บที่ซ่อนอยู่ในยาวิเศษ
ตอนที่ 105 ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในยาวิเศษ
หลังจากที่พวกเขาทั้ง 3 ตกลงเสร็จสิ้น ขณะที่กำลังจะเคลื่อนไหว ทันใดนั้นศิษย์น้องเย่วมองไปที่หยวนหลานและกล่าว : ศิษย์พี่หยวน เมื่อสักครู่ที่หยางไค่วิ่งหนีออกไป ดูเหมือนว่าเขาทำสิ่งของบางสิ่งอย่างหล่นไหว้ ไม่ทราบว่ามันคืออะไร ?
หยวนหลานตกใจ และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เยาะเยะ : ศิษย์น้องเย่วช่างเป็นคนที่ช่างสังเกตจริงๆ
ในขณะที่กล่าว เขาได้เปิดฝ่ามือของตนเอง และเผยให้เห็นขวดยาและกล่าวตอบ : น่าจะเป็นขวดยา !!
ข้าขอดูได้ไหม ? ศิษย์น้องเย่วยิ้มเบาๆ หยางไค่และหญิงสาวนางนั้นมีสมบัติวิเศษระดับสูง สถานะของพวกเขาต้องไม่ธรรมดา ในขณะที่ขวดยาร่วงหล่นออกมา หยางไค่แสดงออกว่าเขาค่อนข้างที่จะเสียดาย ยาที่ทำให้เขาเสียดาย ต้องมีมูลค่าที่สูงอย่างแน่นอน
เพราะเป็นเช่นนี้ ศิษย์น้องเย่วจึงไม่ต้องการให้หยวนหลานคนเดียงได้ครอบครอง ทุกคนต่างเข้าร่วมการต่อสู้ ดังนั้นพวกเขาต้องได้รับส่วนแบ่งอย่าเท่าเทียมกัน
ได้ !! หยวนหลานรู้ดีว่าศิษย์น้องเย่วกำลังคิดอะไร ดังนั้นเขาจึงไม่เก็บรางวัลแห่งการต่อสู้นี้ไว้กับตนเอง ระหว่างที่กล่าวเขาได้เปิดขวดและมองเข้าไปในขวด ก่อนที่จะกล่าวตะโกนด้วยเสียงที่ตื่นตะลึงและความสับสน
ดูเหมือนว่าเป็นยาที่มีคุณสมบัติของพลังงานหยาง !! ใบหน้าหยวนหลางแสดงออกด้วยความดีใจ
ศิษย์น้องเย่วและศิษย์พี่หวู่แสดงออกด้วยความตื่นเต้น : จริงเหรอ ?
พวกเจ้าดูแล้วจะรู้เอง !! ในขณะที่หยวนหลานกล่าว เขาค่อยเทยาที่อยู่ในขวดออกมา และยื่นให้แก่ศิษย์ทั้ง 2 คน
มันเป็นหยางที่ปรุงกลั่นมาจากพลังงานหยาง ! ศิษย์น้องหวู่แสดงออกด้วยความดีใจ เมื่อเม็ดยาอยู่ในมือของเขา เขารู้สึกว่าความเยือกเย็นของพลังหยินที่กระจายอยู่รอบข้างมลายหายไปเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นที่ไม่ต้องใช้พลังลมปราณในการในการต่อต้านพลังหยิน ยาชนิดนี้เป็นยาที่วิเศษที่สุดของหุบเขาแห่งนี้
ไม่แปลกใจเลยที่หยางไค่ไม่เต็มใจที่จะสูญเสียมันไป ภายใต้สถานการณ์ที่โหดร้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดของยาที่มีคุณสมบัติของพลังหยาง เขาทิ้งยาที่วิเศษเช่นนี้ไป คงจะรู้สึกเสียใจอย่างแน่นอน
หยวนหลานสั่นขวดยาไปมาและกล่าว : เราได้แบ่งเม็ดยาอย่างเท่าเทียมกันทั้งหมด แต่ว่าศิษย์น้องทั้ง 2 ในเม็ดยาอาจจะซ่อนเร้นบางสิ่งบางอย่างที่ลึกลับ พวกเจ้าอย่ากลืนกินเข้าไปในท้องล่ะ พวกเจ้าพกมันไว้กับตัวเพื่อป้องกันความหนาวเย็นจากพลังหยิน ข้าขอไปก่อนล่ะ !!
