
ประกายไฟของไฟชีวิตจะมาพร้อมกับความสามารถและศักยภาพดั้งเดิมของมอนสเตอร์ และอาจจะมีความสามารถอื่นเหมือนกับความสามารถของฟีนิกส์เพลิงที่ทำให้หยี่ เยว่หยู่ปล่อยไฟออกมาได้ หลิน ฮวงไม่แน่ใจว่ามันจะมาพร้อมกับความสามารถอื่นไหม หลี่ หลางต้องกำลังหาแก่นแท้หอกของอสูรหอกนรกเป็นแน่ แม้จะไม่มีความสามารถอื่น แต่แค่แก่นแท้หอกเพียงอย่างเดียวก็จะช่วยหลี่ หลางพัฒนาความเข้าใจถึงการใช้หอกได้มาก เมื่อเทียบกับคนเถื่อนหนามกลายพันธ์หนึ่งครั้ง อสูรหอกนรกมีระดับที่สูงกว่า
อสูรหอกนรกไม่เพียงแต่จะเป็นปีศาจอันตราย แต่ยังเป็นมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งในร่างมนุษย์ มันถืออาวุธในมือมันและมักจะนั่งอยู่บนจุดสูงสุดท่ามกลางมอนสเตอร์ระดับเดียวกัน มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าอสูรดาบเพลิงที่หยี่ เยว่หยู่ช่วยหลิน ฮวงฆ่าก่อนหน้า บางที มันอาจเป็นเพราะอสูรหอกเพลิงนั้นไกลเกินเอื้อม หลี่ หลางจึงไม่ได้กำหนดมันเป็นเป้าหมายแต่แรก แม้หลิน ฮวงจะไม่รู้ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจของเขา เขาก็ยังตัดสินใจสนับสนุนหลี่ หลางโดยไม่คิดอะไรมาก
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ หลางช่วยเหลือเขายังไงเมื่อปีก่อน หากไม่มีเขา หลิน ฮวงคงไม่สามารถซื้อสิ่งของทั้งหมดที่จำเป็นต่อการประเมินนักล่าสำรองได้ เขาคงจะไม่ประสบความสำเร็จดั่งทุกวันนี้หากไม่มีหลี่ หลาง
“ฉันจำได้ว่านายไม่แม้แต่จะค้นคว้ามิติบรรพกาลนี้ นายแน่ใจนะว่ามีมอนสเตอร์ตัวนั้นอยู่ที่นี่?”หลิน ฮวงกล่าว
“ใช่ แม้ว่าฉันจะไม่ได้ศึกษามิตินี้มา แต่ฉันก็ยังค้นคว้าเกี่ยวกับอสูรหอกนรกมา มันเคยปรากฏในมิตินี้ก่อนหน้า นั่นทำให้ฉันจำได้ แต่ทว่า มันก็ผ่านมา5ปีแล้วนับตั้งแต่ที่มันปรากฏตัว ตอนนั้น อสูรหอกนรกอยู่ในระดับเพลิงขาว แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะเลื่อนเป็นระดับเพลิงแดงรึยัง”หลี่ หลางกล่าวและมองหลิน ฮวง
“หากมันอยู่ในระดับเพลิงแดงแล้ว นั่นคงเป็นโชคร้ายสำหรับฉันและฉันคงต้องไปล่าคนเถื่อนหนามแทน”
“ไม่เป็นไรหรอก เนื่องจากนายได้เลือกมอนสเตอร์ตัวนี้แล้ว ไม่สำคัญว่าจะระดับเพลิงขาวหรือเพลิงแดง ฉันก็จะช่วยนายฆ่ามัน นายจำพิกัดที่มันเคยปรากฏตัวได้ไหม?”หลิน ฮวงถาม
“ฉันจำได้เพียงพิกัดคร่าวๆ”หลี่ หลางยอมรับอย่างอับอาย
“ทำเครื่องหมายให้ฉันดู”หลิน ฮวงฉายแผนที่
หลี่ หลางมองแผนที่สักพักและวาดวงกลมที่ด้านบนขวาของแผนที่
“มันควรจะอยู่แถวนี้”
“ได้ ไปดูกัน”หลิน ฮวงมองเจ้าหน้าที่หน้านิ่งที่อยู่ไกลออกไป เขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าแดง
“ฉันขอแนะนำให้พวกเธอหยุดเสียเวลา การเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเธอคิด ไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์ระดับเพลิงแดง แม้กระทั่งระดับเพลิงขาวก็ยังไม่อาจมองข้ามได้ อย่าคิดว่าเพียงเพราะพวกเธอมีฉันและมีเพื่อนระดับเพลิงขาวอยู่แล้วจะทำอะไรก็ได้”เจ้าหน้าที่คิดว่าพวกเขาตัดสินใจเช่นนี้เพราะพวกเขามีเขาและหยี่ เยว่หยู่
“หากเธอตามเรามา ประกายไฟของนายก็จะหายไป ทั้งคู่ไม่ควรจะตามเราไปในวันพรุ่งนี้”หลิน ฮวงเหลือบมองหน้านิ่งและหยี่ เยว่หยู่
“ไม่เป็นไร”หยี่ เยว่หยู่ยักไหล่
