GMC ตอนที่ 23 ความบ้าคลั่งเยือกสุดท้าย อ่านฟรีวันที่ 03-09-2018
GMC ตอนที่ 23 ความบ้าคลั่งเยือกสุดท้าย
"ชกที่จุดพลัง"
“ปัง ตูม”
เสียงระเบิดดังขึ้น ซูฮ่าวรู้สึกถึงคลื่นพลังแห่งความอันตรายที่แผ่ออกมาจากกำปั้นของ ซุนเหยาเตี้ยน เขารีบตั้งการ์ดรองรับการชดอย่างเร็วแต่ถึงอย่างนั้นมันยังส่งผลให้ร่างกายของเขาปลิวไปตามแรงหมัดอยู่ดี
“เฮือก”
เขากระอักเลือดออกมา แก้วหูของเขาได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังที่ถูกปล่อยออกมาด้วยเช่นกัน เขาถูกส่งให้ลอยไปและตกกระทบลงพื่้นอย่างรุนแรง
ตุบ
เสียงของซูฮ่าวที่ตกกระทบลงบนพื้นที่แข็ง ห้องฝึกซ้อมต่างก็เงียบไป สำหรับเหล่านักเรียนที่มีความสามารถระหว่าง 6 ถึง 7 จุด นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ที่รุนแรง
เมื่อเทียบกับการจำลองการต่อสู้โดยครูผู้ฝึกสอนของโรงเรียน นี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นที่เรื่องโหดร้ายและรุนแรงกว่า หลังจากการที่สู้ไปสักพักหลายครั้งในที่สุดก็ดูเหมือนว่า ซุนเหยาเตี้ยน จะเป็นผู้ชนะ
หลังจากที่ใช้พลังทั้งหมดของเขาด้วนความสามารถในระดับ 9 จุด
ซูฮ่าวรู้สึกไม่พอใจในตนเอง และเขารู้สึกว่า ซุนเหยาเตี้ยน กำลังเดินใกล้เข้ามาทีละก้าวๆและเหยียบลงบนหน้าอกของ ซูฮ่าว ด้วยเท้าหนึ่งข้างของเขา
"ถึงฉันไม่กล้าฆ่าแก แต่ฉันยังสามารถทำให้แกไม่สามารถสู้ได้อีกต่อไปได้ นอกจากนี้น้องสาวที่รักของแก ฉันยินดีที่จะรับเธอมาเป็นของฉัน นี่เป็นราคาที่แกต้องจ่ายสำหรับการยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงของฉัน "
"หลิงเอ๋อ" จิตใจของซูฮ่าวเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารและอยากจุลุกขึ้นยืนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามร่างกายของเขามีอาการปวดมากจากที่ซุนเหยาเตี้ยนเหยียบไว้และเขาไม่สามารถลุกขึ้นได้
"อิย้า แกยังต้องการที่จะสู้ต่อ" อารมณ์ของ ซุนเหยาเตี้ยน ดูเหมือนจะดีมาก "เลวร้ายที่สุดอย่างมากแกก็จะนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานในโรงพยาบาล จากนั้นเมื่อแกออกมาได้น้องสาวสุดที่รักของแกจะเป็นของฉัน ผิวของเด็กสาวที่มีขาวนวลและพรสวรรค์ของเธอก็ไม่เลว ฉันกำลังไปช่วงสอนเรื่องบนเตียงให้เธอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเธอในเรื่องบนเตียง. "
