ตอนที่ 107 ลอบโจมตี
ตอนที่ 107 ลอบโจมตี
เมื่อเขาเคลื่อนไหว หยางไค่ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน ในตอนนี้จิตใจของศิษย์น้องเย่วถูกดึงดูกจากผลึกน้ำแข็งนพเก้า ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะลอบโจมตี
แม้แต่ในความฝันศิษย์น้องเย่วก็มิอาจคาดคิดว่าหยางไค่จะสามารถค้นหาตำแหน่งของเขาได้อย่างแม่นยำ และเขายังกล้าที่จะลอบโจมตีเขาอีกด้วย
ใบหน้าของศิษย์น้องเย่วแสดงออกด้วยความโลภ ร่างกายของเขาเสมือนแมวป่าที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและไร้ซึ่งซุ้มเสียง ก่นอที่เขาจะค่อยๆคลานเข้าใกล้ผลึกน้ำแข็งนพเก้า
ระยะห่างเริ่มเข้าใกล้ เริ่มเข้าไกล้ 20 จ้าง 10 จ้าง 9 จ้าง....................
ผลึกน้ำแข็งพนเก้ายังคงหมุนวนเคลื่อนไหวอยู่ที่เดิม มันดูดซึมพลังหยินที่อยู่ในหุบเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ลมพายุที่อยู่รอบบริเวณพัดกรรโชกอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อระยะห่างระหว่างศิษย์น้องเย่วและผลึกน้ำแข็งนพเก้าเหลือเพียง 5 จ้าง พลังลมปราณของเขาถูกปลดปล่อยออมาอย่างกะทันหัน ในเวลานี้ร่างกายของเขาเปรียบเสมือนพยัคฆ์ที่กำลังจ้องมองเหยื่ออันโอชะของตนเอง ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความต้องการที่ร้อนร้น และเอื้อมมือออกไปคว้าผลึกน้ำแข็งนพเก้า
หยางไค่มีการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างกายศิษย์น้องเย่ว ฝ่าเท้าของเขาเตรียมพร้อมอย่างมั่นคง ในมือถือกระบี่ของศิษย์น้องหวู่ และกำลังเตรียมพร้อมโจมตีฝ่ายตรงข้ามเมื่อเขาพลาดพลั้ง
ในขณะที่ศิษย์น้องเย่วคิดว่เขากำลังจะประสบความสำเร็จในการยึดครองผลึกน้ำแข็งนพเก้า ทันใดนั้นผลึกน้ำแข็งนพเก้าหยุดการดูดซับพลังหยินอย่างกะทันหัน มันแพร่กระจายไอแห่งความเยือกเย็นที่หนาวเหน็บของพลังหยินออกมาและพุ่งโจมตีไปที่ศิษย์น้องเย่วทันที
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวดเร็วจนศิษย์น้องเย่วไม่อาจที่จะหยุดยั้งการก้าวเดินของตนเอง
ใบหน้าของศิษย์น้องเย่วแสดงออกด้วยความตื่นตะลึง !! เขาเฝ้าสังเกตุการณ์สมบัติแห่งฟ้าสวรรค์เป็นเวลานาน แต่ไม่รู้ว่าสมบัติแห่งฟ้าสวรรค์ชิ้นนี้มีจิตวิญญาณ เมื่อพบเจอกับสภาวะที่เป็นอันตรายมันยังสามารถโต้ตอบโจมตี
ความคิดของศิษย์น้องเย่ยุ่งเหยิงไปชั่วขณะ เขากำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยความเยือกเย็นอย่างฉับพลัน จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด เขาเคลื่อนไหวพลังลมปราณอย่างกะทันหัน เพื่อปกป้องตนเองจากการโจมตีที่พุ่งเข้ามา
เมื่อเขาเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีในครั้งนี้ ทันใดนั้นผลึกน้ำแข็งนพเก้ากระพริบไปมา และมลายหายไปในพริบตา
ในขณะที่ผลึกน้ำแข็งนพเก้ามลายหายไป แสงสว่างที่ประกายอยู่รอบบริเวณพลันหายไปในทันทีและทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้าสู่ความมืดมิดเช่นเดิม
เมื่อเข้าสู่ความมืดมิดอย่างฉับพลัน ทำให้ดวงตาของศิษย์น้องเย่วได้รับผลกระทบอย่างมาก เขามองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆในบริเวณโดยรอบ และในช่วงเวลานี้ หยางไค่จึงลงมือโจมตีในทันที
แม้ว่าดวงตาของหยางไค่จะได้รับผลเช่นเดียวกัน แต่เขาสามารถระบุตำแหน่งของศัตรูอย่างชัดเจน การพุ่งแทงดวยกระบี่ในครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่หมายเอาชีวิต แต่รับรองได้ว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมาณอย่างแน่นอน
ศิษย์น้องเย่วพุ่งความสนใจทั้งหมดกับไอแห่งความเยือกเย็นจากพลังหยินที่กำลังพุ่งเข้ามา แล้วเขาจะสามารถสัมผัสกลิ่นอายแห่งความต้องการฆ่าที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลังได้อย่างไร ?
