ตอนที่ 186 เหยียน ซิว ตกอยู่ในอันตราย (FREE)
...
ในโรงเรียนหลวง ฮัน ฉางเฟิง และ ราชาต้วนดูอึดอัดเมื่อมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง บนภาพ
พวกเขารู้ดีว่า ปิง หยาง นั้นมีชุดเกราะเปลวเพลิงและหอกฉีหลิน อยู่ในมือ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มีผลกระทบอย่างมากกับการทดสอบการต่อสู้
ทั้งเวลา และ คน ...
ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณของพวกเขา ยกเว้น ปิง หยาง
พวกเขาพอเดาได้ว่า ปิง หยาง จะแอบเข้ามาในโลกแห่งเซียนอย่างไรก็ตามพวกเขาคิดว่านางเข้ามาเพื่อลองใช้อาวุธกับชุดเกราะใหม่เท่านั้น พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่านางจะร่วมทีมกับ ฟาง เจิ้งจือ
องค์หญิงนั้นอยากเข้าร่วมกับ ฟาง เจิ้งจือ แย่ที่สุดคือนางแม้กระทั่งไปตามหาคนที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ ...
ตอนนี้ นางกำลังร่วมมือกับ ฟาง เจิ้งจือ เพื่อต่อสู้ 4 ต่อ 1
ไม่มีใครคาดการณ์เรื่องนี้ได้
องค์ชายที่ 9 ที่นั่งอยู่ข้างๆราชาต้วนและ ฮัน ฉางเฟิง สับสน ปิง หยาง ไม่ได้เกลียด ฟาง เจิ้งจือ งั้นหรือ?
ตอนงานวันเกิด นางยังขอคำแนะนำจากเขาอยู่เลย...
เกิดอะไรขึ้น?
...
ในโลกแห่งเซียน
การแสดงออกของ หวัง ฉวนปิง เองก็เปลี่ยนไป เขาไม่มีทางเลือก ไม่ถอนตัวก็ร่วมมือกับ ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้กับ ซู ตงหลิน
มันไม่ใช่ตัวเลือกที่ยาก
ทางเลือกแรกเขาต้องรออีก 2 ปี อีกทางเขาสามารถต่อชีวิตไปได้ตอนนี้
"ขอบคุณ นายน้อยฟางมาก สำหรับโอกาส! ขอบคุณองค์หญิง ปิง หยาง! ขอบคุณนายน้อยเหยียน! " หวัง ฉวนปิง ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกดาบคู่ยักษ์ขึ้นมา
เมื่อตอนสู้กับ ปิง หยาง เขาไม่ได้หยิบอาวุธออกมาก่อน เมื่อ ปิง หยาง เอาอาวุธพุ่งมาที่เขา มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ เขาไม่ลังเลที่จะหยิบอาวุธออกมา
เขาต้องสู้กับ ซู ตงหลิน ต้องใช้ทั้งหมดที่มี
เหยียน ซิว เองก็ยกพัดขึ้นมาเช่นกัน
ปิง หยาง รู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ ขณะที่ก้าวไปหา ซู ตงหลิน
สำหรับ ฟาง เจิ้งจือ เขาค่อยๆเดินไปหา ซู ตงหลิน พร้อมยิ้มออกมา
"นายน้อยซู ข้าขอโทษ!"
"หึ, ฟาง เจิ้งจือ ! ขอโทษตัวเองซะเถอะ? " ดวงตาของ ซู ตงหลิน ส่องเป็นประกายระยิบระยับ ทั้งๆที่โดนล้อมอยู่
1 ต่อ 4
2 คนที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นต้น ปิง หยาง ที่มีสมบัติอยู่ในมือ และ เหยียน ซิว ที่ถือพัดภูเขาและแม่น้ำอยู่ในมือ
สำหรับ ซู ตงหลิน เขายังมีโอกาสชนะอยู่..
แต่โอกาสที่น้อยมาก
แต่นี่เป็นแค่การทดสอบระดับจักรพรรดิ ไม่ใช่การฆ่ากันเอาเป็นเอาตาย โอกาสของ ซู ตงหลิน จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขาไม่จำเป็นต้องจัดการทั้ง 4 คน
เขาต้องการแค่คนเดียว
ตราบใดที่เขาสามารถจัดการคนหนึ่งได้ เขาสามารถเข้าไปสู่รอบที่ 2 อย่างง่ายดาย
จากนั้นเขาก็ค่อยวางแผนล้างแค้น ...
ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา!
"ดังนั้นใครควรจะถูกกำจัดคนแรก?" ซู ตงหลิน มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และหันไปมอง เหยียน ซิว สุดท้าย เขาตัดสินใจเลือก เหยียน ซิว
เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว
เหยียน ซิว นั้นอ่อนแอมากที่สุด และเป็นคนที่ ฟาง เจิ้งจือ สนิทด้วยมากที่สุด มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
แต่...
