ตอนที่ 110 จิตใจของหญิงสาว
ตอนที่ 110 จิตใจของหญิงสาว
กระบี่ที่แหลมคมแทงทะลุหัวใจ มันคือการแทงทะลุที่หมายเอาชีวิต
หยวนหลานรู้สึกอย่างชัดเจนว่าหัวใจของเขากำลังหดตัวอย่างรุนแรง เลือดในร่างกายไหลพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่อง ชีวิตที่ยังมีลมหายใจหมดไปอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆหมุนตัวกลับด้วยความยากลำบาก ในที่สุดเขาก็สามารถมองเห็นหยางไค่ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
สัตว์เดรฉาน !! ใบหน้าของหยวนหลานแดสงออกด้วยความขมุกขมัวและใช้สายตาที่เกรี้ยวโกรธเกลียดชังจ้องมองหยางไค่โดยไม่ละสายตา
หยางไค่ยืนนิ่งโดยไม่กล่าว และเดินออกไปดึงกระบี่ที่ปักอยู่บนทรวงอกของเขา นำพามาซึ่งเลือดสีแดงที่พุ่งกระฉูดออกมา ก่อนจะพุ่งแทงไปที่ร่างกายของหยวนหลานอีกครั้ง
หลังจากที่ถูกแทงเป็นครั้งที่ 2 หยวนหลานไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้อีกต่อไป ร่างกายของอ่อนตัวลงและทรุดลงไปที่พื้นดินทันที
จิตวิญญาณในการรับรู้ค่อยๆเลือนหาย ก่อนที่หยวนหลานจะตาย มุมปากของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ขมขื่น
มันเป็นโชคชาตะที่เลวร้ายอย่างยิ่ง โชคชะตากำลังเล่นกับชีวิตอย่างแท้จริง !! ในตอนแรกหยวนหลานคิดว่าหญิงสาวนางนี้ถูกเขาปิดกั้นไม่มีทางที่จะรอดไปจากเงื้อมมือของเขา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นตัวเขาเองกลับเป็นคนที่ถูกปิดกั้นจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต
หากไม่ได้อยู่ในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด เขาจะถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร ?
แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 2 พวกเขาทั้ง 2 ก็มิอาจเอาชนะเขาได้ แต่ถ้าหากพวกเขาทั้ง 2 วิ่งหนีก็ยังพอจะมีโอกาสที่จะหนีรอดไปได้ ? แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเขาแห่งนี้ ทำให้พลังความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ ทุกสิ่งทุกอย่างเปรียบเสมือนภาพแห่งความฝันที่โหดร้ายอย่างถึงที่สุด
นายพราน แท้จริงแล้วก็มีวันหนึ่งที่เขาจะกลายเป็นเหยื่อให้นายพรานล่า.........
ไม่เป็นไรใช่ไหม ? หยางไค่เงยหน้ามองเซี่ยหนิงฉาง
ในความเป็นจริงขณะที่หยวนหลานค้นพบศิษย์พี่ตัวน้อยของเขา หยางไค่ได้มาถึงบริเวณใกล้เคียงแล้ว แต่เขาไม่ลงมือในทันที แต่รอให้หยวนหลางเดินเข้าไปในถ้ำเพื่อต่อสู้กับเซี่ยหนิงฉมางและเขาจะลอบโจมตีในภายหลัง
แม้ว่าแผนการนี้จะน่ารังเกียจ เพราะเซี่ยหนิงฉางไม่ทราบถึงสถานการณ์แท้จริงที่เกิดขึ้น และยังหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ชั่วขณะ แต่มันไม่ต้องเสียพละกำลังเป็นจำนวนมากในการฆ่าหยวนหลาน
ข้าไม่เป็นไร เจ้า .. เซี่ยหนิงฉางยังกล่าวไม่จบประโยค ทันใดนั้นนางหยุดกล่าวอย่างกะทันหัน เพราะนางมองเห็นแผลขนาดใหญ่บริเวณด้านข้างของช่องท้อง และยังมีแผลเป็นรูขนาดใหญ่จากการถูกทิ่มแทงบนไหล่
ในเวลานี้ ร่างกายของหยางไค่ชโลมด้วยเลือด ใบหน้าที่สงบแฝงด้วยความกังวล ดวงตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและความอดทน ซึ่งให้ความรู้สึกที่เอกลักษณ์ของชายหนุ่มซึ่งเต็มไปด้วยความมั่นคงสามารถพึ่งพาได้ ซึ่งแตกต่างจากชายหนุ่มที่อ่อนแอในช่วงเวลาปกติทั่วที่นางเคยเห็น
หยางไค่ใช้ร่างกายของเขาปิดกั้นทางเข้าออกของถ้ำ ร่างกายที่ซูบผอมแต่เต็มไปด้วยความมั่นคง ปิดกั้นลมวายุที่คอยทิ่มแทงสร้างความเจ็บปวด ทันใดนั้นถ้ำเล็กๆแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่เงียบสงัดอบอุ่นและเต็มไปด้วยความปลอดภัยในทันที
เซี่ยหนิงฉางค่อยๆก้าวเดินออกไป มือเล็กๆของนางค่อยๆเอื้อมออกไป แต่ก็ไม่กล้าที่จะสัมผัสกับบาดแผลของหยางไค่ นางกลัวว่าการสัมผัสอาจทำให้หยางไค่เจ็บปวด ทันใดนั้นดวงตาของนางเริ่มแดงก่ำในทันที
ระยะเวลาสั้นเพียง 2 ชั่วยาม...........เขาอยู่ด้านนอกต้องพบเจอกับการต่อสู้ที่ยากลำบากแค่ไหน จึงทำให้ตนเองมีสภาพที่น่ารันทดเช่นนี้ ? เลือดของเขาจะไหลออกมามากแค่ไหนกันจึงทำให้ร่างกายของตนเองชโลมด้วยเลือดที่มากมายเช่นนี้ ?