ในเวลาถัดมา ร่างกายของศิษย์น้องเย่วกระพริบไปมา เพราะเขาถูกไอแห่งความเยือกเย็นที่หนาวเหน็บของพลังหยินพุ่งโจมตีเข้ามา ล้อมรอบร่างกายของเขาเอาไว้จนเปรียบเสมือนก้อนน้ำแข็งก้อนหนึ่ง แต่เขายังเคลื่อนไหวพลังลมปราณของตนเองเพื่อต่อต้านการโจมตีของผลึกน้ำแข็งนพเก้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะสูดลมหาย ทันใดนั้นความรู้สึกที่เจ็บปวดเสมือนถูกสิ่งของบางอย่างทิ่มแทงกระจายไปทั่วบริเวณร่างกาย
ประสบการณ์การต่อสู้ของศิษย์น้องเย่วค่อนข้างโชกโชน เพราะอย่างไรเขาก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราณ แม้พลังความแข็งแกร่งจะถูกปิดผนึกบางส่วน แต่ก็ยังสามารถกระโดดลอยตัวและเตะไปที่ตำแหน่งของหยางไค่
ปักปักปัก !! เสียงปะทะที่อึกทึกดังสนั่น หยางไค่ถูกเตะไปที่ไหล่จนลอยกระเด็นออกไป
เสียงหอบหายใจที่หนักหน่วงของทั้ง 2 ดังขึ้นมาในทันที ในเวลานี้ หยางไค่มิได้หลบซ่อนตัวอีกต่อไป
เมื่อดวงตาของเขาค่อยๆฟื้นกลับมาเหมือนเดิม เขาค่อยๆใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังจ้องมองหยางไค่ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว มือกุมแผลตรงช่วงเอวเอาไว้ ร่างกายยังโอนเอนไปมาอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงเอวของเขา กระบี่ทิ่มแทงทะลุเข้าไปอย่างสาหัส เมื่อสักครู่ที่ลงมือหยางไค่ใช้พละกำลังของตนเองทั้งหมด และศิษย์น้องเย่วเองกำลังใช้พลังลมปราณในการต่อต้านไอ่แห่งความเยือกเย็น แล้วเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีจากหยางไค่ได้อย่างไร ?
เป็นเจ้า !! หลังจากที่มองเห็นใบหน้าของหยางไค่อย่างชัดเจน ใบหน้าของศิษย์น้องเย่วประกายด้วยความสดใสในทันที เมื่อสักครู่เขาได้ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ประการแรกคือการลอบโจมตีจากหยวนหลานและศิษย์น้องหวู่ การกำจัดเขาเมื่อมีโอกาสเป็นเรื่องปกติในการแย่งชิง ประการที่ 2 คือการโจมตีจากหญิงสาวนางนั้น และมีความเป็นไปได้อีก 1 ประการที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือภายในหุบเขายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง
แต่เขาไม่คาดคิดว่า คนที่ลงมือโจมตีเขา จะเป็นหยางไค่ที่พวกเขาต้องการฆ่าให้ตายคามือ
ฮึฮึ !! หยางไค่ค่อยๆลึกขึ้น จ้องมองและหัวเราะด้วยความโหดเหี้ยม แม้ว่าเขาจะถูกโจมตีที่ไหล่ แต่มันไมได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่เขาเลย หยางไค่จึงค่อยๆเดินใกล้เข้าไปโดยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ศิษย์น้องเย่วในตอนนี้ จึงเป็นคนที่จนมุมอย่างแท้จริง
เป็นได้อย่างไร .. ใบหน้าของศิษย์น้องเย่วแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดในทันที
กำลังวางแผนทำสิ่งใด แต่เหมือนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกินจากความคาดเดาของเจ้าเป็นอย่างมาก !! หยางไค่กล่าวด้วยความเยือกเย็น
พวกเรา........ ศิษย์น้องเย่วลดศีรษะลงมอง และแสดงออกดวยความตกใจ : นี้เป็นกระบี่ของศิษย์น้องหวู่ !!
ถูกต้อง เขาตายแล้ว ตอนนี้ถึงคราเจ้าแล้ว !!
แท้จริงแล้ว พวกเราถูกหลอกจากเจ้า !! ในตอนนี้ จิตใจของศิษย์น้องเย่วก่อเกิดความรู้สึกที่ไม่เต็มใจและความอัปยศอดสูที่เหลือล้น
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาศิษย์พี่ไช่ตายด้วยเงื้อมมือของหยางไค่อย่างโหดเหี้ยม เป็นเพราะพลังอำนาจของสมบัติวิเศษ และในตอนนี้ เขาเองก็กำลังจะตายอยู่ภายใต้เงื้อมมือของหยางไค่เช่นกัน
ข้าเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราณ !! แต่ตอนนี้กลับถูกผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแรกเริ่มฆ๋า ตรรกะเช่นนี้คืออะไรกัน ? น่าเศร้า น่าเศร้าอย่างถึงที่สุด !!