“ฉันไม่เห็นด้วย!ในฐานะพี่เลี้ยง ฉันต้องตามพวกเธอไปทุกที่ที่เธอไป หากเธอทั้งคู่ตัดสินใจที่จะออกกลุ่ม ฉันก็จะตามเธอทั้งคู่ไปเพราะมีคนมากกว่าแทนที่จะคอยตามเธอเพียงลำพัง!”หน้านิ่งปฏิเสธข้อตกลงของหลิน ฮวงโดยไม่ลังเล
“เราไม่ต้องการให้คุณคอยปกป้องเรา”หลี่ หลางขมวดคิ้ว
“ไม่สำคัญว่าพวกเธอต้องการฉันหรือไม่ นั่นเป็นคำสั่งที่ฉันได้รับมา ความไม่เต็มใจของพวกเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันเพียงแค่ทำตามคำสั่ง”หน้านิ่งหงุดหงิด หากไม่ใช่เพราะคำสั่งจากผู้บริหาร เขาก็คงไม่มาตามตูดใครต้อยๆแบบนี้
หลิน ฮวงขมวดคิ้ว เขาไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตามพวกเขาเพราะเขาคือเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลาง หากเขาพบว่าหลิน ฮวงคือผู้ควบคุม ลั่ว หลี่อาจจะได้ยินเกี่ยวกับมันและเธออาจจะพบว่าเขาคือเจ้าของมอนสเตอร์เลือดเทพ หลังจากทุกสิ่ง เธอมีความสามารถในการคาดการณ์ให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงอย่างมาก หากเธอสามารถได้รับข้อมูลเพิ่ม เธอคงจะพบความจริง
“เพียงทำตามคำสั่ง?งั้น นี่ควรจะได้ผล”หยี่ เยว่หยู่หยิบเอาตราสีดำขนาดครึ่งฝ่ามือออกมา มันมีโลหะสีดำนูนซึ่งแกะสลักเป็นรูปหน้าปีศาจและมีคำสองคำที่ด้านหลัง“พิฆาตอสูร”
“ตราพิฆาตอสูร?!”เจ้าหน้าที่ตกใจเมื่อเห็นตรา เขายืนตัวตรงทันทีและก้มหัวให้หยี่ เยว่หยู่
“เนื่องจากคุณรู้ว่ามันคืออะไร งั้นเรื่องราวก็คงง่ายขึ้น ฉันขอสั่งคุณให้ตามฉันระหว่างที่ทั้งคู่กำลังล่ามอนสเตอร์ไฟชีวิต”
“ครับ นายหญิง!”แม้เจ้าหน้าที่จะไม่เต็มใจ เขาก็ไม่กล้าจะพูดกับเธอ
“เป็นอันตกลง!”หยี่ เยว่หยู่ยิ้มให้หลิน ฮวงและหลี่ หลาง
หลังจากที่เจ้าหน้าที่นั่งลงอย่างเงียบๆ เขาก็อดที่จะถามหยี่ เยว่หยู่ไม่ได้“นายหญิง ผมขอถามได้ไหมว่าคุณได้รับตราพิฆาตอสูรมาได้ยังไงครับ?”
“ตระกูลของฉันคือหยี่ หยี่ ตงไล่คือปู่ของฉัน”หยี่ เยว่หยู่บอกความจริงกับเขา
เจ้าหน้าที่ตกใจ ปากของเขาเปิดกว้างอยู่สักพัก
“ท่านปู่เป็นกังวลว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นกับฉันในมิติ ดังนั้นเขาจึงมอบตรานี้ให้ฉัน ฉันจะคืนนี่ให้เขาหลังจากที่ฉันออกไป”หยี่ เยว่หยู่ไม่รู้ว่าตราจะมีประโยชน์มากขนาดนี้
“ตรานี้ทำอะไรได้?”หลิน ฮวงถาม แม้เขาจะรู้เกี่ยวกับสามกองกำลังชั้นนำของรัฐบาลกลาง เขาก็ยังไม่รู้การจัดการภายในของกองกำลัง
“ตราพิฆาตอสูรจัดทำขึ้นโดยรัฐบาลกลางเพื่อมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ คนที่ถือครองตรานี้จะสามารถสั่งเจ้าหน้าที่ที่ระดับต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่มได้ทั้งหมด มันเทียบได้กับคำสั่งจากรองหัวหน้ากลุ่ม”หลี่ หลางอธิบาย
“มันมักจะถูกใช้เมื่อกองกำลังอื่นต้องการความช่วยเหลือของกองกำลังชั้นนำในสงคราม”
“มันจะทรงพลังอย่างมากหากมีคนที่ครอบครองตราของสามกองกำลังชั้นนำ...”หลิน ฮวงคิดกับตัวเขา
หลิน ฮวงรู้สึกโล่งใจหลังจากที่จัดการกับเจ้าหน้าที่ได้ จากนั้นเขาก็หารือรายละเอียดกับหลี่ หลางเพื่อล่าอสูรหอกนรก
“ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูพลังชีวิตนายในวันนี้ เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าเพื่อล่ามอนสเตอร์!”หลินฮวงสรุปหลังจากที่สังเกตสภาพของหลี่ หลาง