ไม่ว่าอย่างไรมันก็คือยาที่หยางไค่ทำตกเอาไว้ หากมันมีพิษล่ะ จะทำอย่างไร ? แม้ว่าพวกเขาจะไม่ระมัดระวังเท่าศิษย์พี่ไช่ แต่ไม่โง่ที่จะกลืนกินสิ่งที่ศัตรูทิ้งเอาไว้
หลังจากที่กล่าวจบ หยวนหลานเปิดใช้ท่าร่างและหายตัวไปในพริบตา
หลังจากนั้น ศิษย์ทั้ง 2 ได้เก็บเม็ดยาไว้ในทรวงอกของตนเอง จากนั้นจึงแยกย้ายออกไปตามหาหยางไค่ที่หายตัวไป
หยางไค่เปรียบเสมือนสัตว์ป่าดุร้ายที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย และกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่หนาแน่น เขากำลังใช้ความพยายามทั้งหมดกลบกลิ่นอายแห่งพลังลมปราณในร่างกาย ดวงตาทั้ง 2 กำลังจ้องมองความเคลื่อนไหวที่อยู่รอบบริเวณทั้ง 4 ทิศ
สภาพในปัจจุบันของเขาไม่สู้ดีนัก หลังจากที่ต่อสู้ครั้งใหญ่กับเหล่าศิษย์แห่งหอวายุพิรุณ ทำให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บบางส่วน เมื่อสักครู่เขาถูกกลุ่มคนแห่งนิกายโลหิตทั้ง 4 ปิดล้อม ทำให้อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะบาดแผลจากการถูกแทงที่ไหล่ มันน่าจะแทงแฉลบเข้าไปในกระดูก ทำให้แขนซ้ายของหยางไค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงในการใช้งาน
เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตามเหล่าจากกลุ่มคนที่เหลือของนิกายโลหิต หยางไค่ใช้หยดน้ำพลังลมปราณหยางของเขาแผดเผาบาดแผลของเขา เพื่อปิดกั้นการไหลออกของเลือดในตัวเขา
แม้ว่าความอดทนที่ไร้พ่ายจะมีคุณสมบัติวิเศษที่ทำให้พลังกำลังของเขาเพิ่มขึ้นไปในระดับที่สูงที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแรกเริ่มขั้นที่ 4 หลังจากที่ต่อสู้มาอย่างหนักหนาสาหัสติดต่อกัน พละกำลังทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณลดลงอย่างมาก หากไร้ซึ่งความอดทนที่ไร้พ่ายที่ควบคุมจิตใจของตนเอง เขาคงล้มหมดสติไปตั้งแต่แรก
เมื่อหวนคิดถึงการต่อสู้ที่รุนแรงเมื่อสักครู่ ทำให้หยางไค่อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเยือกเย็น
สมแล้วที่ศิษย์พี่ไช่ผู้นั้นเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราร แม้ว่าพลังความแข็งแกร่งของเขาจะถูกผนึกไปกว่าครึ่ง แต่เขาต้องใช้หยดน้ำพลังลมปราณหยางถึง 10 หยดจึงจะสามารถทำลายตราผนึกที่ผนึกพลังลมปราณของเขาและปลิดชีวิตเขาในทันที
แต่มันคุ้มค่า !! แม้ว่าการฝึกฝนหยดน้ำพลังลมปราณหยางจะยากเย็น แต่สิ่งที่แลกกลับมาคือชีวิตของยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราณ มันคุ้มค่าต่อการสูญเสียอย่างยิ่ง
ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายความคิดของหยางไค่ชัดเจนยิ่งกว่าตอนไหนๆ เขาเข้าใจ หากตนเองพ่ายแพ้ ไม่เพียงชีวิตนี้ที่ต้องสูญสิ้นไป แม้แต่เซี่ยหนิงฉางก็ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต !!
