ตอนที่ 116 จูบนั้น
ตอนที่ 116 จูบนั้น
ใบหน้าของหยางไค่ตื่นตระหนกอย่างมาก
เขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะแปรเปลี่ยนอย่างกะทันหัน แม้ว่าเขาจะเคยทดสอบการดูดซับพลังของกระดูกทองคำว่านอกจากพลังหยานมันยังสามารถดูดซับพลังอื่นๆ และกักพลังเหล่านั้นไว้ในกระดูก แต่ทำไมตอนนี้มันถูกดูดซับพลังหยินแห่งผลึกน้ำแข็งนพเก้าไปกว่าครึ่ง ? นอกจากนั้นความเร็วของมันรวดเร็วจนน่าตกใจ
สมบัติชิ้นนี้เป็นสิ่งที่เซี่ยหนิงฉางต้องการ แล้วเขาควรจะทำอย่างไร ?
หยางไค่หันหน้ากลับไป ใบหน้าของเขาค่อนข้างอึดอัด และไม่รู้ว่าเขาจะเปิดปากอธิบายต่อเซี่ยหนิงฉางได้อย่างไร แต่ทันใดนั้นกลิ่นหอมของเซี่ยหนิงฉางได้ลอยมายังด้านหน้าของเขาอย่างกะทันหัน
ขณะนี้ แก้มของศิษย์ตัวน้อยกลายเป็นสีแดงก่ำ นางสูดลมหายใจอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่บริสุทธุ์ไร้เดียงสาของนางเต็มไปด้วยความว้าวุ่นและความเขิลอาย
ศิษย์น้อง.....เจ้าอดทนไว้ ทันใดนั้นเซี่ยหนิงฉางอ้าปากของนาง นางค่อยๆยื่นมือออกไปดึงคอของหยางไค่และค่อยๆโน้มศีรษะของหยางไค่ลงมาหานาง
มือของนางค่อนข้างเย็นเฉียบ แต่มันอ่อนนุ่มราวกับไม่มีกระดูก เสมือนเกล็ดหิมะแรกในฤดูหนาว นำพามาซึ่งความรู้สึกที่เย็นสบายให้แก่หยางไค่
เซี่ยหนิงฉางยืนบนปลายนิ้วเท้า นางหลับตาแน่น ขนตาที่ยาวสลวยของนางกระพริบไปมาอย่างไม่ปกติ จากนั้นนางจึงเปิดผ้าคลุมหน้าของตนเอง เอียงศีรษะเล็กน้อย และใช้ริมฝีปากสีแดงเสมือนอัญมณีที่ล้ำค่าประทับไปยังปากของหยางไค่
ริมฝีปากที่อ่อนนุ่ม และยังมีกลิ่นหอมหวานที่มีเสน่ห์ของหญิงสาวอยู่เหนือปลายจมูกของหยางไค่
หยางไค่ตื่นตะลึงจนตัวแข็ง
ในเวลานี้ หยางไค่เข้าใจในทันทีว่าทำไมในขณะที่เขากล่าวถามวิธีการในการเก็บเกี่ยวผลึกน้ำแข็งนพเก้า เหรัญญิกเม้งและเซี่ยหนิงฉางคอยบ่างเบี่ยงและไม่ยอมกล่าวตอบแก่เขา
เดิมทีหยางไค่ไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของมัน แต่ในเวลานี้หยางไค่เข้าใจอย่างชัดเจน
สมบัติแห่งฟ้าสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ มีวิธีการเก็บเกี่ยวที่แปลกประหลาดหลายร้อยหลายพันวิธี สมบัติแห่งฟ้าสวรรค์ที่มิจิตวิญญ้านล้วนมีวิธีที่แตกต่างในการควบคุมมัน และวิธีการการเก็บผลึกน้ำแข็งนพเก้า คือการจูบที่หอมหวาน !!
