ตอนที่ 111 ต่อสู้
ตอนที่ 111 ต่อสู้
ระยะเวลาก่อนที่ฟ้าจะสว่างเหลือไม่ถึง 1 ชั่วยาม
หยางไค่และเซี่ยหนิงฉางเดินออกจากถ้ำ และเริ่มเดินตามร่องรอยของพลังหยินที่กำลังเคลื่อนไหวผ่านหุบเขา
ในเวลานี้พลังหยินที่กำลังเคลื่อนไหวสามารถระบุตำแหน่งทิศทางได้อย่างง่ายดาย เพราะผลึกน้ำแข็งนพเก้ากำลังดูดซับพลังจิตวิญญาณในหุบเขา และยังรวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นพลังหยินในหุบเขาทั้งหมดจึงเคลื่อนไหวรวมตัวกันอยู่ในตำแหน่งเดียวอย่างมหึมา
การเปลี่ยนแปลงนี้ แม้แต่คนที่อยู่ภายนอกหุบเขายังสามารถสัมผัสได้
จากการคาดเดาของหยางไค่ หยางไค่คิดว่าพวกเขาทั้ง 2 ต้องออกตามหาร่องรอยของผลึกน้ำแข็งนพเก้าอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาจะพบกันเองโดยบังเอิญ
หลังจากที่ฆ่ายอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณและผสานลมปราณหลายคน ความหิวกระหายการต่อสู้ที่อยู่ภายในร่างกายของหยางไค่มิได้สงบลง เพราะยังมียอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง ตราบใดที่มีแรงกดดัน ความอดทนที่ไร้พ่ายของหยางไค่จะแสดงอำนาจพลังของมันอยู่เสมอ พลังทางร่างกายและจิตวิญญานต่างไม่สามารถผ่อนคลายให้เป็นปกติได้
และไม่รู้ว่ายอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงจะเหลือพลังความแข็งแกร่งสักเท่าไหร่
หลังจากระยะเวลา 1 ก้านธูป พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปใกลักับตำแหน่งที่รวมตัวของพลังหยิน ตรงตำแหน่งนั้น มีแสงสว่างประกายออกมาจางๆอยู่บนกลางเวหา พลังหยิเคลื่อนไหวรวมตัวอยู่ไปที่แสงสว่างดวงนั้นและถูกกลืนกินอันตธานหายไปในทันที
มันเป็นผลึกน้ำแข็งนพเก้าที่หยางไค่เคยพบเห็น
แต่ว่าตอนนี้รูปร่างขนาดของไม่เหมือนกับตอนแรกที่เขามองเห็น เพราะมันขยายใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
ก่อนหน้านั้นผลึกน้ำแข็งนพเก้าเป็นเพียงแสงสว่างเล็กๆที่ไม่มีรูปร่าง แต่ตอนนี้รูปร่างของมันกลับคล้ายคลึงกับดอกบัวที่กำลังเริ่มเบ่งบาน กลีบดอกบัวของมันอ่อนโยนอย่างโดดเด่นและมองเห็นได้อย่างชัดเจน
พวกเขาทั้ง 2 ซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง ระยะห่างของพวกเขาห่างจากผลึกน้ำแข็งนพเก้าประมาณ 50 จ้าง
เซี่ยหนิงฉางกระซิบเบาๆ : ผลึกน้ำแข็งนพเก้าอยู่ภายในดอกบัวที่กำลังเบ่งบาน หลังจากที่ดอกบัวสละกลีบบัวของมันจนหมด ผลึกน้ำแข็งนพเก้าจะปรากฏออกมา เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจึงจะสามารถคว้ามันมาได้ เดิมทีค่ายกลผลึกน้ำแข็งนพเก้าข้าเตรียมไว้เพื่อเผชิญหน้ากับมัน แต่ไม่คิดว่าจะถูกกลึ่มคนเหล่านั้นบีบบังคับจนต้องใช้มันก่อน หากคนพวกนั้นไม่ตายทั้งหมด โซ่ตรวนทั้ง 8 เส้นจะไม่มีวันกลับมา ในครั้งนี้ข้าต้องดูความสามารถของศิษย์น้อง พลังหยางของเจ้าเป็นศัตรูต่อพวกมัน ในตอนนี้ข้าไม่มีค่ายกล ข้าไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้
มันจะหนีหายไปอีก ? หยางไค่กล่าวถาม
ใช่่ ดังนั้น ..โอกาสมีไม่มาก เซี่ยหนิงฉางเริ่มมีความคิดที่จะถอยหลังกลับไป
หากว่าฆ่าพวกมันทั้งหมด เจ้าจะสามารถใช้งานค่ายกลในการปิดผนึกใช่ไหม? หยางไค่หรี่ตาและกล่าวถาม
มันเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าหากพวกเขาไม่มาที่นีี้ล่ะ ?