ว้าก !! เลือดสีแดงพุ่งออกมาจากปากของศิษย์น้องเย่ว ใบหน้าของเขาแสดงออกอย่างหดหู่ บาดแผนที่อยู่ในร่างกาย ความอัปยศที่อยู่ในจิตใจ ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่มิอาจต่อต้าน
ข้าและพวกเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน แต่พวกเจ้ารนหาที่ตายเอง อย่าโทษข้าว่าลงมือโหดเหี้ยม ไร้ความปราณี ! ใบหน้าของหยางไค่แสดงออกอย่างเย็นชา เขาเดินเข้าไปหาศิษย์น้องเย่วก่อนจะพุ่งฝ่ามือโจมตีเขาในทันที
เสมือนว่าศิษย์น้องเย่วกำลังมองเห็นแสงสุดท้ายของชีวิต ดวงตาของเขาค่อนข้างแจ่มชัดเขามองเห็นแสงสว่างที่ประกายสว่างไสวผ่านสายตาของเขาไปหลายครั้ง ในที่สุดเขาตัดสินใจดึงกระบี่ที่ปักอยู่ด้านหลังของเขา และโจมตีไปยังหยางไค่ที่กำลังพุ่งเข้ามา
หยางไค่ลดตัวต่ำลง หมัดของเขากระแทกไปที่ปลายคางของศิษย์น้องเย่ว ทันใดนั้นคางของศิษย์น้องเย่วแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายของเขาลอยกระเด็นและพุ่งกระแทกไปที่พื้นดินอย่างรุนแรง
หยางไค่ไม่รอให้เขามีโอกาสโต้ตอบ เขารีบพุ่งหมัดออกไปอีก 2 ครั้ง พลังลมปราณปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ทำให้ศิษย์น้องเย่าวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านและสิ้นใจในทันที
หยางไค่ลุกขึ้นและหัวเราะด้วยความเย้ยหยัน : วางแผนให้ข้าตกหลุมพราง เจ้าคิดผิดไป !
มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าเมื่อสักครู่ศิษย์น้องเย่วแกล้งทำเป็นอ่อนแอ เพื่อล่อให้หยางไค่พุ่งเข้ามาจากนั้นจึงหาโอกาสฆ่าเขาในทันที
แต่หยางไค่มีการเตรียมการไว้ตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เขาสามารถลอบกัดเขา เพราะอย่างไรเขาก้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธุ์คนหนึ่ง ในขณะที่ยังไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตาย ความมีเมตตาและความใจอ่อนอาจทำให้เขาตายก็เป็นได้
หลังจากที่ฆ่าคนคนนี้ หยางไค่ค้นหาสิ่งที่ประโยชน์ในร่างกายของเขา แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้อะไรกลับมา ในร่างกายของเขามีเพียงขวดยา และเงินตราเพียงบางส่วน
เพราะอย่างไรคนเหล่านี้ออกจากสำนักและพำพักอยู่ด้านนอก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พกของมีค่าอะไร
ยาเหล่านี้เขาสามารถใช้เองได้ แต่ว่าเงินตราเหล่านี้มีจำนวนมาก หยางไค่ไม่ได้สังเกตอย่างละเอียดเขารีบเก็บเข้าไปในถุงผ้าทันที
เขาได้นำซากศพของศิษย์น้องเย่วไว้บนต้นไม้ใกล้ๆเช่นเดิม ก่อนที่เขาจะมองสังเกตไปทั่วบริเวณ และพบว่าร่องรอยของผลึกน้ำแข็งนพเก้ามลายหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆแม้แต่น้อย
เมื่อสักครู่ผลึกน้ำแข็งนพเก้าปลดปล่อยไอ่แหงความเยือกเย็นจากพลังหยิน หยางไค่สัมผัสพลังนั้นได้อย่างชัดเจน มันเป็นพลังความเยือกเย็นที่รุนแรง ไม่แปลกใจที่เซี่ยหนิงฉางต้องขอความช่วยเหลือจากตัวเขา ผลึกน้ำแข็งนพเก้ามีจิตวิญญาณที่ค่อนข้างสูง เมื่อมันสัมผัสถึงสิ่งที่เป็นอันตรายมันจะหนีหายไปในทันที นอกเหนือจากพลังหยางที่เป็นศัตรูของมัน จะไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถปราบปรามมันได้อีก
เหลือเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วยามกว่าๆที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้า ! เขาต้องเร่งความเร็วให้เร็วยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะไปกำจัดศัตรูที่เหลือเขาต้องกลับไปถามเซี่ยหนิงฉางถึงวิธีในการปราบปรามผลึกน้ำแข็งนพเก้า !