เหยียน ซิว อ่อนแอที่สุดจริงๆงั้นหรือ?
ซู ตงหลิน คิดอย่างนั้น ทุกคนเองก็เช่นกัน รวมถึง ปิง หยาง และ หวัง ฉวนปิง ที่คิดว่า เหยียน ซิว อ่อนแอที่สุด
แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดอย่างนั้น
แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว
คนแรกที่โจมตีคือ ปิง หยาง
ก่อนที่คนอื่นๆจะเห็นทั่วพื้นที่ชัดเจนด้วยซ้ำ ปิง หยาง โจมตี หอกเปลวเพลิง ฉีหลิน เผาไหม้อากาศรอบๆ ก่อนที่แสงสีทองจะพุ่งไปหา ซู ตงหลิน
มันเป็นการโจมตีที่เหมือนกับตอน หวัง ฉวนปิง
อย่างไรก็ตาม ซู ตงหลิน ไม่ใช่ หวัง ฉวนปิง เขาอยู่ในระดับที่สูงกว่านั้น และเป็นหนึ่งในศิษย์หลักของสำนักซู
ที่สำคัญคือ หวัง ฉวนปิง ไม่รู้ว่า ปิง หยาง มีหอกนอกจากนี้เขาไม่ได้รักษาระยะห่างจาก ปิง หยาง
แต่ ซู ตงหลิน นั้นรู้
เช่นนี้เขาจึงหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
เมื่อ ปิง หยาง โจมตี ซู ตงหลิน ก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาขยับตัวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ราวกับเขาคาดการณ์การโจมตีได้ทั้งหมด...
ความจริง ต้องบอกเขาเป็นสายฟ้ามากกว่า
สายฟ้าสีม่วงคลุมร่างกายของเขา
เขาเป็นราวกับงูสีม่วงตัวหนึ่ง เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครมองเห็นเขาชัดเจน
ไม่มีใครสามารถตามความเร็วของเขาได้ทัน
ในพริบตา ซู ตงหลิน ก็หลบการโจมตีของ ปิง หยาง ได้ ก่อนจะพุ่งไปหน้า เหยียน ซิว อย่างรวดเร็ว
ผู้ที่เฝ้าดูทุกคนไม่มีโอกาสให้หายใจด้วยซ้ำ
ดวงตาของ ซิง ฉิงซุย ลุกเป็นไฟ ขณะมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่าทีของเขาเคร่งเครียดลงพร้อมกับคิดว่าถ้าเป็นตัวเองจะหลบการโจมตีนี้ยังไง
นอกจากนี้ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ในกลุ่มฝูงชน
เขาอยู่ในความสงบเป็นอย่างมาก แม้เขาจะเห็นความเร็วอันน่าตกตะลึงของ ซู ตงหลิน ก็ตาม ท่าทีขงเขายังเป็นเช่นเดิม
เสื้อและชุดเกราะของเขานั้นดูเหมือนผ่านวันเวลามาแสนยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่อยู่รอบๆเขานั้นต่างรักษาระยะห่างโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาคือ หนานกง มู่ น้องชายของ หนานกง เฮา
...
ความคิดของ ซู ตงหลิน นั้นเรียบง่าย
เขาต้องการจัดการ เหยียน ซิว ก่อนที่ เหยียน ซิว จะมีโอกาสได้ตอบโต้ นี่คือความแตกต่างระหว่างระดับพลัง เขาไม่คิดจะให้ เหยียน ซิว มีโอกาสได้ใช้ เขตแดนภูเขาและแม่น้ำ
นี่เป็นเพียงรอบแรกของการทดสอบเท่านั้น
เขาไม่คิดจะใช้เวลาและพลังงานมากเกินไป ในการต่อสู้ 1 ต่อ 4 เขายังต้องเดินทางไปอีกอย่างไกล เป้าหมายของเขาคือ อันดับแรกเท่านั้น
ตอนนี้ ซู ตงหลิน อยู่ข้างหน้า เหยียน ซิว แล้ว ไฟฟ้าสีม่วงระเบิดออก
ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูง เขาสามารถจัดการกับสิ่งรอบๆตัวเขาได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าสายฟ้ารอบๆตัวเขาเกิดขึ้นมาได้ยังไง แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เขาสามารถสร้างมันออกมาได้
เขาสามารถสร้างสายฟ้าสีม่วงขึ้นมาละควบคุมมันได้
หอกของ ปิง หยาง ก็ทำงานเช่นเดียวกัน
รวมถึงหมาป่าเพลิงฟ้า