การเดิมพันด้วยชีวิตสำคัญ หยางไค่จะกล้าผ่อนปรนความคิดและการกระทำได้อย่างไร?
นิกายโลหิตนอกจากจากหล่งและคนที่มีพลังความแข็งแกร่งมากที่สุด ยังเหลืออีก 3 คนเท่านั้น 3 คนที่เหลือมีพลังความแข็งแกร่งที่ด้อยกว่าศิษย์พี่ไช่ เมื่อต่อสู้แบบตัวต่อตัว หยางไค่ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่ถ้าหากพวกเขาร่วมมือกัน มันจะกลายเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง !
เมื่อเข้าใจตนเองและเข้าใจศัตรู การต่อสู้ 100 ครั้งต้องชนะ 100 ครั้งอย่างแน่นอน !! หยางไค่ต้องรู้การเคลื่อนไหว ตำแหน่งของพวกเขาทั้ง 3 จึงจะสามารถวางแผนฆ่าศัตรูให้สิ้นซาก !
ดังนั้น ก่อนที่เขาจะวิ่งหนีออกมา เขาจึงตั้งใจทิ้งขวดยา 1 ขวดของตนเองไว้ที่นั่น หรือจะกล่าวได้ว่า การต่อสู้เมื่อสักครู่คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด เพื่อปิดบังร่องรอยการทิ้งขวดยาของตนเอง แล้วจึงฆ่าศิษย์พี่ไช่ผู้นั้น ซึ่งโชคดีอย่างมากเพราะเป้าหมายที่เขาเตรียมไว้สำเร็จลู่ล่วงทั้ง 2 อย่าง
ขวดยาที่เขาทิ้งว่าเป็นเม็ดยาแห่งบุพผาโลหิตสุริยัย เป็นบุพผาโลหิตสุริยันที่เขาพบเจอเมื่อหลายวันก่อน และถูกปรุงกลั่นเป็นเม็ดยาโดยเซี่ยหนิงฉาง
เพราะว่าในเม็ดยามีพลังหยางที่ไม่ค่อยเข้มข้น และจากที่พวกเขาต้องรีบเดินทางไปที่หุบเขา ทำให้หยางไค่ไมได้กลืนกินมัน และไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนในครั้งนี้
บางครั้งเม็ดยาไม่ได้มีประโยชน์ต่อเมื่อกลืนกินมันลงไปในท้อง หยางไค่ต้องการสั่งสอนพวกเขา ว่าเม็ดยาของเขา แม้ว่าจะเก็บไว้ในทรวงอก็สามารถสร้างอันตรายให้แก่พวกเขา
เขาเชื่อมั่นว่าแผนการของเขาจะประสบความสำเร็จ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่รวมตัวของผลึกน้ำแข็งนพเก้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังหยิน แต่เมื่อปรากฏตัวยาที่มีคุณสมบัติของพลังหยาง คนที่เหลือเหล่านั้นจะมีความคิดอย่างไร ?
เพียงแค่พวกเขาพกเม็ดยาแห่งบุพผาโลหิตสุริยันไว้กับตัว เขาจะสามารถใช้ต้นกำเนิดพลังหยางในการตรวจสอบตำแหน่งของพวกเขา เมื่อเป็นเช่นนี้ การเคลื่อนไหวทั้งหมดของพวกเขาจะอยู๋ในกำมือของเขา
หลังจากที่หลบซ่อนตัวได้สักครู่ ทันใดนั้นต้นกำเนิดพลังหยางที่อยู่บริเวณทรวงอกเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง หยางไค่แสดงออกด้วยความเยือกเย็น เขารีบหยุดลมหายใจ แม้แต่ระงับการเต้นของหัวใจ
หลังจากนานไม่นาน มีร่างเงาของคนคนหนึ่งประกายผ่านไป หยางไค่จ้องมองและขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ทำไมถึงมีเพียงคนเดียว ?