พวกเขามาถึงแล้ว ดวงตาของหยางไค่เย็นยะเยือก เขาค่อยๆหันหน้าไปที่ด้านข้าง
เสียงหัวเราะอันน่ารื่นรมย์ของ Wen Fei Chen: "Hehe, คุณเป็นเด็กตา
เสียงหัวเราะอันรื่นรมย์ของเหวินเฟยเฉินดังขึ้น : ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กน้อย ช่างฉลาดยิ่งนัก !!
ใบหน้าอของเซี่ยหนิงฉางแสดงออกด้วยความเยือกเย็น นางหันหน้ามองไปยังทิศทางที่หยางไค่มองออกไป ซึ่งมองเห็นเหวินเฟยเฉินและหลงฮุนทั้ง 2 คนที่กำลังเดินเข้ามา ดวงตาของพวกเขาทั้ง 2 ประกายด้วยไฟแห่งความต้องการโดยจ้องมองเซี่ยหนิงฉางยังไม่ลดละสายตา
โดยที่คนหนึ่งต้องการสมบัติระดับฟ้าสวรรค์ของนางและ อีกคนต้องการร่างกายที่งดงามของนาง
หยางไค่แสดงออกอย่างสงบ เขากำลังยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเซี่ยหนิงฉาง
เหวินเฟยเฉินเดินเข้ามาและอยู่ห่างจากพวกเขาเพียง 20 จ้าง ใบหน้าของเขาแสดงออกด้วยความดีใจและกล่าวอย่างสบายอารมณ์ : พวกเจ้ายังมีชีวิต ดูเหมือนว่าพวกสวะเหล่านั้นคงทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้
เหวินเฟยเฉินพยายามทำลายโซ่ตรวนที่ซึมซับเข้าไปในร่างกายของเขา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารทำลายมันได้ กลุ่มคนที่ไล่ออกไปก็ไม่มีใครมากล่าวรายงานต่อเขาแม้แต่คนเดียว เขาและหล่งฮุยจึงรออยู่ที่นั้นด้วยกังวล แต่ทันใดนั้นพวกเจาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังหยินในหุบเขาแห่งนี้ พวกเขาจึงตามหาร่องรอยของมันและไล่ตามาถึงบริเวณนี้
เมื่อมาถึงที่นี้ พวกเขาพบเจอกับหยางไค่และเซี่ยหนิงฉางทั้ง 2 ทันที เหวินเฟยเฉินและหล่งฮุยรู้สึกดีใจอย่างออกหน้าออกตา พวกเขาไม่หลบซ่อนตัวแต่เดินเข้ามาเผชิญหน้ากับพวกเขาในทันที
เมื่อเรื่องราวกลายเป็นเช่นนี้ เหวินเฟยเฉินจึงไม่เมตตาต่อหยางไค่และเซี่ยหนิงฉาง ทันใดนั้นเขาได้ตะโกนออกไป เพื่อเรียกกลุ่มคนของเขากลับมา
หลังจากที่ตะโกนเรียกลุ่มคนของพวกเขาให้กลับมาเขาพบว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ต้องหน้าจ้องมองเขาด้วยใบหน้าที่เย้ยหยัน ดูไม่มีความหวาดกลัวและตื่นตกใจแม้แต่น้อย
เหวินเฟยเฉินไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่าตรงข้ามถึงมีท่าทีที่มั่นใจเช่นนี้
หยางไค่ก้าวไปข้างหน้า หัวเราะเยาะเสียงดังและกล่าวด้วยความเย็นชา : แม้ว่าเจ้าจะตะโกนจนลำคอเหือดแห้ง พวกเขาก็ไม่กลับมาช่วยเจ้า !!
เหวินเฟยเฉินแสดงออกด้วยความแปลกใจ : เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ?
พวกเขาทั้งหมดตายแล้ว ! เป็นธรรมดาที่คนตายไม่สามารถกลับมาช่วยเจ้าได้ หยางไค่หัวเราะเสียงดัง
ใบหน้าของเหวินเฟยเฉินแสดออกด้วยความเคร่งขรึมในทันที เขาจ้องมองเซี่ยหนิงฉางด้วยความตกตะลึง
ในความคิดของเขา คนที่สามารถฆ่ายอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราณ มีเพียงเซี่ยหนิงฉางเท่านั้น หยางไค่ที่อยู่ในระดับสามัญไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
เป็นการคาดคะเนที่ผิดพลาด เขาไม่คิดว่าหญิงสาวนางนี้จะมีพละกำลังที่เหลือในการต่อสู้กับกลุ่มคนของเขา หลายชั่วยามที่ผ่านมาในขณะที่นางถูกโจมตีด้วยฝ่ามือมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางไร้ซึ่งพลังในการต่อต้าน แล้วทำไมนางถึงสามารถฟื้นฟูพลังได้รวดเร็วเช่นนี้ ?