ร่างกายของซูฮ่าวทั้งตัวสั่นมะท้านไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ขณะมองไปที่การแสดงออกของ ซุนเหยาเตี้ยน พลังแห่งความปรารถนาอันแรงกล้าในใจของเขาได้ปะทุขึ้นจนไม่สามารถระงับได้
"แกคิดว่าทางโรงเรียนจะช่วยอะไรแกได้ ไม่ต้องห่วงทางโรงเรียนจะเข้าข้างฉันอยู่แล้วเพราะครอบครัวซันเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้ นี่คือกฎแห่งรวย กฎหมายของยุคความสามารถตั้งแต่กำเนิด แกคิดจริงๆหรอว่าโลกนี้ๆมีความยุติธรรม แล้วฉันจะบอกอะไรให้คนที่มีพลังอำนาจและอิทธิพลถือเท่านั้นถึงจะเป็นความยุติธรรมที่ใหญ่ที่สุด "
"ฉันจะ.....ฆ่า......แก....." ซูฮ่าวกล่าวด้วยประโยคที่ติดขัด
“โอ้ แกกำลังพูดอะไร”ซุนเหยาเตี้ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงอันสบายใจก่อนจะไปเหยียบที่ศีรษะของซูฮ่าวเขาหัวเราะตรงหน้าซูฮ่าว
"แกพูดไม่ชัดนัก เจ้าลูกที่น่าสงสารเจ้าต้องการจะพูดอะไรงั้นเหรอบอกพ่อของเจ้าคนนี้เร็ว แต่ถ้ามันเกี่ยวกับน้องสาวของเจ้าไม่ต้องกังวล แน่นอนพ่อของเจ้าคนนี้จะดูแลเธออย่างดี "
"ฉัน ... ว่า ...... " ซูฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นการหายใจของเขาก็คงที่ "ฉันว่าฉันจะฆ่าแกกกกก"
วิบ
ตาของซูฮ่าวกระพริบ ซุนเหยาเตี้ยนรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อันตราย เขากำลังประสบกับความกลัวและกำลังจะถอยออกมา แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ซูฮ่าว เผยรอยยิ้มที่น่ากลัวและรวมพลังของเขา ก่อนที่พลังเยือกสุดท้ายของเขามุ่งไปที่มือขวาของเขา และเล็งดวงตาทั้งสองข้างของ ซุนเหยาเตี้ยน และจิ้มไปที่มัน
เสื้อเกราะเหล็กสามารถช่วยปกป้องร่างกายของคุณได้ แต่มันจะป้องกันดวงตาของคุณได้งั้นเหรอ
"ปุบ"
ในระยะใกล้ ซูฮ่าว ได้เกรงนิ้วมือของเขาและด้วยจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ของเขา มันได้ยินเสียงที่ดังและชัดของ Kacha(แปลว่าไร)
"อ่า อ่า ย้า อ้าาาา"
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชไปทั่วห้องฝึกซ้อม ซุนเหยาเตี้ยน ที่โดน ซูฮ่าวจิ้มไปที่ตา เป็นอีกครั้งเขานอนลงกับพื้น ซุนเหยาเตี้ยน กลิ้งไปมาอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดพร้อมส่งเสียงกรีดร้องของเขาออกมาตลอด
นักเรียนทุกคนที่อยู่ใโดยล้อมตะลึงกับฉากดังกล่าว มันเป็นสิ่งที่น่าขนลุก สิ่งที่เกิดขึ้นตรงน่านี่มันอะไรกัน
มีเรื่องอะไรกันที่ซุนเหยาเตี้ยนพูดกับซูฮ่าว จนทำให้เขาโกรธจนเหมือนสุนัขบ้าคลั่ง