เนื่องจากความเร็วของเขานั้นสูงมาก ทำให้ร่างกายของเขาเสียดสีกับอากาศจนเผาไหม้ อย่างไรก็ตาม ไฟนี้เทียบไม่ได้กับ ไฟของหอกเปลวเพลิงฉีหลิน
ไฟฟ้านั้นสามารถทำให้คนเป็นอัมพาตชั่วคราว นอกจากนี้ความเร็วก็เป็นรองเพียงลม เป็นเหตุผลที่ทำไม ซู ตงหลิน ถึงเลือกใช้สายฟ้า
ภายในพายุไฟฟ้าสีม่วง งูอัศนีย์พุ่งไปทาง เหยียน ซิว ก่อนที่มันจะคลุมไปทั่วตัว เหยียน ซิว ราวกับสายฟ้าที่ผ่าใส่เสาล่อฟ้า
ดวงตาของ ซู ตงหลิน เป็นประกาย เขารู้ดี เมื่อไฟฟ้าล้อมรอบตัวของ เหยียน ซิว นั่นหมายความว่าทุกอย่างจบลงแล้ว
เหยียน ซิว จะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
แต่เขาสามารถทำได้
"เจ้าแพ้แล้ว!" ซู ตงหลิน หยิบกระบี่ออกมา
เมื่อกระบี่เคลื่อนไหว ที่ปลายของมันก็ลากเงาดำไปด้วย ราวกับภาพที่ถูกขีดเขียนเพราะปลายกระบี่
ทั่วอากาศเต็มไปด้วยรอยสีดำ
"นี่เป็นวิชาของสำนักซู กระบี่เงา!"
"ซู ตงหลิน ต้องการจัดการ เหยียน ซิว ก่อน?!"
"เร็วมาก ... ตอนแรกเขาใช้สายฟ้าเพื่อตรึงให้ เหยียน ซิว อยู่กับที่ และใช้วิชากระบี่เงาเพื่อเจาะทะลวงการป้องกันของ เหยียน ซิว!"
"ข้าเข้าใจแล้ว ซู ตงหลิน ต้องการจะจัดการ เหยียน ซิว เพื่อไปสู่รอบที่ 2 ให้เร็วที่สุด !"
เมื่อ ซู ตงหลิน ดึงกระบี่ออกมา ทุกคนนั้นรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครมีโอกาสที่จะช่วย เหยียน ซิว
เหยียน ซิว นั้นอยู่ในเขตแดนสนามไฟฟ้าแล้ว ภายใต้อิทธิพลของมัน เขาจะมึนงงและถึงแก่ความตายในที่สุด
นี่คือความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างระดับสะท้อนสวรรค์และระดับผนวกดารา
เห็นได้ชัดเจนจากเขตแดนนั่น!
ผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์นั้นสามารถควบคุมเขตแดนได้หลากหลาย สามารถใช้มันทั้งโจมตีและป้องกัน ที่สำคัญสามารถใช้มันเพื่อหักล้างกันหรือเพื่อแทรกแซงได้
ไม่ว่าผู้ที่อยู่ในระดับผนวกดาราจะมีพลังมากเท่าไร แต่มันก็ยากที่จะนำพลังของเขาออกมาใช้ในเขตแดนของคนอื่น
และคนที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในเขตแดนของตนเอง
รวดเร็วยิ่งขึ้น แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เขตแดนสนามไฟฟ้า รวมกับวิชากระบี่เงาของสำนักซู
ไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยงได้
ทุกคนต่างคิดเช่นนั้น รวมถึง ซู ตงหลิน, ปิง หยาง รวมถึง หวัง ฉวนปิง
คนเดียวที่ไม่คิดอย่างนั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ
เงากระบี่มากมายพุ่งไปทาง เหยียน ซิว
เหยียน ซิว หลบ
ขณะที่เขาถูกขังอยู่ในสายฟ้าสีม่วง เขาเคลื่อนไหวด้วยวิชาเงาสายลม และหลบการโจมตีจาก ซู ตงหลินได้
ซู ตงหลิน ไม่อยากเชื่อสายตาของเขา
"มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!"
ผู้เข้าสอบคนอื่นๆก็ไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง ทำไม เหยียน ซิว จึงไม่ถูกทำให้มึนงงเพราะสายฟ้า มันเป็นไปไม่ได้
ไม่สมเหตุสมผลเสียเลย
มันเหมือนกับที่หนูตัวหนึ่งถูกขังอยู่ในกล่อง ไม่มีทางหนี ไม่มีทางหลบเลี่ยงได้
เว้นแต่...
ความคิดบางอย่างเกิดขึ้นมาในใจของพวกเขา แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ปากของพวกเขาค่อยๆอ้าค้าง ฉากที่เกิดขึ้นต่อไปไม่น่าเชื่อเลยแม้แต่น้อย
เพจหลัก : Double gate TH