แม้ว่าพวกเขาจะตายทั้งหมด เจ้าก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้ ! เหวินเฟยเฉินหัวเราะด้วยความเยือกเย็น เขาแสดงออกว่าเขาไม่สนในความตายของกลุ่มคนเหล่านั้น
หยางไค่ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง พลังลมปราณหยางที่อยู่ภายในเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง เลือดพุ่งกระฉูดเดือดพล่านไปมาอย่างไม่หยุดยั้ง ความหิวกระหายการต่อสู้เริ่มปะทุอย่างหนักหน่วง ขณะที่เขากำลังจะลงมือโจมตีเหวินเฟยเฉิน ทันใดนั้นด้านหลังของเขามีเหงาที่งดงามประกายผ่านอย่างกะทันหัน และพุ่งไปที่เหวินเฟยเฉินในทันที
เซี่ยหนิงฉางชิงลงมือก่อน นอกจากนั้นการโจมตีด้วยกระบวนท่าเดียวครอบคลุมเหวินเฟยเฉินและหล่งฮุยทั้ง 2 คน
นางต้องการปกป้องหยางไค่ที่ได้รับบาดเจ็บ จึงต้องการต่อสู้ 1 ต่อ 2 กับเหวินเฟยเฉินและหล่งฮุย
ในขณะที่เงาร่างของนางประกาย ลมวายแห่งพลังหยินที่เสมือนลูกธนูน้ำแข็งได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว มนพุ่งปลักไปที่เหวินเฟยเฉิน 7 ครั้งและหล่งฮุ่ย 2 ครั้ง ความเร็วของมันเสมือนสายฟ้า เป็นที่น่าตื่นตะลึงอย่างยิ่ง
เหวินเฟยเฉินหัวเราะเบาๆ : แม่นางมีรังสีแห่งการต้องการฆ่าที่แข็งแกร่ง มันไม่ดีแน่ !
ในขณะที่กล่าวเหวินเฟยเฉินยกสองมือขึ้นและทำลายการโจมตีของเซี่ยหนิงฉาง และกล่าวตะโกน : นางน้อยหล่ง เด็กหนุ่มนั้นยกให้ท่าน เด็กสาวนี้ข้าจะจัดการเอง !!
ตกลง !! หล่งฮุยพยักหน้า และไม่ลืมที่จะกล่าวเตือน : อย่าทำลายใบหน้าของนาง
ขอรับนายน้อย !! เหวินเฟยเฉินกล่าตอบด้วยรอยยิ้มที่รู้เท่าถึงการณ์ ก่อนที่จะพุ่งไปหาเซี่ยหนิงฉางเพื่อเผชิญหน้ากับนาง
แม้ว่าเซี่ยหนิงฉางจะสามารถฟื้นคืนพลังความแข็งแกร่งถึง 4 ส่วน แต่ก่อนหน้านั้นนางได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นพลังความแข็งแกร่งที่นางสามารถปลดปล่อยออกมาอยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปรารขั้นที่ 6-7 เท่านั้น
แต่เหวินเฟยเฉินแย่กว่านั้น พลังความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณขั้นที่ 3 เท่านั้น
แต่ในความจริงเขตแดนของพวกเขาแตกต่างกัน เซี่ยหนิงฉางอยู่ในเขตแดนผสานลมปราณขั้นสูงสุด ภายในร่างกายเต็มไปด้วยพลังลมปราณ เหวินเฟยเฉินอยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง ภายในร่างกายของเขาจึงเต็มไปด้วยพลังลมปราณที่แท้จริง !!
เขตแดนลมปราณแท้จริง มีความแตกต่างจากเขตแดนอื่นๆ และยังสามรถปลดปล่อยพลังแห่งการฆ่าที่รุนแรงยิ่งกว่าเขตแดนอื่นๆ
นอกจากประสบการณ์การต่อสู้ของเหวินเฟยเฉินไกลเกินกว่าที่ Xia Ning Chang ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกเป็น Xia Ning Chang ที่รู้สึกเครียด แม้ว่าเธอจะไม่สูญเสียทันที แต่ก็แค่พลังเดียวเธอไม่สามารถเอาชนะเขาได้ มากที่สุดก็จะสามารถต่อสู้เพื่อดึง