ในหุบเขาที่แถบจะแยกออกจากโลกมนุษย์ ต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ที่มีจิตใจชั่วช้าหลายสิบคน เซี่ยหนิงฉางและหยางไค่อยู่ด้วยกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ในตอนนี้เมื่อนางเห็นหยางไค่อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชใจ ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
หญิงสาวทุกนางต่างมีวีรบุรุษช่วยหญิงงามในความฝันของตนเอง
แม้ว่าคนที่ช่วยเหลือนางไม่ใช่วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า และไม่ใช่ชายหนุ่มรูปงามดั่งในความฝัน แต่เขาเป็นเพียงศิษย์สามัญที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแรกเริ่ม พลังความแข็งแกร่งของเขาแตกต่างจากตนเองหลายระดับขั้นอยู่ห่างไกลกันอย่างมาก แต่ภายในจิตใจของหญิงสาว ได้ก่อเกิดระลอกคลื่นแห่งความรู้สึกที่พร้อมทะลายความแตกต่างและความห่างไกลนั้น
บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย !! หยางไค่กล่าวตอบด้วยเสียงที่ไม่สนใจ : ใช่แล้ว ข้าพบผลึกน้ำแข็งนพเก้า !
โอ้ว เซี่ยหนิงฉางเช็ดขอบตาของตนเองและไม่ได้ดีใจและตื่นเต้นในการได้ฟังคำกล่าวนี้
เราจะปรับปรามผลึกน้ำแข็งแกร่งนพเก้าและเก็บเกี่ยวมันมาได้อย่างไร ?ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องบอกข้าแล้วสิน่ะ? หยางไค่กล่าวถาม : มิฉะนั้นหากพวกเรามันอีกครั้ง มันอาจจะหนีหายไปอีกก็เป็นได้
ข้าไม่ต้องการมันแล้ว เซี่ยหนิงฉางดึงมือของหยางไค่ เพื่อบอกให้เขานั่งลง
ทำไมถึงไม่ต้องการแล้วล่ะ ? หยางไค่ขมวดคิ้วและกล่าวถามด้วยความสงสัย พวกเขาเดินทางเข้ามาด้วยความยากลำบาก ก็เพราะผลึกน้ำแข็งนพเก้าไม่ใช่หรือไง ?
เซี่ยหนิงฉางไม่สนใจคำถามของหยางไค่ นางกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยน : นั่งลงก่อนแล้วข้าจะบอกเจ้า !!
หยางไค่จ้องมองเซี่ยหนิงฉางด้วยความสงสัย แล้วจึงนั่งลงอย่างช้าๆ
เซี่ยหนิงฉางก้มศีรษะลง นางเม้มริมฝีปากไว้แน่น คุกเข่าตรงหน้าหยางไค่ ยื่นมือออกมาฉีกกระโปรงของต้นเองกลายเป็นแถวผ้าที่มีลักษณะยาว จากนั้นจึงหยิบยาออกมา 1 ขวดเทลงบนแถบผ้านั้น จากนั้นนางได้ยื่นมือออกไปพร้อมกับแถวผ้าเพื่อปิดปากแผลตรงช่องท้องของหยางไค่
หยางไค่อนุญาตให้นางทำแผลให้โดยไม่คัดค้าน
พวกเราจะรออยู่ที่นี้จนถึงวันรุ่งขึ้นของวันพรุ่งนี้ เซี่ยหนิงฉางทำแผลให้หยางไค่และกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยน : เมื่อถึงรวันรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ ค่ายกลผลึกน้ำแข็งนพเก้าจะทำลายตัวของมันเอง เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะออกกไปจากที่นี้ !