เมื่อริมฝีปากทั้งคู่เชื่อมประสานกัน ลมหายใจของหยางไค่เริ่มหนักหน่วงยิ่งขึ้น ลำคอของเขาเหือดแห้งและร้อนระอุในทันที แม้ว่าในปากของเขาจะมีผลึกน้ำแข็งนพเก้าที่เยือกเย็น ก็มิอาจที่จะสามารถระงับเลือดที่เดือดพล่านอย่างรุนแรง
เซี่ยหนิงฉางอยู่ในสถานะที่แย่กว่า เมือริมฝีปากของนางประกบกับหยางไค่ร่างกายของนางยืนนิ่งเสมือนรูปปั้นที่แข็งทื่อโดยไม่มีการเคลื่อนไหว ใบหน้าของนางแดงก่ำ หัวใจเต้นระรัวอย่างรุนแรง นางยื่นนิ่งอยู่เช่นนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจิตใจของนางกำลังวุ่นวายผกผันอย่างรุนแรง
แม้ว่าหยางไค่จะไม่ทราบวีธีการและรายละเอียดเกี่ยวกับเก็บรวบรวมผลึกน้ำแข็งนพก้า แต่เขารู้ดีหากว่ายังอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
หยางไค่ไม่กล้าที่จะชักช้า มือของเขาโอบเอวของเซี่ยหนิงฉางและดึงนางเข้าสู่อ้อมกอดของตนเอง จากนั้นเขาได้ใช้ลิ้นห่อหุ้มผลึกน้ำแข็งนพเก้าและเปิดปากและฟันของเซี่ยหนิงฉางออกจากนั้นจึงส่ง่ผลึกน้ำแข็งนพเก้าเข้าไปในปากของนางทันที
เมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเยือกเย็นของผลึกน้ำแข็งนพเก้า ในที่สุดเซี่ยหนิงฉางได้ฟื้นคืนสติและความรู้สึกของนาง และรับรู้ว่าตนเองต้องรับผลึกน้ำแข็งเข้ามาและกลืนมันลงไป
ความรู้สึกหวานละมุนที่ปลายลิ้นของพวกเขาทั้งสองครุ่กกรุ่นอยู่ในปากตลอดเวลา ร่างกายของพวกเขาทั้ง 2 เริ่มใกล้ชิดและแนบแน่นกันมากขึ้น ร่างกายส่วนล่างของหยางไค่เริ่มแข็งขันมากขึ้น ความรู้สึกของเขาเริ่มเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ เลือดของเด็กหนุ่มที่เร่าร้อน จะสามารถทนต่อการกระตุ้นเช่นนี้ได้อย่างไร ?
มันเป็นสัญชาตญานของชายหนุ่ม มือข้างหนึ่งของหยางไค่โอบกอดเซี่ยหนิงฉาง มืออีกครั้งเริ่มลูบไล้และบีบเค้นไปยังก้นที่กลมกลึงของเซี่ยหนิงฉาง
สัมผัสก้อนหน้าอกที่อิ่มเอิบ สัมผัสลมหายใจและกลิ่นอายที่อบอุ่นและร้อนระอุของเซี่ยหนิงฉาง ลมหายใจของหยางไค่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออยู่ในสภาพเช่นนี้สักครู่ มือใหญ่ของเขาเริ่มลูบไล้ไปยังด้านหน้า และสัมผัสไปยังหน้าอก 2 ข้างที่เปรียบเสมือนหยกล้ำค่าที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึงให้แก่หยางไค่
อ้า ! เสียงครางดังขึ้นจากปากของเซี่ยหนิงฉาง หยางไค่มองเห็นดวงตากลมโตของนางเปิดออกเล็กน้อย ขนตาของนางสั่นไปมาอย่างระรัว เมื่อเซี่ยหนิงฉางมองเห็นว่าหยางไค่กำลังจ้องมอง นางหวาดกลัวและ รีบหลับตาลงอีกครั้ง
เสียงลมหายใจหนักหน่วง ร่างกายที่สัมผัสกับอย่างแนบชิด การสัมผัสของลิ้นที่หอมละมุน จิตวิญญาณที่ผสานรวมเป็นหนึ่ง ทำให้หนุ่มสาวลืมสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างสมบูรณ์ พวกเขาทั้ง 2 โอบกอดซึ่งกันและกันอย่างแนบแน่น เสมือนว่าพวกเขาทั้ง 2 กำลังจะเชื่อมผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน
