ตอนที่ 95 อีกด้าน..........
ตอนที่ 95 อีกด้าน..........
นู่วหล่างจะกล้าขัดคำสั่งของเหวินเฟยเฉินได้อย่างไร ? แม้ว่าในตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามจะไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง แต่ไม่ว่าอย่างกลุ่มคนของพวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยหนิงฉาง นู่วหล่างจึงจ้องมองเหวินเฟยเฉินและกล่าวถาม : ผู้อาวุโสยืนยันแล้วใช่ไหมว่าหญิงสาวนางนั้นไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ?
ข้าขอยืนยัน !! เหวินเฟยเฉินอดทนด้วยความเจ็บปวดและกล่าวตอบ : พวกเจ้าไล่ตามไปในตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ลงมือจะสามารถจับกุมตัวนางได้อย่างง่ายดาย นำตัวนางกลับมาให้แก่นายน้อยซู่ จะเป็นผลดีต่อตัวของพวกเจ้าเอง !
ได้ พวกเราไป !! ดวงตาของนู่วหล่างประกายด้วยความคุ้มคลั่งและความโกรธแค้น หลายวันที่ผ่านมาเขาต้องทนรับความกดขี่จากกลุ่มคนแห่งนิกายโลหิต ศิษย์แห่งหอวายุพิรุณที่ติดตามเข้ามาซึงอยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ตายไปจนหมด
ความโกรธแค้นของเขามิอาจระเบิดไปที่เหวินเฟยเฉิน ดังนั้นเขาจึงระเบิดความโกรธแค้นไปที่หยางไค่และเซี่ยหนิงฉาง
เซี่ยหนิงฉางไร้ซึ่งเรี่ยวแรง หยางไค่เพียงคนเดียวไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย
หลังจากที่กลุ่มคนแห่งหอวายุพิรุณหายตัวไปจากหุบเขา เหวินเฟยเฉินจึงจ้องมองไปยังศิษย์แห่งนิกายโลหิต : พวกเจ้าตามไปด้วย อย่าปล่อยให้หญิงสาวคนนั้นหนีไปได้ นางต้องมีผู้แข็งแกร่งระดับสูงอยู่เบื้องหลัง หากเรื่องนี้หลุดออกไป นิกายของเราคงจะมี
ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ขอรับ !! แม้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะอ่อนแออย่างยิ่ง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นหนักหนาสาหัสยิ่งนัก พวกเขาจึงต้องฝืนทนและไล่ตามไป
ทันนั้น ภายในหุบเขาเหลือเพียงหล่งฮุยและเหวินเฟยเฉินเพียง 2 คนเท่านั้น
น้ำเสียงและการแสดงออกของหล่งฮุยอ่อนลง เขาอ้าปากกล่าวถาม : ผู้นำเหวิน มันเกิดอะไรขึ้น ?
เหวินเฟยเฉินหัวเราะอย่างขมขื่น : ข้าไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนั้นใช้วิธีการใด ความแข็งแกร่งของข้าถูกปิดผนึกเหลือเพียงพลังความแข็งแกร่งที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณขั้นที่ 3 !! โซ่ตรวจทั้ง 3 เส้น ปิดผนึกการไหลเวียนลมปราณและจุดตันเทียนของข้า
มีวิธีการเช่นนี้ ? ใบหน้าของหล่งฮุยแสดงออกอย่างตกตะลึง
เหวินเฟยเฉินพยักหน้า : ข้ายังเป็นเช่นนี้ ศิษย์คนอื่นๆเลวร้ายยิ่งกว่าข้า พลังที่สามารถปลดปล่อยออกมาในตอนนี้เหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น !!
แล้วควรทำอย่างไรต่อไป ? หล่งฮุยกล่าวถพามด้วยความกระสับกระส่าย
ไม่ต้องเป็นห่วง !! เหวินเฟยเฉินส่ายหัวไปมา : เมื่อสักครู่ข้าไม่ได้โกหกเหล่าศิษย์แห่งหอวายุพิรุณ หญิงสาวคนนั้นใช้วิธีการที่แข็งแกร่ง และยังรักษาเวลาในการปกป้องของสมบัติแห่งฟ้าสวรรค์ พลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายสูญสิ้นไปจนหมด และยังถูกข้าโจมตี ตอนนี้เพียงแค่ลงมือโจมตีอย่างแผ่วเบานางก็อาจจะตายได้ในทันที เพียงแค่เราหานางจนพบ นางจะเป็นของนายน้อยหล่ง และทุกอย่างจะเป็นของนายน้อยหล่ง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หล่งฮุยจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดวงตาของเขากรอกไปมา : เมื่อสักครู่หล่งฮุยรีบร้อนเกินไป คำพูดอาจจะร้ายแรงไปบ้าง ผู้นำเหวินอย่าใสใจเลย หลังจากเรื่องนี้สำเร็จลุล่วง ข้าจะกล่าวรายงานผลงานทั้งหมดของผู้นำเหวินให้แก่ท่านปู่ทราบ
นายน้อยหล่งไม่ต้องกังวล พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เหวินเฟยเฉินยิ้มด้วยความพึงพอใจ : แตต่อนนี้ข้าต้องรบกวนให้นายน้อยหล่งใช้พลังลมปราณในการป้องกัน ข้าจะดูว่าสามารถที่จะทำลายโซ่ตรวจที่หายเข้าไปในร่างกายของข้าหรือไม่
"ได้ !! ......"