ซูฮ่าว ด้วยอาการบาดเจ็บที่หนักดังกล่าว ถึงกับใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีเพื่อ จิ้มไปที่ดวงตาของซุนเหยาเตี้ยน มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำที่สุด แล้วสิ่งใดกันที่ทำให้ซูฮ่าวถึงกับต้องทำสิ่งนี้
การต่อสู้นี้ของนักเรียนทั้งสองคนอาจกลายเป็นการต่อสู้ที่ถึงชีวิต
อย่างไรก็ตามทุกคนรู้สึกถึงความหนาวเหน็บบางอย่างในใจของพวกเขา ความคิดที่ถูกตราตรึงลงลึกในใจไปในหัวของพวกเขาคือพวกเขาไม่ควรไปทำอะไรที่ทำให้ซูฮ่าวระคายเคือง
“ฮ่องกง”
ด้านล่างของเวที ซุนเหยาฮุ่ยที่กำลังเฝ้าดูการต่อสู้อยู่อย่างฉับพลันก็วิ่งออกมาจากฝูงชน เขารีบวิ่งไปที่ด้านข้างของ ซุนเหยาเตี้ยน ที่กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ปัง ปัง ด้วยสองครั้งทำให้ซุนเหยาเตี้ยนสลบไป หลังจาดตรวจสอบบางอย่างเขาก็โล่งใจ จากนั้นเขาก็ป้อมยาบางอย่างให้กับ ซุนเหยาเตี้ยน ในที่สุด ซุนเหยาเตี้ยน ไม่ได้ดิ้นรนอย่างความเจ็บปวดอีก
ซุน เหยาฮุ่ย รีบพาเขาไปหาชายวัยกลางที่ด้านล่างเวที "ลุงหลี่นำเตี้ยนเอ๋อ ไปรักษาโดนเร็วมันยังคงรักษาให้หายได้"
"ได้ นายน้อย"
ลุงลี่ ยังตกใจกัยสถานการณ์ที่เกิดขึ้ยอยู่ตรงหน้าและด้วยความเกลียดชังที่มากมายจ้องมองที่ซูฮ่าวซึ่งกำลังนอนอยู่บนเวที เขานำงร่างของ ซุนเหยาเตี้ยนและ รีบเดินออกจากห้องฝึกซ้อม
ซุนเหยาฮุ่ย หันไปรอบๆก่อนจ้องมองที่ซูฮ่าว ด้วยสายตาอันน่ากลัว เขาก้าวไปข้างหน้าได้ยินเสียงก้องกังวานของเท้าที่เดินในห้องซ้อม ร่างของเขาราวกับถูกออร่าบางอย่างปกคลุกไว้
เขาบังเอิญก้าวไปและได้เห็นบางอย่าง นั่นคือดวงตาที่ถูกทำลายของซุนเหยาเตี้ยน 1 ดวง
“ซูฮ่าว”
ซุน เหยาฮุ่ย ตะโกนคำทั้งสองนี้ในขณะที่ขบฟันของเขาไปด้วย เขาจ้องไปที่ซูฮ่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลนักบนเวที เขารีบวิ่งออกไป
ซูฮาวมองเห็นการโจมตีที่กำลังเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ทำอย่างใด
ในความเป็นจริงแม้ว่าเขาจะต้องการขยับร่างกายของเขาแต่มันก็ไม่ฟังเขา เขาทำได้เพียงล้มตัวลงนอนบนเวที เขามองซุน เหยาฮุ่ย ที่กำลังรวบรวมพลังอย่างบ้าคลั่ง เขาเหมือนกับ วัวที่กำลังโกรธ
โอ้วัว ในเวลาเช่นนี้ฉันยังคงคิดถึงเรื่องนี้ได้
ซูฮ่าว ประหลาดใจและต้องการหัวเราะ
ซุน เหยาฮุ่ย ชกหมัดลงบนศีรษะของซูฮ่าว เขาค่อยๆหลับตาลง นี่คงเป็นจุดจบของฉันแล้วสิ เฮ้อ..