ทันใดนั้น ลิ้นของหยางไค่เกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เมื่อได้โอกาสนี้ เซี่ยหนิงฉางวางมือไว้บนทรวงอกของหยางไค่ นางกัดลิ้นของหยางไค่และใช้แรงผลักหยางไค่ เพื่อละตัวเองออกจากอ้อมกอดของหยางไค่
เจ้ากัดข้าทำไม? หยาไงค่รู้สึกว่าลิ้นของตนเองต้องถูกกัดเป็นแผลขนาดใหญ่อย่างแน่นอน ในปากของเขายังมีกลิ่นคาวเลือดโชยออกมาอีกด้วย
มือข้างหนึ่งของเซี่ยหนิงฉางกุมทรวงอกของตนเองไว้ ทรวงอกของนางดันขึ้นลงอย่างรุนแรง เพราะนางหายใจอย่างหนักหน่วง นางพยายามที่จะระงับหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคล่งและกล่าวตอบ : ข้าขอโทษ การจะหลอมละลายผลึกน้ำแข็งนพเก้าข้าต้องใช้ลพลังลมปราณบริสุทธุ์โดยธรรมชาติ และเลือด 1 หยดจากลิ้นของเจ้า !
ในการปราบปรามผลึกน้ำแข็งนพเก้าต้องใช้พลังลมปราณหยางที่บริสุทธุ์ !! ยิ่งบริสุทธุ์เท่าใดยิ่งดี และพลังลมปราณหยางจากกลุยทธุ์หยางของหยางไค่เป็นสิงที่เหมาะสมที่สุด
แต่การปรุงกลั่นหลอมละลายผลึกน้ำแข็งนพเก้าต้องใช้พพลังลมปราณบริสุทธุ์โดยธรรมชาติ และเลือด 1 หยดจากลิ้นของเขา
พลังลมปราณบริสุทธุ์โดยธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งที่ก่อกำเนิดออกมาจากการฝึกฝนวิชายุทธุ์ แต่มันเป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดมาพร้อมกับชายหนุ่มทุกคน ในขณะที่ชายหนุ่มกำเนิดออกมาร่างกายของพวกเขาจะมีพลังที่ลึกลับและน่าอัศจรรย์ เมื่อถึงเวลาที่พวกเขามีความสัมพันธุ์ที่ลึกซึ้งกับหญิงสาวมันจะหายไปในทันที พลังเช่นนี้ไม่มีประโยชน์ใดๆ แม้ว่ามันจะหายไป มันก็ไม่ส่งผลใดกับร่างกายของพวกเขา
แต่พลังงานเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในบางช่วงเวลา เช่นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
ก่อนหน้านั้นที่หยางไค่รู้สึกที่พลังงานที่ไม่รูปร่างปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา รวมไปถึงพลังหยินที่เยือกเย็น มันก็คือพลังลมปราณบริสุทธุ์โดยธรรมชาติ
ดังนั้น เหรัญญิกเม้งจึงกล่าวถามว่าเขายังเป็นชายหนุ่มที่บริสุทธุ์หรือไม่ มีเพียงเด็กหนุ่มที่มีร่างกายบริสุทธุ์ จึงจะมีพลังลมปราณบริสุทธุ์โดยธรรมชาติ และเลือดของลิ้นจากเด็กหนุ่มที่ยังบริสุทธุ์เท่านั้น จึงจะสามารถปรุงกลั่นหลอมละลายผลึกน้ำแข็งนพเก้า
เมื่อได้ยินคำกล่าวของเซี่ยหนิงฉาง หยางไค่ลูบไล้ปากของตนเองไปมา ก่อนจะกล่าวตอบอย่างจริงจัง : มันเป็นเช่นนี้ แล้วมันเพียงพอหรือยัง ? หากว่ายังไม่พอในปากของข้ายังมีเหลือ
มันเป็นเลือดจากลิ้นเพียงไม่กี่หยด ?