การสนทนาของพวกเขา ไม่ได้กล่าวถึงหยางไค่แม้แต่น้อย ในสายตาของพวกเขา เซี่ยหนิงฉางเป็นผู้แข็งแกร่งที่ร้ายกาจเพียงคนเดียว ในเวลานี้พลังลมปราณของเซี่ยหนิงฉางสูญสิ้น เสมือนว่านางถูกถอดเขี้ยวเล็บที่แข็งแกร่งออกไป ไม่ว่าใครก็สามารถจับกุมตัวนางได้อย่างง่ายดาย
ในเวลานี้ หยางไค่นำพาเซี่ยหนิงฉางมาถึงหุบเขาที่อยู่ห่างไกลซึ่งมีรอยแยกที่สูงประมาณ 10 จ้าง ขนาดของมันพอดีที่จะให้คน 1 คนเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในรอยแยกนั้น
หยางไค่วางเซี่ยหนิงฉางไว้ภายในรอยแยก ตัวเขาเองปกป้องอยู่ด้านนอก ด้านหน้าของรอยแยกมีพุ่มไม้บดบังอยู่ด้านหน้าซึ่งปิดบังทางเข้าของรอยแตกนั้นพอดี
ร่างกายของพวกเขาเบียดเสียดกันอย่างแนบแน่น เสมือนเป็นร่างกายเดียวกัน
เงียบ มีคนกำลังตามมา !! หยางไค่กอดเซี่ยหนิงฉางไว้แน่น และกล่าวเตือนอย่างแผ่วเบา
เซี่ยหนิงฉางที่มีใบหน้าซีดขาวพยักหน้าอย่างช้าๆ
ผ่านไปชั่วครู่ น่วหล่างและกลุ่มคนของเขาวิ่งผ่านไป ฝีเท้าของพวกเขาค่อยๆห่างไกลออกไป ระยะห่างระหว่างพวกเขาห่างกันเพียง 10 จ้าง แต่ในยามค่ำคืนลมพายุค่อนข้างโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ในหุบเขายังเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งพลังหยินที่หนาแน่น ทำให้หยางไค่และเซี่ยหนิงฉางสามารถหลบซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์
หลังจากกลุ่มคนของนู่วหล่างเดินห่างออกไป เซี่ยหนิงฉางไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป นางกระอักเลือดพุ่งออกมา ผ้าคลุมหน้าที่ปกปิดใบหน้ากลายเป็นสีแดง การโจมตีจากฝ่ามือของเหวินเฟยเฉินเมื่อสักครู่ ทำให้นางได้รับบาดเจ็บอย่างมาก
ศิษย์พี่ ท่านเป็นอย่างไร ? หยางไค่กล่าวถามด้วยความกังวล
ช่วยเอายาออกมาให้ข้า !! เซี่ยหนิงฉางกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนแอ ร่างกายของนางอ่อนแอจนทรุดลงที่พื้น นางไร้ซึ่งพละกำลังแม้แต่จะขยับนิ้วก็มิอาจทำได้
"ยาอยู่ที่ไหน?"