"แต่เหตุผลที่เรามาที่นี่ ... .. "
ข้าไม่ต้องการมันแล้ว เซี่ยหนิงฉางขัดจังหวะการพูดของหยางไค่ น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความเฉียบขาด : เพื่อวัตถุชิ้นนั้น มันไม่คุ้มค่า
หากหยางไค่ขบคิดและจ้องมองนางและกล่าวตอบ : ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลสิ่งใด แต่ข้าฆ่ากลุ่มคนของพวกเขาไปทั้งหมด 9 คน กลุ่มคนของพวกเขาเหลือเพียง 2 คนเท่านั้น
อะไรน่ะ ? เซี่ยหนิงฉางเงยหน้า ดวงตากลมโตจ้องมองหยางไค่ด้วยความไม่เชื่อ
พวกเขาเหลือเพียง 2 คน พวกเราก็มีกัน 2 คน แล้วเจ้าจะหวาดกลัวพวกมันทำไม ? ดวงตาของหยางไค่ประกายด้วยความบ้าคลั่ง : ในเมื่อพวกเขาไร้ซึ่งศีลธรรม พวกเราก็ไม่ควรเมตตาปราณีพวกเขา !! นอกจากนั้นผลึกน้ำแข็งนพเก้า พวกเราไม่ควรปล่อยมันไป เราไม่ควรละทิ้งสิ่งต่างในระหว่างทาง อีกเพียงไม่กี่อึดใจ พวกเราก็จะได้ครอบครองผลึกน้ำแข็งนพเก้า
เจ้าโกหกข้าใช่ไหม ? เซี่ยหนิงฉางกล่าวถามหยางไค่ด้วยสายที่ละเอียดอ่อน
เจ้าเป็นคนที่สามารถโกหก ? หยางไค่หัวเราะเบาๆ ซึ่งทำให้แผลของเขาฉีกขาด ทำให้เขาสบทออกมาด้วยความเจ็บปวด
พวกเขาเหลือเพียง 2 คนเท่านั้น ?
อืม เหลือเพียงหล่งฮุยและคนที่ทำร้ายเจ้า หยางไค่พยักหน้าในขณะที่กล่าวตอบ
เซี่ยหนิงฉางอึ้งไปชั่วขณะ เดิมทีนางคิดว่าการที่หยางไค่มีสภาพที่น่ารันทดเช่นนี้เพราะเขาถูกไล่ล่าจากกลุ่มคนพวกนั้น เขาสามารถหนีรอดออกมาได้ถือเป็นความโชคดีอย่างยิ่ง แต่หยางไค่กำลังกล่าวบอกแก่นางว่า ในระยะสั้นๆเพียง 2 ชั่วยามเขาได้ฆ่าศัตรูไปทั้งหมด 9 คน !!
กลุ่มคนเหล่านั้นมีหลายคนที่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราณ
เขาทำได้อย่างไร ?
หากว่าพวกเขา.......เหลือเพียง 2 คน มันไม่น่าหวาดกลัวแม้แต่น้อย เซี่ยหนิงฉางขมวดคิ้ว : สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ คือหลังจากที่ฟ้าสว่าง พลังความแข็งแกร่งของยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงจะฟื้นกลับมาเหมือนเดิม หากเขาไม่ยอมปล่อยพวกเราทั้ง 2 ข้าเกรงว่าพวกเราจะหนีไปได้ไม่ไกล
หยางไค่ขมวดคิ้วและกล่าวถาม : หลังจากที่ค่ายกลถูกทำลาย พลังความแข็งแกร่งของเขาฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม ?
ใช่ !
หากเป็นเช่นนั้นพวกเราจะไม่มีทางเลือก !! ใบหน้าของหยางไค่แปรเปลี่ยนในทันที
หากไม่ฆ่ายอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงก่อนวันรุ่งขึ้น หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาทั้ง 2 จะถูกจับเป็นอย่างแน่นอน
และในตอนนี้พลังความแข็งแกร่งของข้าฟื้นฟูเพียง 2 ส่วน หากว่าข้าต้องเผชิญหน้ากับเขา พวกเราจะตกอยู่ในอันตรายทันที เซี่ยหนิงฉางกล่าวด้วยเสียงถอนหายใจที่แผ่วเบา
ตอนนี้ข้าได้ยาและโอสพวิเศษเป็นจำนวนมาก เจ้าดูสิว่ามันสามาถใช้ได้หรือเปล่า ? หยางไค่เอายามาจากคนที่ตายไปแล้วให้แก่เซี่ยหนิงฉาง จากนั้นเขาจึงวิ่งไปค้นในในร่างของหยวนหลานอีกครั้ง
เขาพบขวดยาหลายขวด ร่างกายของหยวนหลานมีขวดยามากกว่าใคร
หากมียาฟื้นฟูพลังลมปราณเหล่านี้ ข้าจะสามารถฟื้นฟูพลังความแข็งแกร่งประมาณ 4 ส่วน น่าจะเพียงพอ ใบหน้าของเซี่ยหนิงฉางประกายด้วยความหวัง
เจ้าฟื้นฟูพลังความแข็งแกร่งของเจ้าก่อน ข้าจะปกป้องเจ้าเอง หยางไค่เองต้องใช้เวลาที่เหลือในการฟื้นฟูพลังความแข็งแกร่งของตนเอง แม้ว่าพลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายจะมีเต็มเปี่ยม แต่ต้องฟื้นฟูพละกำลังทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณที่ลดลงไปอย่างมาก !!