ซูฮ่าวรู้สึกถึงลมหนาวเย็นบางอย่างอยู่ข้างหู เขาได้ยินเสียงดังและน่าหวาดกลัวว่า "หายไปซะ"
“วิ้ง”
ช่วงเวลาต่อมามีไอเย็นของน้ำแข็งกระจายไปล้อมห้องโถงฝึกซ้อม ทั่วทั่งร่างกายของซูฮ่าวรู้สึกถึงความเย็นที่หนาวมาก แต่ก็ยังมีความอบอุ่นตามมาด้วย เมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็เห็นตัวเองตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเฉิน เยวี่ย ที่กำลังมองเขาอย่างเป็นห่วง
"ซูฮาว นายสบายดีไหมตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง" เฉิน เยวี่ย ถามด้วยน้ำเสียงที่โศกเศร้าและเป็นห่วง หลังจากที่ ซูฮ่าว ต้องทนทุกข์ทรมานจากการโจมตีของ ซุน เหยาเตี้ยน เป็นอีกครั้งที่เธอมีความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นในใจของเธอ
มุมของปากของซูฮ่าวยิ้มออก "นุ่มมาก ... "
สายตาของ เฉินเยวี่ย จ้องไปที่เขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอมองลงไปเธอก็พบว่าเธอวางหัวของซูฮ่าวไว้ที่อกและชายคนนี้กำลังสบายอยู่อย่างนั้น
ใบหน้าสีขาวของเฉินเยวี่ย หัเปลี่ยนเป็นสีแดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็จัดตำแหน่งซูฮาวใหม่และหยิบขวดยาฟื้นขึ้นมาให้เขา "อย่าพึ่งพูด นอนพักผ่อนไปก่อน "
“เธอดีต่อฉันมาก เฉิน เยวี่ย”
ซุน เหยาฮุ่ย เกือบจะเป็นบ้า " เด็กคนนี้ทำลายดวงตาของน้องชายคนเล็กของฉันและเธอยังคบชู้อย่างเขาอีก อย่าลืมว่าเธอเป็นคู่หมั้นของ ซุนเหยาเตี้ยน "
เมื่อจบประโยคนี้ทั้งห้องโถงซ้อมต่างก็ตกใจ ถ้า เฉิน เยวี่ยคือคู่หมั้นของ ซุนเหยาเตี้ยน ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะสิ่งที่ซูฮ่าวทำกับเขาคือการสวมหมวกสีเขียนให้ (ถ้าคนเคยอ่านเรื่องอื่นๆมันจะมีอธิบายมาแล้วว่าแปลว่ายังไง)
เฉิน เยวี่ย มองเขาราวกับมองคนบ้าและพูดเบา ๆ ว่า "คำพูดเหล่านี้ของคุณมันจะทำให้ชื่อเสียงของนายเลวร้ายลง ถ้าไม่ใช่เพราะ ซุนเหยาเตี้ยน ทำตามแผนของนายที่จะวางแผนทำลายซูฮ่าวมันคงไม่เป็นเช่นนี้"
"กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ คนที่ทำร้ายน้องชายตัวน้อยของคุณคือตัวคุณเอง!"
"เธอ"
สายตาของ ซุนเหยาฮุ่ย เต็มไปด้วยความโกรธ "เธอคิดว่าเธอมีความสามารถพอที่จะช่วยชีวิตเขา"
ซุนเหยาฮุ่ย พุ่งตรงไปที่ ซูฮ่าว อีกครั้ง ร่างของเขาเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ซึ่งทำให้ผู้คนไม่สามารถตอบโต้ได้ การแสดงออกของเฉินเยวี่ย เต็มไปด้วนความหนักใจ ไอเย็นที่ปล่อยออกมาจากมือขวาของเธอราวกับปีกนก คริสตัลน้ำแข็งปรากฏบนมือของเธอ เสียงของคริสตัลน้ำแข็งรวมเข้าด้วยกันและสร้างกำแพงน้ำแข็งในระยะ 5 เมตร
"ถ้าแกกล้าเข้าใกล้ฉัน ฉันจะฆ่าแกโดยไม่ลังเลเลย" เสียงเบา ๆ ของ เฉินเยวี่ย สะท้อนอยู่ในห้องซ้อม
ร่างขอซุนเหยาฮุ่ยหยุดลง เขาสังเกตุนัยน์ตาของเฉินเยวี่ย เขารู้ว่าถ้าเขาก้าวไปข้างหน้าเฉิน เยวี่ยเอาจริงแน่
เฉิน เยวี่ย เขาไม่กลัว แต่เฉิน เฟิง
"ดี จะได้เห็นดีกัน ฉันจะไปเอาคำอธิบายจากครอบครัวเฉินอย่างแน่นอน" ซุนเหยาฮุ่ยกล่าว เขาหันหน้าและเดินลับสายตาไป นักเรียนที่อยู่ด้านล่างเวทีทีละคนๆรีบเปิดเส้นทางให้เขาเดินผ่านไปด้วยความกลัวในจิตใจของพวกเขา