"ในอกของข้า !! "
หยางไค่รีบล้วงไปที่หน้าอกของนาง ทันใดนั้นเขารีบดึงออกมาอย่างกะทันหัน และจ้องมองไปยังศิษย์พี่ตัวน้อยของเขา
เซี่ยหนิงฉางจ้องมองหยางไค่เช่นกัน ใบหน้าซีดขาวของนางกลายเป็นสีแดงในทันที ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย เมื่อสักครู่หน้าอกของนางถูกสัมผัสโดยหยางไค่ ความรู้สึกเสมือนโดยฟ้าผ่าและส่งไปยังหัวใจเบื้องลึก เกือบทำให้นางหมดสติในทันที
อดทนไว้ !! หยางไค่ทราบดีว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เขาจะไม่ลังเลและชักช้าอีกต่อไป เขากล่าวเตือนเซี่ยหนิงฉาง และยื่นมือเข้าไปคว้านหายาวิเศษของเซี่ยหนิงฉางอีกครั้ง
ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อน เซี่ยหนิงฉางจึงสวมเสื้อผ้าชั้นนอกที่หนาจนเกินไป นอกจากชุดกระโปรงที่อยู่ด้านนอก ภายในมีเพียงเสื้อที่ยึดติดกับร่างกายของนางเท่านั้น เมื่อหยางไค่ยื่นมือเข้าไป ทันใดนั้นเสมือนว่าเขากำลังข้ามมิติไปยังอีกโลกหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้จัก
หน้าอก 1 คู่ที่อ่อนนุ่ม มีความยืดยุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป แต่ฝ่ามือของเขาไม่มิอาจกุมได้ทั้งหมด นิ้วทั้ง 5 ของเขาสัมผัสกับเม็ดวงกลมที่นูนขึ้นมา ทุกครั้งที่เขาสัมผัสทำให้ร่างกายของเซี่ยหนิงฉางสั่นสะท้านและรู้สึกได้ถึงความร้อนของร่างกายที่แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ไม่ว่าหยางไค่หรือเซี่ยหนิงฉางต่างหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เลือดภายในร่างกายต่างไหลพ่านอย่างรวดเร็ว
หยางไค่ไม่เป็นไร แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัด แต่เขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ไม่ว่าอะไรก็อาจจะเกิดขึ้นใด
แต่มันตรงกันข้ามกับเซี่ยหนิงฉาง ดวงตาที่ไร้เดียงสาและสดใจของนางเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธเคือง กลิ่นอายที่หอมหวานของนางแพร่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดจิตวิญญาณจนมิอาจที่จะควบคุมได้
ศิษย์พี่อย่าคิดมาก !! ระหว่างที่หยางไค่กำลังคลำอยู่ในเสื้อผ้าหยางไค่ได้กล่าวปลอยโยนนางเช่นเดียวกัน
เซี่ยหนิงฉางทนไม่ได้ นางอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา : อีกข้าง !!
โอ้ว ? หยางไค่จึงรู้สึกตัวอย่างกะทันหัน เขากล่าวพึมพำอยู่ในใจว่าทำไมจึงหาไม่เจอสักที ที่แท้มันอยู่อีกข้างนั่นเอง
เรื่องนี้มันน่า ......
หยางไค่จึงยื่นมือคลำไปอีกและค่อยคลำหา ในที่สุดเขาได้ค้นพบขวดยาหลายขวดอยู่ในนั้น
ขวดไหน ? หยางไค่กล่าวถาม
ขวดตรงกลาง สุ้มเสียงของเซี่ยหนิงฉางอ่อนแออย่างมาก นางใช้สายตาช่วยในการกล่าวตอบ
หยางไค่รีบหยิบขวดยาตรงกลางและเทออกมา จากนั้นจึงเปิดผ้าคลุมหน้าและป้อนยาทั้งหมดให้แก่เซี่ยหนิงฉาง
ศิษย์พี่ตัวน้อยมีร่างกายที่วิเศษ ร่างกายจิตวิญญานบริสุทธุ์เปรียบเสมือนเตาปรุงยาที่ดีที่สุด ไม่ว่านางจะกินเข้าไปมากเท่าไหร่ก็ไม่มีวันที่จะเกิดผลข้างเคียงอย่างแน่นอน
เมื่อยาทั้งหมดเข้าไปในช่องท้องของนาง เซี่ยหนิงฉางจึงหลับตาเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง หยางไค่จึงหมุนตัวออกมาเพื่อสังเกตุความเคลื่อนไหวด้านนอก
หลังจากที่ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม เซี่ยหนิงฉางจึงฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ นางลืมตา และจ้องมองด้านหลังของหยางไค่ด้วยความรู้สึกที่อับอายและซับซ้อน
เมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อชั่วครู่ ใบหน้าของนางแดงก่ำและร้อนดั่งไฟเผา แม้ว่านางจะรู้ว่าตอนนั้นไม่มีทางเลือกอื่น แต่เซี่ยหนิงฉางอับอายจนอยากขุดหลุมฝังตัวเองเพื่อหายไปจากที่นี้
ราวกับว่าหยางไค่สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของเซี่ยหนิงฉมาง หยางไค่ที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกหันหน้ากลับมาอย่างกะทันหัน เมื่อเห็รว่าเซี่ยหนิงฉางลืมตาจากการฟื้นฟู หยางไค่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งออกและกล่าวถาม : ไม่เป็นไรใช่ไหม ?
ดวงตาของเซี่ยหนิงฉางประกายด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาของนางประกายอย่างกะทันหัน : ไม่เป็นอันตรายถึงตาย แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ข้าจะไม่สามารถลงมือต่อสู้กับผู้อื่น
ไม่เป็นไรก็ดีที่สุดแล้ว ความกังวลที่อยู่ในใจของหยางไค่สามารถผ่อนคลายลงได้ในที่สุด