หลังจากที่รอได้ไม่นาน บริเวณใกล้เคียงมีเงาร่างของคนคนหนึ่งวิ่งผ่านไป
หลังจากนั้นไม่นาน เงาร่างของคนที่ 3 ได้ปรากฏอยู่ใต้ต้นที่หยางไค่กำลังหลบซ่อนตัวอย่างกะทันหัน หยางไค่มองลงไปด้วยความเงียบ และพบว่าเขาเป็นศิษย์แห่งนิกายโลหิตที่อ่อนแอที่สุด
หลังจากที่คนคนนี้สังเกตบริเวณทุกทิศทาง เขาได้หายตัวไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
น่าแปลก ทำไมพวกเขาทั้ง 3 จึงแยกกันตามหา ? หยางไค่ขมวดคิ้วครุ่นคิด และไม่สามารถคิดหาเหตุผลที่พวกเขาทำเช่นนั้น
หยางไค่ไม่ทราบว่า พวกเขาทั้ง 3 คิดว่าหยางไค่มีสถานะในระดับสูง ในมือมีสมบัติวิเศษที่มีค่ามหาศาล การที่พวกเขาแยกกันเพราะต้องการทดสอบว่าใครเป็นคนโชคดีที่จะได้พบเจอกับเขาและได้ครอบครองสมบัติวิเศษระดับปฐพีที่พวกเขาต้องการ
ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาทั้ง 3 จะคิดเช่นนี้ หากเป็นผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแรกเริ่ม พลังลมปราณที่อยู่ภายในร่างกายของพวกเขาจะมีไม่มาก หลังจากที่ผ่านการต่อสู้แห่งความเป็นความตายมาหลายครั้ง พลังลมปราณจะลดลงเหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่มันแตกต่างกับหยางไค่ พลังลมปราณที่อยู่ในเส้นชีพจรลมปราณไม่มากไปว่าผู้ฝึกยุทธุ์ทั่วๆไปที่อยู๋ในเขตแดนลมปราณแรกเริ่ม
แต่ในจุดตันเถียนของเขามีหยดน้ำพลังลมปราณหยาง ! ก่อนที่จะออกเดินทาง ในจุดตันเถียนของหยางไค่มีพลังลมปราณหยางทั้งหมด 40 หยด แม้ว่าพลังลมปราณภายในร่างกายจะหมดสิ้น แต่หยดน้ำพลังลมปราณหยางเพียง 1 หยดก็สามารถฟืนฟูมันให้กลับมาเหมือนเดิมทั้งหมด ทำให้เขากลายเป็นคนที่ดุร้ายโหดเหี้ยมอีกครั้ง
อาจจะกล่าวได้ว่า ตราบใดที่ยังมีหยดน้ำพลังลมปราณหยางไค่ พละกำลังทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณ หยางไค่จะกลายเป็นเพียงหุ่นยนตร์แห่งการต่อสู้ที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย
หากว่าศิษย์พี่ไช่คนนั้นยังมีชีวิต จากความระมัดระวังของเขา เขาจะไม่อนุญาตให้คนของเขาแยกตัวออกจากกัน ซึ่งทำให้หยางไค่หาช่องทางในการแก้แค้นได้ตามต้องการ แต่หยางไค่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสสามรถกำจัดศิษย์พี่ไช่ ในตอนนี้หยวนหลานจึงกลายเป็นผู้นำ ประสบการณ์ของเขาค่อนข้างน้อย ทำให้เขาไม่คิดอย่างรอบคอบและระมัดระวัง
หยางไค่ไม่เข้าใจการกระทำของพวกเขา แต่ในตอนนี้เป้าหมายและการวางแผนของเขาสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เขาจะไม่มีวันปล่อยโอกาสอันโอชนะนี้ไปอย่างแน่นอน !!