ซูฮ่าวมองไปที่หน้าไซึ่งสวยงามมากจนทำให้หัวใจของเขากะสับกะส่ายและยิ้มออกมา "ทำไมเธอต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้"
เฉิน เยวี่ย วางเขาไว้บนต้นขาของเธออย่างระมัดระวังและค่อย ๆ ขยับตัวของเขา
"ในช่วงสองปีที่ผ่านมานายเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฉัน นายและซุนเหยาเตี้ยนไม่ควรข้ามเส้นของกันและกัน เป็นเพราะฉันเลยทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ดังนั้นฉันควรจะเป็นคนที่รู้สึกผิด "
"ถ้าเราข้ามเส้นกันและกันละ" ซูฮ่าวกระซิบ
"เอ๋" เฉิน เยวี่ย ลดหัวของเธอลง เป็นสัญญาณว่าเธอไม่เข้าใจคำพูดของซูฮ่าว
"ถ้าฉันรักเธอจริงๆล่ะ" ซูฮ่าวมองไปที่เธอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแสงสว่างอย่างไม่เคยมีมาก่อน
การเคลื่อนไหวของมือที่เรียบเนียนของ เฉินเยวี่ย ซึ่งกำลังนวดอยู่ในขณะนี้ก็หยุดชั่วคราว เธอนึกถึงเรื่องเมื่อ 2 วันก่อน คำสารภาพที่ล้อเล่นของ ซูฮ่าวและการกระทำของเขาเมื่อเช้านี้แน่นอนว่ามันเป็นไปได้
ถ้าเธอไม่ชอบเขา ไม่ว่าความสัมพันธ์จะใกล้ชิดกันมากแค่ไหน เธอคงไม่ยอมเขามากขนาดนี้
ทั้งขโมยจูบแรกของเธอมันทำให้เธอไม่พอใจ
ไม่ ไม่ใช่เลย
เป็นครั้งแรกที่เฉิน เยวี่ยn เผชิญกับความรู้สึกภายในใจจริงๆของเธอ
เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอได้พ่ายให้กับซูฮ่าวแล้ว มันเป็นคำสารภาพรักอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ ซูฮ่าว แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดีเนื่องจากปัญหาที่มาจาก ไวเปอร์ ยังคงอยู่
เนื่องจากเรื่องนี้ทำให้ ไวเปอร์ และ ซุนเหยาเตี้ยน วางแผนนี้ ดังนั้นควรรอให้ไวเปอร์จากเมืองนี้ไปก่อนจึงดำเนินเรื่องนี้อีกที แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ล่ะ......
ซูฮ่าว เขาจะทนรอได้งั้นเหรอ
ในฐานะที่เป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน เธอมีเกียรติ มีความภาคถูมิใจและความมั่งคั่ง แต่ด้วยเหตุนี้เธอจึงสูญเสียอิสระในการตัดสินใจทำเรื่องต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆในชีวิตเธออย่างนความรัก เธอก็ต้องพิจารณาหลาย ๆ อย่าง
หลังจากรอสักครู่และยังไม่ได้รับคำตอบ ซูฮ่าว ไม่ต้องการทำอะไรให้เธอลำบาก
"ฉันรู้คำตอบแล้ว"
ซูฮาวพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแแรงก่อนหมดสติไป
"ซูฮ่าว" เฉิน เยวี่ย รู้สึกเสียใจ "เจ้าโง่ "
เธอดิ้งร่างของซูฮ่าวซึ่งปกคลุมไปด้วยโลหิต เธอลงจากเวทีพร้อมกับเสื้อผ้าสีขาวของเธอ เธอหันกลับไปด้วยออร่าไอเย็นของเธอ ทำให้นักเรียนที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ถอยห่างและไม่กล้ามาใกล้เธอ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่สำคัญว่าเหตุการณ์ใดมันจะแพร่กระจายออกไปอย่างแน่นอน มันจะเป็นข่าวที่ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
ขณะที่เฉิน เยวี่ย เดินออกจากห้องซ้อม เหตุการณ์เหล่านี้ซึ่งอาจทำให้ทั้งเมือง เจียงฮี ได้รู้ความจริงกันอย่างแน่นอน
ติดตามผลงานผมได้ที่ เพจฝึกหัดแปลนิยาย