เซี่ยหนิงฉางเขิลอายจนต้องหารที่หลบซ่อนและกล่าวพยักหน้า : พอ !! 1 หยดก็พอแล้ว !!
โอ้ว หยางไค่รู้สึกผิดหวัง เมื่อหวนคิดถึงสัมผัสของลิ้มและสัมผัสทางร่างกายเมื่อสักครู่ ทำให้เขารู้สึกเสียดายอย่างมาก มันเป็นครั้งแรกที่เขามีความสัมพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับหญิงสาวถึงขั้นนี้
ศิษย์พี่ตัวน้อย............... หยางครางออกมาด้วยความลังเลซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลงใหลและความร้อนลุ่มในสายตา
ทันใดนั้นเซี่ยหนิงฉางเริ่มรู้สึกว้าวุ่นในจิตใจอีกครั้ง ทำไมนางจะไม่เข้าใจในสุ้มเสียงของหยางไค่ที่เต็มไปด้วยความหลงใหลความปรารถนา?
เซี่ยหนิงฉางรีบกล่าวตอบ : เจ้ามีบาดแผลต่างๆทั่วร่างกาย เจ้ารักษาบาดแผลของเจ้าก่อน ข้าจะรีบปรุงกลั่นหลอมละลายผลึกน้ำแข็งนพเก้า
โอ้ว !! หยางไค่จำคำพูดที่นางเคยกล่าวไว้ ผลึกน้ำแข็งนพเก้าหากไม่ปรุงกลั่นมันภายใน 1 ชั่วยามหลังจากที่ได้ครอบครองมัน มันจะมลายหายไปในทันที
ใช้แล้ว สมบัติชิ้นนี้........... ขณะที่หยางไค่กำลังจะกล่าวบอกแก่นางว่าเขาได้ดูดซับพลังของผลึกน้ำแข็งเข้าไปกว่าครึ่งโดยไม่ตั้งใจ แต่ยังมิทันที่หยางไค่จะกล่าวจบ ทันใดนั้น ตรงหน้าของเขามืดมิดในทันที โลกทั้งใบโอนเอนหมุนเวียนในทันที ทันใดนั้นศีรษะของเขาได้แทกลงบนพื้นดิน สติและความรู้สึกทั้งหมดจางหายไปในทันใด
ศิษย์น้อง !! เซี่ยหนิงฉางตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว นางรีบวิงเข้าไปพยุงหยางไค่ แล้วตรวจสอบเส้นชีพจรของเขา ทันใดนั้นใบหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดในทันที
นางพบว่าเส้นชีพจรของเขาอ่อนแออย่างมาก เขากำลังตกอยู๋ในห้วงแห่งความเป็นความตาย พลังลมปราณที่อยู่ภายในเหลือเพียงน้อยนิด มันเริ่มอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ
มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆสำหรับเซี่ยหนิงฉาง มันทำให้หัวใจของเซี่ยหนิงฉางหดเข้าออกอย่างรุนแรง
มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ? เมื่อสักครู่เขายังปกติดี เมื่อสักครู่เขายัง..........ทำไมเขาถึงหมดสติไปโดยไม่มีสัญญานเตือนแจ้งล่วงหน้า ?
แต่จากการตรวจสอบของเซี่ยหนิงฉาง ในที่สุดเซี่ยหนิงฉางก็เข้าใจว่าหยางไค่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสถึงขั้นไหน
บาดแผลตรงช่องท้องและไหล่รุนแรงจนไม่ต้องกล่าวถึง เดิมถึงมันถูกเชื่อมประสานไวอย่างดี แต่จากการต่อสู้ที่รุนแรงเมื่อสักครู่ ทำให้บาดแผลปริออก เลือดสีแดงสดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง บาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดคือบาดแผลทีทรวงอกของเขา กระดูกซี่โครงทั้ง 5 ของเขาหักทั้งหมด มันเห็นได้อย่างชัดเจนหัวใจและปอดของเขาได้รับบาดเจ็บ การโจมตีจากฝ่ามือของเหวินเฟยเฉินด้วยความเกรี้ยวโกรธ เขาจะสามารถทนต่อมันได้อย่งไร ?